เติมน้ำมันอย่าเผลอนะ ...Fw. mailบอกต่อๆกัน-เติมน้ำมันอย่าเผลอนะ > > > เรื่องจริงที่พึ่งเกิดขึ้นกับตัวผมเองเมื่อเย็นวานนี้เวลาประมาณ18.30 น. ขณะพาแขก (Mr.Ferdous จาก พีซีเอส บังคลาเทศ) กลับที่พักซอยสุขุมวิท 64 หลังจากดูงานที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ ซึ่งปกติสามารถเลือกเส้นทางได้หลายเส้นทาง ตอนแรกเลือกถนนสุขุมวิท แต่พอเลี้ยวเข้าซอยนานาก็รู้ว่ามีปํญหาหนักเรื่องรถติด จึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเป็นถนนพระราม4 พอขับมาถึงบริเวณปากซอย 22 (เชื่อมต่อระหว่างถนนพระราม4กับถนนสุขุมวิท) เห็นน้ำมันใกล้จะหมดจึงแวะเติมที่ ปั๊ม ESSO ซึ่งตั้งอยู่ ณบริเวณปากซอยดังกล่าว ขณะนั้นสังเกตเห็นว่ามีรถเข้าเติมน้ำมันอย่างหนาแน่นเต็มทุกช่องจนต้องรอคิว สักพักหนึ่งก็ถูกเชิญให้เข้าช่องเติมที่ว่าง แต่เนื่องจากเป็นช่องที่ไม่ตรงกับด้านของรถที่มีช่องเติมน้ำมัน เด็กปั๊มจึงบอกให้เลื่อนรถไปข้างหน้ามากหน่อยเพื่อให้สามารถอ้อมสายหัวจ่ายได้ จากนั้นเด็กปั๊ม(ชาย) ก็มาถามว่าต้องการเติมน้ำมัน 91 หรือ 95 ซึงผมก็ได้ตอบไปว่าเติม 91จำนวน 500 บาท แล้วเขาก็เอาป้ายวางที่หน้ารถมีข้อความว่า กำลังเติม 91 แล้วเดิน ไปท้ายรถปฏิบัติการเติมน้ำมันซึ่งเราก็เคยเห็นจนชินตาจึงไม่ได้ให้ความสนใจและ ผมก็คุยกับเพื่อนร่วมทาง เรื่องป้ายเพราะเขาถามว่าเป็นป้ายอะไร ยังคุยกันไม่จบก็มีเด็กปั๊ม(หญิง)เอาของแถมมาให้ เป็นน้ำดื่ม 1 ขวดก็หันไปรับและได้ขอเพิ่มอีก 1ขวด ซึ่งเขาก็หยิบมาให้พร้อมกับถามว่าจะรับใบเสร็จหรือไม่ผมตอบว่ารับและส่งบัตร เครดิตให้แล้วเขาก็บอกอีกว่าช่วยเลื่อนรถไปข้างหน้าอีกนิด เพื่อบริการคนอื่นต่อไป ผมก็ทำตามที่เขาบอก จากนั้นเขาก็เอาใบสลิปบัตรเครดิตมาให้เซ็นพร้อมกับให้ใบเสร็จมาด้วยเมื่อ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยผมก็ออกรถและขับไปได้ประมาณครึ่งกิโลเมตร สังเกตเห็นว่าเ ข็มบอก ระดับน้ำมันขึ้นไปแค่เลยครึ่งจุดกึ่งกลางซึ่งปกติแล้วถ้าเติม 500 บาท เข็มจะอยู่ที่ตำแหน่งเกือบเต็มจึงได้คุยกับเพื่อนร่วมทางว่ามีสิ่งผิดปกติ เกิดขึ้นเลยชิดเข้าจอดข้างทางแล้วเช็คใบเสร็จว่าเขาเติมให้เราเท่าไรกันแน่ ทั้งใบเสร็จและใบสลิปมีรายการตรงกันคือ 500 บาท แต่ทำไมเราจึงได้น้ำมันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น อยากจะกลับไปเคลียร์ที่ปั๊ม แต่ก็รู้สึกเห็นใจที่เพื่อนร่วมทางพึ่งจะบอกว่าต้อง การจะแลกเงินที่สถานี BTS