
วันนี้ผมได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของ Extern ในโรงพยาบาลเรา ซึ่งโดนผลกระทบทั้งจากระบบการเรียนใหม่ และ จากการที่เรามี Intern มาหมุนเวียนอยู่ด้วย ผมอยากจะทำ Unofficial focus group ดูว่าเรา (externs) เห็นว่าเป็นอย่างไร หรือเรา (นักศึกษาแพทย์ปี ๔ ปี ๕) อยากจะให้เป็นอย่างไร ลองดูกันะครับ
.
ปล. ผมไม่มีอำนาจจะสัญญาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นจากการ post มาในกระทู้นี้นะครับ แค่อยากฟังความคิดของน้องๆเท่านั้นเอง
--------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------
ความเห็น : ตั้งแต่ขึ้นชั้น clinic มา เกือยจะครบปี ผมได้ทราบอะไรหลายๆอย่าง ทราบความลำบากที่พี่ๆชั้น clinic ได้รับ ที่ตอนเรียน pre- clinic ไม่เคยได้รับรู้มาก่อน
ก่อนขึ้นมาเรียนผมได้รับทราบ concept ของการเรียนว่า เราเน้นเรียนจากคนไข้เป็นหลัก โดยในปี 4 เน้น approach ว่าอาการคนไข้มาแบบนี้ เราจะคิดถึงอะไร แล้วต้องส่ง Lab อะไรบ้าง ส่วนการรักษาให้รู้เพียงหลักการคร่าวๆ เช่น โรคนี้ต้องให้ antibiotic กลุ่มไหน ทำไม ก็พอ(ไม่รู้พอไหม)
แต่พอเอาเข้าจริง ทุกๆอย่างก็เข้ามาสุมหัว บางทีเสลา round กับอาจารย์ก็จะมีการถามถึงวิธีการรักษา dose เท่าไหร่ ให้ยังไง ผมเองโดนถามทีไรไม่เคยตอบได้เพราะยึดตาม concept (หรือว่าขี้เกียจกันแน่?) เดี๋ยวนี้การเรียนเปลี่ยนไป 1 บล๊อค มีประมาณ 3-4 ภาควิชา อย่าง pre-operative and post-operative care ก็รวมเอา วิสัญญี กับ orthopedics เข้ามาด้วย เลยเรียนมันซะทุกอย่างเลย
แต่ผมว่า ถ้าขยันก็พอเอาตัวรอดได้ครับ เพราะผมเชื่อว่า อาจารย์คงหวังดีเลยออกหลักสูตรมาให้เรียนแบบนี้ ท่านคงคิดแล้วคิดอีก ก็คงพยายามเรียนต่อไปครับ สู้ๆ
ส่วยประเด็นเรื่อง Extern ทราบว่าพี่เขางานหนักมาก ทำหน้าที่หลายๆอย่าง เห็นใจครับ คิดว่าจะพยายามช่วยเหลืองานที่ทำได้ เช่น เขียนใบสั่งยา ติด lab กรอก lab เขียน review of treatmant แต่บางทีก็กลายเป็นทำให้งานพี่เขาหนักขึ้นไปอีก(ก็ดันไปทำผิด) อยากทราบเหมือนกันครับว่า role ของนศพ.ปี 4 และปี 5 ควรต้องทำอย่างไรบ้าง คงไม่ได้มีแค่เดินตาม round ต้อยๆให้แข้งโตใช่ไหมครับ(อย่าว่ากันเลยครับ น้องยังไม่ค่อยรู้เรื่อง)?
