ความคิดเห็นทั้งหมด : 10

ที่นี่ที่เดียวที่มีคะแนนสัมภาษณ์


   ถามจริงๆเถอะ มีที่ไหนเค้าให้คะแนนสัมภาษณ์กันบ้าง จำได้ตั้งแต่อนุบาล ยันมหาลัย ไม่มีที่ไหนเค้าเอาคะแนนสัมภาษณ์มาคิดหรอก เพราะมันวัดอะไรไม่ได้ กรรมการไม่ใช่พระ หรือ คนที่ตัดทางโลกแล้วจะยุติธรรมไปได้ยังไง ต่อให้ประกาศว่ามีเกณฑ์ตัดสิน แต่ถามจากใจจริงลองคิดดูสิคะว่ามันยุติธรรมไหม ถ้ากรรมการถูกชตาคนไหนก็ ให้คะแนนมาก เด็กคนไหนพูดไม่เก่ง หรือ หน้าตาไม่ ดี ตัวดำ หน้าตาเหมือนมาจากบ้านนอกบ้านนา ก็จะได้คะแนนไม่ดียั่งงั้นเหรอ พูดตรงๆขนาดดิฉันเองเห็นเด็กน่าตาน่รัก แต่งตัวดีๆ ยังรู้สึกเอนดูเลยแล้วกรรมการเองก็คน จะไม่มีจิตใจเอนเอียงก็เป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าจะบอกว่ามี กรรมการตั้ง 3 ชุด รวมแล้ว 9 คน ต้องยุติธรรมสิ โดยรวมแล้วอาจดูเหมือนยุติธรรมนะ แต่ถ้ากรรมการคนใดคนหนึ่ง ให้คะแนนแบบไม่เป็นธรรมแล้ว อย่าลืมว่าทุกคะแนนมีความหมายเวลามีการแข่งขัน ก็อาจทำให้คนหนึ่งพลาดสอบไม่ได้ก็ได้ ลองคิดดูนะคะ ท่านผู้ใหญ่ของ ม.อ.ว่าที่ท่านทำน่ะ ถูกแล้วเหรอคะ ท่านอาจคิดว่าวิธีการที่ท่านทำถูกแล้ว ถ้าลูกของท่านตกอยู่สภาพเดียวกับลูกดิฉันท่านจะทำยังไง ขอแนะอีกอย่างนะคะ การท ำงานกับอนาคตของเด็กอย่าเอาความเอาแต่ใจตัวเองมาใช้

Posted by : สมพงษ์ ผู้ปกครอง , Date : 2004-05-12 , Time : 11:37:21 , From IP : 203.156.40.21