อ่อนนุชซึ่งปิดเวลาทุ่มและเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเพราะแปลกสถานที่ นั่นหมายถึงเขาต้องการพักผ่อน และอีกอย่างก็รู้สึกเสียหน้าหากเขารู้ว่าคนไทยขี้โกงเชื่อใจไม่ได้เลยจำใจต้อง ทำธุระนี้ให้เสร็จก่อนจากนั้นก็ย้อนกลับไปที่ปั๊ม ESSO ดังกล่าวคนเดียวแจ้งปัญหากับหัวหน้างาน(หญิง)ของเขา เล่าเหตุการณ์ตอนที่เข้าเติม น้ำมันให้เขาฟังและเอาหลักฐานให้ดู พร้อมกับขอให้มีการปริ้นท์ข้อมูล ณ เวลานั้นออกมาตรวจเช็ครายละเอียด (เวลาดูที่ใบสลิป) เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที เห็นหัวหน้าของเขาเดินออกมาจากออฟฟิสด้วยสีหน้าท่าทางไม่ค่อยดี และเดินไปคุย กับลูกน้องกลุ่มหนึ่ง ที่คงจะรอฟังข่าวอยู่เหมือนกันแล้วจึงเดินมาบอกผมด้วยน้ำเสียง เหมือนคนจะร้องไห้ว่า จะเติมน้ำมันเพิ่มให้อีก 100 บาทคุณจะพอใจหรือไม่อย่างไร ซึ่งผมก็ถามกลับไปว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เขาตอบว่า เวลาดังกล่าวไม่พบข้อมูลบันทึกรายการในคอมพิวเตอร์ว่า ไม่มีการเติมน้ำมันที่มีมูล ค่า 500 บาท มีแต่ 400 บาท ผมจึงตอบว่า ให้เติมเพิ่มตามที่คุณเสนอและไม่ติดใจที่จะเอาเรื่อง เพราะได้รู้ความจริงก็พอใจ แ ล้ว และเขาได้กล่าวต่อไปว่าเขาเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากต้องดูแล ลูกน้องหลายคนอาจไม่ทั่วถึงและขอให้ผมชี้ตัวผู้กระทำผิด แต่ผมก็ตอบว่าไม่ เพราะไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้เรื่องอย่างนี้ เกิดขึ้นกับผู้อื่นหากทำอย่างนี้ 10 รายต่อวันก็มีรายได้พิเศษงาม ๆ เข้ากระเป๋าเป็นเงินสดทุกวัน ขอให้ท่านจงระวัง !!และต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อสันนิษฐานและข้อสังเกตของผมนะครับ 1. เขาทำงานกันเป็นทีมเหมือนแก๊งตกทอง มีคนทัก มีคนคุยกับคุณอยู่ด้านหน้าเพื่อหันเหความสนใจ ไม่ให้เราหันกลับไปดูทางท้ายรถเพื่อจะได้ปฏิบัติการได้โดยสะดวก 2. เด็กปั๊ม(หญิง)รู้ได้อย่างไรว่า ผมเติมน้ำมัน 500 บาทจึงออกใบเสร็จมาถูกต้อง โดยที่ผมยังไม่ได้บอก ถ้าเขาไม่ถามหรือเห็นการกระทำของเด็กปั๊ม(ชาย)ที่มาช่วย 3. คนที่บอกให้ผมเลื่อนรถไปข้างหน้าเพื่อบริการคนอื่น ก็คือเด็กปั๊ม(ชาย) คนนั้น ซึ่งบอกผ่านเด็กปั๊ม(หญิง)เจ้าของพื้นที่ 4. คนที่จะมาทำการเข่นนี้ก็จะมาจากจุดอื่นเสร็จแล้วก็กลับไปจุดเดิมทำให้เราสับสน และจำเขาไม่ค่อยได้ 5. แต่เด็กปั๊ม(หญิง)ต้องรู้และจดจำเด็กปั๊ม(ชาย)ที่มาช่วยเติมน้ำมันในจุดรับผิด ชอบของตัวเองได้ดีกว่าผมเพราะ เขาเป็นเพื่อนร่วมงานกัน