ความคิดเห็นทั้งหมด : 13

Doremonตอน.......Dorayagusa


   



เหอะๆๆๆ...ขอความเห็นด้วย




Posted by : Epoo , Date : 2003-04-10 , Time : 20:44:17 , From IP : 203.157.14.245

ความคิดเห็นที่ : 1


   ท้องผูกเหรอ

Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-04-10 , Time : 21:06:07 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 2


   โดราเอมอน เป็นการ์ตูนที่สะอาดบริสุทธิ์ที่สุดเรื่องหนึ่ง

Posted by : Immanuel Kant , Date : 2003-04-10 , Time : 22:14:38 , From IP : 172.29.2.154

ความคิดเห็นที่ : 3


   เหอะๆๆๆ เอามาเพิ่มให้

Doremonตอน......กึ๊ยยยยยย



Posted by : Epoo , Date : 2003-04-10 , Time : 22:20:42 , From IP : 203.157.14.245

ความคิดเห็นที่ : 4


   โดเรมอนภาคโหด
คห.ที่ 3 น่ากัวอ่ะ


Posted by : แง้ว , Date : 2003-04-10 , Time : 23:37:34 , From IP : 202.47.238.66

ความคิดเห็นที่ : 5


   ถ้า โดเรมอน เป็นอย่างนี้จริงๆละก้อ
เลิกอ่านเลบ


Posted by : can_chan , Date : 2003-04-11 , Time : 10:21:52 , From IP : p1-90-1222bkkSP1.lox

ความคิดเห็นที่ : 6


   EPOO นี่ขยันโพสจังเนอะ ถ้าว่างขนาดนั้นแวะเข้ามาเยี่ยม http://www.geocities.com/med29psu หน่อยดิ ผลงานของเพื่อนโรงเรียนแกเชียวนะโว้ย!

อิ อิ : )


Posted by : ลิงน้อยก้นแดง , Date : 2003-04-13 , Time : 20:54:24 , From IP : 203.107.241.13

ความคิดเห็นที่ : 7


   ความหวังดีของ epoo สร้างความสยดสยองให้กับ ผู้ที่บูชาDoraemon
เลิกการกระทำอย่างนั้นซะนะครับ


Posted by : nicotin , Date : 2003-04-16 , Time : 02:58:28 , From IP : 172.29.3.204

ความคิดเห็นที่ : 8


   ขอโทษด้วยนะครับต่อผู้บูชาโดเรมอนทุกคนแต่ผมก็เป็นคนนึงที่มีโดเรมอนเป็นสุดยอดการ์ตูนในหัวใจเช่นเดียวกัน เอาเป็นว่าขอทำคุณไถ่โทดละกัน
แต่นแต้น...ต่อไปนี้พบกับรูปปกภาคภิเศษของโดเรมอนทุกตอนไล่มาตั้งแต่ตอนแรกเลยนะคับ







Posted by : Epoo , Date : 2003-04-16 , Time : 17:09:13 , From IP : 203.157.14.245

ความคิดเห็นที่ : 9


   ต่อไปพบกับตอนจบโดเรมอนที่เค้าว่ากันว่ามีถึง3แบบด้วยกัน
แต่งโดยลูกศิษอาจารย์ฟูจิโกะฟูจิโอะคับ ส่วนใครอยากให้จบแบบไหนเชิญเลือกเอาเองตามใจเลย

