ความคิดเห็นทั้งหมด : 4

สินค้าจากบ้านทองคำกรุ๊ป..วันนี้นำเสนอหนังสือน่าอ่านลดครึ่งราคาจากปก สภาพ 99 เปอร์เซนต์ สวยใหม่ มาก


   วันนี้แม่ค้าหน้าหวานมาขายหนังสือจาก หนังสือของตัวเองจ้า อ่านเองคนเดียว สภาพใหม่สุดๆ ขาย ครึ่งราคาทุกเล่มนะคะ
สนใจ ก็ เมลล์มาที่ shop_thongcomehome.co.th หรือ 086-9648419
หรือ โทรมาหาน้องศา ภาคพยาธิ 155992 ขอเป็นช่วงเช้าก่อน 10 โมง และช่วงพักเที่ยง กับหลังเลิกงานนะคะ ถ้าต้องการซื้อเล่มไหน

1. the toilet 5 ฮา...นูนๆ เล่มล่าสุด หนังสือของ เปิ้ล นาคร ที่ได้เสียงหัวเราะจากคนอ่านตลอดเวลา แถมเล่มนี้ อ่านแล้วซึ้ง ตรงที่เปิ้ล เขียนเล่าเหตุการณ์ ตอน กทม. น้ำท่วม อ่านแล้ว รู้สึกประทับใจ ในความมีน้ำใจ และหลายเรื่องที่ได้แง่คิดเกินคาด ราคาปก 159 ขาย 80 บาท

2.ต้นไม้ใต้ดวงอาทิตย์ ของทรงกลดบางยี่ขัน
ราคาปก 205 ขาย 100 บาท

3.เนปาลประมาณสะดือ ของ นิ้วกลม
ราคาปก 270 ขาย 130 บาท

4.หน่อไม้ ของ ทรงกลดบางยี่ขัน+ นิ้วกลม+ ทรงศีล ทิวสมบุญ
ราคาปก 210 ขาย 100 บาท

5. เรื่องวัยรุ่นของวัยซี้ดส์ ของ นพ. สุกมล วิภาวีพลกุล
ราคาปก 160 บาท ขาย 80 บาท

6.สุดยอดวิธีเอาชนะคนที่เราแอบชอบ
ราคาปก 140 บาท ขาย 70 บาท


Posted by : ทะเล , E-mail : (shop_thongcomehome.co.th) ,
Date : 2012-11-30 , Time : 19:29:32 , From IP : mx-ll-223.204.47-83.dynamic.3bb.co.th


ความคิดเห็นที่ : 1












   แนะนำเรื่อง ต้นไม้ใต้ดวงอาทิตย์ ของทรงกลดบางยี่ขัน
เป็น 50 วิธีดูแลโลกจากประเทศญี่ปุ่น แบบใกล้ชิดธรรมชาติ สนิทวัฒนธรรมเก่า ไฮเทค สร้างสรรค์ มุ่งมั่น และขี้เล่น ที่สุดในโลก คุณจะได้รับรู้ถึงพลังงานและแรงบันดาลใจในรูปแบบที่คุณคุ้นเคย แต่โชยด้วยกลิ่นของโชยุและวาซาบิ เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องราว และความคิดสร้างสรรค์ของชาวญี่ปุ่นล้วนๆ แต่ถูกนำมาปรุงด้วยรสชาติต่างๆ ทางตัวหนังสืออันกลมกล่อมละมุนละไม ใส่ความห่วงใยและเจตนาที่ดีต่อทุกสิ่งและทุกชีวิต อ่านแล้วเพลินกับการเรียนรู้ว่าประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่แต่เน้น เทคโนโลยี แต่ เข้ายังเน้นให้คนในประเทศเขารักและใส่ใจประเทศของเขา อ่านง่ายๆ เบาสมอง ด้วยการเขียนที่เป็นมิตร ของทรงกลด บก. สำนักพิมพ์ aday


Posted by : ทะเล , Date : 2012-11-30 , Time : 19:46:09 , From IP : mx-ll-223.204.47-83.dynamic.3bb.co.th

