ความคิดเห็นทั้งหมด : 3

เดิมพันด้วยชะตากรรม (forward mail)


   > > >เดิมพันด้วยชะตากรรม
> > >
> > > บุคคลทั่วไป เขียน: ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์
> > >นักวิชาการ
> > >คัดค้านนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล
> > >“เดิมพันด้วยชะตากรรมของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ”
> > >(บรรยายที่ สำนักงานกลาง กฟผ. วันที่ 25 ก.พ 2547)
> > >ทำไมวันนี้ผมถึงบอกว่าวันนี้รัฐบาลไม่ได้ขายชาติ
> > >เพราะเมื่อก่อนเวลาที่เราต้องการจะขายรัฐวิสาหกิจ
> > >หรือธนาคาร เราก็จะดึงต่างชาติเข้ามาเสมออยากจะขายธนาคาร
> > >ก็ไปดึงเอา DBS เข้ามา UOB Standdard
> > >สแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์และอะไรต่ออะไร อยากจะขายโทรศัพท์
> > >ก็ไปดึงเอาออกมาง้าง เทเลคอม หรือ ออเร็นจ์
> > >ถ้าอยากจะขายน้ำมัน ปตท.ก็ดึงเอา Mobil หรือ Exon Q8
> > >หรือ ยูโนแคล วันนี้รัฐบาลไม่ดึงใครเข้ามาทั้งสิ้น
> > >คำขวัญของรัฐบาลก็คือว่า
> > >“เนื้อดีๆของคนไทยจะไปให้ต่างชาติกินทำไม”
> > >เนื้อดีๆของคนไทยควรจะเก็บไว้ในประเทศให้เจ้าสัวบริโภคดีกว่า
> > >ผมหมายถึงกลุ่มธุรกิจพิเศษกลุ่มทุนผูกขาดของประเทศ
> > >ซึ่งไม่ใช่มีเพียงแค่เงินแต่มีอำนาจการเมืองครอบครองกันด้วย
> > >นี่คือกลุ่มทุนผูกขาดไม่ใช่กลุ่มทุนธุรกิจในความหมายทั่วไป
> > >แต่เป็นกลุ่มทุนธุรกิจผูกขาด เป็นกลุ่มธุรกิจการเมือง
> > >ทั้งหมดทั้งสิ้นก็มีไม่เกิน 10 ตระกูลเท่านั้น
> > >คงไม่ต้องมาไล่ทีละตระกูล ๆ
> > >หรอกครับเพราะยังไม่อยากมีคดีความ
> > >เห็นสิ่งที่รัฐบาลกระทำในเนื้อหาสาระแล้วแ
> > >สนจะง่ายก็คือเอาธุรกิจผูกขาดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า
> > >ประปา โทรศัพท์ สนามบิน ท่าเรือ การรถไฟ
> > >ซึ่งเป็นธุรกิจสาธารณูปโภคซึ่งเป็นหัวใจและเส้นเลือดใหญ่ของระบบเศรษฐกิจ
> > >เป็นธุรกิจพิเศษเพราะสามารถเอารัดเอาเปรียบและขุดรีดผู้บริโภคและประชาชน
> > >ได้อย่างไร้ปราณี รัฐบาลไม่ได้เอาธุรกิจเหล่านี้
> > >เอาไปขายให้ฝรั่งต่างชาติ
> > >วันนี้หลังจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจแล้ว
> > >จะอยู่ในมือของกลุ่มธุรกิจการเมืองไม่เกิน 10 ตระกูล
> > >เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือระบบเศรษฐกิจใหม่
> > >ผมเรียกว่า”เศรษฐกิจหุ่นกระบอก” หมายถึง
> > >มีคนๆเดียวแต่ชักหุ่นกระบอกหลายๆ ตัว
> > >ด้านนึงในฐานะรัฐบาล เอามือซ้ายชัก ทศท โทรคมนาคม
> > >อีกด้านหนึ่งเป็นเจ้าของชินคอร์ป เอไอเอส
> > >เทเลอคอมเอเซียและออเร็นจ์ มือซ้ายคุมทีวีช่อง 9 อสมท.
