ความคิดเห็นทั้งหมด : 0

ข้อแนะนำใหม่ล่าสุดขององค์การอนามัยโลกในการบริโภคโซเดียมและโปตัสเซียม


   มีข้อแนะนำใหม่ล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO- The World Health Organization) ออกมาสองฉบับที่สมควรช่วยกันเผยแพร่เป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ นั่นคือ ข้อแนะนำในการบริโภคโซเดียม ฉบับหนึ่ง และอีกฉบับหนึ่งคือ ข้อแนะนำในการบริโภคโปตัสเซียม โดยมีบทความสำหรับสื่อที่บอกถึงสาเหตุที่มีการออกข้อแนะนำทั้งสองฉบับออกมา เพราะปัจจุบันพบว่าคนส่วนใหญ่บริโภคโซเดียมมากเกินไป แต่บริโภคโปตัสเซียมน้อยเกินไป ซึ่งตามคำแนะนำจะบอกว่าสำหรับผู้ใหญ่ในแต่ละวันควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2000 มิลลิกรัม ซึ่งเท่ากับเกลือ 5 กรัม และควรบริโภคโปตัสเซียมอย่างน้อย 3,510 มิลลิกรัม เพราะในคนที่มีระดับโซเดียมสูงไปและโปตัสเซียมต่ำไป จะมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ซึ่งยังคงเป็นตัวการใหญ่ของการเสียชีวิตและทุพพลภาพของประชากรโลกในปัจจุบัน ในข้อแนะนำนี้มีทั้งสำหรับในเด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไปด้วย เพราะเขาพบว่าเด็กที่มีความดันโลหิตสูงก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความดันโลหิตสูงด้วยเช่นกัน

ในบทความสำหรับสื่อมีตัวอย่างอาหารที่มีโซเดียมและปริมาณไว้ให้เราประเมินการบริโภคด้วยค่ะ ขอเอามาฝากกันด้วยดังนี้

นมและครีม (มีโซเดียมประมาณ 50 มิลลิกรัม/100 กรัม) ไข่ (มีประมาณ 80 มิลลิกรัม/100 กรัม) แต่ถ้าเป็นอาหารปรุงแต่งก็จะมีในปริมาณมากขึ้น เช่น ในขนมปัง (มีประมาณ 250 มิลลิกรัม/100 กรัม) เบคอน (มีประมาณ 1,500 มิลลิกรัม/100 กรัม) อาหารกลุ่มสแน็คเช่น pretzels, cheese puffs และข้าวโพดคั่ว (มีประมาณ 1,500 มิลลิกรัม/100 กรัม) รวมทั้งในเครื่องปรุงรสเช่นซอสถั่วเหลือง (มีประมาณ 7,000 มิลลิกรัม/100 กรัม) ซุปก้อน (มีประมาณ 20,000 มิลลิกรัม/100 กรัม)

ส่วนอาหารที่มีโปตัสเซียมได้แก่ ถั่วแบบฝักต่างๆ (มีโปตัสเซียมประมาณ 1,300 มิลลิกรัม/100 กรัม) ถั่วแบบเม็ดๆ (มีประมาณ 600 มิลลิกรัม/100 กรัม) ผักต่างๆเช่น ผักโขม กะหล่ำปลี ผักชีฝรั่ง (มีประมาณ 550 มิลลิกรัม/100 กรัม) ส่วนผลไม้ เช่น กล้วย มะละกอ อินทผลัม (dates) (มีประมาณ 300 มิลลิกรัม/100 กรัม) ถ้ามีแปลงรูปผักผลไม้เหล่านี้ก็จะมีปริมาณโปตัสเซียมลดลง

เราในฐานะผู้บริโภคก็ควรจะมีความรู้ในการเลือกการบริโภคที่ทำให้เรามีสุขภาพดี ไม่ต้องเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้กันด้วยนะคะ ต้องระลึกเอาไว้เสมอว่า เพียงมีวินัยในการบริโภคเท่านั้นก็สามารถช่วยให้เราไม่ต้องเป็นโรคที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตทั้งหลาย เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และจะได้มีชีวิตที่ยืนยาวได้อย่างมีคุณภาพ เป็นสิ่งที่เราเองเท่านั้นจะทำเพื่อตัวเองได้


Posted by : anothai , Date : 2013-02-11 , Time : 11:00:36 , From IP : 172.29.14.235

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<