ตอนจบของโดเรมอน
- วันหนึ่ง ฉากในโรงพยาบาล โนบิตะตื่นขึ้นมาและเจอพ่อกับแม่และเพื่อนๆ ครบทุกคนยืนอยู่รอบเตียง แล้วโนบิตะก็ถามถึงโดเรมอน
ทุกคนกลับปฎิเสธว่าไม่รู้จักและบอกโนบิตะว่า โนบิตะหลับมานานเป็นปีแล้วเนื่องจากไม่สบาย
และโนบิตะก็นึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโดเรมอน ทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้น โดเรมอน เซวาสึ
โดเรมี ล้วนเป็น ความฝันของเขาทั้งสิ้น โนบิตะเป็นเด็กที่ไม่แข็งแรง และไม่มีเพื่อนรักที่จะอยู่ด้วย
เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลาและเขาก็หลับไป ฉากต่อมา เริ่มที่ พ่อแม่และเพื่อนๆของโนบิตะ
ร้องไห้กันอยู่ในงานศพของโนบิตะ..เขาจากไปก่อนวัยอันควร..และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลงที่โนบิตะฝันถึงโดเรมอนและอนาคตนั้นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า
เขาจะต้องตายในอีกไม่นาน เขาจึงอยากที่จะมีอนาคต มีเพื่อนรัก มีการผจญภัยสนุกสนานแต่ฝันของเขาก็ไม่มีวันเป็นจริง...
ตลอดไป......



Posted by : Epoo , Date : 2003-04-16 , Time : 18:16:10 , From IP : 203.157.14.245

ความคิดเห็นที่ : 10


   ตอนจบของโดเรมอน

บ่ายวันหนึ่ง ซึ่งก็เป็นวันธรรมดาเหมือนวันอื่นทั่วไป
โนบิตะกลับมาจากโรงเรียน และวิ่งขึ้นชั้น 2 ไปที่ห้องของเขา
โดเรมอนกำลังนอนอยู่ในห้อง ...ซึ่งก็เป็นเหมือนปกติทุก ๆ วัน

"เฮ้!! โดเรมอนตื่นเถอะแล้วไปเล่นด้วยกัน" โนบิตะชวน
แต่โดเรมอนก็ยังไม่ตื่น
โนบิตะคิดว่า โดเรมอนคงจะเหนื่อย ปล่อยให้นอนต่อไปดีกว่า
ดังนั้นเขาจึงวิ่งออกไปเล่นข้างนอนกับชิซูกะและเพื่อนคนอื่นๆ

2-3 ชั่วโมงต่อมา เมื่อโนบิตะกลับถึงบ้าน
เขาพบว่าโดเรมอนยังนอนอยู่นิ่งที่เดิม
โนบิตะเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไป
"ปกติโดเรมอนไม่นอนนานอย่างนี้นี่นา "

เขาพยายามจะปลุกโดเรมอน แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ
โนบิตะเริ่มรู้สึกกลัวและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะปลุกโดเรมอน
แต่ไม่ว่าโนบิตะจะพยายามแค่ไหน ก็ทำให้โดเรมอนตื่นขึ้นมาไม่ได้

ถึงตอนนี้โนบิตะรู้ชัดเจนแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ
โดเรมอนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน..

โนบิตะเริ่มร้องไห้
แต่แม้จะร้องไห้หรือตะโกนเรียกอย่างไร..
เจ้าหุ่นยนต์แมวตัวอ้วนก็ไม่เคลื่อนไหว

แล้วโนบิตะก็เกิดความคิดขึ้นมา!!
เขากระโดดลงไปในลิ้นชักโต๊ะ.. ใช่แล้ว! ไทม์แมชชีนนั่นเอง
โนบิตะใช้ ไทม์แมชชีนไปในอนาคต ไปหา โดเรมี น้องสาวของโดเรมอน
โนบิตะไปขอความช่วยเหลือจากโดเรมี และพาเธอกลับมากับเขา
กลับมาในปี 1998

หลังจากนั่ง ไทม์แมชชีน กลับมายัง ปี 1998
โดเรมีก็เริ่มตรวจระบบต่างๆ เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับพี่ชายของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน โดเรมีก็บอกว่า..
"แบตเตอรี่ของโดเรมอนหมด"

โนบิตะได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ และบอกกับโดเรมีว่า
"แบตเตอรี่หรือ?? โดเรมอนไม่ได้เสียหายอย่างอื่นใช่ไหม
งั้นจะรีรออะไรอยู่ล่ะ รีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้เขา
และทำให้โดเรมอนตื่นกลับมาเหมือนเดิมทีสิ"

แต่ ..โดเรมีส่ายหน้าและพูดขึ้นว่า
"โนบิตะซัง ฉันควรทำอย่างนั้นเหรอ??"

