แพทย์ไร้จรรยาบรรณไร้จรรยาบรรณ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสมิหลาไทมส์ มีโอกาสได้สัมผัสและรับทราบถึงเรื่องราวหนึ่งอย่างใกล้ชิด เรื่องราวนี้ทำให้เราเกิดคำถามมากมายและ ขาดความเชื่อมั่นอย่างสูงยิ่ง ว่าในปัจจุบันจะมีแพทย์ที่ยึดมั่นอยู่ในจรรยาบรรณสักมากน้อยเท่าไร ? เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มีนายแพทย์มือศัลยกรรมมือหนึ่ง ระดับอาจารย์แพทย์ ประจำโรงเรียนแพทย์ชื่อดัง กับผู้ป่วยหญิงชรา ฐานะปานกลาง ที่เป็นก้อนเนื้อในเต้านม และนี่คือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น.... โปรดพิจารณาดูว่า ที่เรากล่าวหาแพทย์คนนี้ว่า "เงินสำคัญกว่า จรรยาบรรแพทย์ และแพทย์คนนี้ ก็ไม่เหมาะสมจะเป็นอาจารย์แพทย์"นั้นเหมาะสมหรือไม่ ? หญิงชรา พบก้อนเนื้อผิดปกติ ในเต้านม จึงไปพบแพทย์คนดังกล่าว เพราะได้รับคำโฆษณาชวนมาก่อนหน้านี้ว่า เป็นแพทย์ศัลยกรรมมือหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ เป็นอาจารย์แพทย์สอนนักเรียนแพทย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะดีจริง และที่สำคัญที่สุดน่าจะสามารถช่วยเธอให้หลุดพ้นจากโรคร้ายที่ใครๆ ก็หวาดกลัวได้ เธอไปพบแพทย์คนดังกล่าวที่คลีนิคส่วนตัว ในเมืองหาดใหญ่ อาจารย์คนนี้ตรวจสอบก้อนเนื้อซึ่งเบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นมะเร็งจริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนด้วยวิธีทางการเมืองอีกครั้ง .... แต่สิ่งหนึ่ง..ที่เรารับไม่ได้ก็คือ ค่าใช้จ่ายที่แพงมหาศาลที่แพทย์คนนี้เรียกร้อง เป็นค่าวิชาและค่าฝีมือของตัวเอง ที่จัดได้ว่าเป็นมือศัลยกรรมระดับอาจารย์แพทย์ รวมทั้งค่าห้องผ่าตัด และค่าเครื่องมือแพทย์ รวมแล้วมากกว่า 150,000 หมื่นบาท และที่สำคัญแพทย์คนนี้ ยืนยันว่าตนจะต้องผ่าในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่เท่านั้น จะไม่ผ่าที่โรงพยาบาลรัฐ ทั้งๆ ที่ตนเองก็รับราชการและเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่นั่น และหากผ่าที่นั่น หญิงชราคนนี้ ก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อย่างมากมายมหาศาล ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? เกิดอะไรขึ้น ? หญิงชรา กลับบ้าน มาปรึกษาลูกๆ เพื่อนฝูง และคนอื่นๆ ที่รู้จัก เพื่อหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ว่าจะทุ่มเงินเฉียด 2 แสนผ่าตัด กับอาจารย์แพทย์คนนี้หรือไม่ ? เพราะหากเธอตัดสินใจผ่า เท่ากับว่าทั้งชีวิตที่เหลืออยู่เธอก็คงยังจ่ายหนี้ค่าผ่าตัดไม่หมด ! มีที่ไหนจะแพงมากมายมหาศาลขูดรีดทารุณ เหมือนผ่าตัดกับอาจารย์แพทย์คนนี้ ! หญิงชรา เลยตัดสินใจขึ้นไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ซึ่งก็เป็นความจริงจริง ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าที่แพทย์คนนี้บอกมามากกว่าครึ่ง ที่น่าอเน็จอนาจ !! ไปกว่านั้น เมื่อทราบว่าหญิงชราคนดังกล่าวจะขึ้นไปผ่าตัดรักษาตัวที่กรุงเทพฯ อาจารย์แพทย์ แสดงอาการหิวกระหาย และเสียดายเงินแสน ที่คาดว่าจะได้มาง่ายๆ ขึ้นมาทันที ด้วยการโทรศัพท์มาโน้มน้าวดึงดูดใจอีกหลายครั้ง เพื่อ ให้หญิงชราไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชนที่ตนทำงานรับใช้อยู่ ถึงกับออกปากว่าค่าผ่าตัด ตนยินดีให้จ่ายด้วยวิธีการผ่อนเป็นงวดๆ ก็ได้ ในเบื้องต้นให้จ่ายเฉพาะค่าเช่าห้องและเช่าเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการผ่าตัดให้กับโรงพยาบาลเอกชนไปก่อน และยิ่งแสดงอาการไร้จรรยาบรรณมากขึ้น ด้วยการบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลใดๆ ที่ตนเองตรวจไว้ในเบื้องต้น เมื่อหญิงชราขอเพื่อไปให้หมอที่กรุงเทพ ฯ ใช้ประกอบการวินิจฉัยและรักษา ? เราเกิดคำถามขึ้นมากมากมายว่า ..อาจารย์แพทย์ ศัลยกรรมมือหนึ่งคนนี้ ได้เปอร์เซนต์จากการผ่าตัดและเปอร์เซนต์จากการหาลูกค้าซึ่งเป็นคนไข้ให้โรงพยาบาลเอกชนครั้งละเท่าไร? แพทย์คนนี้ กับโรงพยาบาลเอกชน ฮั้วกันใช่หรือไม่ ? แพทย์คนนี้เบียดบังเวลาราชการไปแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองหรือไม่ ? แพทย์คนนี้เห็นเงินสำคัญกว่าชีวิตหญิงชราคนหนึ่งหรือไม่ ? *** ที่มา บทบรรณาธิการ นสพ.สมิหลาไทมส์ ฉ.วันที่ 6-12 กุมภาพัน์ 2547 Posted by : คนหาดใหญ่ , E-mail : (-) , Date : 2004-03-05 , Time : 20:30:39 , From IP : 203.154.27.205 |
IP เดียวกับคนตั้งกระทู้เลยนะครับ คุณ บก. น่าแปลกดีนะครับ โฮะๆๆๆ Posted by : เด๋อ , Date : 2004-03-05 , Time : 22:23:48 , From IP : 172.29.4.89 |
แย่นะครับ ถูกทุบอยู่ฝ่ายเดียว Posted by : เหอๆๆ , Date : 2004-03-06 , Time : 00:09:34 , From IP : 172.29.4.73 |
คุณ เต๋อ..ไม่ต้องสงสัยเรื่อง ไอพี.เดียวกับคนโพสเรื่อง เพราะผม บก.สมิหลาไทมส์ โพสเอง ใครอยากรู้ข้อมูลอะไรมากกว่านี้ โทรติดต่อได้ตลอดเวลา วิชาญ ช่วยชูใจ 06-7491212 แล้วจะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นจริงอย่างไร และหมอคนนั้นคือใคร และก็เจตนาที่จะเข้ามาโพสในเวปบอร์ดนี้ด้วย Posted by : บก.สมิหลาไทมส์ , E-mail : (-) , Date : 2004-03-06 , Time : 00:48:34 , From IP : 203.154.27.205 |
เห็นด้วยกับคุณ Phoenix ค่ะ ท่านบก.ควรมาแจ้งที่มาของข้อมูลให้ชัดเจนค่ะ Posted by : ศิษย์แพทย์คนหนึ่ง , Date : 2004-03-06 , Time : 01:16:22 , From IP : 203.113.76.72 |
เรื่องจริงหรือเปล่าก้อไม่รู้แล้วเอามาพูด Posted by : mickeymouse , Date : 2004-03-06 , Time : 13:34:10 , From IP : 172.29.3.222 |
คุณ บก ทำไมเงียบไปเลยละครับ Posted by : K , Date : 2004-03-06 , Time : 14:36:56 , From IP : 172.29.3.220 |
เหตุผลสำคัญที่ผม นำเรื่องราวนี้มาขึ้นโพสในเวปบอร์ดแห่งนี้ ก็เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่มีเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง และไม่มีเจตนา จะโจมตีหรือให้่ร้า้ยนายแพทย์ คนที่กล่าวถึง เพราะถ้ามีเบื้องหน้า เบื้องหลัง หรือต้องการโจมตีนายแพทย์ คนนั้น ทำไมผมต้องเปิดตัวออกมา โดยประกาศชัดเจนทั้งชื่อจริง นามสกุลจริง และเบอร์โทรศัพท์ สามารถตรวจาสอบและติดต่อผมได้ตลอด ถ้าผมต้องการเล่นสกปรก หรือโจมตีให้ร้ายจริงๆ เรื่องอะไร ผมจะเปิดเผยตัวเองละ ที่ผมเปิดเผยตัวเอง ก็เพื่อยืนยันว่าเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องจริง ถ้าถามว่าทำไมผมไม่เปิืดเผยชื่อหมอคนนั้นออกมาเลยละ ผมบอกได้เลยว่ายังไม่ถึงเวลา แต่ถึงผมไม่เปิดเผย ผมก็เชื่อว่า นักเรียนแพทย์ และแพทย์หลายคน ก็คงจะเดาออกแล้วว่า นายแพทย์ คนที่ผมกล่าวถึงคือใคร ยิ่งไปกว่านั้น ผมยืนยันได้ว่าผมเป็นนักข่าวอาชีพ ผมวิชาญ ช่วยชูใจ จบปริญญาตรี จาก คณะวิทยาการจัดการ ม.สงขลานครินทร์หาดใหญ่ รหัส 3336066 เรียนปริญญาโท ที่คณะเดิมรุ่นที่ 10 รหัส 4437851 ผมเป็นนักข่าวที่เดอะเนชั่นมานาน 3 ปี เป็นผู้บริหารในสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี.มานาน 7 ปี ปัจจุบันลาออกมาทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น อีก 3 ปี ไม่จำเป็นอะไรเลยที่ผมจะต้องไปกล่าวร้ายป้ายสี นายแพทย์ที่ผมกล่าวถึง ทุกคนลองตรวจสอบประวัติผมได้ เพราะผมเชื่อมั่นว่า แพทย์และพยาบาล ที่เรียน มอ.และขึ้นต้นด้วยรหัส 33 คงรู็จักผมบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อตอนเช้ามีแพทย์ศัลยกรรมโทรศัพท์มาคุยกับ ผมก็อธิบายไปอย่างนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าเขาก็เข้าใจ ถ้าหากใครไม่เข้าใจ หรือสงสัยอะไร ตรงไหน พบกับผมโดยตรงก็ได้ ที่สำนักงาน หนังสือพิมพ์ สมิหลาไทมส์ 41 ถถนคลองเรียน 2 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันจันทร์ นี้เป็นต้นไป Posted by : บก.สมิหลาไทมส์ , E-mail : (-) , Date : 2004-03-06 , Time : 15:51:26 , From IP : 203.154.27.237 |
คุณวิชาญ คุณกำลังจะทำอะไรเนี่ย งง Posted by : เด็กหาดใหญ่ , Date : 2004-03-06 , Time : 16:55:12 , From IP : 203.113.76.71 |
เรื่องพฤติกรรมของนายแพทย์คนดังกล่าว ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ ก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นบทความที่บอกเล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับทั้งคำถาม ให้ทุกๆ คนที่ได้อ่านบทความหรือเรื่องเล่านี้ คิดกันเอาเองว่า นายแพทย์คนนี้มีจรรยาบรรณเพียงพอหรือไม่ ผมไม่ได้ตัดสิน หรือพิพากษาเลยว่า เขาไร้จรรยาบรรณ แต่ผมตั้งคำถามให้ทุกๆ คนได้ตอบ เมื่อประมวลเหตุการณ์จากเรื่องเล่าทั้งหมดที่ผมได้เล่าไป ด้านบน โปรดอ่านโดยพิจารณากันอีกครั้ง ผมถือว่าผมตั้งใจ และผมมั่นใจพอ ที่ผมเข้ามาโพส ใน เวปไซค์และในเวปบอร์ดนี้ เพราะคา่ดเดาได้ไม่ยาก ว่าคนอ่านเกือบทั้งหมด ก็เป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงของคณะแพทย์ศาสตร์นั่นแหละ และผมก็เดาได้ไม่ยาก ว่าเมื่อมีการโต้เถียงกันขึ้นในเวปบอร์ดแห่งนี้ ผลสรุปจะออกมาเช่นไร ******หมายเหตุ ยังมีเรื่องเล่าต่อ..... คุณรู้มั้ย..หลังจากที่หญิงชราคนดังกล่าว ได้ตัดสินใจไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ พร้อมกับให้ลูกชายโทรศัพท์ ไปที่หมายเลข 01-8.........ซึ่งเป็นหมายเลขของหมอคนดังกล่าว เพื่อจะขอผลการตรวจ แมมโมแกรม จากหมอ เพื่อนำไปให้หมอที่กรุงเทพ ใช้ประกอบการวินิจฉัยโรค ตอนแรกที่โทรเข้าไป นายแพทย์ คนดังกล่าวบอกว่าไม่ว่าง เพราะติดสอนนักเรียนอยู่ เมื่อลูกชายของหญิงคนดังกล่าว ถามกลับไปว่าแล้วเมื่อไรหมอจะว่าง ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า "ยังไม่รู้ว่าจะว่างเมื่อไร" แล้วอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร นายแพทย์คนนี้บ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลหรือไม่ หรือไม่พอใจที่หญิงชราคนนั้นไม่รักษากับตนเอง จึงแสดงอากัปกิริยาออกมาอย่างนั้น Posted by : บก.สมิหลาไทมส์ , E-mail : (-) , Date : 2004-03-06 , Time : 18:22:54 , From IP : 203.154.27.237 |
ไม่อยากรู้คุณสมบัติที่มาของบก แต่คิดว่าควรจะ boycott สมิหลาไทม์ Posted by : mickeymouse , Date : 2004-03-06 , Time : 21:58:26 , From IP : 172.29.3.222 |
เวบไซต์ของหนังสือพิมพ์นี้ครับ สมีหลาไทม์ Posted by : สะหนี่พอ , Date : 2004-03-07 , Time : 19:03:10 , From IP : 172.29.4.111 |
กรุณาอย่าเข้าใจผิด ว่าผมปฏิเสธในให้ข้อมูลหือรายละเอียดต่างๆ เกียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมจะบอกให้ว่า... การที่ผมให้สถานที่ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือประวัติส่วนตัวผมไปมากมายขนาดนี้แล้ว นี่ก็คือนัยยะสำคัญที่บอกได้แล้วว่า ผมพร้อมที่จะให้ข้อเท็จจริง ทั้งหมดแก่บุคคลที่ต้อง ซึ่งบุคคลคลนั้นต้องเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องจริงๆ ผมมองว่า สำหรับบนเวปบอร์ดนั้น ข้อมูลแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องประกาศชื่อหรือลูกหลาน ของผู้เสียหาย หากใคร หรือสถาบันแพทย์ไหน ต้องการทราบอะไรมากไปกว่านี้ พรุ่งนี้ติดต่อผมได้ตามสถานที่ และัเบอร์ไทรศัพท์ ที่ให้ไว้ เพราะพรุ่งนี้ ลูกชาย ,ลูกสาว,และหญิงชรา คนที่กล่าวถึง ก็อยู่ที่หาดใหญ่ Posted by : บก.สมิหลาไทมส์ , E-mail : (-) , Date : 2004-03-07 , Time : 20:04:08 , From IP : 203.154.27.207 |