การเลือกพันธ์ไม้มาปลูกรวมกัน เวลาที่หน่ออ่อน ๆ ของไม้มาเตรียมลงสวน เปรียบเหมือนการเดินทางนั่งรถไฟไปปลูกป่า หากนำหน่อดี ๆ ไปปลูกรวมกัน ป่าแห่งนั้นน่าจะสวยแค่ไหน ครั้งที่ 3 “ทรงกลด” เริ่มคิดแนวงาน”เปิดตัวผู้อ่าน” ในแนวใหม่ คือเป็นโครงการเดินทางนั่งรถไฟไปต่างจังหวัด ไปร่วมกันปลูกป่า และคิด Concept ให้แต่ละคนนำสิ่งที่มีความหมายไปใส่รวมกันในกล่อง Time Capsule และฝังไว้ใต้ต้นไม้ที่ปลูก กะจำตำแหน่งไว้ดี ๆ แล้วอีก 10 ปีมาเปิดกล่องดังกล่าว การเชิญผู้อ่านเข้าร่วมแบบไม่ธรรมดา ไม่ใช่ใครก็ได้ที่อยากไป แต่ให้ผู้สนใจเขียนจดหมายแนะนำตัว แนะนำประวัติ และทั้งสามนักเขียนจะช่วยกันดูว่าชอบคนไหน มีใบสมัครส่งมาราว 100 กว่าใบ แต่ต้องคัดเลือกที่โดนใจสัก 40 ใบ นักเขียนทั้งสามจะเขียนชื่อตัวเองลงไปด้านหลังใบสมัคร ถ้าถูกใจ ใบสมัครที่มีชื่อของทั้งสามคนรวมกัน จะได้รับการคัดเลือกในกรณีที่ไม่ครบ 40 คน จะนำมาเลือกใหม่ และผ่านการวิเคราะห์อีกครั้ง สรุปว่าผ่านการลงมติชอบทั้ง 3 คนอยู่ 20 ใบ ที่เหลือมาคุยกันแล้วเลือกอีกครั้ง “ทรงกลด” เริ่มคิดว่าจะเขียนหนังสือใหม่จากการไปทริปนี้ แต่จะให้ธรรมดาได้อย่างไร????? ก็เลยชวน “นิ้วกลม”และ “ทรงศีล” เขียนด้วย ผลัดกันเขียนในมุมมองของแต่ละคน อีกทั้งยังไม่รู้เหมือนกันว่าบทสรุปสุดท้ายหนังสือเล่มนี้จะมีความยาวเท่าไหร่ แต่เรื่องราวไม่ซ้ำกันนะ เพราะว่านักเขียนตกลงกับผู้ร่วมทริปแล้วว่าจะขออนุญาตนำเรื่องราวของแต่ละคนมาเขียนด้วย ดังนั้นฉันจึงสนุกกับการได้อ่านความฝัน + ความคิดของแต่ละคน ทริปนี้ พบว่าแต่ละคนจะมาคนเดียว มีแต่คุณแม่คนหนึ่งที่มากับคุณลูก คุณแม่ท่านนั้นบอกว่าถ้าลูกผ่านการคัดเลือก มีเงื่อนไขว่าแม่ต้องมาด้วย เพราะลูกเป็นโรคร้าย แต่ทริปนี้มารู้ความจริงในตอนท้ายว่า ที่จริงแล้วคุณแม่ท่านนั้นต่างหากที่เป็นโรคร้าย แต่ด้วยความเป็นห่วงลูก แต่ไม่อยากทำลายความฝันของลูก เพราะรู้ว่าลูกอยากไปทริปนี้มากฉันได้อะไรบางอย่างจากการอ่าน ประโยคที่ว่า "เคยมีคนบอกว่า หากอยากรู้จักใคร ให้ถามชื่อหนังสือที่เขาชอบสัก 5 เล่ม หนังในดวงใจสัก 5 เรื่อง เพลงโปรดสัก 5 เพลง แล้วก็จะรู้เองว่า เราพอคบกันได้ไหม" ลายคนที่มาในทริปนั้นบอกว่า มาคนเดียวไม่เป็นไรหรอก เพราะบางทีเพื่อนตัวเองไม่ชอบทริปแนวนี้ แต่เขาคิดว่าเขาคงมาเจอเพื่อนที่มีความสนใจตรงกัน เป็นนักอ่านเหมือนกัน อย่างน้อยทุกคนก็เป็นแฟนนักเขียน 3 ท่านนี่แหละ ความหนาของหนังสือเล่มนี้ราว 400 หน้า แต่ฉันใช้เวลาไม่นานอ่านจนจบ สิ่งหนึ่งที่รู้สึกคือถ้าใครหลายคนมีฝัน และได้ทำตามความฝัน หรือเข้าร่วมในกิจกรรมดี ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อวิธีคิดหรือวิถีชีวิต ฉันถือว่าเป็นคนที่โชคดีมาก ๆ เพราะการที่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ ตลอดจนถ้าสามารถเรียนหรือทำอาชีพในที่ชอบ เป็นสิ่งที่ตัวเองเลือก โดยไม่เกี่ยวกับวิถีชีวิตถูกพ่อแม่ลิขิตให้ว่าต้องเป็นอะไร ต้องเรียนอะไร หรือถูกเลือกโดยสังคมที่คิดว่าอาชีพนี้ดี อาชีพนี้ทำเงิน ซึ่งเราอาจทำได้ แต่อาจไม่ใช่สิ่งที่เราเป็นหรือเราชอบ และทำให้ได้รู้ว่ามีพ่อแม่หลายท่านของผู้อ่านหนังสือนี้ที่ได้ไปทริปนี้มีความทันสมัยก้าวหน้าพอสมควรที่ให้ลูกไปค้นหาตัวเอง ประเด็นสำคัญของทริป "หน่อไม้" คงไม่ใช่การไปแค่ไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมการปลูกต้นไม้ แต่มันคือกระบวนการของความคิด การพูดคุย การถามถึงความฝัน การพบคนที่คุยกันได้ ข้อความจากหนังสือ..... ....10 ปีนานแค่ไหน???? นานพอที่จะทำให้ใครบางคนเปลี่ยนแปลงจนเราจำเขาแทบไม่ได้ นานพอที่จะทำให้ใครบางคนเปลี่ยนความคิดความเชื่อไปเป็นอีกอย่างหนึ่ง นานพอที่จะทำให้เพื่อนคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง นานพอที่จะทำให้คนที่เคยคิดว่าจะรักกันชั่วกัลปาวสานต้องแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของแต่ละคน แต่บางครั้งมันก็นานพอที่จะพิสูจน์ว่า "สิ่งที่มีค่าย่อมไม่เปลี่ยนแปลง เช่นกัน ..... มันไม่นานพอที่จะเปลี่ยนแปลงความทรงจำดี ๆ .... 10 ปีนานแค่ไหน??? อาจนานพอที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง แต่มันไม่เคยนานพอที่จะเปลี่ยนแปลงความทรงจำดี ๆ ทุกคนฝาก "สิ่งสำคัญ" ไว้ที่นี่ ...10 ปีข้างหน้า เราจะกลับมาขุดมันอีกครั้ง จะฝังไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อเป็นจุดที่ทำให้จำตำแหน่งของ Time Capsule.. " />
ความคิดเห็นที่ : 2