"อะ... อะไรนะ โดเรมี เธอหมายความว่ายังไง???"
โดเรมีตอบว่า..
"ก็ แบตเตอรี่หลักของ โดเรมอนอยู่ตรงนี้ ใกล้กับกระเป๋าหน้าของเขา และไฟมันหมดแล้ว
ซึ่งแต่เดิมโดเรมอนจะมีแบตเตอรี่สำรองอยู่ที่หู
แต่ก็อย่างที่รู้ ๆ กันล่ะว่า หูของโดเรมอนถูกหนูแทะกินไปเมื่อหลายปีมาแล้ว
ดังนั้นตอนนี้โดเรมอนก็เลยไม่มีแบตเตอรี่สำรอง"

"แล้วมันหมายความว่ายังไงล่ะ" โนบิตะสงสัย
"ก็หมายความว่า ถ้าฉันเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้โดเรมอน
ความทรงจำทุกอย่างของโดเรมอนก็จะหายไปจากส่วนของหน่วยความจำนะสิ"

"อะไรนะ?????? "

"แล้วเธฮยังจะให้ฉันเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้อย่างนั้นหรือ"

โนบิตะหลับตาแล้วร้องไห้....
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หยุดร้อง และบอกโดเรมีจังว่า..
"โดเรมี ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มา ฉันจะดูแลโดเรมอนเอง เธอกลับไปอนาคตเถอะ"

โดเรมีจังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยโนบิตะดี
เธอเข้าไปกอดโนบิตะเพื่อปลอบใจ และก็กลับไปอนาคต

หลังจากโดเรมีกลับไป โนบิตะอุ้มโดเรมอนไปนอนในตู้ของโดเรมอนตามเดิม

วัน-เวลาผ่านไป...........
ปี ค.ศ.2010 โนบิตะโตขึ้น
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เขาก็เปลี่ยนไป เขาทุ่มเทเรียนอย่างหนัก ไม่มีการร้องไห้อีกต่อไป
และเขาก็มีชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีโดเรมอน
เขาบอกชิซูกะและทุก ๆ คนว่า โดเรมอนได้กลับไปสู่อนาคตของเขาแล้ว
และจะไม่สามารถได้พบกับโดเรมอนได้อีกต่อไป

ชิซูกะรู้สึกประทับใจในท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อของโนบิตะ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง
พวกเขาตกหลุมรักซึ่งกันและกัน และในที่สุดก็ได้แต่งงานกัน...

โนบิตะเติบโตเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาได้สร้างห้องของเขาให้กลายเป็นห้องทดลอง
และทุ่มเทศึกษาอย่างหนักในงานของเขาตลอดทั้งวัน
เขาได้บอกชิซูกะว่าไม่ให้เข้ามาในห้องทดลองของเขา
เพราะมีสิ่งที่เป็นอันตรายอยู่มากมาย

แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับเรียกชิซูกะให้เข้าไปในห้องของเขา
ห้องทดลองซึ่งเขาเคยบอกว่าเต็มไปด้วยอันตราย
นั่นเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะได้เข้าไปในห้องของสามีเธอ

และเมื่อชิซูกะเข้าไป เธอถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก....
เพราะสิ่งที่เธอเห็น- -เพื่อนเก่าของเธอ.. ผู้ที่เธอเคยเล่นด้วยในวันเด็ก
"โดเรมอน"

โดเรมอนไม่ได้เคลื่อนไหว ดูเหมือนว่าเขากำลังหลับ

"ดูนะชิซูกะ ฉันจะเสียบปลั๊กเดี๋ยวนี้แหละ.."
โนบิตะเปิดสวิตช์หลักของโดเรมอน
โดเรมอน ลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว.....

นั่นเป็นช่วงเวลาสำหรับคำถามที่ทุกคนอยากรู้ว่า "ผู้ประดิษฐ์โดเรมอน... คือใคร"
มีคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า คนนั้นคือ โนบิตะ นั่นเอง....