ผมอยากเรียนถามทุกคนที่ผมคาดว่า น่าจะรู้จักนายแพทย์ คนที่ผมกล่าวถึงนี้แล้ว 1.คุณได้ถามนายแพทย์คนนั้นหรือยังว่า ทั้งหมดที่เขียนปรากฏในเนื้อหาของผมนี้เป็นจริงหรือไม่ 2.จริงหรือไม่ที่แพทย์ คนนั้นโทรมาถามว่า ลูกโอนเงินมาแล้วใช่มั้ย ทำไมต้องไปกรุงเทพฯ ทำไมไม่ผ่าที่ตน ใช้วิธีการผ่อนส่งก็ได้ 3.ทำไมแพทย์คนดังกล่าว ถึงบอกว่า ตนเป็นอาจารย์หมอ จึงผ่าหญิงชราที่โรงพยาบาลของรัฐซึ่งตนสังกัดอยู่ไม่ได้ อยากทราบว่าทำไม ช่วยอธิบายด้วย 3.เรื่องโทรศัพท์ ที่ลูกชายเขาโทรไปขอ แมมโมแกรม "แล้วนายแพทย์พูดว่าไม่ว่าง และไม่รู้จะว่างเมื่อไร" นั้นเป็นจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับผม 1.หญิงชราคนดังกล่างวนัดผ่าตัด วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ที่กรุงเทพฯ 2.แพทย์ระดับ ผู้อำนวยการ เป็นผู้ผ่าด้วยตนเอง 3.ค่าใช้จ่ายเป็นค่าวิชาหมอมือหนึ่งที่กรุงเทพฯ 10,000 เท่านั้น 4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เบิกได้ เพราะลูกสาวเขารับราชการเป็นผู้พิพากษา 5.พรุ่งนี้ ลูกสาว ลูกชาย หญิงชรา และสามีของเขา จะกลับมาที่หาดใหญ่ เพื่อลางาน และเตรียมการจะขึ้นไปผ่าตัดในวันพฤหัสฯนี้ Posted by : บก.สมิหลาไทมส์ , E-mail : (-) , Date : 2004-03-07 , Time : 20:53:49 , From IP : 203.154.27.207 |
ผมอยากเรียนถามทุกคนที่ผมคาดว่า น่าจะรู้จักนายแพทย์ คนที่ผมกล่าวถึงนี้แล้ว 1.คุณได้ถามนายแพทย์คนนั้นหรือยังว่า ทั้งหมดที่เขียนปรากฏในเนื้อหาของผมนี้เป็นจริงหรือไม่ 2.จริงหรือไม่ที่แพทย์ คนนั้นโทรมาถามว่า ลูกโอนเงินมาแล้วใช่มั้ย ทำไมต้องไปกรุงเทพฯ ทำไมไม่ผ่าที่ตน ใช้วิธีการผ่อนส่งก็ได้ 3.ทำไมแพทย์คนดังกล่าว ถึงบอกว่า ตนเป็นอาจารย์หมอ จึงผ่าหญิงชราที่โรงพยาบาลของรัฐซึ่งตนสังกัดอยู่ไม่ได้ อยากทราบว่าทำไม ช่วยอธิบายด้วย 3.เรื่องโทรศัพท์ ที่ลูกชายเขาโทรไปขอ แมมโมแกรม "แล้วนายแพทย์พูดว่าไม่ว่าง และไม่รู้จะว่างเมื่อไร" นั้นเป็นจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับผม 1.หญิงชราคนดังกล่างวนัดผ่าตัด วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ที่กรุงเทพฯ 2.แพทย์ระดับ ผู้อำนวยการ เป็นผู้ผ่าด้วยตนเอง 3.ค่าใช้จ่ายเป็นค่าวิชาหมอมือหนึ่งที่กรุงเทพฯ 10,000 เท่านั้น 4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เบิกได้ เพราะลูกสาวเขารับราชการเป็นผู้พิพากษา 5.พรุ่งนี้ ลูกสาว ลูกชาย หญิงชรา และสามีของเขา จะกลับมาที่หาดใหญ่ เพื่อลางาน และเตรียมการจะขึ้นไปผ่าตัดในวันพฤหัสฯนี้ Posted by : บก.สมิหลาไทมส์ , E-mail : (-) , Date : 2004-03-07 , Time : 20:54:17 , From IP : 203.154.27.207 |
เฮ้อ...รู้น้อย ว่ารู้มาก เริงใจ ...เอะ คุ้นๆ แฮ่ะ Posted by : นายหัวครก , Date : 2004-03-07 , Time : 21:53:43 , From IP : 172.29.3.104 |
เฮ้ยคุณ บก. ระดับผอ. ของศูนย์มะเร็งกรุงเทพ รับค่าผ่าตัดใต้โต๊ะด้วยเหรอ โรงบาลหลวงด้วย ทำไมไม่ร้องเรียนล่ะ หรือว่าถูกอุด Posted by : นก , Date : 2004-03-07 , Time : 22:56:25 , From IP : 172.29.3.238 |
มีมาลงที่นี่ด้วย http://www.hatyaitime.com/webboard/show.php?que=25 ยัง งงๆ กับจุดประสงค์ของคุณวิชาญครับ Posted by : ผ่านมาเห็น , Date : 2004-03-08 , Time : 00:26:47 , From IP : 172.29.3.220 |
นักข่าวอัปรีย์ตายไปซะไป เหี้ยจริงๆ Posted by : เกลียดนักข่าว , Date : 2004-03-08 , Time : 13:11:21 , From IP : 172.29.2.108 |
Dear PSU Hospital friend, Please tell Hatyai public the way you do in medicine web-board. There are very limited people outside PSU read your comments here. Please write to Samila, Focus, Kom Chat Ruk as well. I would like to see the unlucky Surgeon call Mr.Vicharn for lunch. Perhaps, thing might be better Posted by : KT Rollings , E-mail : (jamesbenenati@yahoo.com) , Date : 2004-03-08 , Time : 21:48:35 , From IP : 203.113.76.76 |
Dear PSU Hospital friend, Please tell Hatyai public the way you do in medicine web-board. There are very limited people outside PSU read your comments here. Please write to Samila, Focus, Kom Chat Ruk as well. I would like to see the unlucky Surgeon call Mr.Vicharn for lunch. Perhaps, thing might be better Posted by : KT Rollings , E-mail : (jamesbenenati@yahoo.com) , Date : 2004-03-08 , Time : 21:51:32 , From IP : 203.113.76.76 |
Posted by : janjao , Date : 2004-03-09 , Time : 07:57:17 , From IP : 172.29.2.125 |
a href="http://www.samilatimes.com" target="_blank"> Posted by : my , Date : 2004-03-09 , Time : 08:04:59 , From IP : 172.29.2.138 |
เช่นเดียวกับนศพปีห้า และดีใจที่อาจารย์แข่งแกร่งดังเช่นที่ผ่านมา Posted by : pisces , Date : 2004-03-09 , Time : 08:05:10 , From IP : 172.29.3.210 |
Again Posted by : my , Date : 2004-03-09 , Time : 08:06:47 , From IP : 172.29.2.138 |
I am wrong, the medinfo web-board is not just dust in the wind I talked with him this afternoon but nothing about this issue. He is doing fine. He is still what he was and I still admire "The golden personality" he has The ununlucky Surgeon is a 60 years-old man who is going to retire from his devoted serve for medical and non-medical community for more than 30 years. He did a lot of the right things make us good doctors. Many of doctors who do good to this country were inspired by him In this year home-coimg day , I would like to call all of Medicine alumni to come back and cheer up this mind in his tired-retired year. KT Rollings Posted by : KT Rollings , E-mail : (jamesbenenati@yahoo.com) , Date : 2004-03-09 , Time : 22:13:13 , From IP : 203.113.76.8 |
อาจารย์เปลี่ยนไป อาจารย์เปลี่ยนไป อาจารย์เปลี่ยนไป Posted by : Black angle , Date : 2004-03-09 , Time : 23:05:04 , From IP : 172.29.3.253 |
อาจารย์จะทำอย่างไรเหรอ รายงานให้ทราบบ้างสิ เอาใจช่วยอยู่ทุกวัน Posted by : k , Date : 2004-03-10 , Time : 13:39:34 , From IP : 172.29.3.114 |
เพิ่งจะทราบเรื่องว่าเป็นอาจารย์ ผมเชื่อในสิ่งที่อาจารย์ทำครับ ลูกศิษย์คนนี้ยังสำนึกใน บุญคุญความรู้ที่อาจารย์สั่งสอนให้จนทุกวันนี้ ความรู้เป็นบ่อเกิดเเห่งปัญญาที่เรานำไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ก่อคุณอนันต์แก่ชาติบ้านเมือง ใครก็ตามที่คิดทำร้ายอาจารย์แพทย์ เป็นความคิดที่เลวมาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจบโท แต่โง่ เป็นคนที่ไม่มีวิจารณญาณเลย ฟังความข้างเดียว เป็นคนที่ไม่น่านับถือ ไม่สมควรได้เป็นบุพการีสั่งสอนลูกของตัวเอง แย่มาก ๆ คุณกำลังเอาความเปราะบางของคนที่ประกอบอาชีพเวชกรรมมาเล่น มาละเลงด้วยเท้าของคุณ คุณกำลังดูถูกแพทย์ทั้งประเทศ ถึงแม้ว่าคุณจะแก้ตัวตลอดกระทู้ก็ตาม คุณเป็นคนที่สมควรจะได้รับการรักษาจากแพทย์ที่ไม่ใช่คนไทย ไม่ใช่แม้แต่เด็กที่เพิ่งจะสอบเข้าเรียนแพทย์ได้ เพราะเขาสูงเกินไปกับคนระดับอย่างคุณ และคุณเป็นคนแรกแน่ ๆ ที่แพทย์ มอ.จะปฏิเสธการรักษาถึงแม้ว่าคุณจะตายอยู่ตรงหน้า คอยดู คุณวิชาญ Posted by : เด็กที่ไม่ดี , E-mail : (don0342000@yahoo.com) , Date : 2004-03-10 , Time : 19:55:26 , From IP : lvs3.moph.go.th |
สะกดคำว่าสมเพศผิดครับ ที่ถูกควรจะเป็น"สมเพช " Posted by : เมย์วดี , Date : 2004-03-11 , Time : 11:23:02 , From IP : 172.29.2.118 |
มันคนละประเด็นกันครับอย่าสับสน Posted by : ..... , Date : 2004-03-12 , Time : 00:09:25 , From IP : 172.29.4.123 |
ช่ายเลยล่ะครับ คุณสาวน้อยสีชมพู ชอบที่คุณเขียนจัง Posted by : K@tzu , Date : 2004-03-12 , Time : 21:21:50 , From IP : 172.29.4.53 |
รู้หน้าไม่รู้ใจ Posted by : ea , Date : 2004-03-13 , Time : 06:16:01 , From IP : 172.29.3.123 |
ผม วิชาญ ช่วยชูใจ เข้ามาอัพเดทกระทู้ให้ใหม่ ขอเชิญเข้ามา่้ร่วม เสวนา วิจารณ์ และด่ากันได้เต็มที่ ไม่ต้องเป็นห่วงผมเข้ามาอ่านทุกวัน ด้วยความยินดียิ่ง วิชาญ ช่วยชูใจ แพทย์ไร้จรรยาบรรณ ไร้จรรยาบรรณ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสมิหลาไทมส์ มีโอกาสได้สัมผัสและรับทราบถึงเรื่องราวหนึ่งอย่างใกล้ชิด เรื่องราวนี้ทำให้เราเกิดคำถามมากมายและ ขาดความเชื่อมั่นอย่างสูงยิ่ง ว่าในปัจจุบันจะมีแพทย์ที่ยึดมั่นอยู่ในจรรยาบรรณสักมากน้อยเท่าไร ? เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มีนายแพทย์มือศัลยกรรมมือหนึ่ง ระดับอาจารย์แพทย์ ประจำโรงเรียนแพทย์ชื่อดัง กับผู้ป่วยหญิงชรา ฐานะปานกลาง ที่เป็นก้อนเนื้อในเต้านม และนี่คือเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น.... โปรดพิจารณาดูว่า ที่เรากล่าวหาแพทย์คนนี้ว่า "เงินสำคัญกว่า จรรยาบรรแพทย์ และแพทย์คนนี้ ก็ไม่เหมาะสมจะเป็นอาจารย์แพทย์"นั้นเหมาะสมหรือไม่ ? หญิงชรา พบก้อนเนื้อผิดปกติ ในเต้านม จึงไปพบแพทย์คนดังกล่าว เพราะได้รับคำโฆษณาชวนมาก่อนหน้านี้ว่า เป็นแพทย์ศัลยกรรมมือหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ เป็นอาจารย์แพทย์สอนนักเรียนแพทย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะดีจริง และที่สำคัญที่สุดน่าจะสามารถช่วยเธอให้หลุดพ้นจากโรคร้ายที่ใครๆ ก็หวาดกลัวได้ เธอไปพบแพทย์คนดังกล่าวที่คลีนิคส่วนตัว ในเมืองหาดใหญ่ อาจารย์คนนี้ตรวจสอบก้อนเนื้อซึ่งเบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นมะเร็งจริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนด้วยวิธีทางการเมืองอีกครั้ง .... แต่สิ่งหนึ่ง..ที่เรารับไม่ได้ก็คือ ค่าใช้จ่ายที่แพงมหาศาลที่แพทย์คนนี้เรียกร้อง เป็นค่าวิชาและค่าฝีมือของตัวเอง ที่จัดได้ว่าเป็นมือศัลยกรรมระดับอาจารย์แพทย์ รวมทั้งค่าห้องผ่าตัด และค่าเครื่องมือแพทย์ รวมแล้วมากกว่า 150,000 หมื่นบาท และที่สำคัญแพทย์คนนี้ ยืนยันว่าตนจะต้องผ่าในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่เท่านั้น จะไม่ผ่าที่โรงพยาบาลรัฐ ทั้งๆ ที่ตนเองก็รับราชการและเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่นั่น และหากผ่าที่นั่น หญิงชราคนนี้ ก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อย่างมากมายมหาศาล ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? เกิดอะไรขึ้น ? หญิงชรา กลับบ้าน มาปรึกษาลูกๆ เพื่อนฝูง และคนอื่นๆ ที่รู้จัก เพื่อหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ว่าจะทุ่มเงินเฉียด 2 แสนผ่าตัด กับอาจารย์แพทย์คนนี้หรือไม่ ? เพราะหากเธอตัดสินใจผ่า เท่ากับว่าทั้งชีวิตที่เหลืออยู่เธอก็คงยังจ่ายหนี้ค่าผ่าตัดไม่หมด ! มีที่ไหนจะแพงมากมายมหาศาลขูดรีดทารุณ เหมือนผ่าตัดกับอาจารย์แพทย์คนนี้ ! หญิงชรา เลยตัดสินใจขึ้นไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ซึ่งก็เป็นความจริงจริง ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าที่แพทย์คนนี้บอกมามากกว่าครึ่ง ที่น่าอเน็จอนาจ !! ไปกว่านั้น เมื่อทราบว่าหญิงชราคนดังกล่าวจะขึ้นไปผ่าตัดรักษาตัวที่กรุงเทพฯ อาจารย์แพทย์ แสดงอาการหิวกระหาย และเสียดายเงินแสน ที่คาดว่าจะได้มาง่ายๆ ขึ้นมาทันที ด้วยการโทรศัพท์มาโน้มน้าวดึงดูดใจอีกหลายครั้ง เพื่อ ให้หญิงชราไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชนที่ตนทำงานรับใช้อยู่ ถึงกับออกปากว่าค่าผ่าตัด ตนยินดีให้จ่ายด้วยวิธีการผ่อนเป็นงวดๆ ก็ได้ ในเบื้องต้นให้จ่ายเฉพาะค่าเช่าห้องและเช่าเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการผ่าตัดให้กับโรงพยาบาลเอกชนไปก่อน และยิ่งแสดงอาการไร้จรรยาบรรณมากขึ้น ด้วยการบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลใดๆ ที่ตนเองตรวจไว้ในเบื้องต้น เมื่อหญิงชราขอเพื่อไปให้หมอที่กรุงเทพ ฯ ใช้ประกอบการวินิจฉัยและรักษา ? เราเกิดคำถามขึ้นมากมากมายว่า ..