ปล. ขอนอกเรื่องนิดนะครับ บางทีบุคคลากรที่ทำหน้าที่ติดต่อกับนศพ.ก็เป็นตัวแปลสำคัญ ในการอยู่รอดของนศพ. เหมือนกัน อย่างตอนนี้ block disease of adult and eldery กำลังถูกเลื่อนสอบ Final โดยไม่ได้กำหนดล่วงหน้ามาตั้งแต่ต้น block ทำให้แผนการณ์อ่านหนังสือของ นศพ. เกิดความโกลาหล เลื่อนมาผมไม่ว่าอะไรหรอกครับถ้าบอกตั้งแต่ต้น block ว่ากองนี้จะสอบเร็วหน่อยนะ แต่กลายเป็นว่าประกาศก่อนสอบไม่ถึงสัปดาห์ ทำเอาผมงง และ โกรธเลือดขึ้นหน้าไปหลายชั่วโมงเลยครับ T__T
โบทซึมุ 23:16:27 1/28/103 <172.29.2.120> (0)
--------------------------------------------------------------------------------
ความเห็น : ผมว่า extern ทำงานหนักเกินไป จนเวลามาดูคนไข้ discuss กัยอาจารย์ถึงแนวทางการรักษา วินิจฉัย น้อยกว่าที่ผมเคยคิด แต่มาทำงานจดๆเขียนมากเกินไป เดี๋ยวลอกโน่นเขียนนี่ คอยรับใช้ intern ตามที่เขาสั่งเกินไป...เท่าที่ประสบการณ์ผมนะครับ
ผะตี้ 12:34:28 1/29/103 <172.29.2.155> (0)
--------------------------------------------------------------------------------
ความเห็น : เอ่อ... แล้วการเรียนระบบเก่าเป็นไงอะฮับ.. externต่างจากปัจจุบันยังไงอะฮับ
กะป๋มฮับ 15:14:30 1/29/103 <172.29.2.80> (0)
--------------------------------------------------------------------------------
ความเห็น : ตอนนี้ใครๆก็คอยจับตามองรุ่นของเราที่กำลังจะไปเป็นเอ็กเทิน คนนิสัยไม่ดีหลายๆคนก็กำลังจ้องจับผิด แล้วก็มาด่าว่าเพราะพวกมันเรียนมาแบบใหม่ ระบบ pbl มันถึงทำอะไรกันไม่เป็น ก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้พอสมควรแล้วล่ะ แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเลยนะ
จะยอมเป็นกรวดทรายให้พวกเธอเหยียบย่ำ 15:37:17 1/29/103 <203.148.180.84> (0)
--------------------------------------------------------------------------------
ความเห็น : ผมคิดว่าพวกเรายังค่อนข้าง "เกร็ง" อยู่นะครับ หรืออาจจะเป็นเพราะผมตั้งคำถามไม่ดี ไม่รัดกุม กำกวม ยังไงก็ตามเท่าที่ผ่านมากระทู้ที่ผมตั้งถูกควบคุมไว้ค่อนข้าง OK นะครับ ไม่ได้ล่อเป้าสักเท่าไร
.
ประเด็นสำคัญคือเราคงจะไม่รู้จะ feedback อะไรถ้าเราไม่ได้ "ตั้งเป้าหมาย" หรือ "คาดหวัง" เอาไว้ก่อน อะไรผ่านมาก็จะเป็น passive รับไว้หมด แต่ถ้าเรามีการคาดหวังเอาไว้ซะก่อน เวลามันไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังก็จะ detect ได้โดยง่าย ที่นี้ feedback มีประโยชน์อะไร? feedback คงจะไม่มีประโยชน์ต่อผู้ที่ตอบมาหรอกนะครับ แต่ "อาจ" จะมีประโยชน์ต่อรุ่นต่อไป หากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น สำหรับคุณ "กรวดทราย" ครับ จริงอย่างที่คุณว่าว่ามีคนมากมายกำลังจับตาดูอยู่ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะจับผิดหรอกนะครับ มีพี่ๆหลายคนที่เป็นห่วงน้องๆอย่างจริงใจ
Phoenix 17:54:00 1/29/103 <172.29.3.160> (0)
--------------------------------------------------------------------------------
ความเห็น : ความจริงแล้ว Resident ก็เกร็งนะ ไม่รู้จะสอนอะไรดี พวกผมความรู้ไม่มาก ที่พอจะดูให้ได้ ก็พวกหัตถการ ปัญหาคือ เวลาเราไม่ค่อยตรงกัน มีอะไรก็เลยทำไปเองเลยเร็วกว่า จริง ๆ แล้วก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่า Extern แบบใหม่จะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ยังอยากให้คนที่จะจบ มีคำนำหน้าชื่อว่า นพ. หรือ พญ. มีศักยภาพ และคุณธรรมพอ ที่จะบอกใคร ๆ เขาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เป็นหมอ