ที่โนบิตะเรียนอย่างหนัก และทุ่มเท ก็เพื่อที่จะได้พบ ได้คุยกับเพื่อนเก่าของเขาอีกครั้งหนึ่ง
จนถึงขณะนี้.. โนบิตะก็กลายเป็นผู้ที่สร้างโดเรมอนขึ้นมา
เขาได้ค้นพบโครงสร้าง สถาปัตยกรรม และโปรแกรมทั้งหมดที่เป็นแบบฉบับของโดเรมอน

โนบิตะและชิซูกะ ร้องไห้เบา ๆ ด้วยความยินดี....
ขณะที่โดเรมอนลืมตาขึ้นมา... มองไปรอบ ๆ และในที่สุดก็พูดขึ้นว่า
"โนบิตะ นายทำการบ้านเสร็จรึยัง?"

เมฆสีขาวบริสุทธิ์ยังคงลอยล่องอยู่บนท้องฟ้าเหมือนดังวันก่อน
วันเวลาที่พวกเขาได้ร่วมใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน....
...............................................................


The End.


Posted by : Epoo , Date : 2003-04-16 , Time : 18:18:18 , From IP : 203.157.14.245

ความคิดเห็นที่ : 11


   ขอโทษจริงๆนะคับที่หาตอนจบตอนสุดท้ายไม่เจอเนื่องจากเป็นตอนจบที่คนไม่ค่อยนิยมเอานี่ไปแทนละกัน


Posted by : Epoo , Date : 2003-04-16 , Time : 18:31:15 , From IP : 203.157.14.245

ความคิดเห็นที่ : 12


   โดราเอมอนเป็นการ์ตูนเรื่องแรกที่อ่านเลยล่ะ คิดถึงจัง...

Posted by : ลิงน้อยก้นแดง , Date : 2003-04-18 , Time : 00:53:06 , From IP : 203.107.241.56

ความคิดเห็นที่ : 13


   เอามาฝากคนรักโดเรม่อนจ้า
..........

ผมกับเพื่อนๆ ได้เคยถกเถียงกัน ถึงเรื่องความรัก และพวกเรา ก็พยายามค้นหาว่า ในงานวรรณกรรม ทั้งหลายนั้น ความรักของใคร ควรยกย่องมากที่สุด ก็พอดีมีรุ่นพี่ คณะวิศวะคนหนึ่ง ได้เสนอความคิดแหกๆ ออกมาว่า "ความรักของ โนบิตะกับซิซูกะไง มันรักกันมาตั้ง 30 กว่าปี อย่างนี้เรียกว่า อมตะได้หรือเปล่า" แน่นอนว่า คำตอบนี้เรียกเสียงฮาครืน ได้ในวงที่คนกำลังถกเถียง ปรัชญารักของลี้คิมฮวง และเชคสเปียร์กันอยู่ แต่คำตอบนี ้ทำให้ผมได้มานั่งขบคิด อยู่เป็นเวลานาน เพราะถึงแม้รุ่นพี่คนนั้น ตั้งใจจะพูดให้มันดูตลก แต่มันก็มีความจริง แฝงอยู่ไม่น้อยทีเดียว

ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า หากเราพูดถึงการ์ตูนญี่ปุ่น กับผู้ใหญ่หรือคนที่ไม่ค่อยได้ติดตาม ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น มากเท่าไหร่ ชื่อโดราเอม่อน จะมาเป็นชื่อแรกๆ ที่เขานึกถึง เหมือนที่เรามักนึกถึง มิคกี้เมาส์ เวลานึกถึงการ์ตูนอเมริกัน โดราเอม่อนนับได้ว่า เป็นก้าวแรกๆ ของการไหลเข้า ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น สู่เมืองไทย และเป็นดั่งสะพานอันแข็งแกร่ง ที่นำพาคนไทยข้ามไปสัมผัส วัฒนธรรมญี่ปุ่น สังคมญี่ปุ่นผ่านการ์ตูน เจ้าแมวอ้วนสีฟ้าตัวนี้ จึงไม่ใช่เป็นแค่การ์ตูนแมว และเรื่องราวชีวิต ของเด็กประถมธรรมดา แต่โดราเอม่อน ได้กลายเป็นพลวัตร อันมีผลต่อระบบความคิด และวัฒนธรรม ของชาวเอเชีย นับล้านๆ คน รวมถึงชาวยุโรป ที่เริ่มจะรู้จักโดราเอม่อน