อาจารย์แพทย์ ศัลยกรรมมือหนึ่งคนนี้ ได้เปอร์เซนต์จากการผ่าตัดและเปอร์เซนต์จากการหาลูกค้าซึ่งเป็นคนไข้ให้โรงพยาบาลเอกชนครั้งละเท่าไร? แพทย์คนนี้ กับโรงพยาบาลเอกชน ฮั้วกันใช่หรือไม่ ? แพทย์คนนี้เบียดบังเวลาราชการไปแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองหรือไม่ ? แพทย์คนนี้เห็นเงินสำคัญกว่าชีวิตหญิงชราคนหนึ่งหรือไม่ ? *** ที่มา บทบรรณาธิการ นสพ.สมิหลาไทมส์ ฉ.วันที่ 6-12 กุมภาพัน์ 2547 Posted by คนหาดใหญ่(-) 2004-03-05 , 20:30:39 , 203.154.27.205 น่าเห็นใจคุณป้าคนนี้ครับที่ได้เจอประสบการณ์แบบนี้ ที่จริงหมอในหาดใหญ่ยังมีอีกเยอะ เฉพาะใน รพ.หาดใหญ่และมอ.สองที่ก็เหยียบพันคน ผมยังเชื่อว่าถ้าคุณป้าคนนี้ไม่ผิดหวังกับหมอคนนี้มากเกินไป เข้ามาที่รพ.รัฐ จะมีโอกาสที่ได้รับรักษาและดแลตามที่ได้คาดหวังไว้อยู่ จะเห็นว่าพฤติกรรมของหมอแค่บางคนก็เพียงพอที่จะทำให้สาธารณชนเกิดความไม่มั่นใจและสะเทือนใจต่อหมอทั้งโรงพยาบาลหรือแม้แต่ทั้งจังหวัดได้ Posted by Phoenix() 2004-03-05 , 20:40:13 , 172.29.3.241 เรื่องอย่างนี้ต้องฟังหูไว้หูครับ ก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อ เพราะอาจเป็นการยืมมือหนังสือพิมพ์จัดการกับศัตรูได้ครับ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเป็นเรื่องจริงนะครับ ผมมองว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะแพทย์ทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ย่อมยังมีกิเลศอยู่ในตัวทั้งนั้น อีกทั้งเงินก็เป็นสิ่งหอมหวาน หากรู้สึกว่ามันได้มาโดยง่าย ก็อาจทำให้ปีศาจที่อยู่ในใจมันโผล่ออกมาก็ได้ ถ้าหญิงชราคนนั้นมีตัวตนจริง ผมว่าน่าจะออกมาให้ข่าวอย่างจริงจังไปเลย ว่าเขาเป็นใคร หมอคนนั้นเป็นใคร จะได้ไม่ต้องมาเดาสุ่มกันว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่ข่าวเต้า แต่ก็คงเหมือนอาจารย์นกไฟว่าแหละครับ ยังมีศัลยแพทย์อีกหลายคนที่พร้อมจะแสดงให้คุณป้าหญิงชรารู้ว่า หมอที่ดีๆก็ยังมี แอ๊ปเปิ้ลลูกอื่นบนต้นอาจจะไม่มีหนอนไชอยู่เหมือนลูกในมือก็ได้ครับ Posted by กะหลั่วเป็ด() 2004-03-05 , 21:11:38 , 203.156.23.198 เรื่องนี้ คือเรื่องจริงครับ ตอนนี้หญิงคนดังกล่าว รักษาตัวอยู่ที่ศูนย์ มะเร็งกรุงเทพ จะเข้ารับการผ่าตัด ในวันพฤหัสบดี ที่จะถึงนี้ หมอคนที่เขียนถึงในบทบรรณาธิืการนี้ทำงานเอกชน นอกเวลา อยู่ที่โีรงพยาบาลบนถนนคลองเรียน และหมอคนนี้ก็เปิดคลีนิคอยู่บริเวณหน้า ตลาดฉื่อฉางกลางเมืองหาดใหญ่ Posted by บก.สมิหลาไทมส์() 2004-03-05 , 21:25:38 , 203.154.27.205 IP เดียวกับคนตั้งกระทู้เลยนะครับ คุณ บก. น่าแปลกดีนะครับ โฮะๆๆๆ Posted by เด๋อ() 2004-03-05 , 22:23:48 , 172.29.4.89 ผมคิดว่าประเด็นที่สำคัญในเรื่องนี้มีสองประเด็น หนึ่งคือพฤติกรรมที่เหมาะสมในการสื่อสารและปฏิบัติของแพทย์ และสองคือการเสนอเรื่องที่มีการตรวจสอบแล้วจาก "ทั้งสองฝ่าย" ก่อนที่เราจะสรุป ประเด็นแรกผมด้แสดงความเห็นไปแล้ว จึงขอแสดงความเห็นในประเด็นที่สอง ดังที่ทุกคนน่าจะรู้สึกหลังจากอ่านบทความครั้งแรกคือผู้ป่วยรายนี้ไม่พอใจในการติดต่อระหว่างเธอกับแพทย์คนนั้น และถ้าเราจะมองไปถึงความหมายที่กว้งไปกว่านั้นคือหลายๆคนจะคาดว่าเธอมีความรู้สึกว่าหมอคนแรกไร้จรรยาบรรณ ทีนี้เราเคยมีเรื่องทำนองนี้มาเรื่อยๆในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่างๆ คำถามที่สำคัญคือเรื่องแบบนี้ควรที่จะมีการสืบสวนและฟังความจากทุกฝ่ายหรือไม่ก่อนที่จะมีการ "ตัดสิน" ถ้าเราพูดถึง "จรรยาบรรณ" ของวิชาชีพ ผมคิดว่าทุกคนคงจะทราบน้ำหนักของคำๆนี้ค่อนข้างดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจรรยาบรรณแพทย์ หรือจรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ คุณค่าพื้นฐานบางอย่างที่หลายๆอาชีพยึดถือเช่น "ความจริง" หรือ "ข้อเท็จจริง" เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดอย่างที่คุณผู้ป่วยรู้สึกและเขียนในบทความ หรืออาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งของ "communication failure" เช่น มะเร็งเต้านม "บางชนิด" นั้น ยาเคมีบำบัดในขณะนี้แพงมาก ได้แก่ มะเร็งที่มี HER2 positive และต้องใช้ยา herceptin ราคา course (ปี) ละประมาณล้านกว่าบาท แต่ราคาค่ารักษามะเร็งเต้านมไม่ได้แพงอย่างนั้นทุกราย และ varied ได้เยอะมากตามระยะ ตามความต้องการการรักษา และตามผลการตอบสนอง การสื่อที่ไม่ดีสามารถทำให้ข้อมูลบางส่วนถูกข้อมูลบางชิ้นที่น่าตกใจกลบกลืนไปได้ รวมทั้งข้อแนะนำประการอื่นที่แพทย์ท่านนั้นให้แก่ผู้ป่วย ได้แก่ ทางเลือกที่จะมาที่ รพ.รัฐ และอาจจะได้การรักษาที่ถูกกว่า ในขณะนี้เรายังไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด แต่เราได้ถูกขอให้เชื่อข้อมูลที่มีอยู่ และกำลังสรุปว่าแพทย์ท่านหนึ่งไม่มีจรรยาบรรณโดยยังไม่ได้สอบสวน หากแต่ใช้ channel โดยสื่อมวลชน ผมว่าองค์กรแพทย์ หรือแพทยสภา สามารถจัดคณะกรรมการตรวจสอบที่จะได้รับข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายก่อนที่จะมีใครถูกตัดสิน และโดยที่ทั้งผู้ป่วยและแพทย์ได้รับความยุติธรรมอย่างที่สมควรจะได้ หลังจากนั้นค่อยให้การตีตราหรือตีค่าเกิดขึ้นจะดีกว่าหรือไม่ จะดีกว่าการที่ทำเหมือนปกปิด identity ของแพทย์ท่านนั้นแต่ก็บอกมาเกือบจะทราบอยู่แล้วว่าเป็นใครหรือไม่? เราน่าจะช่วยกันคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรือ่งจรรยาบรรณของอาชีพๆหนึ่ง ซึ่งความเชื่อถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาโรค พอๆกับความแม่นยำและการตรวจสอบข้อมูลอย่างเคร่งครัดก็สำคัญต่อจรรยาบรรณของสถาบันฐานันดรที่สี่ เรามาทำตามตัวบทกฏเกณฑ์กันดีไหมครับ ในการจัดการเรื่องแบบนี้? Posted by Phoenix() 2004-03-05 , 23:06:50 , 172.29.3.234 แย่นะครับ ถูกทุบอยู่ฝ่ายเดียว Posted by เหอๆๆ() 2004-03-06 , 00:09:34 , 172.29.4.73 ผมเป็นคนที่เสื่อมศรัทธาต่อสถาบันหนังสือพิมพ์เป็นอย่างมาก ถึงกับอยากจะพูดว่าข่าวจากหนังสือพิมพ์เชื่อได้เพียง ไม่ถึงร้อยละ 10 และบางฉบับเชื่อไม่ได้เลย เพราะข้อเขียนทั้งหมดแต่งแต้มเติมสีไปหมด เพื่อนผมที่เป็นแพทย์เคยประสบปัญหาเรื่องการให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์เรื่องหนึ่ง แต่นักข่าวมีความสามารถเป็นอย่างยิ่งที่จะเขียนข่าวให้เป็นอีกเรื่อง และทำให้เพื่อนของผมเสียหายเป็นอย่างมาก นักข่าวเขียนเพื่อให้คนสนใจและหนังสือขายได้ ข่าวที่อ้างมานี้ ผมไม่แน่ใจว่าจะเชื่อถือได้หรือไม่ และผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง คงจะมีการเข้าใจผิดกันบางเรื่อง 1.ผู้ป่วยเองไม่เข้าใจเรื่องที่แพทย์อธิบาย 2. ผู้ป่วยเข้าใจแต่นักข่าวเขียนเรื่องให้มากขึ้น 3. นักข่าวไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม่มีการสอบถามก่อน พอเห็นเป็นข่าวแบบนี้เรียกว่าเข้าทางหากินได้สบาย 4. นักข่าวเข้าใจแต่อยากเขียนให้เป็นเรื่อง และอื่นๆ ผมคิดว่าคงจะต้องฟังหูไว้หูและพิจารณาอย่างถ่องแท้เสียก่อน ก่อนที่จะตีประเด็นและบอกว่าแพทย์คนนั้นผิด เรากำลังใช้กระดานข่าวว่าคนข้างเดียว โดยที่ผู้เสียหายไม่มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นจริงหรือไม่? ผมคิดว่าอย่าวิจารณ์เรื่องต่างๆ เพราะความมันหรือความสนุกปาก หรือแสดงความคิดเห็นโดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง และการบอกว่าแพทย์คนนั้นคือใครด้วยวิธีการดังกล่าวก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะผมว่าเป็นการประจานคนอื่นโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่ Posted by เพื่อนแพทย์() 2004-03-06 , 00:33:28 , r87-skaHS1.S.loxinfo คุณ เต๋อ..ไม่ต้องสงสัยเรื่อง ไอพี.เดียวกับคนโพสเรื่อง เพราะผม บก.สมิหลาไทมส์ โพสเอง ใครอยากรู้ข้อมูลอะไรมากกว่านี้ โทรติดต่อได้ตลอดเวลา วิชาญ ช่วยชูใจ 06-7491212 แล้วจะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นจริงอย่างไร และหมอคนนั้นคือใคร และก็เจตนาที่จะเข้ามาโพสในเวปบอร์ดนี้ด้วย Posted by บก.สมิหลาไทมส์(-) 2004-03-06 , 00:48:34 , 203.154.27.205 เรื่องนี้เป็นความจริงแค่ไหน อยากทราบเหมือนกันค่ะ เพราะทุกวันนี้เห็นว่าจริยธรรมแพทย์แย่ลงมากในสายตาของประชาชน อยากทราบว่าผู้อื่นมีความเห็นอย่างไรโดยเฉพาะการระบุตัวตนของอาจารย์แพทย์ท่านนี้ หากเจ้าของกระทู้รู้ข้อเท็จจริง"ที่เป็นจริง"ทั้งหมด โปรดช่วยกรุณาให้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในกระทู้นี้ทำให้เกิดความเสียหายกับทั้งตัวบุคคลและสถาบัน เป็นไปได้ไหมที่.... - แพทย์ท่านนั้นอาจจะมีข้อจำกัด เช่น การผ่าตัดในแต่ละสาขาวิชาโดยที่ผู้ป่วยอาจไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง - แพทย์ท่านนั้นอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหลายด้านแต่เนื่องจากกฎเกณฑ์บางอย่างในการปฏิบัติงานด้านวิชาชีพศัลยกรรมอาจไม่อนุญาตให้แพทย์ท่านนั้นปฏิบัติงานในรพ.ของรัฐตามธรรมนูญองค์กรแพทย์ - แพทย์ท่านนั้นอาจจะไม่ได้เรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อค่าฝีมือ แต่รพ.เอกชนเองต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงในหลายๆด้าน ซึ่งจริงๆแล้วค่าใช้จ่ายที่กล่าวมาถูกกว่าค่าใช้จ่ายในรพ.เอกชนที่กรุงเทพฯมาก - แพทย์ท่านนั้นอาจอธิบายข้อมูลทุกอย่างที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องทราบหรืออยากทราบหรือควรทราบ แต่ไม่ได้ยกมาประกอบในบทความนี้ ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ใช่ว่าเข้าข้างศัลยแพทย์ แต่เพียงอยากรู้ว่าแพทย์ผู้นี้ผิดจริยธรรมจริงเหมือนที่หนังสือพิมพ์และผู้เขียนกล่าวหาหรือไม่ เพื่อจะได้หยิบยกเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีในการปฏิบัติวิชาชีพเวชกรรมให้ถูกต้องตามจริยธรรมอย่างที่สังคมต้องการ และท้ายนี้ทั้งที่เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์มาแล้ว ทำไมถึงมาโพสต์วันนี้? Posted by ศิษย์แพทย์คนหนึ่ง() 2004-03-06 , 01:03:25 , 203.113.76.72 สำหรับเรื่องเจตนาที่ทำเรื่องนี้ลงในที่สาธารณะ ถ้าไม่รังเกียจขอให้แถลงมาตรงนี้เลยดีไหมครับ ไหนๆก็สาธารณะไปแล้ว คำว่า "เรื่องจริง" นั้นมีมาตรฐานการสืบสวนและตรวจสอบอย่างไรบ้างครับ? อีกประการหนึ่งคือไม่ทราบว่าคุณ บก. ได้สัมภาษณ์เพื่อรับฟังเรื่องจากปากของแพทย์ท่านนี้แล้วหรือยังครับ? หรือว่าได้ข้อมูลฝายเดียว? Posted by Phoenix() 2004-03-06 , 01:08:39 , 172.29.3.242 เห็นด้วยกับคุณ Phoenix ค่ะ ท่านบก.ควรมาแจ้งที่มาของข้อมูลให้ชัดเจนค่ะ Posted by ศิษย์แพทย์คนหนึ่ง() 2004-03-06 , 01:16:22 , 203.113.76.72 นั่นสิครับอยากทราบข้อมูลที่ได้มาเป็นอย่างไร และแหล่งข้อมูลเป็นใคร และวิธีการของข้อมูลเป็นอย่างไร อย่าให้ผมโทรไปถามข้อมูล เจตนา หรือว่าเป็นใครเองเลยครับ เพราะว่าโพสตรงนี้ก็จะทำให้คนหลายคนได้ข้อมูลในคราวเดียวไม่ต้องโทรไปถามหลายครั้ง อย่างนี้จะดีไหมครับ ตอนนี้ก็ขาดแต่เจตนาของคุณที่โพสที่นี่เท่านั้นเพราะว่าเป็นใครผมพอจะเดาได้ครับ ข้อมูลนี่ก็ยังบอกไม่ได้ว่าน่าเชื่อหรือไม่เพราะว่าไม่ทราบวิธีการได้มาครับ Posted by เหอๆๆ() 2004-03-06 , 01:43:09 , 172.29.4.73 เรื่องจะจริงเท็จอย่างไร คงจะต้องติดตามต่อไปเรื่อย ๆ .... แต่สิ่งที่ประชาชนคนจนๆ ทุกคนอยากรู้ก็คือ... 1.