ความคิดเห็นที่ : 1


   ขออภัยนะครับ...ในฐานะที่ผมก็เป็นนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งและก็เคยผ่านการสอบสัมภาษแบบนี้มาแล้วด้วย ผมขอยืนยันโดยไม่ได้ลำเอียงให้กับฝ่ายใดนะครับว่า การสอบสัมภาษเพื่อเข้าศึกษาต่อในคณะแพทย์นั้นยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ (จำเป็นอย่างมากด้วย) ...หากไม่มีการสอบสัมภาษนั้นผลดีผลเสียไม่ได้มีผลอะไรต่อผู้ปกครองหรอกครับ ( หรือถ้าจะมีก็คงน้อยมาก ) เมื่อเทียบกับผลเสียที่จะมีต่อเด็ก เพราในฐานะที่ผมเองก็เรียนมาในคณะนี้แล้วหลายปีก็รู้สึกว่าผู้ที่จะเข้ามาเรียนในคณะนี้ควรจะต้องมีความพร้อมมากพอสมควร โดยเฉพาะความพร้อมทางใจเพราะหากผู้เรียนไม่ชอบแล้วเขาก็จะเรียนอย่างไม่มีความสุข อีกทั้งหากยังดั้นด้นมาเรียนอีกทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าตัวเองไม่ชอบ (แต่เข้าเรียนเพราะเกรงใจผู้ปกครอง )และต้องออกจากเรียนในช่วงระหว่างเรียนแล้วทีนี้ผู้ปกครองลองนึกดูซิครับว่าผลเสียที่จะตามมาทั้งต่อตัวเด็กเองและต่อท่านเองว่ามากมายสักแค่ใหน (มันเทียบไม่ได้กับความผิดหวังของท่านที่นับว่าเล็กน้อยมากในตอนนี้...กับความผิดหวังของเด็กที่ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดในคณะแพทย์แต่เขาก็ยังมีโอกาสในคณะอื่น ๆ ที่เขาชอบจริง ๆ ) ผมจะขอยกตัวอย่างผลเสียที่อาจจะเกิดกับท่านผู้ปกครองและนักเรียนที่ต้องพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาในระหว่างกำลังเรียนสักนิดนะครับ (จากประสบการณ์ที่เคยเห็นมา)ื ในด้านจิตใจ จะเกิดทั้งเด็กและผู้ปกครอง ต่อเด็กคือเด็กจะรู้สึกอับอายเพื่อน ๆ และที่สำคัญคืออับอายเพื่อนบ้านที่ผู้ปกครองเองนั่นแหละเคยไปคุญโม้ให้ฟังว่าลูกของตนได้เข้าเรียนในคณะแพทย์ และผู้ปกครองเองก็คงอับอายไม่แพ้กันหรืออาจเผลอไปโกรธลูกของตนเอาเสียอีกที่ไม่ทำให้ความต้องการของตนเองสมหวัง (ทั้ง ๆ ที่ลูกของตนอยากจะบอกความในใจว่าไม่ได้อยากเรียนอย่างที่ท่านต้องการแต่ก็เกรงใจไม่กล้าที่จะบอกความจริง) ส่วนในด้านทรัพย์สินค่าใช้จ่ายที่ต้องสูญเสียไปในระหว่างการเล่าเรียนที่ไม่ใช่น้อย ๆ ...ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในการเดินทางมาสอบสัมภาษเพียงเล็กน้อยในคราวนี้คงจะเทียบไม่ติดทีเดียว....สุดท้ายนี้ผมในฐานะนักศึกษาแพทย์ผู้เคยผ่านจุดนี้มาเหมือน ๆ กับน้องม.6ที่กำลังประสบอยู่ในตอนนี้ ก็อยากบอกกับท่านผู้ปกครองทุกท่านอีกครั้งว่าขอให้ท่านใจเย็น ๆ และพยายามคิดทบทวนดูอีกครั้งว่าสิ่งที่ท่านกำลังประสบอยู่ในตอนนี้และท่านได้ระบายลงไปในเว็ปบอร์ดด้วยอารมณ์ชั่ววูบนั้นท่านได้คิดทบทวนดูอย่างรอบคอบหรือยังพยายามคิดดูไห้กว้างอย่างรอบด้านแล้วสุดท้ายผมหวังว่าท่านจะเข้าใจจิตใจผู้อื่นได้ดีขึ้น ทั้งจิตใจลูกของท่าน จิตใจกรรมการสอบสัมภาษ และรวมทั้งจิตใจของท่านเอง....จากนักศึกษาแพทย์ที่พูดไม่เก่ง หน้าตาไม่ดี ตัวดำ หน้าตาเหมือนมาจากบ้านนอกบ้านนาคนหนึ่ง.

Posted by : mexjudaj , Date : 2004-05-12 , Time : 14:53:23 , From IP : 172.29.2.98

ความคิดเห็นที่ : 2


   มีตกสัมภาษณ์ ด้วยหรือเนี่ย แล้วเค้าเอาเกณท์อะไรมาวัด มาให้คะเเนนการตอบง่ะ
ตอนผมสอบสัมภาษณ์ เมื่อ สิบกว่าปีก่อน คณะกรรมการที่เป็น อาจารย์ผู้หญิงท่านหนึ่งถามผมว่า ทำไมถึงอยากเรียนหมอ ผมตอบว่า อยากช่วยเหลือคนป่วยครับ แต่ในใจผมตอบว่า แม่ตูให้เลือก แล้วมันก็รวยดี มีฐานะ คิดเหมือนอาจารย์นั่นแหละครับ โว้ยยย



