ความคิดเห็นทั้งหมด : 0

ใครชอบใช้ยาแก้ปวด NSAID ควรอ่านเรื่องนี้


   อ่านรายงานบทความเรื่องยาแก้ปวดนี้แล้ว รู้สึกว่าควรบอกต่ออย่างยิ่งเลยค่ะ เพราะเราๆทั้งหลายเดี๋ยวนี้แทบจะซื้อกินกันเองเป็นหมดแล้ว ไม่ต้องรอแพทย์สั่ง เพราะฤทธิ์ในการแก้ปวดของยากลุ่มนี้ค่อนข้างชะงัด ใครใช้ก็มักจะติดใจ หายปวดทันใจ แต่เพราะเขามีหลากหลายชนิดมาก หลักฐานเชิงประจักษ์จากข้อมูลการใช้มานานๆจะเป็นประโยชน์ในการเลือกว่าจะใช้ยาตัวไหนถึงจะปลอดภัย

เป็นรายงานที่ทบทวนการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม nonsteroidal anti-inflammatory drug (NSAID) เตือนมาว่า ยา

diclofenac

ซึ่งเป็นตัวที่ใช้กันมากนั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการโรคหลอดเลือดหัวใจ เขาสำรวจการใช้ ใน 15 ประเทศ คือ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย บังคลาเทศ จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย เวียตนาม พบว่า ยาไดโคลฟิแนคนี้มีการใช้กันมากประมาณเท่ากับยา ibuprofen, naproxen, และ mefenamic acid รวมกัน ทั้งๆที่มีหลักฐานจากข้อมูล meta-analysis ที่ชี้ให้เห็นว่า ยา NSAID ที่พบว่ามีโอกาสเสี่ยงต่ออาการโรคหลอดเลือดหัวใจอย่างชัดเจนมากคือ rofecoxib, etoricoxib, และ diclofenac โดยมี indometacin meloxicam เป็นกลุ่มเสี่ยงปานกลาง ส่วน naproxen มีโอกาสเสี่ยงน้อยสุด ในขณะที่ celecoxib และ ibuprofen จะพบว่ามีโอกาสเสี่ยงในการทดลองที่ใช้โดสสูงๆแต่ไม่เสี่ยงในระดับที่ใช้ปกติทั่วไป

รายงานนี้เขาเสนอไว้ด้วยว่า ยาไดโคลฟิแนค ไม่ควรจะอยู่ในลิสต์ของ EML (Essential Medicines Lists) ด้วยซ้ำเพราะมียาอื่นที่อันตรายน้อยกว่าให้เลือกใช้อยู่แล้ว

อ่านรายละเอียดได้จาก Use of non-steroidal anti-inflammatory drugs that elevate cardiovascular risk: An examination of sales and essential medicine lists in low-, middle-, and high-income countries. PLoS Med 2013; DOI:10.1371/journal.pmed.1001388.

เราในฐานะผู้บริโภค เมื่อมีข่าวสารแบบนี้ก็ควรจะใช้เพื่อประกอบการเลือกใช้ยาให้ปลอดภัยกับสุขภาพให้มากที่สุดนะคะ


Posted by : anothai , Date : 2013-02-17 , Time : 10:01:05 , From IP : 172.29.55.171

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.002 seconds. <<<<<