> > >แล้วขณะเดียวกันก็มีช่อง 11 ของกรมประชาสัมพันธ์
> > >ขณะที่มือขวาเป็นเจ้าของ ไอทีวี
> > >ขออนุญาตไม่เสียเวลาพูดค่าโง่ ไอทีวี 17,000 ล้านบาท
> > >มือขวาอีกด้านหนึ่งก็คุมช่อง 3 ของตระกูล มาลีนนท์
> > >ลองดูสายการบิน มือซ้ายก็คุมการบินไทย ส่วนมือขวาก็
> > >โลคอสแอร์ไลน์
> > >มือซ้านก็คุมธนาคารโดยผ่านกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย
> > >ส่วนมือขวาก็เอาธนาคารของบุตรชาย ไปรวมกับ IFCT
> > >และมารวมกับ DBS ไทยทนุ
> > >หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันการเงิน
> > >เปล่าครับ DBS หากท่านไม่รู้ลงทุนร่วมกับชินคอร์ป สร้าง
> > >Capital OK จะปล่อยสินเชื้อรายย่อยแข่งกับบัตรเครดิต และ
> > >อิออน Capital OK ไม่มีเครือข่ายในการขายสินค้าของตนเอง
> > >ซึ่งมีเพียง 92 สาขา จึงต้องดึงธนาคารทหารไทยของบุตรชาย
> > >มาร่วมเนื่องจากมีเครือข่าย 300-400 สาขา
> > >ไม่ใช่เป็นการสร้างความแข็งแกร่งของสถาบันการเงิน
> > >แต่เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันการเงินให้กับญาติโกโหติกา
> > >ในเนื้อแท้ 3 แบ็งค์นี้รวมกันเสร็จแล้วคือ “ชินแบ็งค์”
> > >แต่ท่านอาจจะไม่เห็นชื่อ ชินแบงค์
> > >จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพราะเจ้าของอาจจะเหนียมอายเกินกว่าจะใช้ชื่อ
> > >ชินแบงค์ แต่แท้จริงก็คือ ชินแบงค์
> > >วิธีการที่ประเทศยึดธุรกิจอย่างนี้แหล่ะครับ ธนาคาร
> > >ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ สนามบิน ท่าเรือ ขนส่งมวลชน
> > >รถไฟและอื่นๆ
> > >อันนี้คือการร่วมอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์แบบ
> > >นี่ยังไม่ได้คำนึงถึงได้ว่า
> > >ได้ส่งลูกของลุงไปคุมทหารไว้ด้วย
> > >พร้อมกันนั้นก็ส่งพี่ภรรยาไปคุมตำรวจ
> > >เพื่อให้ฝนตกทั่วฟ้า ส่งน้องเขยไปคุมระบบยุติธรรมและศาล
> > >นี้ยังไม่รวมถึง สส.ในกำมือ 300 กว่าชีวิต
> > >และองค์กรอิสระแบบ สว. ซึ่งก็เสร็จไปแล้ว ปปช.
> > >ก็ถูกงาบไปแล้ว
> > >ท้ายสุดนี่คือการยึดแบบเบ็ดเสร็จที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
> > >เป็นการยึดทั้งอำนาจเศรษฐกิจและการเมืองพร้อมๆ กัน
> > >นี่คือมหันตภัยของประเทศชาติ
> >
>เรื่องการต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจจึงไม่ใช้เรื่องทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพ
> > นักงานรัฐวิสาหกิจกับรัฐ
> > >บาลเท่านั้น
> > >แต่เป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
> > >เพราะนี่คือมหันตภัยของชาติทีเดียว
> > >ถ้าจะพูดกันอย่างไม่เกรงใจสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ
> > >อาชญากรรมทางการเมืองดีๆนั่นเอง จบข้อ 1
> > >
> > >แล้วจะทำยังไงกันถึงมาถึงที่นี่ได้ เค้าก็บอกเราๆ ท่านๆ
> > >และประชาชน
> >
>เขาจะขายรัฐวิสาหกิจที่แสนสำคัญเหล่านี้ให้กับประชาชนคนไทยโดยนำเข้าไปกระจาย
> > หุ้นในตลาดหลักทรัพ
> > >ย์แห่งประเทศไทย
> > >ผมขอถามคำถามท่าน ง่ายๆ ตรงๆ นิดเดียว
> >
>ผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคือประชาชนคนไทยทั้งหมดทั้งประเทศหร
> > ือครับ
> > >ผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีประมาณ
> > >200,000 กว่าคน ไม่ใช่ 63 ล้านคน ไม่ถึง .3
> > >เปอร์เซ็นต์ของประชากร
> >
>แต่นั่นก็ยังไม่อัปลักษณ์เท่ากับถ้าท่านได้เข้าไปดูในโครงสร้างการถือหุ้นของ
> > ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไท
> > >ย
> > >ท่านจะพบว่า 2 แสนคน ถ้าท่านคัดเอา 2 พันคน หรือ 1
> > >เปอร์เซ็นต์หรือมีหลักทรัพย์มากกว่าที่สุด มีเท่ากับ
> > >189,000 คน ที่เหลือ ถ้าจะให้อัปลักษณ์ยิ่งกว่านั้น
> > >ท่านลองดูใน 2 พันคนที่ท่านคิดว่ารวยแสนรวย ท่านจะพบว่า
> > >มีแค่ 10 ตระกูลเท่านั้น ถือสินทรัพย์เท่ากับ 1980
> > >ตระกูลที่เหลือ
> > >นั่นถึงไม่น่าแปลกใจเลยที่รายงานของตลาดหลักทรัพย์รายงานว่า
> > >บริษัทในตระกูลชินคอร์ป เอสซีแอสเซส
> > >และอะไรต่ออะไรที่เป็นแกนของตระกูลชินวัตรและดามาพงษ์
> > >มีสินทรัพย์รวมกันทั้งสิ้น 4 แสนกว่าล้านบาทถามจริงๆ
> > >เถอะครับเอาไฟฟ้าไปขายในลาดหลักทรัพย์คนไทยตาดำๆ
> > >จะได้แอ้มหุ้นบ้างไหม คำตอบชัดเจนอยู่แล้ว 2
> > >ปีก่อนขายหุ้น ปตท. ไป ใช้เวลาทั้งหมดทั้งสิ้น 1 นาที 17
> > >วินาที ในการขาย
> > >ประชาชนทั้งหลายที่อยากจะเป็นเจ้าของหุ้น ปตท.