Posted by : โซดา โค้ก , Date : 2004-05-12 , Time : 17:24:59 , From IP : 172.29.3.217

ความคิดเห็นที่ : 3


   ไม่ทราบว่ามีนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกมาเพื่อตกสัมภาษณ์เยอะรึเปล่า แต่เห็นด้วยกับคุณผู้ปกครอง กรรมการเห็นเด็กคนหนึ่งเพียงเสี้ยวเวลาหนึ่ง ไม่ควรจะเป็นผู้ตัดสินทางชีวิตของเค้า อย่างน้อยเค้าก็เป็นผู้กลั่นกรองและไตร่ตรองแล้วก่อนที่จะมาเลือก..อย่าปฏิเสธเลยว่าเด็กบางคนไม่อยากเรียน แต่โหว้งเฮ้งดีท่านก็เลยให้ผ่านเข้ามาเรียนได้ เห็นด้วยกับคุณโซดา โค้ก หากอยากมาเรียน ต้องมือถือสากปากถือศีล (พวกเดียวกับกรรมการ)

Posted by : เสียความรู้สึก , Date : 2004-05-12 , Time : 18:49:15 , From IP : totIPNet-PAC-173-132

ความคิดเห็นที่ : 4


   เท่าที่ผมได้ยินเขาพูดกันนะครับว่า คะแนนสัมภาษณ์ไม่ค่อยต่างกันเท่าไรครับ คะแนนพอๆกัน แต่ที่ว่าตัวตัดสินคือคะแนนสอบแบบบูรณาการ ต่างกันมาก เพราะข้อสอบถึงแม้จะมีหลากหลายวิชา แต่ไม่ได้เน้นท่องจำ เน้นการวิเคราะห์จากข้อมูลและเท่าที่รู้มาคนที่ได้คะแนนน้อย มักจะตอบข้อง่ายๆไม่ได้ โดยเฉพาะพวกที่ได้คะแนนสอบเอ็นทรานซ์อยู่ต้นๆ คงไม่ใช่คะแนนสัมภาษณ์หรอกครับ
แต่ขอยืนยันอีกคนว่าการสัมภาษณ์นั้นพอบอกได้คร่าวๆครับว่าจะตัดคนไหนออกได้ ยิ่งกรรมการมากแบบนี้ยิ่งชัดขึ้น แต่เท่าที่ทราบปีนี้สัมภาษณ์แตกต่างกันน้อยมากแทบไม่มีความหมาย


Posted by : ไม่เสียความรู้สึก , Date : 2004-05-12 , Time : 23:25:00 , From IP : r219-skaHS1.S.loxinf

ความคิดเห็นที่ : 5


   แล้วคุณผู้ปกครองทราบได้ยังไงครับว่าเค้าเอาการสัมภาษณ์มาคิดเป็นคะแนน มีหลักฐานตรงไหนครับ โดยปกติแล้วไม่ว่าที่ไหนเค้าจะต้องมีการสัมภาษณ์แต่ไม่ได้แปลออกมาเป็นคะแนน เท่าที่ผมทราบเค้าก็ไม่ได้ดูหน้าตารูปร่างอะไรหรอกครับ แต่เค้าจะดูเจตคติ ความคิด ความเจริญเติบโตทางวุฒิภาวะ ความสามารถที่จะทนต่อความเครียด (สำคัญมากเพราะช่วงที่เรียนถ้าทนเครียดไม่ได้ บ้าไปเลยก็มี) และจิตแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติทางจิต ทุกอย่างไม่ได้มีคะแนนครับ
ส่วนคะแนนน่าจะมาจากข้อสอบอัตนัย, ความสามารถในการเรียนรู้ต่างหาก
ถ้าคุณไม่มีหลักฐานก็อย่าเอามาพูดครับมันน่ารำคาญ