ที่มาของโดราเอม่อนนั้น เกิดขึ้นจากความคิด ของนักเขียน 2 คนคือ อ.ฟูจิโมโต้ ฮิโรชิ (เสียชีวิตแล้ว) กับ อ.อาบิโกะ โมโตโอะ ซึ่งโดราเอม่อนนั้น แต่เดิมเป็นหุ่นยนต์แมว พี่เลี้ยงสีเหลือง สูง 129.3 ซม. รอบเอว 129.3 ซม. หนัก 129.3 กก. แต่โดราเอม่อน เป็นหุ่นที่ไม่สมบูรณ์ จึงถูกนำมาขาย ทอดตลาดราคาถูก จนในที่สุด ครอบครัวของเซวาชิ ซึ่งมีฐานะยากจน ก็ซื้อโดราเอม่อนไป ต่อมาอุบัติเหตุในชีวิต ทำให้หูของโดราเอม่อน โดนหนูแทะเสียหาย โดราเอม่อน จึงกลายเป็นแมวตัวสีฟ้า (อันนี้เป็นมุขของผู้เขียน นะครับ คือสีฟ้า (Blue) เป็นสีของความเศร้า ผู้เขียนเลยบอกว่า โดราเอม่อนนั้นเศร้ามาก จนกลายเป็นสีฟ้า แต่บางที่มากลับบอกว่า โดราเอม่อนเสียใจมาก และร้องไห้ทำให้สีเหลือง บนตัวลอกออก) ซึ่งครอบครัวของเซวาชิ ไม่มีเงินที่จะซ่อมหู ให้โดราเอม่อน เพราะบ้านเซวาชิ มีปู่ทวดที่ล้มเหลวในชีวิต อย่างโนบิตะอยู่นั่นเอง โดราเอม่อน จึงต้องย้อนเวลา กลับไปเพื่อช่วยเหลือ โนบิตะ ไม่ให้เป็นคน ที่ประสบความล้มเหลว ในชีวิต เพื่อให้ฐานะทางบ้าน ของเซวาชิดีขึ้น

ประเด็นตรงนี้ ผมว่าน่าสนใจ เพราะจนแล้วจนรอด เมื่อโดราเอม่อน มาอยู่กับโนบิตะแล้ว โนบิตะก็ยังคง เป็นเด็กที่ขี้แย นอนตื่นสาย ขี้เกียจ และสอบได้ศูนย์คะแนน เหมือนเดิม แต่นั่นคือ การมองโดยผ่านโลกทัศน์ ของสังคม หากมองอีกมุมหนึ่งแล้ว เราจะเห็นด้านด ีของโนบิตะ ได้ถึงในขั้นวีรบุรุษ เลยทีเดียว ในการ์ตูนเรื่องนี้ โนบิตะเคยช่วย เผ่าพันธ์มนุษย์ญี่ปุ่นโบราณ (ตอนกำเนิดญี่ปุ่น) เคยมีบทบาทเทียบเคียง กับพระเจ้า(ดาวตุ๊กตา) เป็นนักยิงปืนแม่น (รถไฟจักรวาล) เคยเป็นผู้กอบกู้ดวงดาว (สงครามอวกาศ และซูเปอร์แมนโนบิตะ) โนบิตะสร้างวีรกรรม ที่น่ายกย่องมากมาย แต่ล้วนเป็นสิ่งที ่กระแสหลักของสังคมญี่ปุ่น ในยุคหลังสงครามโลก ไม่ยอมรับ สังคมญี่ปุ่นต้องการเด็ก ที่เรียนดี และเรียบร้อยอย่างเดคิซุงิ ที่เป็นเหมือนเด็กในอุดมคติ ของญี่ปุ่น เรียนดี ฉลาด เล่นกีฬาเก่ง แต่ไม่มีความฝัน และการแสวงหา เหมือนที่โนบิตะมี ในช่วงหลัง (โดยได้รับอิทธิพล จากการใช้ชีวิตอยู่กับ โดราเอม่อนนั่นเอง)