   อีกเล่มที่อยากแนะนำเ มื่อได้อ่าน
"เนปาลประมาณสะดือ"

ก่อนอื่นเลย เป็นหนังสือที่ "คำนิยม" อ่านสนุกมาก เพราะเขียนโดย "ศุ บุญเลี้ยง" "หนุ่มเมืองจันท์" และ "บินหลา สันกาลาคีรี" เหล่านักเขียนคนโปรดของมิตรรักนักอ่านทั้งหลาย ต่อมาคำ (แนะ) นำของ"นิ้วกลม" ก็อ่านสนุกไม่เบา ว่าด้วยที่มาและความสำคัญของ "สะดือ" อันนำมาซึ่งชื่อเรื่อง "เนปาลประมาณสะดือ"

ถ้าใครชอบ "การเดินทาง" ซึ่งแตกต่างจาก "การท่องเที่ยว" (สองอย่างนี้มันต่างกัน ในหนังสือมีกล่าวไว้ น่าสนใจมากๆ) ก็คงรักและอยากไปเยือนเนปาลสักครั้ง เพราะเนปาลพาลให้เราฉุกคิดอะไรหลายๆเรื่องในชีวิตได้เยอะทีเดียว (according to นิ้วกลม และตัวเอง) ทั้งเรื่องความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ความพอเพียงของชีวิต ความเรียบง่ายของวิถีมนุษย์ ความวุ่นวายของคนเมือง มิตรภาพ เป้าหมายในชีวิต จุดประสงค์ที่แท้จริงของการปีนเขา การรู้จักพอ ความสุขใกล้ตัว และอื่่นๆ