> > >ตื่นตั้งแต่ ตี4
> >
>เพื่อไปที่ธนาคารแล้สววเข้าแถวยทนเป็นคนแรกแค่กรอกชื่อที่อยู่แล้วให้เทลเลอร
> > ์เค้าคีย์ชื่อที่อยู่
> > >ลงในคอมพิวเตอร์ก็เกิน 1 นาที 17 วินาทีเรียบร้อยแล้ว
> > >เพราะฉนั้นคนที่ได้หุ้น ปตท.คือผู้ที่ไม่ต้องจอง
> > >คนที่จองหุ้น ปตท. ก็คือคนที่ไม่ได้
> > >คนจองไม่ได้คนได้ไม่จอง รู้สึกเจ็บปวดพอรึยังครับ
> > >อยากจะบอกว่าที่ยึดทั้งหมดเนี่ยใช้เงินใช้ทองไม่มากมายไม่กี่หมื่นล้าน
> > >ที่ยึดไปทั้งหมดไม่ได้ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว
> > >ทำไม่ถึงไม้ต้องใช้เงินแม่แต่บาทเดียว
> > >เพราะถ้าสามารถควบคุมกลไกในการปั่นหุ้นตลาดหลักทรัพย์ได้
> > >ไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว เวลาขายหนุ้น ปตท.
> > >รัฐบาลบีบ ปตท.ขายหุ้นออกมา 30 % เหมือนที่จะทำกับ กฟผ.
> > >คิดเป็นหุ้นทั้งหมด 800 ล้านหุ้น ราคาขายเก๋ๆ
> > >ที่เรียกว่า IPO คือ 35 บาท เป็นมูลค่าทั้งหมด 28000
> > >ล้านบาท หลังจากนั้นก็ป้อนข่าวดีๆ ในเรื่องของ ปตท.
> > >แล้วก็บอกต่อไปเมืองไทยจะเป็นศูนย์กลางของพลังงาน เป็น
> > >HUB ไฟฟ้า พลังงาน ราคาหุ้น ปตท. ก็พุ่งจาก 35 บาท
> > >กลายมาเป็นเกือบ 200 บาท คิดง่ายๆ ที่ 160 บาท เอา 800
> > >ล้านหุ้น คูณกับ 160 บาทจะเป็นมูลค่า 128,000 ล้านบาท
> > >ท่านลงทุน 28,000 ล้านบาท ท่านได้คืนมา 128,000 ล้านบาท
> > >ทำยังๆงครับเอต้นทุนเก็บก่อน 28,000
> > >ล้านบาทไม่ต้องใช้แล้ว เก็บ 100,000 ล้านบาทมาซื้อหุ้น
> > >ปตท. ท่านต้องทุบหุ้น ปตท. ให้ลงมาเหลือ 30 กว่าบาท
> > >ก่อนจะซื้อใหม่อีกรอบหนึ่ง ถ้าราคาหุ้น ปตท.เหลือ 30
> > >กว่าบาท 100,000 ล้านบาทที่อยู่ในมือ ไม่ได้ซื้อ ปตท. 30
> > >เปอร์เซ็นต์ แต่สามารถซื้อ ปตท.ได้ทั้ง 100 % เลย
> > >อันนี้คือการยึด
> > >ปตท.โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเองแม้แต่สตางค์แดงเดียว จบข้อ
> > >2
> > >เริ่มข้อ 3 ทำไมผมถึงบอกว่า การไฟฟ้า 3
> > >แห่งคือเหยื่อรายต่อไปเพราระการไฟฟ้าเป็นธุรกิจผูกขาด
> > >ท่านที่นั่งอยู่นี้
> > >เห็นชินคอร์ปทำธุรกิจอะไรที่ไม่ผูกขาดบ้านไหมครับ
> > >ท่านเคยเห็น ชินคอร์ปเย็บเสื้อโหล