อาชีพแพทย์คือผู้ที่มีหน้าที่ช่วยรักษาผู้เจ็บป่วยใช่หรือไม่ 2.จรรยาบรรณและจริยธรรมของอาชีพแพทย์มีว่าอย่างไรบ้าง (ผู้เป็นแพทย์ทุกท่านคงจะทราบดีที่สุด...) เรื่องแปลกแต่จริง... อยู่หาดใหญ่มาหลายสิบปี ยังไม่เคยได้ยินใครพูดเลยว่า ไปรักษากับหมอ...สิ เก่ง แถมค่ารักษา+ ค่ายา ถูกกว่าหมออื่น ๆ ตั้งเยอะ.... ไม่ทราบว่าหาดใหญ่มีหมอที่เก่ง ๆ และทำการรักษาเพื่อคนที่เจ็บป่วยจริง ๆ บ้างมั๊ย ช่วยแจ้งให้ทราบบ้างซิ เก่งทางด้านไหนก็ได้... เก่งและถูก ( ถ้าใครที่คิดจะตอบว่า ไป รพ.ของรัฐ สิ ไม่ต้องตอบนะครับ ขอบคุณมาก ) .... ทุกอาชีพทุกธุรกิจ เราสามารถหาคำตอบได้ว่า ที่นั่น...ที่นี่... ราคาถูก และคุณภาพดี จริงมั๊ย... แล้วคนที่อยู่ในอาชีพแพทย์ ไม่มีความรู้สึกแปลกบ้างเลยหรือว่าทำไมอาชีพของเราถึงไม่มีคำตอบดังกล่าวเหมือนอาชีพอื่น ๆ หรือเป็นเพราะ อาชีพแพทย์เป็นอาชีพผูกขาด คุณไม่พอใจก็ไม่ต้องมารักษา คุณไม่มีเงินก็ไปรักษาวิธีอื่นที่ถูกกว่า... 3.จุดประสงค์ที่สำคัญของการเปิดคลินิค คืออะไร 1.การตั้งหน้าตั้งตาโกยเงิน 2.การรักษาผู้ป่วยนอกเวลาราชการ 3. ถูกต้องที่สุดทั้ง 2 ข้อเลยค่ะ... 4.รัฐบาลออกโปรโมชั่นเอื้ออาทรมาหลายอาชีพแล้ว แต่คงจะลืมไปว่า นอกจากระบบ 30 บาท แล้ว ควรจะเร่งเปิดโครงการแพทย์เอื้ออาทร น่าจะดีที่สุด แพทย์ 1 คน 1 ตำบล เรียน ฟรี ตลอดหลักสูตร ไม่รู้ว่าชาวแพทย์ทั้งหลายจะว่าอย่างไรบ้าง...(คุณ Phoenix จะว่าอย่างไรบ้าง ตอบแบบชาวบ้านนะ ...วิชาการมากเกินตามไม่ค่อยทัน) Posted by คนหาดใหญ่เหมือนกัน() 2004-03-06 , 02:33:18 , 202.183.151.120 ขออณุญาตตอบครับ 1.อาชีพแพทย์คือผู้ที่มีหน้าที่ช่วยรักษาผู้เจ็บป่วยใช่หรือไม่ แน่นอนครับ ผมเห็นแพทย์ในหาดใหญ่ก็ทำหน้าที่นั้นกันอยู่นะครับ 2.จรรยาบรรณและจริยธรรมของอาชีพแพทย์มีว่าอย่างไรบ้าง (ผู้เป็นแพทย์ทุกท่านคงจะทราบดีที่สุด...) เรื่องแปลกแต่จริง... อยู่หาดใหญ่มาหลายสิบปี ยังไม่เคยได้ยินใครพูดเลยว่า ไปรักษากับหมอ...สิ เก่ง แถมค่ารักษา+ ค่ายา ถูกกว่าหมออื่น ๆ ตั้งเยอะ.... ไม่ทราบว่าหาดใหญ่มีหมอที่เก่ง ๆ และทำการรักษาเพื่อคนที่เจ็บป่วยจริง ๆ บ้างมั๊ย ช่วยแจ้งให้ทราบบ้างซิ เก่งทางด้านไหนก็ได้... เก่งและถูก ( ถ้าใครที่คิดจะตอบว่า ไป รพ.ของรัฐ สิ ไม่ต้องตอบนะครับ ขอบคุณมาก ) .... ทุกอาชีพทุกธุรกิจ เราสามารถหาคำตอบได้ว่า ที่นั่น...ที่นี่... ราคาถูก และคุณภาพดี จริงมั๊ย... แล้วคนที่อยู่ในอาชีพแพทย์ ไม่มีความรู้สึกแปลกบ้างเลยหรือว่าทำไมอาชีพของเราถึงไม่มีคำตอบดังกล่าวเหมือนอาชีพอื่น ๆ หรือเป็นเพราะ อาชีพแพทย์เป็นอาชีพผูกขาด คุณไม่พอใจก็ไม่ต้องมารักษา คุณไม่มีเงินก็ไปรักษาวิธีอื่นที่ถูกกว่า... ตรงข้อนี่มีหลายประเด็นมากเลยครับ เรื่องอยู่หาดใหญ่มาหลายสิบปี ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการได้ยินใครพูดเรื่องหมอเก่ง ค่ารักษาถูกนี่ครับ โดยเฉพาะหากคุณไม่ได้ป่วยเอง มีญาติป่วย หรือมีความรู้เพียงพอที่จะตัดสินได้ว่าใครเก่ง และใครไม่เก่ง ขนาดหมอด้วยกันเองหลายครั้งก็ไม่สามารถบอกได้อย่างเต็มที่ว่าใครเก่งที่สุด (หากจะรวมเอาเรื่องค่ารักษาถูกด้วยนี่ยิ่งแล้วใหญ่ครับ บอกยากมาก เก่ง+ถูก) มีจรรยาบรรณเรื่องของการโฆษณาหน้าร้านของแพทย์ ก็ไม่ให้ขึ้นป้ายนะครับว่ารักษานี้นั้นนู้นกี่บาท ดังนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอนครับว่าคนทั่วไปจะรู้ว่าคลินิคไหนถูกกว่าคลินิคไหน แต่ผมว่าถ้าหากคุณอยากรู้ว่าหมอที่ไหนรักษาดี ถูก ลองไปตระเวนถามคลินิคทุกคลินิคในหาดใหญ่ดูนะครับ ผมว่าน่าจะได้คำตอบว่า รพ.รัฐแน่นอนครับ 3.จุดประสงค์ที่สำคัญของการเปิดคลินิค คืออะไร 1.การตั้งหน้าตั้งตาโกยเงิน 2.การรักษาผู้ป่วยนอกเวลาราชการ 3. ถูกต้องที่สุดทั้ง 2 ข้อเลยค่ะ... หาเงินเลี้ยงครอบครัวสิครับผมว่าไม่เห็นจะผิดตรงไหน หรือว่าจะให้แพทย์ไปขายเต้าฮวยหลังเวลาราชการ ผมก็เห็นว่าไม่ค่อยสู้จะเหมาะเท่าไรนะครับ 4.รัฐบาลออกโปรโมชั่นเอื้ออาทรมาหลายอาชีพแล้ว แต่คงจะลืมไปว่า นอกจากระบบ 30 บาท แล้ว ควรจะเร่งเปิดโครงการแพทย์เอื้ออาทร น่าจะดีที่สุด แพทย์ 1 คน 1 ตำบล เรียน ฟรี ตลอดหลักสูตร ไม่รู้ว่าชาวแพทย์ทั้งหลายจะว่าอย่างไรบ้าง... เรื่องนี้เป็นอีกประเด็นที่ใหญ่มากนะครับ แพทย์เอื้ออาทรน่าจะดีครับ ถ้ามันสามารถแก้ปัญหาได้จริง แต่มันไม่น่านะ 1 ตำบลเรียนฟรีตลอดหลักสูตร ดีครับ จบแล้วกลับไปอยู่ตำบลนั้นตลอดชีวิตใช่มั้ยครับ ห้ามย้ายไปไหนด้วยรึเปล่าครับ หรือว่าห้ามออกนอกพื้นที่ตำบลนั้นเกิน 6 ชม จะได้แก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด หรือว่าจะบอกว่าต้องใช้ทุนที่ตำบลนั้น 3-5 ปี หลังจากนั้นจะไปไหนก็ได้ โอยประเด็นมากเหลือเกิน เก็บไม่หมดทุกประเด็น รอคุณ pheonix ดีกว่า น่าจะเพิ่มอีกหลายประเด็น Posted by เหอๆๆ() 2004-03-06 , 04:20:45 , 172.29.4.73 คุณเหอๆตอบได้ดีมากไปหลายอย่างแล้ว ผมขอเพิ่มในประเด็นจริยธรรมอีกสักนิดก็แล้วกัน จริยธรรมหรือจริยศาสตร์มีหลักใหญ่สี่หัวข้อคือ ๑) การเคารพปัจเจกบุคคล ความเป็นคนที่มีความสามารถตัดสินใจและดำเนินชีวิตอย่างที่เห็นชอบแล้วของผู้ป่วย ๒) การคำนึงถึงโทษหรือผลเสียอันอาจจะเกิดแก่ผู้ป่วย ๓) การคำนึงถึงคุณประโยชน์อันอาจจะเกิดแก่ผู้ป่วย ๔) ความยุติธรรม ทีนี้ "จรรยาบรรณ" จะเป็นกฏกติกามารยาทของวิชาชีพ อย่างที่คุณเหอๆว่ามาบางอย่างแล้ว แพทย์จะไม่โฆษณาสรรพคุณของตนเอง อาจจะให้ข้อมูลแค่ว่าเขาทำอะไร รักษาอะไรได้บ้าง แตจะไม่มีการทับถมหรือยกตนข่มท่านว่าใครดีที่สุด ใครไม่ดีที่สุด ใครตัดราคามีโปรโมชัน หรือขณะนี้ตัดไฝแถมดูดหนองฟรี ฯลฯ คล้ายๆกับของพระสงฆ์ที่จะไม่มี "อวดวิเศษ" ว่าอาตมาสำเร็จอรหันต์แล้ว อาตมามีฤทธิ์บอกหวยใบ้หวยเหาะเหินเดินอากาศได้ (แม้ว่าอาจจะทำได้จริงๆ) หรือหนังสือพิมพ์ (ฐานันดรที่สี่) จะสามารถมีรากฐานตามสี่ข้อของจริยศาสตร์ที่ผมว่าไว้ได้เลยคือเคารพปัจเจก ไม่จงใจทำอะไรที่เกิดผลร้ายโดยไม่มีการตรวจสอบข้อมูล และให้ความยุติธรรมอย่างเต็มที่เสียก่อน เพราะอำนาจของสื่อมวลชนนั้นมากมายนัก อย่างในหนังเรื่อง spiderman นั่นแหละครับ The Greater the power, the higher responsibility" เนื่องจากภาวะที่ "ห้าม" ไม่ให้มีการโฆษณาอวดวิเศษไปนอกเหนือจากบอกว่าทำอะไรได้บ้าง คุณคนหาดใหญ๋คงจะมีปัญหาแหละครับที่จะหาข้อมูล "โดยตรง" ที่มีคลินิกหรือ รพ.ประกาศอะไรทำนองนั้นออกมา พูดยังงั้นแล้ว แต่เรา "สามารถ" หาข้อมูลทางอ้อมได้หลายวิธีเช่น ๑) ถามเพื่อนฝูงญาติมิตร เคยรักษากับใครที่ไหนดีไม่ดีอย่างไร ผมว่าวิธีนี้ใช้ได้ระดับหนึ่งทีเดียว แต่ "ความชอบ" ของคนต่างกัน เพื่อนเรา ญาติเราอาจจะชอบไม่เหมือนเรา ต้องถามให้ดีว่าที่ชอบเพราะอะไร ชอบเพราะแต่งร้านดี ชอบเพราะพยาบาลสวยก็อาจจะไปคนละเรื่อง ๒) รพ.ของรัฐ ได้รับ subsidization (อืม...คือเงินที่รัฐบาลจ่ายสำรองเพื่อลดราคาต้นทุน และทำให้รพ. สามารถคิดเงินในราคาที่ย่อมเยาลงมาได้) จากรัฐ เพราะฉะนั้นโอกาสสูงมากหากคำนึงถึง "ค่าใช้จ่าย" รพ.ของรัฐจะถูกกว่า ตรงนี้ไม่เข้าใจว่าทำห้ามตอบรพ.ของรัฐ หากช่วยกรุณาขยายความเราอาจจะเข้าใจประเด็นของคุณคนหาดใหญ่ได้ดีขึ้น) ๓) ลองไปดูเอง อย่างที่เป็นหลักพื้นฐานของแพทย์คือ ผู้ป่วยมี autonomy นั่นคือความเป็นอิสระในการตัดสินใจ เพราะฉะนั้นคนไข้สามารถเดินเข้าไปถามรายละเอียดต่างๆก่อน แล้วก็ตัดสินใจว่าไม่เอาหละคลินิกนี้ไม่เหมาะกับฉัน เพราะฉะนั้นถามใครเรื่องความชอบว่าดีไม่ดีก็ไม่สู้ลองเองครับ เสียเวลาก็เหมือนกับที่เราจะปลูกบ้าน ซื้อเสื้อ ซื้อรถนั่นแหละ เรายังหาข้อมูลเป็นเดือนๆปีๆ ทำไมจะหาหมอที่เหมาะกับเราทั้งทีไม่ลงทุนให้มากกว่า ไม่เสียตังค์ หรืออาจจะเสียแค่ลองชิมลาง ไปตรวจร่างกายประจำปี ดูว่าหมอคนนี้มีอัธยาศัยอย่างไร charge เท่าไหร่ เท่าดวงดาวหรือแค่หลังคามุงจาก เราก็จะได้ข้อมูลที่เป็น first hand จริ_ๆ ไม่ต้องเชื่อโฆษณาของหมอ หรือคำเล่าลือจากเพื่อน เปิดคลินิกเพราะอะไร? ถ้าหมอมีเวลาว่างตอนเย็นแล้ว เขาก็อาจจะอยากจะใช้เวลาว่างอันนั้นทำประโยชน์ที่เห็นสมควรแก่ตนเองและครอบครัว เช่น ไป aerobic ไปสวนสาธารณะ ทำอะไรก็ได้ที่ถูกศีลธรรมและถูกกฏหมาย เปิดคลินิกก็เป็นประโยชน์ต่อหลายฝ่าย ต่อหมอ ครอบครัวหมอ และคนไข้มันก็แค่เป็นการใช้เวลาในชีวิตประจำวันอีก 2-3 ชม.หลังงานเลิกแหละครับ ไม่ทราบตอบแล้วถูกใจรึเปล่า เรื่องเปิด รพ.แพทย์หรือขยายกำลังผลิตแพทย์นี่ผมทุกข์ทรมานในการวิเคราะห์มากพอสมควร อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ "ผลิตเพิ่ม" มันจะไปเจอตอตรง "คุณภาพ" เสมอ เรื่องนี้ผมว่าต้องแก้ที่ระบบ ต้องให้ระบบดีก่อน ส่วนอื่นๆจึงแก้ได้ ไม่งั้นมันจะเป็นการแก้ short-term และผลเสียมันจะยิ่งฝังรากลึก โผล่มาอีกทีตอก็ผุดทะลุพื้นบ้านมาแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ต้องย้ายบ้าน ปัญาหาใหญ่คือเรื่องการกระจายของแพทย์ และการดึงให้แพทย์คงการกระจายนั้นไว้ พวกเราคงจะทราบว่า incentive หรือผลดีในการเป็นข้าราชการนั้นถูก ripped ออกไป โดยรัฐบาล ขณะที่ผลดีในการออกนอกระบบราชการก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ ภาระงานต่างๆก็จะเริ่มแสดงน้ำหนักกดคนในระบบมากขึ้น ระบบประกันคุณภาพที่เน้นเรื่อง paperwork นั้นไม่ได้ช่วยอะไรมากนักกับคุณภาพ ตาราบเท่าที่ "วัฒนธรรม" คุณภาพยังไม่มีการปลูกฝังให้ได้ผล วัฒนธรรมคุณภาพในที่นี้ไม่ได้หม่ยถึง "process" ว่า ดูเหมือนเราทำอะไรมีคุณภาพ แต่เป็นตัว "คุณภาพ" จริงๆ ยกตัวอย่าง Communication Skill ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของวิชาชีพนี้ประการหนึ่งนั้น ไม่มีการสอนอย่างเป็นทางการ และใช้น้อยมากในวัฒนธรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน เคยอ่าน positive criticism หรือ "ติเพื่อก่อ" สักกี่มากน้อยในกระดานกระทู้แห่งนี้? พอปล่อยเป็นอิสระไม่มีใครรู้ว่าใครพูด ลักษณะของภาษากลายเป็นอย่างไร มีการย้อนยุคไปหาพ่อขุนรามฯมากน้อยแค่ไหน และการโจมตีตัวบุคคลเปนสัดส่วนสักกี่เปอร์เซนต์ของเนื้อหาใจความทั้งหมด? คำถามเรื่องผลิตแพทย์เพิ่มนั้น โดยส่วนตัวยังไม่คิดว่าสำคัญเท่ากับคิดปรับระบบสาธารณสุขใหม่ และปรับหลักสูตรเน้นคุณภาพของบัณฑิตแพทย์ให้เรียบร้อยซะก่อน คิดให้จริงจังเราจะได้ทราบว่าด้วยทรัพยากรอาจารย์แพทย์ คนไข้ในรพ.โรงเรียนแพทย์ และบุคลากรเราเต็มที่ที่จะสอน จะแสดง จะผลิตบัณฑิตนั้นได้เต็มที่กี่คน จะสร้างอะไรก็ต้องสร้าง infrastructure นี้ก่อน ผลิตแพทย์ไม่ใช่ขยายโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือ ที่สร้างโรงงานเพิ่ม มีช่าง ก็ OK แต่สอนคนนั้นสำคัญเหมือนกับหาครูอนุบาล ครูประถมมัธยมแหละครับ ถ้าเราได้แต่คนที่คะแนนต่ำสุดในการสอบ Entrance เขาก็สอนลูกหลานเราได้แค่นั้น ถ้าเราได้แต่สร้างตึก แต่บีบอาจารย์แพทย์ออก ให้ผลิตแพทย์เพิ่ม ก็จะได้แต่ผลงานที่ถูกจำกัดด้วยปัจจัยต่างๆเหล่านี้ คำตอบที่ผมให้ อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจก็ขออภัยด้วย ยินดีชี้แจงเพิ่มเติมตามสติปัญญาของผม ความเห็นผมแถวนี้ก็ไม่ได้เป็นที่ยอมรับเท่าไหร่หรอกนะครับ ต้องขอออกตัวไว้ก่อน Posted by Phoenix() 2004-03-06 , 10:09:42 , 172.29.3.218 ผมอยากให้หมอในเมืองไทยลาออกให้หมอ แล้วให้พวกความคิดอย่างคุณคนหาดใหญ่เหมือนกันมาเรียนหมอจริงๆ อยากให้รู้ซึ้งซะบ้าง... ขอโทษนะครับ ผมอยากจะบอกว่าคุณเป็นคนที่ใจแคบ ไม่มีความยุติธรรม มองโลกด้านเดียว และก็เห็นแก่ตัว... ถ้าเปลี่ยนจากบอร์ดนี้เป็นที่อื่นละก็....ผมอยากยืมภาษาของพี่ บ.