มีประโยคนึงที่โดนใจอย่างมาก เพราะคิดเห็นเหมือนกันแท้ๆประมาณว่า "คนที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่อย่างพอเพียง นี่แหล่ะคือคนที่น่าอิจฉาที่สุด" ตื่นมาทำมาหากินเล็กๆน้อยๆ เย็นเข้านอนพักผ่อนตามอัธยาศัย ไม่ต้องดิ้นรนเครียดอะไรกับชีวิต ไม่ต้องทำงานงกๆเพื่อเก็บเงินยามเกษียณ เพราะชีวิตก็เหมือนยามเกษียณทุกวันอยู่แล้ว มันก็แปลกที่คนเราชาวเมืองยอมเสียสละความสุขเพื่อแลกกับเงินเป็นเวลาหลายปี เพียงเพื่อจะมีความสุข (แบบออดๆแอดๆ) ไม่กี่ปีตอนบั้นปลายชีวิต

นี่เองเป็นความรู้สึกเดียวกับเวลาที่เราเห็นชาวบ้านที่เมืองเชียงคาน แต่ชาวบ้านบนภูเขาสูง แนวเทือกเขาหิมาลัยนี้เท่ยิ่งกว่า นักท่องเที่ยวทั้งหลายตะเกียกตะกายปีนป่ายขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นสะท้อนหิมะขาวของหุบเขาหิมาลัย แต่นี่อะไร ตื่นมานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นไปกินข้าวเช้าไปด้วยทุกวี่วัน มองนอกหน้าต่างสิ ก็มีทิวทัศน์เทือกเขาที่สวยงามกว่าในโปสเตอร์หรือนิตยสารท่องเที่ยวซะอีก น่าอิจฉายิ่งกว่าอะไร

การปีนป่ายตะกายขึ้นเขาก็เป็นอีกเรื่องที่ฉุกคิดว่า "พวกนักปีนเขาเนี่ย มันจะทรมานตัวเองปีนขึ้นไปทำไมวะ?" ดีใจเหลือเกินที่ระหว่างการปีนเขา "นิ้วกลม" ก็แอบฉุกคิดและให้คำตอบไว้เหมือนกัน แม้จะมีคำตอบหลากหลายตามศรัทธาของแต่ละคน แต่เราก็แอบมีคำตอบไว้ในใจไว้เหมือนกัน...

เราว่า การตะเกียกตะกายปีนเขาเป็นการพยายามที่จะออกจากสิ่งที่ทำเป็นประจำทุกวัน และการกระทำนี้ก็เป็นการค้นหาความหมายของชีวิตว่าชีวิตคืออะไร บางทีเวลาเราอยู่กับกิจวัตรเดิมๆทุกวัน เรามักจะ"หลงลืม"ที่จะออกไปใช้ชีวิต การออกไปปีนเขาก็คือการออกไปใช้ชีวิต และการทรมานตะเกียกตะกายปีนป่ายนั้น ก็เพื่อให้เราเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราอาจจะเคยมองข้ามไป และที่สำคัญที่สุด ก็เพื่อที่เราจะได้เห็นคุณค่าของตัวเอง...