คุณครูสมัยมัธยมปลาย สอนผมอยู่สามอย่าง ยังจำได้ขึ้นใจ และอยากให้ สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในคนรุ่นใหม่ ไม่รู้ว่าเชยไปหรือเปล่านะ ครูผมให้ยึดถือสามสิ่งนี้ครับ
- อ่อนน้อมถ่อมตน
- ซื่อสัตย์ สุจริต
- มีระเบียบวินัย
แต่ดูเหมือนสังคมของเรา สอนให้เราเรียนรู้ว่า "ไม่ซ่าก็ไม่ดัง" "จุดหมายสำคัญกว่าการก้าวให้ถึงจุดหมาย ( ไม่เกี่ยงวิธีการ)" หลายปีที่ผ่านมา การใช้ชีวิตอยู่แถวนี้ ทำให้ผมสงสัยว่า การยึดถือคำสอนของครู จะทำให้เรา Survive ในสังคมแห่งนี้ได้นานแค่ใหน
Dhan 23:01:16 1/29/103 <172.29.3.224> (0)
--------------------------------------------------------------------------------
ความเห็น : เท่าที่เห็นหลักสูตรของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ผมไม่คิดว่าการบทบาทของนักศึกษาจะเปลี่ยนไปจากเดิมเพราะแนวคิดของชั้นปีที่ 6 ยังเหมือนเดิมคือเรียนจากการทำงานเป็น task based learning`ซึ่งเหมือนของหลักสูตรเก่า แต่คงหวังว่านักศึกษาชั้นปีที่ 6 รุ่นนี้เป็นคนที่ใฝ่รู้ รู้จักค้นคว้าเป็น นำเสนอเป็น ทำงานได้เป็นทีม มีการบริหารจัดการที่ดี แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังคิดว่าคงต้องอาศัยรุ่นพี่และอาจารย์ช่วยชี้แนะแนวทาง และเป็นพี่เลี้ยงให้ต่อเพราะนักศึกษาก็ยังเปรียบเหมือนคนเริ่มต้นของการฝึกการใช้ชีวิตแพทย์ที่เรียกว่าค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบจริงมากขึ้น ดังนั้นการทำงานก็คงจะต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่างลืมว่าวัตถุประสงค์ของการศึกษาในชั้นปรีคลินิกและคลินิกยังเหมือนเดิมคือตามเกณฑ์มาตรฐานแพทยสภา แต่วิธีการเรียนรู้เท่านั้นที่เปลี่ยนไป และในชั้นคลินิกก็มีการบูรณาการเพิ่มขึ้น
อ 00:05:33 2/01/103 <203.113.76.11> (0)
--------------------------------------------------------------------------------
ความเห็น : ผมได้มีโอกาสคุยกับแพทย์รุ่นพี่หลายๆคนที่ดูแล Interns and externs ที่โรงพยาบาลรอบนอก ความเห็นคล้ายๆกันคือไม่ได้แยกความแตกต่าง อันนี้ทำให้ผมเกิดความสงสัยว่านี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้วที่ไม่แยก หรือว่าแยกแล้วจะทำให้เกิดดีขึ้น แย่ลงอย่างไร ถ้าเรา assume ว่า ๑ ปีของประสบการณ์ที่ได้ผ่านมาช่วง extern ไม่ได้ช่วย intern มากขึ้นสักเท่าไร ควรหรือไม่ที่เราน่าจะทำให้มันมี significance เพิ่มขึ้น หรือว่าดีอยู่แล้ว?
.
ที่ผมเป็นกังวลเวลารวบรวม feedback จากพวกน้องๆก็คือ spectrum of interest หรือ focus ของสิ่งที่ต้องการค่อนข้างจะเป็นเรื่องใกล้ตัวเสียส่วนมาก ผมอาจจะกำลังขอร้องมากเกินไปรึเปล่าถ้าจะให้ผู้เรียนลองพยายาม scrutinize และ feedback หลักสูตร? จริงอยู่ดังที่ได้เรียนไว้เบื้องต้นว่า platform นี้คงไม่ใช่ official ที่ทุกๆ feedback จะได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยตรงหรือเต็มที่ แต่ผมยังคงคิดว่าถ้าเราให้ข้อมูลที่ประกอบด้วยเหตุผลและหลักการ ไม่ใช่แต่อารมณ์อย่างเดียว หรือเต็มไปด้วยการประชดประชัน จะมีโอกาสสูงที่ความเหนนั้นๆจะมีคนที่สมควรได้ยินจะได้รับฟังนะครับ
Phoenix 15:10:13 2/01/103 <172.29.3.202> (0)
Posted by Phoenix() 2003-02-04 , 18:28:52 , 172.29.3.203
Posted by : Phoenix , Date : 2003-02-04 , Time : 19:00:58 , From IP : 172.29.3.206
|