บู๋ แห่งสยามกีฬามาด่าคุณจริงๆ Posted by ชอเอี้ยเอ้ย() 2004-03-06 , 10:13:53 , 172.29.4.186 ผมขอแสดงความคิดเห็นอีกมุมมองหนึ่งซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ เพราะผมก็มีสิทธิ์ที่จะคิดว่าคนหาดใหญ่อาจไม่ชอบแพทย์ท่านนั้น เคยเสียผลประโยชน์ หรือไม่พอใจเรื่องบางเรื่องพยายามจะทำให้แพทย์ท่านนั้นเสื่อมเสีย โดยเอาประเด็นที่อาจจะไม่มีส่วนของความเป็นจริง มาทำให้แพทย์ท่านนั้นเสียหาย เพราะการแสดงออกในรูปแบบนั้นบ่งบอกให้ผมชวนคิดอีกนัยหนึ่งได้เช่นกัน Posted by คนสงขลา() 2004-03-06 , 11:12:36 , 172.29.2.82 ถูกแล้วครับ ขณะนี้เราได้ฟังเรื่องแค่มุมมองเดียว และผ่านทาง media โดยภาษาที่ค่อนข้างจะ sensationalize ไม่ใช่ในลักษณะ "รายงาน" ข่าว ผมคิดว่าเราหลายคนในที่นี้กำลังรอคำตอบที่ว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ผ่านการตรวจสอบอย่างไร และจากการให้การกี่ฝ่าย เพื่อที่เราจะนำมาประกอบการตัดสินความน่าเชื่อถือ เรื่องจรรยาบรรณเป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้นความยุติธรรมควรจะเป็นวิธีการที่ทุกฝ่ายยึดมั่นก่อนจะลงความเห็นหรือตัดสิน Posted by Phoenix() 2004-03-06 , 11:55:19 , 172.29.3.218 ผมอยู่ไกลหน่อย "นครสวรรค์" แต่เข้ามาอ่านบ่อย จบ ปวส.ช่างยนต์ กระทู้นี้มีแต่คนพูดถึง"จรรยาแพทย์" ผมขอถามถึง"จรรยานักหนังสือพิมพ์"บ้าง ข้อมูลนั้นคุณหาจากทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่ ประเภทใช้ชื่อย่อเพ่อป้องกันการถูกฟ้อง ลงข่าวเอามันไว้ก่อน พอถูกฟ้องก็ยอมความลงขอโทษตัวนิดเดียว อายกันบ้างไหม Posted by ผ่านมา() 2004-03-06 , 13:15:03 , 210.120.128.117 หนังสือพิมพ์ ท. ชอบเขียนข่าวเท็จจากเรื่องหนึ่งให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่แตกต่างจากหนังสือพิมพ์ ข ที่ชอบรับเงินเขียนข่าว หรือว่าหนังสือพิมพ์ ผ. ที่ขอนอนกับดารา และแบ่งปันให้กับหนังสือพิมพ์ ด พวกนักหนังสือพิมพ์เป็นคนที่คบไม่ได้ และไม่ควรจะย่างกรายเข้าใกล้ชิดเพราะไม่เคยเห็นนักหนังสือพิมพ์ที่มีจรรยาบรรณทางวิชาชีพเลย(เกือบร้อยเปอร์เซ้นต์) ไม่รู้ว่ามีการเรียนจริยธรรมและมรรยาททางวิชาชีพของหนังสือพิมพ์หรือไม่ Posted by อ() 2004-03-06 , 13:26:07 , 203.113.76.74 เรื่องจริงหรือเปล่าก้อไม่รู้แล้วเอามาพูด Posted by mickeymouse() 2004-03-06 , 13:34:10 , 172.29.3.222 คุณ บก ทำไมเงียบไปเลยละครับ Posted by K() 2004-03-06 , 14:36:56 , 172.29.3.220 มีมาโพสไว้ตรงนี้ด้วย http://www.hatyaitoday.com/cgi-bin/webboard/generate.cgi?content=5610&board=board_1 ยังไม่ค่อยเข้าใจเจตนาและจุดประสงค์ของคนที่.โพสกระท้สักเท่าไร หรือว่า ....... ต้องการสร้างข่าวขึ้นมาเพื่อโปรโมตหนังสือพิมพ์ตัวเองหรือเปล่า ถาม จากเพื่อนๆ มีคนบอกว่า นสพ ฉบับนี้ มี economic problem ด้วยละ Posted by K() 2004-03-06 , 14:44:32 , 172.29.3.220 ไม่อยากทราบเลยว่าหมอผู้นั้นเป็นใคร เพราะจะไปเข้าทางนักข่าวที่อยากขายข่าวและอยากให้ทุกคนเป็นกลางทั้งคู่ เพราะทั้งแพทย์และนักข่าวนั้นต้องมี จรรยาบรรณทั้งคู่ ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนั่นคือเรากำลังทำให้มีเหยื่อของข้อมูลที่ไม่ชัดเจนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งราย คือแพทย์คนนี้ ที่ไม่มีโอกาสเลยสักนิดที่จะแก้ตัวไม่ว่าจะออกมาเปิดเผยตัวหรือไม่ก็ตายทั้งเป็นอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นเรื่องไม่จริง บาดแผลทางจิตใจนี้คงใหญ่หลวงนัก และคงไม่มีใครรับผิดชอบ ถ้าวิเคราะห์ในเรื่องทั้งหมดเท่าที่มีมูล หมอคนดังกล่าวคงพยายามจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตนเองอยากบอกแก่คนไข้ โดยที่ไม่ได้ประเมินว่าคนไข้อยากรับรู้แค่ไหน มีpast experienceเกี่ยวกับโรคมาอย่างไร มีอารมณ์อะไรเกิดขึ้นในขณะมาพบหมอและในขณะที่ฟังหมอเล่าเรื่องของหมอ นอกจากนี้ผู้ป่วย มี personnal meaningของมะเร็งมาอย่างไร เมื่อหมอไม่ได้ประเมินการพูดของหมอไม่ว่าข้อมูลอะไรก็ตามจะไปลงในช่องที่คนไข้คาดหวังอยากได้ยิน แล้วส่วนที่ไม่คาดหวังจะได้ยินหล่ะก็ทำให้เกิดอารมณ์ และเมื่ออามณ์มาก็จะเลือกรับperceptionแต่บางส่วน เรื่องที่เล่าให้คนอื่นฟังหลังจากนี้ก็เกิดจากการรับรู้ของคนไข้นั่นเอง แล้วอะไรคือเรื่องจริงหล่ะ คนที่สามมาฟังเรื่องไม่ว่าจากคนไข้หรือหมอก็ผ่านขบวนการรับรู้เช่นกันแล้วมาเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่สามสี่ห้าหก...... อีกอย่างหมอคงต้องทราบว่าถ้าคนไข้คาดหวังกับการมาพบเรามากเท่าไรเวลาผิดหวังก็จะผิดหวังได้มากกว่าที่คาดหวังนัก Posted by pisces() 2004-03-06 , 15:00:01 , 172.29.3.222 เหตุผลสำคัญที่ผม นำเรื่องราวนี้มาขึ้นโพสในเวปบอร์ดแห่งนี้ ก็เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่มีเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง และไม่มีเจตนา จะโจมตีหรือให้่ร้า้ยนายแพทย์ คนที่กล่าวถึง เพราะถ้ามีเบื้องหน้า เบื้องหลัง หรือต้องการโจมตีนายแพทย์ คนนั้น ทำไมผมต้องเปิดตัวออกมา โดยประกาศชัดเจนทั้งชื่อจริง นามสกุลจริง และเบอร์โทรศัพท์ สามารถตรวจาสอบและติดต่อผมได้ตลอด ถ้าผมต้องการเล่นสกปรก หรือโจมตีให้ร้ายจริงๆ เรื่องอะไร ผมจะเปิดเผยตัวเองละ ที่ผมเปิดเผยตัวเอง ก็เพื่อยืนยันว่าเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องจริง ถ้าถามว่าทำไมผมไม่เปิืดเผยชื่อหมอคนนั้นออกมาเลยละ ผมบอกได้เลยว่ายังไม่ถึงเวลา แต่ถึงผมไม่เปิดเผย ผมก็เชื่อว่า นักเรียนแพทย์ และแพทย์หลายคน ก็คงจะเดาออกแล้วว่า นายแพทย์ คนที่ผมกล่าวถึงคือใคร ยิ่งไปกว่านั้น ผมยืนยันได้ว่าผมเป็นนักข่าวอาชีพ ผมวิชาญ ช่วยชูใจ จบปริญญาตรี จาก คณะวิทยาการจัดการ ม.สงขลานครินทร์หาดใหญ่ รหัส 3336066 เรียนปริญญาโท ที่คณะเดิมรุ่นที่ 10 รหัส 4437851 ผมเป็นนักข่าวที่เดอะเนชั่นมานาน 3 ปี เป็นผู้บริหารในสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี.มานาน 7 ปี ปัจจุบันลาออกมาทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น อีก 3 ปี ไม่จำเป็นอะไรเลยที่ผมจะต้องไปกล่าวร้ายป้ายสี นายแพทย์ที่ผมกล่าวถึง ทุกคนลองตรวจสอบประวัติผมได้ เพราะผมเชื่อมั่นว่า แพทย์และพยาบาล ที่เรียน มอ.และขึ้นต้นด้วยรหัส 33 คงรู็จักผมบ้างไม่มากก็น้อย เมื่อตอนเช้ามีแพทย์ศัลยกรรมโทรศัพท์มาคุยกับ ผมก็อธิบายไปอย่างนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าเขาก็เข้าใจ ถ้าหากใครไม่เข้าใจ หรือสงสัยอะไร ตรงไหน พบกับผมโดยตรงก็ได้ ที่สำนักงาน หนังสือพิมพ์ สมิหลาไทมส์ 41 ถถนคลองเรียน 2 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันจันทร์ นี้เป็นต้นไป Posted by บก.สมิหลาไทมส์(-) 2004-03-06 , 15:51:26 , 203.154.27.237 คุณวิชาญครับ ผมคิดว่านักศึกษาแพทย์และแพทย์ส่วนใหญ่จะเดาได้เรียบร้อยแล้วว่าคุณกำลังพูดถึงแพทย์ท่านไหน ถ้าการทำอย่างนั้นมีผลต่อความน่าเชื่อถือของบุคคลๆหนึ่งในสังคม โดยยังมิได้มีการสอบสวนให้เรียบร้อยก่อน ผมอยากจะเรียนถามคุณวิชาญว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือไม่? กฏหมายเรานั้น persume innocent until proved หรือไม่? การราหน้าใครในที่สาธารณะนั้น ความเสียหายได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว ผมยังสงสัยว่าทำไมคุณวิชาญถึงยืนยันว่าจะชี้แจงเหตุผลเป็นการส่วนตัวเท่านั้นล่ะครับ? ในเมื่อสื่อต่างๆในการรายงานผลทางลบอยู่ในที่สาธารณะเรียบร้อย ไม่ให้เหตุผลและวิธีการสืบสวนสอบสวนมาอยู่ในที่เดียวกัน ปัญญาชนทั้งหลายจะได้สามารถวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือได้ ส่วนใครเป็นคนพูดนั้นผมว่าไม่เกี่ยวเท่าไหร่เท่ากัน "หลักฐาน" และการ "สืบพยาน" โดยขบวนการยุติธรรมใช่ไหมครับ? ผมอยากจะเรียนถามคุณวิชาญว่าการลงหนังสือพิมพ์ บอกเป็นนัยอย่างพอเพียงถึงบุคคลที่สามว่ามีความผิดจรรยาบรรณ โดยยังมิได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมนั้น เป็นการถูกต้องตามหลักจรรยาบรรณฐานันดรที่สี่หรือไม่? ส่วนประวัติความเป็นมาของคุณวิชาญนั้นก็ขอบพระคุณที่ให้มาครับ แต่ไม่ได้ช่วย address คำถามที่หลายต่อหลายคนถามมาแล้ว คือคำถามข้างบน กับที่ว่ารายละเอียดที่คุณวิชาญสรุปว่าเป็นเรื่องจริงนี้นั้นมีแหล่งที่มาจากทั้งสองฝ่ายหรือไม่ ก่อนที่คุณวิชาญจะสรุปและลงตีพิมพ์ให้แก่สาธารณชนทราบ Posted by Phoenix() 2004-03-06 , 16:13:14 , 172.29.3.248 คุณวิชาญ คุณกำลังจะทำอะไรเนี่ย งง Posted by เด็กหาดใหญ่() 2004-03-06 , 16:55:12 , 203.113.76.71 เรื่องพฤติกรรมของนายแพทย์คนดังกล่าว ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ ก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นบทความที่บอกเล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับทั้งคำถาม ให้ทุกๆ คนที่ได้อ่านบทความหรือเรื่องเล่านี้ คิดกันเอาเองว่า นายแพทย์คนนี้มีจรรยาบรรณเพียงพอหรือไม่ ผมไม่ได้ตัดสิน หรือพิพากษาเลยว่า เขาไร้จรรยาบรรณ แต่ผมตั้งคำถามให้ทุกๆ คนได้ตอบ เมื่อประมวลเหตุการณ์จากเรื่องเล่าทั้งหมดที่ผมได้เล่าไป ด้านบน โปรดอ่านโดยพิจารณากันอีกครั้ง ผมถือว่าผมตั้งใจ และผมมั่นใจพอ ที่ผมเข้ามาโพส ใน เวปไซค์และในเวปบอร์ดนี้ เพราะคา่ดเดาได้ไม่ยาก ว่าคนอ่านเกือบทั้งหมด ก็เป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงของคณะแพทย์ศาสตร์นั่นแหละ และผมก็เดาได้ไม่ยาก ว่าเมื่อมีการโต้เถียงกันขึ้นในเวปบอร์ดแห่งนี้ ผลสรุปจะออกมาเช่นไร ******หมายเหตุ ยังมีเรื่องเล่าต่อ..... คุณรู้มั้ย..หลังจากที่หญิงชราคนดังกล่าว ได้ตัดสินใจไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ พร้อมกับให้ลูกชายโทรศัพท์ ไปที่หมายเลข 01-8.........ซึ่งเป็นหมายเลขของหมอคนดังกล่าว เพื่อจะขอผลการตรวจ แมมโมแกรม จากหมอ เพื่อนำไปให้หมอที่กรุงเทพ ใช้ประกอบการวินิจฉัยโรค ตอนแรกที่โทรเข้าไป นายแพทย์ คนดังกล่าวบอกว่าไม่ว่าง เพราะติดสอนนักเรียนอยู่ เมื่อลูกชายของหญิงคนดังกล่าว ถามกลับไปว่าแล้วเมื่อไรหมอจะว่าง ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า "ยังไม่รู้ว่าจะว่างเมื่อไร" แล้วอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร นายแพทย์คนนี้บ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลหรือไม่ หรือไม่พอใจที่หญิงชราคนนั้นไม่รักษากับตนเอง จึงแสดงอากัปกิริยาออกมาอย่างนั้น Posted by บก.