Posted by : แทน , Date : 2004-05-13 , Time : 11:52:37 , From IP : 172.29.3.90

ความคิดเห็นที่ : 6


   ผมว่าเรียนหมอ
สอบสำภาษณ์สำคัญกว่า (ถ้าวัดได้จริงนะ)
สอบเอาคะแนนอีก
คนเป็น หมอไม่ต้องเก่งมากหรอก
แต่ควรจะดีมากๆ
เพื่อนผมที่เรียนเก่งๆในรุ่นมักจะใจคอคับแคบ ทะนงตน บ้าความรู้
แต่คนเรียนโง่ๆมักจะแคร์คนไข้มาก
ดูคนไข้ดี
แต่ก็ไม่ใช่อย่างนี้ทุกคนหรอก
แค่ส่วนใหญ่

โลกนี่ไม่ยุติธรรมหรอก เรียนเก่ง ติดคณะดีๆ จบแล้ว ไม่ประสบความสำเร็จก็มาก
เอ็นไม่ติด จบ ป.4 เป็นเจ้าของกิจการมีเยอะแยะ
ถ้าโลกนี้ยุติธรรม ไอ้มดแดงกับซุปเปอร์แมนคงไม่อยู่แต่ในจอทีวีหรอก


Posted by : แพทย์ , Date : 2004-05-13 , Time : 23:31:30 , From IP : 202.5.82.182

ความคิดเห็นที่ : 7


   ที่บอกว่าได้เป็นหมอเพราะหน้าตาดี ไม่จริงค่ะ หนูสวยเหมือนนางงามยังสอบไม่ได้เลยค่ะ เพื่อนหนูหน้าเหมือนแก้วหน้าม้ายังสอบได้เลย ฮือฮือ

Posted by : คนสวย , Date : 2004-05-14 , Time : 03:17:32 , From IP : 172.29.1.231

ความคิดเห็นที่ : 8


   นี่คุณค่ะ คุณตั้งใจจะให้ลูกมาเรียนที่นี่ ที่ที่คุณหาว่ากรรมการลำเอียง...คนที่คุณไม่ยอมรับในการตัดสินใจของเค้า....คนที่คุณบอกว่าเสียความรู้สึก...คนที่คุณบอกว่าดูหน้าตาเป้นเกณฑ์...แล้วที่แบบนี้เหรอคะที่คุณอยากจะให้ลูกคุณเข้ามาเรียน...นั่นแสดงว่าจริง ๆคูรก็ไม่ได้คิดว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆใช่ปะคะ...ตอนนี้หนูรู้ว่าคุณกำลังโกรธ ผิด หวัง....ลองคิดดูดี ๆนะคะ

Posted by : คนผ่านมา , Date : 2004-05-15 , Time : 01:21:16 , From IP : 203.150.209.231

ความคิดเห็นที่ : 9


   สงสารอาจารย์ที่เค้าสัมภาษณ์เด็กจัง
ถ้าเค้ามาอ่านข้อความพวกนี้
คงเสียใจน่าดู

ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรอก

ที่นี่ก้อคงไม่ทำอะไรอย่างนั้นด้วย


Posted by : แย่เนอะ , Date : 2004-05-17 , Time : 17:42:07 , From IP : ppp-202.176.130.101.

ความคิดเห็นที่ : 10


   จบหมอมาหลายปีแล้วค่ะ ศิษย์เก่า ม.อ. คนนึงเหมือนกัน ยืนยันค่ะว่ามีตกสัมภาษณ์จริง และปีที่ตนเองสอบก็มีเพื่อนตก 1 คน ภายหลัง ป่วยด้วยโรคทางจิตเวชที่ไม่ได้รุนแรงมาก แต่ถ้าเค้าได้เรียนหมอก็คงต้องออกกลางคันแน่นอน เพราะคงไม่สามารถแบกรับความเครียดได้ถ้าจิตใจไม่พร้อม
ยืนยันเลยว่าสอบสัมภาษณ์คัดคนได้จริง ๆ


Posted by : ต. , Date : 2004-05-18 , Time : 13:56:53 , From IP : 172.29.3.100

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<