> > >ส่งไปยุโรปแข่งกับอเมริกาใต้ไหม ท่านเคยเห็นชินคอร์ป
> > >ไปทำบะหมี่ มาม่า ไวไว
> > >เพื่อแข่งกับไต้หวันไปขายในอเมริกาไหม
> >
>ชินคอร์ปเติบโตมาได้ทั้งชีวิตด้วยการผูกขาดและธุรกิจสัมปทานด้วยกันทั้งหมดทั
> > ้งสิ้น
> > >ธุรกิจผูกขาดสัมปทานที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดในเมืองไทย
> > >ไม่ใช้เฉพาะเมืองไทยแต่ของทั้งโลก คือ โทรคมนาคม
> > >และการไฟฟ้า แก้คือ 2โทรคมนาคม อันดับหนึ่งคือการไฟฟ้า
> > >ไม่มีธุรกิจอะไรที่ผูกขาดได้แนบแน่นและสร้างผลประโยชน์ได้เท่ากับ
> > >โทรคมนาคมอีกแล้ว นอกจากการไฟฟ้าเท่านั้น
> > >มันมากแค่ไหนวันนี้ท่านทราบไหมว่าคนไทยใช้ไฟทั้งหมด ปีละ
> > >100,000 ล้านหน่วย หน่วยหนึ่งประมาณ 10 สลึง
> > >คิดเป็นเงินประมาณ 250,000 ล้านบาท
> > >กระผมสามารถเข้าไปยึดครอง 3 การไฟฟ้า
> > >อำนาจผูกขาดก็จะอยู่ในมือ
> > >ท่านคิดว่าผมจะเปลี่ยนราคาค่าไฟฟ้าจาก 2.50 บาท เป็น
> > >3.50 บาทได้ไหม เป็น 4 หรือ 5 บาทได้ไหมครับ เอาเล่น ๆ
> > >แค่ 3.5 บาท ก็แล้วกันถ้าผมสามารถเปลี่ยนจาก 2.5 บาท
> > >เป็น 3.50 บาท เงินสดเข้ากระเป๋า เท่ากับ 100,000
> > >ล่านบาทต่อปี และถ้าเปลี่ยนจาก 2.50 เป็น 5.00 บาท ปีละ
> > >250,000 บาท ปีละ หรือ ต่อปี จบข้อ 3
> > >ข้อ 4 และข้อสุดท้าย แล้วเราจะทำกันอย่างไรต่อไปดี
> > >แน่นอนเราต้องต่อสู้
> >
>แต่ต่อสู้ก็ไม่ใช้เรื่องง่ายเพราะท่านกำลังต่อสู้กับคนที่กุมเศรษฐกิจและการเ
> > มืองทั้งหมด
> > >กุมทหารทั้งหมด คุมสื่อทั้งหมด
> > >โอกาสที่จะชนะก็ไม่มากแต่ก็ต้องสู้
> > >ยังไงยังไงก็ต้องสู้ที่ต้องสู่เพราะว่าเดิมพันมันสูงเหลือเกิน
> >
>เดิมพันไม่ใช่แค่เงินเดือนของพนักงานรัฐวิสาหกิจแต่เดิมพันด้วยชะตากรรมของปร
> > ะชาชนคนไทยทั้งประเท
> > >ศ
> > >ถ้าจะสู้ผมขอฝาก 3 ประเด็น ด้วยกัน
> > >ประเด็นที่ 1 อย่ามองว่า กฟผ.เป็นคนละเรื่อง กับ ทศท.
> > >เรื่องของ ทศท.เป็นคนละเรื่อง กับ กฟน.
> > >เรื่องของกปน.เป็นคนระเรื่อง ทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน
> > >อย่างแยกกันสู้อย่าแบ่งกันสู้
> > >ถ้าไม่ช่วยกันก็ล่มด้วยกันทั้งหมด กฟน. กปน. กฟภ.