สมิหลาไทมส์(-) 2004-03-06 , 18:22:54 , 203.154.27.237 คุณวิชาญครับ ขออภัยที่ถามไม่ชัดเจน ลองอีกที ๑) ข้อมูลดังกล่าวผ่านการตรวจสอบโดยเป็นธรรมอย่างไรบ้างก่อนที่หนังสือพิมพ์ลงโจมตีแพทย์ท่านหนึ่งซึ่งไม่มีเครื่องมือเครื่องไม้อะไรในการป้องกันชื่อเสียงเลย ๒) การตัดสินจรรยาบรรณอาชีพของใครคนใดคนหนึ่ง โดยไม่ผ่านการสอบสวนเปนเรื่องยุติธรรมหรือไม่? เหมือนกับการที่คุณวิชาญจะรู้สึกอย่างไร หากมีคนกล่าวหาว่าหนังสือพิมพ์ของคุณไร้จรรยาบรรณฐานันดรที่สี่ (ครับผมทราบว่าไม่ค่อยมีใครกล้ามาหาเรื่องกับหนังสือพิมพ์อย่างนี้ แต่เป็นการสมมติน่ะครับ) เพราะมีการลงความข้างเดียวโดยไม่ได้รับการสอบถาม สัมภาษณ์จากทั้งสองฝ่าย (กลไกความยุติธรรมมาตรฐานของทุกประเทศที่เจริญแล้ว) การสื่อสารนั้นขึ้นอยู่กับ "บริบท" ของการสื่ออย่างมาก "เป็นไปได้หรือไม่?" ที่เร่องนี้เป็นความเข้าใจผิด หรือความล้มเหลวในการสื่อสารระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยรายนี้? ขออนุญาตดึงการวิเคราะห์ข้างบนจากคุณ Pisces ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนั่นคือเรากำลังทำให้มีเหยื่อของข้อมูลที่ไม่ชัดเจนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งราย คือแพทย์คนนี้ ที่ไม่มีโอกาสเลยสักนิดที่จะแก้ตัวไม่ว่าจะออกมาเปิดเผยตัวหรือไม่ก็ตายทั้งเป็นอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นเรื่องไม่จริง บาดแผลทางจิตใจนี้คงใหญ่หลวงนัก และคงไม่มีใครรับผิดชอบ ถ้าวิเคราะห์ในเรื่องทั้งหมดเท่าที่มีมูล หมอคนดังกล่าวคงพยายามจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตนเองอยากบอกแก่คนไข้ โดยที่ไม่ได้ประเมินว่าคนไข้อยากรับรู้แค่ไหน มีpast experienceเกี่ยวกับโรคมาอย่างไร มีอารมณ์อะไรเกิดขึ้นในขณะมาพบหมอและในขณะที่ฟังหมอเล่าเรื่องของหมอ นอกจากนี้ผู้ป่วย มี personnal meaningของมะเร็งมาอย่างไร เมื่อหมอไม่ได้ประเมินการพูดของหมอไม่ว่าข้อมูลอะไรก็ตามจะไปลงในช่องที่คนไข้คาดหวังอยากได้ยิน แล้วส่วนที่ไม่คาดหวังจะได้ยินหล่ะก็ทำให้เกิดอารมณ์ และเมื่ออามณ์มาก็จะเลือกรับperceptionแต่บางส่วน เรื่องที่เล่าให้คนอื่นฟังหลังจากนี้ก็เกิดจากการรับรู้ของคนไข้นั่นเอง แล้วอะไรคือเรื่องจริงหล่ะ คนที่สามมาฟังเรื่องไม่ว่าจากคนไข้หรือหมอก็ผ่านขบวนการรับรู้เช่นกันแล้วมาเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่สามสี่ห้าหก...... ถ้าเกิดเป็นไปได้ที่การสื่อสารบางอย่างจากแพทย์ท่านนี้ ไม่ได้ส่งผ่านถึงผู้รับ และผู้รับที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งนั้น อาจจะไม่สามารถรับข้อมูลทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ มีประสิทธิภาพ เหลือแต่ข้อมูล negative (โดยธรรมชาติครับ theme ขอ_ตอนนั้นคงจะเป็นข่าวร้าย และข่าวร้ายเท่านั้น) เป็นไปได้หรือไม่? ที่ทางเลือกต่างๆ เช่น การรักษาที่ รพ.ของรัฐ ถูกเสนอมาด้วย หรือ ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดนั้นเป็นการยกตัวอย่างในกรณีที่มีการฉายแสงและให้เคมีบำบัดบางตัว (ซึ่งบางอย่าง อย่างที่เรียนให้ทราบมันแพงมากกว่านี้ด้วยซ้ำ) และเป็นแค่ "ความเป็นไปได้" ที่ค่ารักษาจะถึงขนาดนั้น? คุณวิชาญเห็นว่า "เปนไปได้หรือไม่" ที่เหตุการณ์อาจจะเป็นทำนองนี้ ถ้าเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด พวกเราในที่นี้อยากทราบครับว่าทำไมคุณวิชาญถึงเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ ข้อสำคัญคือเวลาคุณวิชาญลงข่าว ซึ่งคูรวิชาญบอกเองว่าขนาดนี้ก็เพียงพอให้คนรู้แล้วว่าเป็นใคร ทำไมคุณวิชาญจึงปฏิเสธในการให้เหตุผลประกอบในที่สาธารณะเช่นเดียวกัน? ทั้งๆที่ทำได้และทำไมจะชี้แจงเป็นรายบุคคลเท่านั้น? ที่ว่ามีศัลยแพทย์โทรมาหาคุณวิชาญ และเข้าใจนั้นก็เป็นการเสนอข้อมูลฝ่ายเดียวเหมือนเดิมอยู่ดี หรือคำถามเหล่านี้ไม่สำคัญต่อเรื่องนี้ ไม่สำคัญต่อจรรยาบรรณนักข่าว ไม่สำคัญต่อจรรยาบรรณแพทย์ว่าควรจะต้องถูกสอบสวนในลักษณะอย่างไรก่อนจะตราหน้าใครในที่สาธารณะครับ? Posted by Phoenix() 2004-03-06 , 18:48:21 , 172.29.3.253 ไม่อยากรู้คุณสมบัติที่มาของบก แต่คิดว่าควรจะ boycott สมิหลาไทม์ Posted by mickeymouse() 2004-03-06 , 21:58:26 , 172.29.3.222 .....พอเถอะครับคุณ Phoenix.....ผมอ่านกระทู้นี้มาตั่งแต่แรกที่ตั้งแล้วครับ....ผมถามอะไรคุณนิดสิครับ....."ไม่แปลกใจเหรอครับ...ที่ผมไม่ตอบอะไรเลย"......ลองคิดที่ผมถามดีๆนะครับ....ถ้านึกอะไรไม่ออก....ผมจะใบ้ให้...."วิธีนี้มันเก่าแล้วครับ"...... Posted by Death() 2004-03-06 , 22:28:28 , 202.133.188.192 ผมพอจะบอกได้ว่าถ้าจะมีแพทย์ที่คุ้นเคยและเห็นชอบกับการตัดสินใครลงที่สาธารณะโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมเป็นใครเหมือนกัน เพราะเราเคยเห็นตัวอย่างและการกระทำอย่างนี้มาเมื่อไม่นานนี้เอง ใช่ไหมครับ Posted by Phoenix() 2004-03-06 , 22:55:48 , 172.29.3.221 อ่านข้อความของคุณบก. ยิ่งทำให้รู้ว่านักหนังสือพิมพ์นี่มีปากกาเป็นอาวุธจริงๆ ไว้ทิ่มแทงคนอื่น และยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าเชื่อถือไม่ได้ ยิ่งส่าธยายประวัติของตัวเองยิ่งบ่งบอกให้รู้ถึงแก่นของตัวเองว่าเป็นเช่นไร ผมไม่แปลกใจที่ผมยังยืนหยัดคำพูดเดิมว่านักหนังสือพิมพ์เชื่อถือไม่ได้อย่างยิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง Posted by อ() 2004-03-06 , 23:21:40 , 203.113.76.71 ขอเสนอให้ปิดกระทู้ข่าวนี้ครับ อย่าให้นักข่าวได้ใช้เวทีนี้เป็นเครื่องมือในการสร้างข่าวของตัวเองและเสียใจกับมอ.เป็นอย่างยิ่งครับ Posted by อ() 2004-03-06 , 23:24:06 , 203.113.76.71 .....โอเค....ถ้างั้นเขียนต่อไปเลย....แสดงให้คนที่อ่านและคุณ บ.ก. เข้าใจความสามารถของคุณหน่อยสิครับ......ผมจะนั่งอ่านเงียบๆต่อหละครับ.....ขอโทษด้วยครับที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง..... Posted by Death() 2004-03-06 , 23:46:48 , 202.133.188.192 ผมแปลกใจมากที่คุณสรุปออกมาว่าผมทำเพื่อแสดงความสามารถของผม การที่มีการกล่าวหาพยาบาลลงกระดานข่าวโดยไม่มีการสอบสวนนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง อาจจมองเป็นเหมือนขิงกับข่า หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ผมนึกไม่ถึงก็คือการ approve เรื่องทำนองเดียวกันกับวงอาชีพแพทย์ คุณ Death คงไม่สนใจว่าใครเป็นใครและเสื่อมเสียแค่ไหนจากไอ้ "วัฒนธรรม" แบบนี้ รวมทั้งคนๆนี้อาจจะเป็นคนที่สอนคุณ Death มากับมือรึเปล่านั่นก็คงไม่สำคัญเหมือนกันใช่ไหมครับ? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความสามารถของใครหรอกครับ ไม่มีใครอยากเอามือมาซุกหีบ ทะเลาะกับนักหนังสือพิมพ์นั้นก็เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ผมเคยไม่เห็นด้วยกับการทำอย่างนี้กับพยาบาล ผมก็แสดงความไม่เห็นด้วยแบบเดิมเมื่อเกิดขึ้นกับหมอ Posted by Phoenix() 2004-03-07 , 00:27:58 , 172.29.3.221 อ่านมาถึงตอนนี้แล้่วก็สะดุดกับข้อความของคุณ Death ถ้าปล่อยนิ่งเงียบไว้เฉยๆแล้วมันจะดีหรือครับ อย่างน้อยน่าจะสร้างประโยชน์ด้านการรับรู้และพิจารณาข่าวสารให้เกิดขึ้นจากกรณีนี้บ้าง หรือไม่ก็ควรลบทิ้งตั้งแต่แรกเจอเลยทีเดียว Posted by ArLim() 2004-03-07 , 00:49:10 , 203.113.76.75 เรื่องพฤติกรรมของนายแพทย์คนดังกล่าว ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ ก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นบทความที่บอกเล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับทั้งคำถาม ให้ทุกๆ คนที่ได้อ่านบทความหรือเรื่องเล่านี้ คิดกันเอาเองว่า นายแพทย์คนนี้มีจรรยาบรรณเพียงพอหรือไม่ ผมไม่ได้ตัดสิน หรือพิพากษาเลยว่า เขาไร้จรรยาบรรณ แต่ผมตั้งคำถามให้ทุกๆ คนได้ตอบ เมื่อประมวลเหตุการณ์จากเรื่องเล่าทั้งหมดที่ผมได้เล่าไป ด้านบน จากข้อความข้างต้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า คุณบก.ท่านนี้มีความไม่บริสุทธิ์ใจ และลำเอียงอย่างมาก ไม่เหมาะที่จะเป็นนักหนังสือพิมพ์เลย เนื่องจาก คุณฟังความข้างเดียว จากหญิงชราผู้นั้น ซึ่งไม่รู้ว่ามีการใส่ความแพทย์ท่านนั้นหรือไม่ และการที่คุณซึ่งไม่ได้รู้ความจริงอะไรเลยนั้น ได้ลงข้อความหรือบทความป้ายสีผู้อื่น ในที่สาธารณะแบบนี้ ระวัง!!! จะโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้นะ ไม่อยากจะเหมาหรอกนะว่านักหนังสือพิมพ์ทุกคนจะเป็นแบบนี้แต่ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ ทำมาเป็นถามหาถึงจรรยาบรรณแพทย์ เคยถามถึงจรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์บ้างไหม ว่าตัวคุณเองมีมากน้อยแค่ไหน??? Posted by นอ ศอ พอ() 2004-03-07 , 00:55:32 , 172.29.4.185 มีประเด็นที่น่าสนใจมากมาย ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่อไปนี้ครับ 1.ประเด็นแพทย์เอื้ออาทร ของคุณคนหาดใหญ่เหมือนกัน คิดเห็นอย่างนี้ครับ การผลิตแพทย์เพิ่มคงไม่ใช่ทางออกทั้งหมดของปัญหา ทุกวันนี้ต่อให้มีแพทย์แบบ 1 ตำบล 1 คน ก็คงไม่สามารถลดปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในชนบทลงได้เท่าไรนัก แพทย์ผู้นั้นก็ยังคงต้องรับงานหนักอยู่เช่นเดิม ตราบใดที่ยังไม่มีการจัดระบบให้ดีพอ(เป็นต้นว่าจัดการกระจายของแพทย์ด้วยการพัฒนาระบบสาธารณสุข)อย่างที่คุณลุงนกไฟท่านว่า 2.ที่อ่านมานี้ผมจะเชื่อถือได้เพียงไร ว่าเรากำลังตอบโต้อยู่กับใคร มีวัตถุประสงค์อะไรในการวางเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา คนที่มาpost Posted by Scorpion() 2004-03-07 , 02:13:23 , 172.29.4.238 ต่อครับ 2.คนที่มา post เป็นบุคคลที่ได้มากล่าวอ้างไว้จริงหรือไม่หรืออาจจะเป็นเพียงใครสักคน ที่ต้องการสร้างความพิพาทให้เกิดขึ้นแก่บุคคลทั้ง 2 ฝ่าย 3.ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจจริง ควรมีการชี้แจงให้ทราบรายละเอียดและข้อเท็จจร็งทั้งหมด ไม่ใช่มาโฆษณาหาดีใส่ตัวป้ายร้ายให้ผู้อื่น ทำเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการแต่งเติมเรื่องขึ้นมาหาความน่าเชื่อถือใดๆ มิได้ (บ้านเราว่านักเลงไม่จริงนะครับ กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ ไม่กล้าชี้แจง) 4. ว่ากันแบบไม่ Biasนะครับ ว่าหากมีการชี้แจงข้อเท็จ อย่างถูกต้องและเป็นธรรมเราก็คงสามารถสรุปกันได้ว่าผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูกนะครับ หรืออาจมีเหตุการณ์เข้าใจผิดกัน อันนี้คงต้องชี้แจงกันอีกครั้ง Posted by Scorpion() 2004-03-07 , 02:26:15 , 172.29.4.238 ตกลงพี่วิชาญ ได้ สัมภาษณ์ แพทย์ท่านนั้น หรือ ผู้บริหาร รพ. หรือยัง ถ้ายัง ก็ควรจะรีบไปติดต่อสัมภาษณ์ซะ ข่าวจะได้ดูน่าเชื่อถือ อันนี้หวังดี เพราะประเด็นอยู่ที่ว่า คุณฟังความข้างเดียว และจะไม่สามารถรับผิดชอบอะไรได้เลย ถ้าข่าวนี้เป็นข่าวเท็จ แต่คนไข้ก็แปลก รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีเงิน แต่ทำไมไม่มารักษาที่ รพ. ผมว่า ถ้าจะให้ดี คุณควรจะตีประเด็นนี้ด้วย ว่าทำไมผู้ป่วยในหาดใหญ่จึงเสื่อมศรัทธากับ สาธารณสุขของภาครัฐ ขยันหาข้อมูลหน่อยครับ ข่าวที่ดีไม่ได้หมายถึง ข่าวที่แรง หรือ ข่าวที่ด่วนฉับไว แต่ควรจะเป็นข่าวที่ตรง ตรวจสอบข้อมูลได้ และมีการเปิดเผยแหล่งข่าว รวมทั้งสัมภาษณ์ ทั้งผู้รับและเสียประโยชน์ ปล. โต๊ะบอลใหญ่โตในหาดใหญ่ตั้งอยู่เส้นเดียวกับ ที่ทำการหนังสือพิมพ์ของคุณ ห่างกันไม่เกินสองร้อยเมตร มีไม่ต่ำกว่า สองร้าน เงินหมุนเวียนนับล้านบาท เคยมีพลเมืองดี แจ้งไปที่สถานีตำรวจแล้ว ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร Posted by โซดา โค้ก() 2004-03-07 , 06:18:43 , 172.29.3.233 ......เรียนคุณ Arlim..... .....ปล่อยไว้ก็ไม่ดีหรอกครับ....เพียงแต่ถ้าคุณอ่านดีๆตั้งแต่แรกๆ....จะมี Keyword ที่กระชากให้คนเข้ามาอ่านอยู่ทั้งนั้น....มีการกั๊กข้อมูล...เพื่อให้คนสนใจ...ทำท่าว่าจะเปิดเผยข้อมูลบ้างหละ....เพื่อให้คนติดตาม....พยายามทำให้น่าเชื่อถือ....แล้วไง....นี่มันวิธีการปั่นกระทู้แบบโบราณ....ผมนั่งอ่านโดยพยายามไม่สนใจ....เพราะถ้าลงมาเขียนเมื่อไหร....จะเข้าวัตถุประสงค์ทันที....ลองอ่านดูทั้งหมดอีกรอบก็ได้ครับ.....ยิ่งมีคนสนใจมาก...ยิ่งมันส์....ตรงข้าม....ถ้าไม่สนเลย....เดี๋ยวไอ้ข้อมูลที่กั๊กไว้ก็จะปล่อยออกมาเป็นช่วงๆเพื่อเรียกคนให้สนใจ....สุดท้ายใครที่อดใจไม่ไหว...ก็จะตอบ....ไม่ว่าจะตอบอะไรก็ตาม....ทุกอย่างสามารถนำไปแปรเปลี่ยนเพื่อให้เข้าทางของการปั่นกระทู้ได้ทั้งนั้น....ยิ่งแสดงความเห็นมากๆ....ยิ่งพลาดมาก....ยิ่งมีโอกาสที่จะถูกย้อนรอยได้ง่ายมาก....แล้วที่สำคัญ....ลบกระทู้เหล่านี้ไม่ได้.....เพราะลบได้...มันก็ลงใหม่ได้....ลงที่เป็น 10 ยังได้เลย..... .....พิสูจน์ง่ายๆ.....