แล้วทำไมต้องมาถามว่าจำคนนั้นได้ไหม 6. สรุปว่าปฏิบัติการอย่างนี้ ชงเองกินเองคนเดียวไม่ได้แน่ดีไม่ดี หัวหน้าอาจจะมีเอี่ยวด้วยอีกคน เขาได้เงินอย่างไร - ถ้าลูกค้าจ่ายเงินสดทำได้ทุกราย - ถ้าลูกค้าจ่ายผ่านบัตรเครดิตต้องรอบวกกับรายที่ 2 ซึ่งจ่ายเงินสด (ตามตัวอย่าง) เพื่อให้ง่าย ขอสมมุติว่าราคาขายน้ำมันลิตรละ 10 บาท * ลูกค้ารายที่ 1 สั่งเติม 50 ลิตร เป็นเงิน 500 บาท (จ่ายผ่านบัตรเครดิต) เติมจริง 40 ลิตร เป็นเงิน 500 บาท (ลูกค้าเผลอ) * ลูกค้าราย ที่ 2 สั่งเติม 50 ลิตร เป็นเงิน 500 บาท (จ่ายเป็นเงินสด) เติมจริง 50 ลิตร เป็นเงิน 500 บาท รวมขายน้ำมันจริง 90 ลิตร เป็นเงิน 900 บาท แต่เก็บเงินจากลูกค้า 2 ราย รวมกัน เป็นเงิน 1,000 บาท หักส่งเถ้าแก่ 900 บาท เหลือ 100 บาท เข้ากระเป๋า !!!! วิธีป้องกัน 1. ช่วยกระจายข่าวบอกต่อ ๆกันไปโดยส่งต่อเมล์นี้ให้ทราบข่าวกันเยอะ ๆ 2. เวลาเติมน้ำมันต้องเลิกนิสัยสั่งแล้วก็นั่งอยู่เฉยๆรอจ่ายเงินอย่างเดียวต้องดับ เครื่องยนต์แล้วลงไปดูให้แน่ใจว่าว่าเขาได้ทำตามความต้องการของเรา งดทำกิจกรรมใด ๆ เช่น สนทนาทางโทรศัพท์ แต่งหน้า หรือสนทนากับคนที่นั่งมาด้วย ฯลฯโดยไม่ใส่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นและต้องทำอย่างนี้ทุกปั๊มทุกยี่ห้อที่เข้าเติม น้ำมัน 3. ใบเสร็จและใบสลิปเป็นสิ่งสำคัญต้องขอและเก็บเอาไว้ถ้าจ่ายเงินสดก็ขอใบเสร็จแล้ว จดเวลาไว้ด้วยเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ 4. สังเกตดูด้วยว่าเขาได้เอาฝาปิดถังน้ำมันใส่กลับที่เดิมเป็นที่เรียบร้อย (หายกันบ่อย) 5. เมื่อขับรถออกจากปั๊มให้สังเกตเข็มบอกระดับน้ำมันว่าอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น 6. ควรเติมน้ำมันในปริมาณและจำนวนเงินเท่าเดิม เช่น ครั้งละ 500 บาทก็ให้เติมประจำ เช่นนี้เพื่อง่ายต่อการสังเกตและจดจำ สุดท้าย ....จากประสบการณ์ดังกล่าวนี้หวังว่าคงจะเป็นอุทาหรณ์และเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มาก ก็น้อย และขอให้ช่วยกันสร้างสรรค์สังคมไทยด้วยครับ > > > > > > > >>> > > ขอบคุณครับ Posted by : No name No.1 , E-mail : (warit74@hotmail.com) , Date : 2004-05-13 , Time : 23:09:40 , From IP : 202.129.18.132 |
ทำไมไม่สังเกตเอาที่ตู้น้ำมันเลยอ่ะ ว่ามันเติมให้ 500 จริงป่าว Posted by : กจ , Date : 2004-05-16 , Time : 17:09:35 , From IP : 172.29.2.143 |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.002 seconds. <<<<< |