> > >พวกเราพยัญชนะ 3 ตัว ต้องออกมาสู้พร้อมๆ
> > >กันหมดอย่าแยกกันสู้ 3+2+2 หมายถึง 3 ไฟฟ้า 2 ประปา
> > >2โทรคมนาคม บวก 1+1 สนามบิน ท่าเรือและอะไรๆ
> > >ทั้งหมดทั้งสิ้นเราอยู่ในเรือลำเดียวกัน
> >
>มีชะตากรรมร่วมกันไม่ใช้แค่นั้นชะตากรรมของประชาชนคนไทยก็อยู่ในเรือลำนี้ด้วย
> > >นั่นคือข้อแรก
> > >ประเด็นที่ 2 แม้รวมพวกรัฐวิสาหกิจด้วยกันแล้วก็ยังไม่พอ
> > >ถ้าการต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจยังคงเป็นเพียงขบวนการแรงงานอยู่
> > >ไม่มีวันชนะ ขออภัยที่ต้องดูหมิ่นดูแคลนหรือปรามาสกัน
> > >แต่พลังแรงงานรับบาลไม่สน รัฐบาลกลัวประชาชน
> >
>แต่วันนี้ประชาชนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราทำอะไรกันอยู่เราถูกลากให้หลงประเด็นว่า
> > วันนี้เรื่องการแปรรูปรัฐวิส
> > >าหกิจเป็นการทะเลาะเบาะแว่งกันระหว่างรับบาลกับพนักงานรัฐวิสาหกิจเท่านั้น
> > >แต่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจไม่ใช่เรื่องรัฐบาลกับพนักงานรัฐวิสาหกิจ
> > >เป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
> > >อย่าเฉไปสู้กับรัฐบาลในแนวนี้
> >
>รัฐบาลอยากให้เราสู้เป็นเรื่องของแรงงานกลายเป็นการต่อสู้เพื่อปากท้องของเรา
> > >รัฐบาลเขาสบายใจและเชียร์ให้เราไปทางนั้นเสมอ
> > >แล้วมีการเปลี่ยนประเด็นว่า ไม่ใช้เรื่องรัฐบาลกับ กฟผ.
> > >แต่เป็นการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างฝ่ายบริหาร
> > >กฟผ.ด้วยกันเอง ยิ่งเละกันไปใหญ่
> > >ขอให้ชัดเจน
> > >วันนี้ไม่ใช่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งระหว่างรัฐวิสาหกิจทั้งหลายกับรัฐบาล
> > >แต่เป็นการทะเลาะระหว่างรัฐบาลกับเจ้าของประเทศตัวจริง
> >
>ซึ่งเป็นเจ้าทุกตัวจริงและสมบัติของเขากำลังจะถูกปล้นแต่หน้าอนาจใจเจ้าทุกไม
> > ่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ
> > >ถ้าจะต่อสู้วิธีที่ดีที่สุดสิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ
> > >แจ้งกับจ้าทุกข์
> > >ว่าโจรกำลังปล้นบ้านท่านอยู่เพราะฉะนั้นการต่อสู้ครั้งนี้
> > >อย่าให้มันเป็นเฉพาะขบวนการแรงงาน
> >
>ขอบอกง่ายๆว่าถ้าท่านไม่เปลี่ยนการต่อสู้ครั้งนี้เปลี่ยนจากขบวนการแรงงานเป็
> > นขบวนการประชาชนได้
> > >ไม่มีโอกาสชนะ
> > >ประเด็นที่ 3
> > >แนวทางนั้นมีการต่อสู้ที่ผมเป็นห่วงอยู่มาก2แนวทาง
> > >แล้วผมว่าจะนำไปสู่ทางตันของเราและท่านทั้งหลาย
> > >ขอให้พึงละ แนวทางที่ 1 คือ
> >
>มีบางกลุ่มของแรงงานรัฐวิสาหกิจจะเข้าไปต่อรองกับรัฐบาลอยู่เสมอเรื่องผลประโ
> > ชยน์เรื่องเงินเดือน
> > >โอที สวัสดิการและความมั่นคงในหน้าที่การงาน
> > >ถ้าท่านไปต่อรองว่าเวลาจะขายรัฐวิสาหกิจท่านจะได้ 6-2-2
> > >หรือ 8-4-4
> > >ผมเตอืนท่านไว้ก่อนนะครับท่านอาจจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านปรารถนา
> > >เพราะสิ่งที่รัฐบาลจะมอบให้ท่านเป็นเพียงเศษเนื้อเท่านั้น
> > >ในประเพณีการปล้นบ้าน
> > >โจรจะต้องเตรียมเศษเนื้อไว้สำหรับโยนให้หมาเฝ้าบ้านก่อนจะขึ้นปล้น
> >
>และเนื้อที่เขาโยนให้หมาเฝ้าบ้านแท้จริงแล้วคือเนื้อของหมาเฝ้าบ้านเองบวกกับ
> > เนื้อของเจ้าของบ้านอีกนิ
> >
>ดหน่อยไม่มีเนื้อของโจรปนอยู่ในนั้นเลยท่านครับถ้าท่านหวังเงินหวังทองหวังโบนั

> > >หวังเงินเดือนขึ้น