........อีกเล่มหนึ่งที่อยากแนะนะคะ อ่านแล้วเพลินสนุกจนไม่ค่อยอยากวาง

นี่เป็น เนื้อหา ย่อๆ ของทั้งหนังสือนะคะ แต่เวลาอ่านจริง จะเป็นตอนย่อๆ ให้เราเดินตามเรื่องราวไปอย่างนุ่มนวล เหมือนเรากำลังอยู่ในเหตุการณ์ เชียวนะ แอบบอกนิดว่า ท้ายๆ อาจน้ำตาซึมนะ ไม่รู้เราอิน หรือ คนเขียน เขียนดีกันแน่นะคะ
Concept ของเนื้อหาคือ “ทรงกลด บางยี่ขัน” “นิ้วกลม” และ”ทรงศีล ทิวสมบุญ” (สำหรับผู้ที่ติดตามนิตยสาร A day คงรู้จักนักเขียนรุ่นใหม่เหล่านี้) ที่ผ่านมาหนังสือของทั้งสามคนมักจะเปิดตัวในเวลาใกล้ ๆ กันหน่อไม้" ในหนังสือเล่มนี้หมายถึงอะไร???ประมวลจากการอ่าน ----> การเลือกพันธ์ไม้มาปลูกรวมกัน เวลาที่หน่ออ่อน ๆ ของไม้มาเตรียมลงสวน เปรียบเหมือนการเดินทางนั่งรถไฟไปปลูกป่า หากนำหน่อดี ๆ ไปปลูกรวมกัน ป่าแห่งนั้นน่าจะสวยแค่ไหน
ครั้งที่ 3 “ทรงกลด” เริ่มคิดแนวงาน”เปิดตัวผู้อ่าน” ในแนวใหม่ คือเป็นโครงการเดินทางนั่งรถไฟไปต่างจังหวัด ไปร่วมกันปลูกป่า และคิด Concept ให้แต่ละคนนำสิ่งที่มีความหมายไปใส่รวมกันในกล่อง Time Capsule และฝังไว้ใต้ต้นไม้ที่ปลูก กะจำตำแหน่งไว้ดี ๆ แล้วอีก 10 ปีมาเปิดกล่องดังกล่าว
การเชิญผู้อ่านเข้าร่วมแบบไม่ธรรมดา ไม่ใช่ใครก็ได้ที่อยากไป แต่ให้ผู้สนใจเขียนจดหมายแนะนำตัว แนะนำประวัติ และทั้งสามนักเขียนจะช่วยกันดูว่าชอบคนไหน มีใบสมัครส่งมาราว 100 กว่าใบ แต่ต้องคัดเลือกที่โดนใจสัก 40 ใบ
นักเขียนทั้งสามจะเขียนชื่อตัวเองลงไปด้านหลังใบสมัคร ถ้าถูกใจ ใบสมัครที่มีชื่อของทั้งสามคนรวมกัน จะได้รับการคัดเลือกในกรณีที่ไม่ครบ 40 คน จะนำมาเลือกใหม่ และผ่านการวิเคราะห์อีกครั้ง
สรุปว่าผ่านการลงมติชอบทั้ง 3 คนอยู่ 20 ใบ ที่เหลือมาคุยกันแล้วเลือกอีกครั้ง
“ทรงกลด” เริ่มคิดว่าจะเขียนหนังสือใหม่จากการไปทริปนี้ แต่จะให้ธรรมดาได้อย่างไร?????
ก็เลยชวน “นิ้วกลม”และ “ทรงศีล” เขียนด้วย ผลัดกันเขียนในมุมมองของแต่ละคน อีกทั้งยังไม่รู้เหมือนกันว่าบทสรุปสุดท้ายหนังสือเล่มนี้จะมีความยาวเท่าไหร่
แต่เรื่องราวไม่ซ้ำกันนะ เพราะว่านักเขียนตกลงกับผู้ร่วมทริปแล้วว่าจะขออนุญาตนำเรื่องราวของแต่ละคนมาเขียนด้วย ดังนั้นฉันจึงสนุกกับการได้อ่านความฝัน + ความคิดของแต่ละคน