สิ่งที่น่ายกย่องมากๆ อย่างหนึ่ง สำหรับโนบิตะคือ การที่โนบิตะรัก และมั่นคงกับซิซูกะ ตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง ในโลกนี ้มีการ์ตูนอยู่หลายเรื่อง ที่นำเสนอเรื่องความรัก อาทิ การ์ตูนของดิสนีย์ อย่างมิคกี้กับมินนี่ แต่จุดสุดยอดของเรื่อง ก็ไม่มีการกล่าวถึง การแต่งงานของตัวละครทั้ง 2 ตัว เพราะเชื่อว่าการแต่งงาน จะเป็นการสิ้นสุด และทำลายความเป็นอมตะ ของตัวละครนั้นลง (หมายถึงการ์ตูน จะต้องอยู่เหนือกาลเวลา ไม่มีการแก่ ไม่เติบโต) แต่โดราเอม่อน สามารถทำลายกฏข้อนั้น ลงได้ เพราะถึงแม้การ์ตูนเรื่องนี้ จะตั้งอยู่บนพื้นฐาน ความเป็นปัจจุบัน (ไม่มีการเปลี่ยน ของเวลา ในการเดินเรื่อง) แต่ปัจจุบัน ของโดราเอม่อนนั้น มีผลสืบต่อไปถึง อนาคตด้วย เพราะโดราเอม่อน นั้นมาจากโลกอนาคต ด้วยเหตุนี้ ความรักของโนบิตะ จึงมีบทสรุป อยู่ที่การแต่งงานระหว่าง โนบิตะกับซิซูกะ ซึ่งถามจริงๆ เถอะว่า คนที่รักกัน (แบบเพื่อน) ตั้งแต่ประถม จนเป็นผู้ใหญ่ แล้วแต่งงานนี่ เรียกได้ว่าน่ายกย่องหรือเปล่า โดราเอม่อน ได้ตั้งคำถามเหล่านี้ กับเด็กญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลก ที่รับเอาวัฒนธรรม อเมริกันมาเต็มๆ แบบไม่ยั้งคิด ซึ่งก็เหมือน สังคมไทยในขณะนี้ ที่กำลังรับเอา วัฒนธรรมญี่ปุ่น-อเมริกัน มาแบบไม่ยั้งคิดเช่นกัน

การที่ในท้ายสุด โนบิตะได้แต่งงาน กับซิซูกะ (แม้เรื่องนี้ จะไม่มีตอนอวสาน แต่ก็มีการพูดถึง ในเนื้อเรื่องนั้น) เหมือนเป็นการตีประเด็น ที่ว่า ทำไม ซิซูกะ ถึงไม่เลือกที่จะแต่งงาน กับซูเนโอะ (ตัวแทนของ ระบบทุนนิยม) ไจแอนท์ (โลกแห่งพละกำลัง หรือคนในสังคมเก่า) หรือเดคิซุงิ (ภาพมายาของ การเป็นคนในอุดมคติ) ซึ่งตั้งแต่ต้นเรื่อง แล้วที่เราได้เห็นว่า โนบิตะนั้นจริงๆ ก็เป็นแค่เพียงเด็กธรรมดาๆ ในสังคมญี่ปุ่น ที่ถูกความคาดหวัง ของสังคมทำร้าย โนบิตะเอง ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้ นอกจากการได้ใช้ชีวิต อย่างสนุกสนานกับเพื่อนๆ กับโดราเอม่อน และมีคนที่เขารัก ซึ่งการแต่งงาน ของเขานั้น ก็ถือได้ว่า เป็นของขวัญที่ล้ำค่า มากที่สุด พอๆ กับการที่เขา ได้รู้จักโดราเอม่อน เลยทีเดียว...



Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2003-04-26 , Time : 10:35:16 , From IP : 203.113.71.169

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.018 seconds. <<<<<