> > >หวังร่ำรวยจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจขอเถอะครับอย่ามานั่งอยู่ตรงนี้เลย
> > >ไปนั่งอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลเถอะ
> > >รัฐบาลยินดีต้อนรับท่านอย่างเต็มที่
> >
>รัฐบาลพร้อมที่จะให้สิ่งเหล่านี้แก่ท่านทั้งหมดทั้งสิ้นอยู่แล้วเพราะท่านคือ
> > เศษเนื้อ
> > >แต่ถ้าท่านรับไปท่านเปลี่ยนสถานะจากหมาเฝ้าบ้าน
> > >เป็นสมุนโจรทันที
> > >ขออนุญาตพูดแบบธรรมะหน่อยก็แล้วกัน
> >
>ท่านที่นั่งอยู่ในนี้ได้สร้างบุญสร้างกุศลอย่างมากมายที่ได้ดูแลรักษาและฟูมฟ
> > ักรัฐวิสาหกิจมาจนเติบใหญ่กุศลก
> > >รรมของท่านมากมายนัก
> > >ถ้าท่านร่วมมือกับโจรในการปล้นชาติคราวนี้
> >
>ปาบกรรมที่ท่านก่อในระยะเวลาไม่กี่เดือนนี้มันจะมากมายกว่ากุศลกรรมที่ท่านก่
> > อมามากว่า20-30
> > >ปี นั่นคือวิธีที่ 1
> > >ถ้าเราเอาการแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยเอาไปขายให้กับ 10
> > >ตระกูลใหญ่
> > >เราจะได้ของสมนาคุณมากมายแต่พวกเราที่นั่งอยู่ในนี้ได้ยืนยันแล้วว่า
> > >ไม่รับของโจร อันที่ 2
> > >ที่ผมเป็นห่วงอย่างมากก็คือการต่อสู้ของเราหลายต่อหลายครั้ง
> > >เป็นการต่อต่านคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างสิ้นเชิง
> > >หรือว่าไม่ขาย
> >
>ยังไงๆก็ไม่ขายถ้าท่านยังยืนอยู่ในจุดนี้โอกาสที่จะเปลี่ยนกระบวนการต่อสู้จา
> > กเป็นขบวนการแรงงานให้เป็
> > >นขบวนการประชาชนจะไม่มีทางเกิดขึ้น
> > >
> > >ประเด็นที่ 4 ต่อสู้อย่างไร สิ่งแรกคือขอให้สู้เป็นแผง
> > >อย่ามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของ กฟผ. หรือ กปน.
> > >อันที่สอง
> > >ขอให้ยกระดับการต่อสู้อันนี้จากเรื่องการต่อสู้ของแรงงาน
> > >กระบวนการแรงงานให้เป็นขบวนการประชาชนโดยเร็ว อันที่สาม
> > >ที่อยากบอกก็คือ แนวทางการต่อสู้ที่ผมไม่สนับสนุน
> > >อันแรกคือการต่อรองผลประโยชน์
> > >เราเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ซื่อสัตย์
> > >ไม่ขอเป็นสมุนโจรไม่ขอเข้าร่วมกระบวนการปล้นชาติกับโจรโดยแน่แท้
> > >อันที่สอง การต่อสู้แบบยังไงๆ ก็ไม่ขาย สู้ไปก็จะไม่ชนะ
> > >เพราะอะไรเพราะรัฐบาลต้องใช้เงินเพราะเอื้ออาทรนั่น
> > >ท้ายสุดกระเป๋าฉีก
> >
>ท้ายสุดรัฐบาลจะต้องหาทางหาเงินทางใดก็ทางหนึ่งและประชาชนก็พร้อมที่จะจัดให้
> > มีการขายรัฐวิสาหกิจ
> > >ทั้งหมดมันเป็นการเดินเข้าแผนของการยึดประเทศไทยของ 10
> > >ตระกูล
> > >ผมก็ไม่ทราบว่านี่เป็นทางออกหรือเปล่า
> > >และผมก็ไม่ทราบว่าถ้าท่านฟังสิ่งที่พูดแล้วจะขัดหูท่านหรือเปล่า
> > >แต่ผมคิดว่าแนวทางที่จะต่อสู้กับรัฐบาลไม่ใช้บอกว่า
> > >ต่อต้านการขายรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบยังไงๆ
> > >ก็ไม่ขายเราควรตรองดูสักนิดว่า น้ำ ไฟ ประปา โทรศัพท์
> > >อาจขูดรีดผู้ใช้ก็ได้ บางทีอาจจะใช้วิธีเกลือจิ้มเกลือ
> > >ถ้ารัฐบาลจะขายการประปานครหลวงให้กับเจ้าสัว 10 ตระกูล
> > >ก็ควรจะขายให้กับผู้ใช้น้ำประปานั่นเอง
> > >เพียงแค่บอกว่าจะขายหุ้นให้ผู้ใช้น้ำของ กฟน. มีประมาณ 1
> > >ล้านกว่าคน ผู้ใช้ไฟของ กฟน. มีอีก 1 ล้านกว่าคน
> > >ผู้ใช้ไฟของ กฟภ. มีอีก 12 ล้านคน
> > >เราจะพลิกกระบวนการต่อสู้ที่จำกัดอยู่แค่บางกรวย
> >
>เป็นขบวนการเคลื่อนไหวกันทั้งประเทศแต่เราต้องถามใจเราก่อนว่าเราพร้อมจะทำไหม