ทริปนี้ พบว่าแต่ละคนจะมาคนเดียว มีแต่คุณแม่คนหนึ่งที่มากับคุณลูก คุณแม่ท่านนั้นบอกว่าถ้าลูกผ่านการคัดเลือก มีเงื่อนไขว่าแม่ต้องมาด้วย เพราะลูกเป็นโรคร้าย แต่ทริปนี้มารู้ความจริงในตอนท้ายว่า ที่จริงแล้วคุณแม่ท่านนั้นต่างหากที่เป็นโรคร้าย แต่ด้วยความเป็นห่วงลูก แต่ไม่อยากทำลายความฝันของลูก
เพราะรู้ว่าลูกอยากไปทริปนี้มากฉันได้อะไรบางอย่างจากการอ่าน ประโยคที่ว่า
"เคยมีคนบอกว่า หากอยากรู้จักใคร ให้ถามชื่อหนังสือที่เขาชอบสัก 5 เล่ม หนังในดวงใจสัก 5 เรื่อง เพลงโปรดสัก 5 เพลง แล้วก็จะรู้เองว่า เราพอคบกันได้ไหม" ลายคนที่มาในทริปนั้นบอกว่า มาคนเดียวไม่เป็นไรหรอก เพราะบางทีเพื่อนตัวเองไม่ชอบทริปแนวนี้ แต่เขาคิดว่าเขาคงมาเจอเพื่อนที่มีความสนใจตรงกัน เป็นนักอ่านเหมือนกัน อย่างน้อยทุกคนก็เป็นแฟนนักเขียน 3 ท่านนี่แหละ
ความหนาของหนังสือเล่มนี้ราว 400 หน้า แต่ฉันใช้เวลาไม่นานอ่านจนจบ
สิ่งหนึ่งที่รู้สึกคือถ้าใครหลายคนมีฝัน และได้ทำตามความฝัน หรือเข้าร่วมในกิจกรรมดี ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อวิธีคิดหรือวิถีชีวิต
ฉันถือว่าเป็นคนที่โชคดีมาก ๆ
เพราะการที่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ชอบ ตลอดจนถ้าสามารถเรียนหรือทำอาชีพในที่ชอบ เป็นสิ่งที่ตัวเองเลือก โดยไม่เกี่ยวกับวิถีชีวิตถูกพ่อแม่ลิขิตให้ว่าต้องเป็นอะไร ต้องเรียนอะไร หรือถูกเลือกโดยสังคมที่คิดว่าอาชีพนี้ดี อาชีพนี้ทำเงิน ซึ่งเราอาจทำได้ แต่อาจไม่ใช่สิ่งที่เราเป็นหรือเราชอบ
และทำให้ได้รู้ว่ามีพ่อแม่หลายท่านของผู้อ่านหนังสือนี้ที่ได้ไปทริปนี้มีความทันสมัยก้าวหน้าพอสมควรที่ให้ลูกไปค้นหาตัวเอง
ประเด็นสำคัญของทริป "หน่อไม้" คงไม่ใช่การไปแค่ไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมการปลูกต้นไม้ แต่มันคือกระบวนการของความคิด การพูดคุย การถามถึงความฝัน การพบคนที่คุยกันได้
ข้อความจากหนังสือ.....
....10 ปีนานแค่ไหน????
นานพอที่จะทำให้ใครบางคนเปลี่ยนแปลงจนเราจำเขาแทบไม่ได้ นานพอที่จะทำให้ใครบางคนเปลี่ยนความคิดความเชื่อไปเป็นอีกอย่างหนึ่ง นานพอที่จะทำให้เพื่อนคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง นานพอที่จะทำให้คนที่เคยคิดว่าจะรักกันชั่วกัลปาวสานต้องแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของแต่ละคน


แต่บางครั้งมันก็นานพอที่จะพิสูจน์ว่า "สิ่งที่มีค่าย่อมไม่เปลี่ยนแปลง
เช่นกัน ..... มันไม่นานพอที่จะเปลี่ยนแปลงความทรงจำดี ๆ
.... 10 ปีนานแค่ไหน???
อาจนานพอที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง แต่มันไม่เคยนานพอที่จะเปลี่ยนแปลงความทรงจำดี ๆ
ทุกคนฝาก "สิ่งสำคัญ" ไว้ที่นี่
...10 ปีข้างหน้า เราจะกลับมาขุดมันอีกครั้ง จะฝังไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อเป็นจุดที่ทำให้จำตำแหน่งของ Time Capsule..


Posted by : ทะเล , Date : 2012-11-30 , Time : 19:57:58 , From IP : mx-ll-223.204.47-83.dynamic.3bb.co.th

ความคิดเห็นที่ : 3


   แม่ค้าหน้าหวานตาคม ขอแจ้งว่า
รายการหนังสือ ลำดับ 3 และ 4
เรื่อง เนปาลประมาณสะดือ และ หน่อไม้ ขายไปแล้วนะคะ
เรื่องอื่นๆ ก็รีบจองได้นะคะ
ส่วนหนังสือใหม่ๆ แม่ค้าหน้าหวานจะรีบอ่าน ให้จบจะได้มาแบ่งปันกันจ้า
ตอนนี้ มีของกะละแม สองเล่มใหม่ๆ นอน รอคิว ปล่อย ออก
แต่ดันอยากอ่านพระพุธทาส เลยแซงคิวกะละแมไปแล้ว


Posted by : ทะเล , Date : 2012-12-01 , Time : 20:21:51 , From IP : mx-ll-223.204.47-83.dynamic.3bb.co.th

ความคิดเห็นที่ : 4


   มาแก้ e-mail ทางร้าน หน่อยคะ แบบว่ารีบเกิน พิมพ์ตก

shop_thongcomehome@hotmail.co.th


Posted by : ทะเล , Date : 2012-12-01 , Time : 20:47:01 , From IP : mx-ll-223.204.47-83.dynamic.3bb.co.th

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<