มีใครบ้างที่อ่านหัวข้อกระทู้แล้วจะไม่สนใจ???..... ......เรียนคุณ Phoenix....ถ้าคุณอ่านถึงตอนนี้แล้วยังอยากจะเป็นเครื่องมือของคนอื่น....ก็ตามใจครับ....คุณเอาชนะกระดานข่าวไม่ได้หรอกครับ....ถึงคุณจะปิดกระดานนี้ทิ้ง....มันก็มีกระดานอื่นอีกเป็นกอง.....ส่วนคุณจะตัดสินผมว่าเลวชั่วช้าอย่างไรในสายตาคุณก็ตามใจครับ....ในสายตาคนอื่น....ผมก็เป็นคนเลวอยู่แล้วครับ....ต่อให้ทำดีแทบตายแค่ไหน....ทำเลวสักครั้งก็จบครับ...สังคมมันก็แบบนี้หละครับ.....เชิญคุณเอาผมไปสอนคนอื่นได้เลย...."ดูไว้นะ...ไอ้ Death มันเลวอย่างไร....".....ถ้าผมจะมีประโยชน์ต่อคนอื่นบ้างก็ยินดีครับ....เพราะผมไม่คิดว่าตัวผมเองมีค่าเท่าไรในสังคมอย่างนี้....ขอบคุณครับ..... Posted by Death() 2004-03-07 , 08:23:51 , ppp-203.118.98.85.re จนบัดนี้คุณก็ยังไม่เชื่อผมว่าผมไม่ชอบ label ใคร ใครจะดีจะชั่วขึ้นอยู่กับ "การกระทำ" และ "การแสดงออก" ไม่ต้องรอให้ใครตัดสินไม่ว่าจะเป็นผมหรือใครทั้งสิ้น ผมไม่ได้ต้องการ "เอาชนะ" อะไรหรอกครับ เอาชนะนั่นมันเป็นเกม เป็นการละเล่น ถ้าเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่พอก็จะเลิกเอาชนะ เป็นคนมีหลักการและเหตุผล คุณอาจจะมองว่าทุกคนในที่นี้ตกเป็นเครื่องกระทู้ล่อเป้า แต่ผมคิดว่าผมคิดเหมือนๆกันหลายคนในทีนี้คือเรื่องนี้เราไม่ควรปล่อยและไม่สนใจ สาเหตุที่มีคนคิดว่าเรา "ไม่สามารถ" จะทำอะไรได้ ปรีบเปลี่ยนอะไรได้เพราะ "community" เราไม่แข็งแรง ไปหลงคิดว่าลัทธิอะไรนั้นแข็งแกร่ง ไปหลงคิดว่ากระดานข่าวชนะทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าคุณอ่านคนที่เข้ามาวิจารณ์ในที่นี้ เขาไม่ได้คิดเอาชนะ แต่เชื่อมั่นว่าถ้าเรามีหลักการ และสามัคคี ชุมชนเราจะแข็งแรง และเป็นตัวอย่างต่อน้องรุ่นหลังได้ ไม่ได้ยังชีวิตแบบ inert การแสดงออกของแต่ละคนนั้นมันกลายเป็นนายของเราทั้งสิ้น รวมทั้งความคิด ถ้าคุณคิดว่ากระดานข่าวเป็น invincible มันก็จะเป็น ถ้าคุณคิดว่าสังคมที่เหลวแหลกมันก็จะเป็น ถ้าคุณคิดว่าการตัดสินคนโดยไม่มีการพิจารณาสอบสวนให้ดีก่อนเป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับทำอะไรไม่ได้ คุณก็จะยอมรับและไม่ทำอะไรกับมัน มีคนมาอ่านเยอะในกระทู้นี้น่ะหรือ ก็ดีซิครับ การใช้กระดานข่าวแบบผิดๆ หรือ abuse สิทธิผู้อื่นนั้น คนจะได้ทราบว่าเรามีหนทางในการอภิปรายให้คนธรรมดาๆเห็นว่าเราควรจะจัดการกับข้อมูลข่าวสารอย่างไร คำถามอะไรคือกุญแจสำคัญในการที่เราจะรับข้อมูลมาวิเคราะห์ มาสรุป ในเรื่องนี้บทบาทของคุณว่าดีหรือเลวนั้นไม่ได้อยู่ในประเด็นของพวกเราเลย คุณออกจะ self referenced ไปสักนิด แต่ถ้าคุณจะ reflect ถึงการกระทำของคนอื่นในที่นี้ว่านอกเหนือจากเป็นการสนับสนุนกระทู้ล่อเป้าเท่านั้นอย่างที่คุณคิด คนเหล่านี้มีสติปัญญาพอที่จะทำเพราะสาเหตุอื่นที่คุณยังไม่ได้ทำความเข้าใจหรือไม่? การนำเอาข้อมูลฝ่ายเดียวมานำเสนอแล้วสรุป ไม่ว่าจะใส่ไข่อะไรลงไปเท่าไหร่ แล้วมีคนรับไปเป็นเรื่องจริงนั้นเกิดขึ้นเยอะ และผมว่าเยอะเกินไปแล้ว พวกเราในสถาบันการศึกษา และอาชีพนี้เรายังชีวิตอยู่ได้ด้วยข้อมูล ข้อมูลที่คนไข้ให้เรา ข้อมูลที่เราให้คนไข้ ข้อมูลเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้มันมีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และเป็นความจริง เพราะการกระทำของเราจะมีรากฐานมาจากข้อมูลนี้เท่านั้น อ้อ..บวกกับเจตคติและความรู้ในอาชีพด้วย แพทย์ท่านนี้อาจจะผิดอย่างที่ว่า จริงหรือไม่เราได้ยินข้อมูลข้างเดียว และคนส่งกระทู้ไม่ปราถนาจะอธิบายที่มาของข้อมูล ปฏิเสธในการชี้แจงกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เราก็ไม่สามารถจะสรุปอะไรได้ถึงแม้ว่าแพทย์ท่านนั้นจะผิดจริง เราก็จะมองเห็นว่าการ discredit ตัวเราเองโดยการนำเสนอข้อมูลนั้น แม้บางครั้งเป็นเรื่องจริงมันก็ทำให้คนไม่เชื่อถือได้ แต่ถ้าแพทย์ท่านนี้ไม่ผิดเป็นความล้มเหลวทางการสื่อสารเท่านั้น ถ้ามีคนหลงเชื่อข้อมูลนี้ไป ก็จะเป็นกรเสื่อมเสียต่อตัวแพทย์ท่านนั้นอย่างอยุติธรรมอย่างยิ่ง และจะมีผลกระทบต่อคนรอบข้าง ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง คนรู้จัก สถานะในสังคม เหนือไปกว่านั้นก็คือ accountability ขอ_อาชีพของเรานั้นก็จะ vulnerable ต่อการสูญเสียความเชื่อถือง่ายขึ้นๆ ใครไม่พอใจแพทย์คนไหน ก็เดินไปหาหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ เล่าเรื่องต่างๆยืนยันว่าจริง สื่อเหล่านี้แค่ออกมาตีข่าวโดยไม่ต้องตรวจสอบ ไม่ต้องมีขั้นตอนสอบสวน กลายเป็นว่าสื่อทำหน้าที่เป็น พยาน ตำรวจ ศาล และเพชรฆาต ไปในทีเดียว จรรยาบรรณวิชาชีพของเราเป็นสิ่งมีค่า และ worth fighting for การสอนนักเรียนเรา และทำให้ชุมชนของเราสามารถรับเรื่องราวอย่างมีหลักวิธีในการเชื่อไม่เชื่อเป็นเรื่องสำคัญมาก มากจนกระทั่งผมคิดว่าไม่ต้องไปสนใจกับเป็นล่อเป้าไม่ล่อเป้า เราต้อง take it seriously มากเท่าที่จะทำได้ เหมือนกับเรื่องความมั่นคงของชาติ สถาบันศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าเราคิดว่าล่อเป้าแล้วไม่ต้องไปแตะต้อง ไม่ต้องไปป้องกัน ผมว่าผลร้ายจะเกิดมากกว่าผลดี เราจะงอมืองอเท้าและยอมรับมันจนกลายเป็นเรื่องปกติ ในที่สุดทุกๆสถาบันก็จะลดความสำคัญ ไม่มีค่าควรปกป้องอีกต่อไปเพียงเพราะแค่เรากลัวจะไปแตะกระทู้ล่อเป้าเท่านั้น ก็เป็นทางเลือกของพวกเราเองในชุมชนแห่งนี้ คิดว่าอะไรมีค่า อะไรควรปกป้อง อะไรควรแสดงความเห็น แต่ทั้งหมดนั่นคือเหตุผลของผมที่ได้ร่วมอภิปรายในที่นี้ Posted by Phoenix() 2004-03-07 , 09:14:45 , 172.29.3.240 อ่านมาตั้งนาน นึกว่าเรื่องอะไรกัน ..เฮ้อ ..คนเราเนี่ยก็แปลก เรื่องตัวเองมีกจะไม่ค่อยรู้ แต่เรื่องคนอื่นโดยเฉพาะที่เขาว่าคนอื่นไม่ดียังงั้นไม่ดียังงี้ รู้กันดีนักแล ทั้งๆ ที่เป็นความจริงหรือ เปล่าไม่รู้ ... บางทีหากผมอยากรู้เรื่องของผม เนี่ยสงสัยต้องไปถามผู้รู้แหล่ะว่าตอนนี้เรื่องของผมไป ถึงใหนแล้ว . อ๋อ พี่วิชา ครับ ..ผมคงเป็นนักศึกษาตอนพี่เป็นนักศึกษาเหมือนกัน ถ้าพี่เรียนปี 33 แต่ขอโทษครับ พี่ถ้า ผมจะบอกว่า ผมไม่รู้จักพี่ พี่เป็นใคร ____ผมก็ว่าผมรู้จักคนพอสมควรน่ะ และสุดท้ายด้วยความเคารพครับพี่ เวรกรรมมันมีจริงครับ Posted by The Gunner() 2004-03-07 , 13:07:34 , medicine.psu.ac.th อ่านมาตั้งนาน นึกว่าเรื่องอะไรกัน ..เฮ้อ ..คนเราเนี่ยก็แปลก เรื่องตัวเองมีกจะไม่ค่อยรู้ แต่เรื่องคนอื่นโดยเฉพาะที่เขาว่าคนอื่นไม่ดียังงั้นไม่ดียังงี้ รู้กันดีนักแล ทั้งๆ ที่เป็นความจริงหรือ เปล่าไม่รู้ ... บางทีหากผมอยากรู้เรื่องของผม เนี่ยสงสัยต้องไปถามผู้รู้แหล่ะว่าตอนนี้เรื่องของผมไป ถึงใหนแล้ว . อ๋อ พี่วิชา ครับ ..ผมคงเป็นนักศึกษาตอนพี่เป็นนักศึกษาเหมือนกัน ถ้าพี่เรียนปี 33 แต่ขอโทษครับ พี่ถ้า ผมจะบอกว่า ผมไม่รู้จักพี่ พี่เป็นใคร ____ผมก็ว่าผมรู้จักคนพอสมควรน่ะ และสุดท้ายด้วยความเคารพครับพี่ เวรกรรมมันมีจริงครับ Posted by The Gunner() 2004-03-07 , 13:08:06 , medicine.psu.ac.th อ่านมาตั้งนาน นึกว่าเรื่องอะไรกัน ..เฮ้อ ..คนเราเนี่ยก็แปลก เรื่องตัวเองมีกจะไม่ค่อยรู้ แต่เรื่องคนอื่นโดยเฉพาะที่เขาว่าคนอื่นไม่ดียังงั้นไม่ดียังงี้ รู้กันดีนักแล ทั้งๆ ที่เป็นความจริงหรือ เปล่าไม่รู้ ... บางทีหากผมอยากรู้เรื่องของผม เนี่ยสงสัยต้องไปถามผู้รู้แหล่ะว่าตอนนี้เรื่องของผมไป ถึงใหนแล้ว . อ๋อ พี่วิชา ครับ ..ผมคงเป็นนักศึกษาตอนพี่เป็นนักศึกษาเหมือนกัน ถ้าพี่เรียนปี 33 แต่ขอโทษครับ พี่ถ้า ผมจะบอกว่า ผมไม่รู้จักพี่ พี่เป็นใคร ____ผมก็ว่าผมรู้จักคนพอสมควรน่ะ และสุดท้ายด้วยความเคารพครับพี่ เวรกรรมมันมีจริงครับ Posted by The Gunner() 2004-03-07 , 13:08:55 , medicine.psu.ac.th คุณที่อ้างตัวว่าเป็น บก. ครับ ผมคิดว่าหลายคนที่ได้อ่านในกระดานข่าวนี้ คงอยากทราบข้อมูลที่แท้จริง แต่ในเมื่อคุณไม่เปิดเผย... ข้อมูลจริงๆ เขียนแต่บทความที่ใส่อารมณ์ ความคิดของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมคิดว่าไม่ยุติธรรมกับผู้ถูกกล่าวหามาก ดังนั้นเพื่อให้เรื่องราวมันกระจ่างชัด ผมใคร่อยากจะทราบข้อมูลของหญิงชราท่านนั้นครับ ไม่ทราบว่าคุณจะบอกเบอร์โทรบุตรชาย หรือบุตรสาวของเขาได้หรือไม่ เชื่อว่าในเมื่อเขาเล่าเรื่องนี้ให้คุณ บก. ได้ (ซึ่งเขาน่าจะคาดการณ์ได้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นเช่นไร) เขาก็น่าจะยินดีแจ้งให้เราในที่นี้ ทราบด้วยนะครับ.. สรุปผมคิดว่าการได้รับข้อมูลโดยตรงจากผู้เสียหายหรือญาติก่อนจะมีประโยชน์ต่อการอภิปรายและการดำรงอยู่ของกระทู้นี้อย่างมาก (ก่อนที่มันจะโดนลบ) เพราะ 1. ข้อมูลจากผู้เสียหาย จะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ใจของคุณ บก. ว่าไม่ได้สร้างเรื่องขึ้นมาให้ร้ายป้ายสีสร้างความเสียชื่อเสียงให้แก่ผู้อื่น หรือเพื่อเจตนาขายข่าว ขายหนังสือพิมพ์ 2. ข้อมูลจากผู้เสียหาย จะได้ให้เราทราบว่าเรื่องราวจริงๆ เป็นอย่างไร เกิดจากการเข้าใจผิดกันหรือไม่ (ผมขออนุญาญตีความไว้ก่อนในตอนนี้ว่า เรื่องที่คุณเล่ามาทั้งหมดมันโป้ปดมดเท็จ) ส่วน..ประวัติการเรียนหรือการทำงานหนังสือพิมพ์ ทีวี ที่คุณกล่าวมาทั้งหมด..ไม่ได้ช่วยให้ความน่าเชื่อถือของเนื้อความเพิ่มขึ้นมาเลย... หากเอาคุณงามความดีของนายแพทย์ท่านนั้นในการเป็นแพทย์ รักษาผู้ป่วยนานมากกว่าครึ่งชีวิตมาเทียบกันแล้ว เด็กอนุบาลก็น่าจะบอกได้ว่าควรจะเชื่อใคร... Posted by สะหนี่พอ() 2004-03-07 , 13:32:29 , 172.29.4.111 คุณ บก.หายไปไหนแล้วหรือว่าไม่กล้าสู้ความจริง กล้าpost ให้ผู้อื่นเสียหายก้อน่าจะกล้าออกมายอมรับความจริงหรือจะเปลี่ยนใจไม่สู้แล้ว แต่สายไปเสียแล้วทำขนาดนี้ถ้าไม่ขอโทษปิดสำนักพิมพ์ไปเลยดีกว่า ถ้าแพทย์คนที่คุณบก พยายามชี้นำเป็นคนที่ผมรู้จัก ขอบอกว่า ผมยังเคยได้รับความช่วยเหลือจากท่านเลย ไม่ได้เสียเงินด้วย มีแต่ความซาบซึ้งในน้ำใจของท่าน Posted by nutty() 2004-03-07 , 13:46:50 , 172.29.3.215 อ่านมาตั้งนาน นึกว่าเรื่องอะไรกัน ..เฮ้อ ..คนเราเนี่ยก็แปลก เรื่องตัวเองมีกจะไม่ค่อยรู้ แต่เรื่องคนอื่นโดยเฉพาะที่เขาว่าคนอื่นไม่ดียังงั้นไม่ดียังงี้ รู้กันดีนักแล ทั้งๆ ที่เป็นความจริงหรือ เปล่าไม่รู้ ... บางทีหากผมอยากรู้เรื่องของผม เนี่ยสงสัยต้องไปถามผู้รู้แหล่ะว่าตอนนี้เรื่องของผมไป ถึงใหนแล้ว . อ๋อ พี่วิชา ครับ ..ผมคงเป็นนักศึกษาตอนพี่เป็นนักศึกษาเหมือนกัน ถ้าพี่เรียนปี 33 แต่ขอโทษครับ พี่ถ้า ผมจะบอกว่า ผมไม่รู้จักพี่ พี่เป็นใคร ____ผมก็ว่าผมรู้จักคนพอสมควรน่ะ และสุดท้ายด้วยความเคารพครับพี่ เวรกรรมมันมีจริงครับ Posted by The Gunner() 2004-03-07 , 13:48:01 , medicine.psu.ac.th อ่านมาตั้งนาน นึกว่าเรื่องอะไรกัน ..เฮ้อ ..คนเราเนี่ยก็แปลก เรื่องตัวเองมีกจะไม่ค่อยรู้ แต่เรื่องคนอื่นโดยเฉพาะที่เขาว่าคนอื่นไม่ดียังงั้นไม่ดียังงี้ รู้กันดีนักแล ทั้งๆ ที่เป็นความจริงหรือ เปล่าไม่รู้ ... บางทีหากผมอยากรู้เรื่องของผม เนี่ยสงสัยต้องไปถามผู้รู้แหล่ะว่าตอนนี้เรื่องของผมไป ถึงใหนแล้ว . อ๋อ พี่วิชา ครับ ..ผมคงเป็นนักศึกษาตอนพี่เป็นนักศึกษาเหมือนกัน ถ้าพี่เรียนปี 33 แต่ขอโทษครับ พี่ถ้า ผมจะบอกว่า ผมไม่รู้จักพี่ พี่เป็นใคร ____ผมก็ว่าผมรู้จักคนพอสมควรน่ะ และสุดท้ายด้วยความเคารพครับพี่ เวรกรรมมันมีจริงครับ Posted by The Gunner() 2004-03-07 , 13:48:05 , medicine.psu.ac.th อ่านมาตั้งนาน นึกว่าเรื่องอะไรกัน ..เฮ้อ ..