> > >เพราะว่าอันนี้คือความเสียสละของเรา ไม่ได้คิดถึงเงิน
> > >ถึงทอง เงินเดือนและโบนัส โอทีและสวัสดิการ ต่างๆ
> > >เราพร้อมจะขายแต่ไม่ได้ขายให้กับเศรษฐี 10 ตระกูลที่ว่า
> > >แต่เป็นการขายให้กับผู้ใช้น้ำ
> > >ผู้ใช้ไฟและประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง
> > >ท้ายสุดถ้าน้ำจะแพงขึ้นอีกคิวละ 1 บาท
> > >ไม่ได้เดือนร้อนมาก การประปานครหนลงมีกำไรมากอีกหน่อย
> > >ก็เป็นการโอนจากกระเป๋าซ้ายไปสู่กระเป๋าขวา
> > >เราจ่ายน้ำขึ้นไปอีกนิดนึง
> > >เป็นกำไรเยอะขึ้นโดยไม่ต้องเอาเนื้อของผู้บริโภคไปให้เจ้าสัว
> > >10 ตระกูลเขาบริโภคกัน
> > >ผมมีนายที่ต้องดูแลคือผู้บริโภคผมกลับคิดว่ามันเป็นศักดิ์ศรี
> > >ซึ่งเป็นลูกค่าที่ผมต้องเอาอกเอาใจ
> > >ผมว่านั่นคือความภาคภูมิใจในชิวิต
> > >ผมไม่เคยมีความภาคภูมิใจในชีวิตเลยว่านายผมเป็นนักการเมือง
> > >เป็นรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
> > >ซึ่งทั้งชิวิตก็ไม่ได้มีผลงานที่ดีเด่นอะไร
> > >เพียงแต่ว่าเป็นพนักงานที่ซืท่อสัตย์ของบริษัทชินคอร์ป
> > >แล้วท่าน ซีอีโอใหญ่ก็นำเข้ามาใน ครม.
> > >เพื่อจะมาให้ดูแลผลประโยชน์ของญาติท่าน ซีอีโอ เท่านั้น
> > >ผมไม่เคยภาคภูมิใจกับการที่จะต้องไปยืนคำนับโค้งแล้วโค้งอีก
> > >มือประสานต่อหน้าหมอพรมมินทรซึ่งเป็นรัฐมนตรี
> > >ผมกลับคิดว่าผมมีนายเป็นประชาชน ผมมีนายเป็นผู้บริโภค
> > >ผมภูมิใจในสถานภาพของผมมากกว่า
> >
>ถ้าท่านอยากได้นักการเมืองเป็นนายของท่านอยู่ต่อไปก็เชิญเถอะครับตัวใครตัวมัน
> >
>แต่สำหรับผมถ้าผมเลือกได้ผมจะมีนายเป็นผู้บริโภคและประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ
> > >เพราะฉะนั้น ถ้าจะขายรัฐวิสาหกิจ
> > >ขายน้ำประปาก็ขายให้ผู้ใช้น้ำประชา
> > >ถ้าต้องการขายการไฟฟ้าก็ขายให้ผู้ใช้ไฟไปเลย
> > >ไม่ต้องเอาไปแล้วบอกว่าไปขายให้ประชาชนโดยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
> > >ทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นมุสาวาทา ทั้งหมด
> >
>วันนี้เรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจไม่ใช้เรื่องก่ารทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างร
> > ัฐบาลกับพนักงานรัฐวิสาหกิ
> >
>จแต่เป็นเรื่องของคนไทยทั้งชาติเพราะว่าชะตากรรมของผู้บริโภคและคนไทยทุกผู้ท
> > ุกนามอยู่ในกระบวนกา
> >
>รแปรรูปรัฐวิสาหกิจนี้อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะว่าเขาจัดสรรหุ้นผ่านตลาดหลักทร
> > ัพย์
> > >แล้วเป็นการขายให้ประชาชนคนไทย โกหกทั้งเพ
> > >วันนี้การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ถ้าจะพูดกันตรงๆ ซื่อๆ
> > >ง่ายๆคือ
> > >คอรับชั่นเชิงนโยบายหรืออีกนัยหนึ่งคือการปล้นชาติ
> > >หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนคืออาชญากรรมทางการเมือง
> > >อันนี้จะนำไปสู่การครอบครอง
> > >ทั้งระบบเศรษฐกิจและการเมืองโดยบุคคลบางคนโดยสมบูรณ์แบบ
> >
>และเหยื่อรายต่อไปนั่งหน้าสลอนอยู่ตรงนี้ทั้งหมดเราคือเนื้ออันโอชะรายต่อไป
> > >แปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ผ่านมาเป็นเพียงออเดิร์ปเท่านั้นยังไม่ใช้เมนคอส
> > >ขอฝากไว้เรื่องการต่อสู้ 1 อย่าผิดประเด็น
> > >อย่าทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของ กฟผ. กฟน.
> > >กฟภ.อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
> > >ต่างคนต่างทำหรือต่างคนต่างสู้ ต่างคนต่างไป
> > >ท้ายสุดขอให้การต่อสู้เป็นการรวมพลัง
> > >เพราะเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมดทั้งสิ้น
> > >ถึงแม้จะเป็นคนรัฐวิสาหกิจก็เป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด
> > >อันที่ 2
> >
>ขอให้การต่อสู้เปลี่ยนแปลงจากขบวนการแรงงานให้เป็นขบวนการประชาชนโดยสมบูรณ์ข
> > อให้ประชาชนเข
> > >านั่งอยู่แถวหน้า
> > >ให้ประชาชนมาเป็นพระเอก แล้วลดฐานะของเรามาเป็นพระรองแทน
> > >
> > > อันสุดท้าย 2 แนวทางที่ไม่สนับสนุน คือ เจรจาต่อรอง
> > >เพราะเขาจะให้ท่านทุกอย่างที่ท่านขอร้อง
> > >และท่านจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นสมุนโจรในที่สุด อันที่สอง
> > >อย่าสู้แบบหัวชนฝาเพราะว่าจะไม่ชนะ
> > >ผมศึกษาเรื่องนี้มาเป็นเวลา 10
> >
>กว่าปีแล้วและเห็นแนวทางการต่อสู้สิ่งที่เราจะทำคือต้องเปลี่ยนเป็นแนวทางการ
> > ต่อสู้ให้เป็นแนวทางของป
> > >ระชาชน
> > >อันที่สาม คือขายไฟฟ้าและประปาให้ผู้ใช้น้ำและไฟ
> > >อย่าให้รัฐวิสาหกิจต้องเปลี่ยนสภาพจากรัฐวิสาหกิจมาเป็นเศรษฐีวิสาหกิจ
> > >และครอบครองโดยนักธุรกิจการเมืองไม่ถึง 10 ตระกูล
> > >ถ้าจะขายรัฐวิสาหกิจขอให้เปลี่ยนรัฐวิสาหกิจเป็นประชาวิสาหกิจโดยสมบูรณ์
> > >ขอขอบคุณครับ


Posted by : No name No.1 , Date : 2004-03-11 , Time : 23:34:06 , From IP : c6100.inet.co.th

ความคิดเห็นที่ : 1


   test

Posted by : maraton , E-mail : (maraton) ,
Date : 2004-03-12 , Time : 10:59:06 , From IP : 172.29.3.205


ความคิดเห็นที่ : 2


   เห็นด้วยครับ!
.....หยุด....การผูกขาดทุกอย่าง
พลังนักศึกษาในปัจจุบันอ่อนแอลงไปมาก....
มัวแต่บ้านักร้อง มือถือ ประกวดหญิงงาม ชายงามกันหมด!
ขอพลังนักศึกษา อาจารย์อีกครั้งเถอะครับ
ปัญญาชน.....พร้อมสนับสนุน


Posted by : องคต , Date : 2004-03-12 , Time : 11:29:36 , From IP : 172.29.1.230

ความคิดเห็นที่ : 3


   stop

Posted by : Stop , Date : 2004-06-08 , Time : 21:45:54 , From IP : 210-4-150-254.inter.

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<