คนเราเนี่ยก็แปลก เรื่องตัวเองมีกจะไม่ค่อยรู้ แต่เรื่องคนอื่นโดยเฉพาะที่เขาว่าคนอื่นไม่ดียังงั้นไม่ดียังงี้ รู้กันดีนักแล ทั้งๆ ที่เป็นความจริงหรือ เปล่าไม่รู้ ... บางทีหากผมอยากรู้เรื่องของผม เนี่ยสงสัยต้องไปถามผู้รู้แหล่ะว่าตอนนี้เรื่องของผมไป ถึงใหนแล้ว . อ๋อ พี่วิชา ครับ ..ผมคงเป็นนักศึกษาตอนพี่เป็นนักศึกษาเหมือนกัน ถ้าพี่เรียนปี 33 แต่ขอโทษครับ พี่ถ้า ผมจะบอกว่า ผมไม่รู้จักพี่ พี่เป็นใคร ____ผมก็ว่าผมรู้จักคนพอสมควรน่ะ และสุดท้ายด้วยความเคารพครับพี่ เวรกรรมมันมีจริงครับ Posted by The Gunner() 2004-03-07 , 13:48:27 , medicine.psu.ac.th เพื่อความชัดเจนและยืนยันว่าคุณวิชาญไม่ได้รับรู้บิดเบี้ยว(false perception) ไม่ได้เลือกรับข้อมูลแบบอคติ(selection bias)เพื่อให้ได้ข้อมูลที่อยากให้เป็นไปตามthemeที่ว่าหมอไร้จรรยาบรรณแล้วหล่ะก็ ขอความกรุณาส่งหลักฐานทั้งหมดที่กล่าวอ้างว่ามีมูลไปยังองค์กรแพทย์ของคณะแพทย์แห่งนี้ให้ตรวจสอบได้ และที่สำคัญถ้าผลออกมาไม่ได้เป็นตามที่คาดไว้ดังthemeที่กล่าวหาไว้กรุณาแก้ข่าวให้ ที่สำคัญคงต้องยิ่งใหญ่กว่าครั้งนี้ เพราะที่คุณทำไว้มันหมายถึงคุณลบหลู่คุณค่าทางจิตใจของหมอคนที่คุณกล่าวหา และเท่านี้คุณก็ได้ข่าวไปเขียนมากพออยู่แล้ว Posted by pisces() 2004-03-07 , 14:29:33 , 172.29.3.208 คุณวิชาญครับ ผมคิดว่าการที่คุณปฏิเสธที่มาของข้อมูล ปฏิเสธการให้รายละเอียดในการตรวจสอบข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะทำให้ความน่าเชื่อถือและจรรยาบรรณของฐานันดรที่สี่หรือสื่อสารมวลชนสูญเสียไป มันจะกลายเป็นวัฒนธรรมการใช้สื่อโจมตีบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ ไม่ต้องขึ้นศาลคุณวิชาญก็ตัดสินได้ว่าจะลงข่าวแบบไหน ลักษณะการลงข่าวอย่างที่ว่านั้น ผมไม่ทราบว่าคุณเรียกเป็นการรายงานเหตุการณ์เฉยๆได้อย่างไร เพราะมีทั้งการใช้คำ dramatize และ one-side อย่างชัดเจน ไม่เปิดโอกาสถึงความเป็นไปได้ที่แพทย์ท่านนั้นจะไม่ผิด หรือที่ว่าอาจจะเป็นการเข้าใจผิดของฝ่ายคุณป้าคนนั้นแม้แต่นิดเดียว หากเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ แพทย์ท่านนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม ลูกหลานของเราจะเติบโตขึ้นมาในสังคมแบบไหน? แบบที่ว่าไม่พอใจใครก็ใช้กฏหมู่ ใช้เสียงดังเข้าว่ารึเปล่า ในขณะนี้ก็มีการใช้กระดานข่าว และความที่ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลมาใช้ในการโจมตีตัวบุคคลให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เพราะคิดว่านี่เป็นนโยบายและวิธีที่ไม่มีทางแพ้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเสนอความเห็น ซึ่งผมว่าทิ้งรอยคิดแบบนี้ในสังึคมเรานั้นอันตรายมาก ขนาดปัญญาชนยังเรียกวิธีนี้เป็น winning method แล้ว ผมว่าระบบการศึกษาเราคงจะกระทบกระเทือน เพราะนี่เป็นรากฐานที่บัณฑิตจะใช้ approach ข้อมูลประจำวัน ทั้งที่เราเรียนรู้ในบทเรียน ทั้งที่เรารับรู้ในเรื่องราวอื่นๆ หากคุณวิชาญหวังดี และอยากให้กรณีนี้เปน case ตัวอย่าง ที่คุณ Pisces แนะมานก็เป็นวิธีที่ดีมากประการหนึ่ง ให้องค์กรแพทย์จัดการ สังคมแพทย์ก็ต้องการจะรักษา integrity หรือความน่าเชื่อถืออยู่เหมือนกัน เราจะได้เริ่มขั้นตอนต่างๆที่เหมาะสมตามครรลองของชุมชนที่เจริญแล้ว จะดีกว่าการเอาข้อมูลข้างเดียวมาโจมตีโดยไม่คำนึงถึงผลเสียของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างน้อยก็คิดถึงลูกหลานของคุณเองที่จะเติบโตและเลียนแบบบุรพการี ให้พวกแกโตมาในสังคมที่มีหลักการและศิวิไลซ์เถอะครับ Posted by Phoenix() 2004-03-07 , 17:00:22 , 172.29.3.218 ครับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผม เพื่อนผมหลายๆคน "เคย" รู้สึกชื่นชมหนังสือพิมพ์ฉบับนี้อยู่บ้าง แต่วันนี้ มัน "หมด" ไปแล้วครับ เมื่อได้เห็นสันดานของ บก. ที่ใช้อารามณ์เขียนข่าว "ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด" อนาคตคงมืดมนล่ะครับ คุณ บก. Posted by พี่เดือด() 2004-03-07 , 18:00:15 , 172.29.4.123 ครับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผม เพื่อนผมหลายๆคน "เคย" รู้สึกชื่นชมหนังสือพิมพ์ฉบับนี้อยู่บ้าง แต่วันนี้ มัน "หมด" ไปแล้วครับ เมื่อได้เห็นสันดานของ บก. ที่ใช้อารามณ์เขียนข่าว "ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด" อนาคตคงมืดมนล่ะครับ คุณ บก. Posted by พี่เดือด() 2004-03-07 , 18:00:26 , 172.29.4.123 ครับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผม เพื่อนผมหลายๆคน "เคย" รู้สึกชื่นชมหนังสือพิมพ์ฉบับนี้อยู่บ้าง แต่วันนี้ มัน "หมด" ไปแล้วครับ เมื่อได้เห็นสันดานของ บก. ที่ใช้อารามณ์เขียนข่าว "ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด" อนาคตคงมืดมนล่ะครับ คุณ บก. Posted by พี่เดือด() 2004-03-07 , 18:00:33 , 172.29.4.123 เวบไซต์ของหนังสือพิมพ์นี้ครับ สมีหลาไทม์ Posted by สะหนี่พอ() 2004-03-07 , 19:03:10 , 172.29.4.111 กรุณาอย่าเข้าใจผิด ว่าผมปฏิเสธในให้ข้อมูลหือรายละเอียดต่างๆ เกียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมจะบอกให้ว่า... การที่ผมให้สถานที่ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือประวัติส่วนตัวผมไปมากมายขนาดนี้แล้ว นี่ก็คือนัยยะสำคัญที่บอกได้แล้วว่า ผมพร้อมที่จะให้ข้อเท็จจริง ทั้งหมดแก่บุคคลที่ต้อง ซึ่งบุคคลคลนั้นต้องเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องจริงๆ ผมมองว่า สำหรับบนเวปบอร์ดนั้น ข้อมูลแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องประกาศชื่อหรือลูกหลาน ของผู้เสียหาย หากใคร หรือสถาบันแพทย์ไหน ต้องการทราบอะไรมากไปกว่านี้ พรุ่งนี้ติดต่อผมได้ตามสถานที่ และัเบอร์ไทรศัพท์ ที่ให้ไว้ เพราะพรุ่งนี้ ลูกชาย ,ลูกสาว,และหญิงชรา คนที่กล่าวถึง ก็อยู่ที่หาดใหญ่ Posted by บก.สมิหลาไทมส์(-) 2004-03-07 , 20:04:08 , 203.154.27.207 ถ้าคุณทำร้ายแพทย์ได้ตรง ๆแต่คุณยังคงปกป้องตัวคุณเองและคนที่กล่าวหาไว้ในที่ลึกลับ แสดงว่าคุณไม่เป็นลูกผู้ชาย น่าจะเอาปริญญาบัตรกลับมาคืนสถาบัน ตอนเอามาคลุมหน้ามาด้วยนะ Posted by วิจารณ์() 2004-03-07 , 20:13:47 , 172.29.3.250 หนูเข้าใจพี่ Death อย่างที่สุด หนูรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของพี่แตกต่างจากใบหน้าพี่อย่างสิ้นเชิง ขอใ้ห้พี่ทำความดีต่อไป ทำแบบที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ดูแลคนไข้ด้วยหัวใจ บางทีอาจโดนด่าบ้าง ไม่เป็นไร น้อง Born เป็นกำลังใจ Posted by ฺฺBorn() 2004-03-07 , 20:13:55 , 172.29.3.143 คุณ บก. ครับ คุณให้ข้อมูลมากพอที่เรา ทุกคน รู้ว่าแพทย์ท่านนั้นเป็นใคร คุณได้ให้ข้อมูลฝ่ายเดียวมากพอที่จะให้ "ทุกคน" ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงในเรื่องนี้คิดว่าแพทย์ท่านนี้ไร้จรรยาบรรณ แต่ทำไมคุณถึงจำกัดข้อมูลเบื้องหลังเฉพาะบางคนที่ติดต่อเป็นการส่วนตัวกับคุณเท่านั้นล่ะครับ? และคุณ บก. ก็ไม่ได้สัญญาด้วยว่าจะให้ข้อมูลกับ "ทุกคน" ที่ติดต่อ แต่จะให้เฉพาะคนที่คุณ บก. คิดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ คุณ บก.ใช้คำว่า "ผู้เสียหาย" คงไม่ได้รวมแพทย์ที่คุณ บก.จงใจให้ข้อมูลจนคนส่วนใหญ่ทราบ (จากที่คุณ บก.พูดเอง) ว่าเป็นใคร นั่นก็ค่อนข้างจะ inconsistent กับที่คุณพูดว่าคุณพยายามปกปิด identity ของผู้เสียหายเท่าไหร่นะครับ อยากจะเรียนถามคุณ บก.ว่าได้อธิบายกับหญิงชราผู้ป่วยรายนี้ว่าคุณบก.จะทำอย่างที่ทำขณะนี้ และข้อสำคัญกว่านั้นคือได้อธิบายหรือไม่ว่าเรื่องนี้อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดหรือความล้มเหลวทางการสื่อสารหรือไม่? มีการกระทำที่คุณ บก.พยายามสืบค้นเพื่อหาข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายอย่างไร? ทำไมเวลาคุณ บก. โจมตี ชอบทำในที่สาธารณะ แต่เวลาให้คำอธิบายต้องทำลึกลับส่วนตัวครับ? Posted by Phoenix() 2004-03-07 , 20:21:18 , 172.29.3.196 เอ่อ...ลุงนกครับเรื่องนี้ต่อให้พยายามอย่างไรก็ไม่เกิดประโยชน์ ตราบใดก็ตามที่กระทู้ยังลุกเป็นไฟเราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบและเปลืองตัวเปล่าๆ เขาก็จะพูดว่าปกป้องกันเอง. ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกก็ฟ้องให้เข็ดหลาบและเป็นตัวอย่าง เถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ทำแต่ให้เสียชื่อ.. Posted by นะครับ....() 2004-03-07 , 20:31:56 , 172.29.3.231 ผมอยากเรียนถามทุกคนที่ผมคาดว่า น่าจะรู้จักนายแพทย์ คนที่ผมกล่าวถึงนี้แล้ว 1.คุณได้ถามนายแพทย์คนนั้นหรือยังว่า ทั้งหมดที่เขียนปรากฏในเนื้อหาของผมนี้เป็นจริงหรือไม่ 2.จริงหรือไม่ที่แพทย์ คนนั้นโทรมาถามว่า ลูกโอนเงินมาแล้วใช่มั้ย ทำไมต้องไปกรุงเทพฯ ทำไมไม่ผ่าที่ตน ใช้วิธีการผ่อนส่งก็ได้ 3.ทำไมแพทย์คนดังกล่าว ถึงบอกว่า ตนเป็นอาจารย์หมอ จึงผ่าหญิงชราที่โรงพยาบาลของรัฐซึ่งตนสังกัดอยู่ไม่ได้ อยากทราบว่าทำไม ช่วยอธิบายด้วย 3.เรื่องโทรศัพท์ ที่ลูกชายเขาโทรไปขอ แมมโมแกรม "แล้วนายแพทย์พูดว่าไม่ว่าง และไม่รู้จะว่างเมื่อไร" นั้นเป็นจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับผม 1.หญิงชราคนดังกล่างวนัดผ่าตัด วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ที่กรุงเทพฯ 2.แพทย์ระดับ ผู้อำนวยการ เป็นผู้ผ่าด้วยตนเอง 3.ค่าใช้จ่ายเป็นค่าวิชาหมอมือหนึ่งที่กรุงเทพฯ 10,000 เท่านั้น 4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เบิกได้ เพราะลูกสาวเขารับราชการเป็นผู้พิพากษา 5.พรุ่งนี้ ลูกสาว ลูกชาย หญิงชรา และสามีของเขา จะกลับมาที่หาดใหญ่ เพื่อลางาน และเตรียมการจะขึ้นไปผ่าตัดในวันพฤหัสฯนี้ Posted by บก.สมิหลาไทมส์(-) 2004-03-07 , 20:53:49 , 203.154.27.207 ผมอยากเรียนถามทุกคนที่ผมคาดว่า น่าจะรู้จักนายแพทย์ คนที่ผมกล่าวถึงนี้แล้ว 1.คุณได้ถามนายแพทย์คนนั้นหรือยังว่า ทั้งหมดที่เขียนปรากฏในเนื้อหาของผมนี้เป็นจริงหรือไม่ 2.จริงหรือไม่ที่แพทย์ คนนั้นโทรมาถามว่า ลูกโอนเงินมาแล้วใช่มั้ย ทำไมต้องไปกรุงเทพฯ ทำไมไม่ผ่าที่ตน ใช้วิธีการผ่อนส่งก็ได้ 3.ทำไมแพทย์คนดังกล่าว ถึงบอกว่า ตนเป็นอาจารย์หมอ จึงผ่าหญิงชราที่โรงพยาบาลของรัฐซึ่งตนสังกัดอยู่ไม่ได้ อยากทราบว่าทำไม ช่วยอธิบายด้วย 3.เรื่องโทรศัพท์ ที่ลูกชายเขาโทรไปขอ แมมโมแกรม "แล้วนายแพทย์พูดว่าไม่ว่าง และไม่รู้จะว่างเมื่อไร" นั้นเป็นจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับผม 1.หญิงชราคนดังกล่างวนัดผ่าตัด วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ที่กรุงเทพฯ 2.แพทย์ระดับ ผู้อำนวยการ เป็นผู้ผ่าด้วยตนเอง 3.ค่าใช้จ่ายเป็นค่าวิชาหมอมือหนึ่งที่กรุงเทพฯ 10,000 เท่านั้น 4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เบิกได้ เพราะลูกสาวเขารับราชการเป็นผู้พิพากษา 5.พรุ่งนี้ ลูกสาว ลูกชาย หญิงชรา และสามีของเขา จะกลับมาที่หาดใหญ่ เพื่อลางาน และเตรียมการจะขึ้นไปผ่าตัดในวันพฤหัสฯนี้ Posted by บก.สมิหลาไทมส์(-) 2004-03-07 , 20:54:17 , 203.154.27.207 อ่ะแฮ่ม ถึงรู้ตัวว่าหาเรื่องเข้าตัว ก็ยังมาโพสอีกจนได้ อาจารย์นกไฟและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆบนเวปบอร์ดนี้ครับ เราหยุดสนใจกระทู้นี้แล้วไปสนใจกระทู้น่าสนใจอื่นดีกว่าไหมครับ เช่น กระทู้เรื่อง ผีช่องแอร์, ผีตู้เย็น, ผีทะเล อะไรข้างบนนั่น ปล่อยให้เรื่องนี้มันเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องของมัน ปล่อยให้ความสะใจของใครบางคนเป็นหมันไปดีกว่า นะครับ ผมว่าไปโพสกระทู้ ผีช่องอะไรพวกนั้น สบายอารมณ์กว่า ฮิฮิ Posted by กะหลั่วเป็ด() 2004-03-07 , 21:08:03 , 203.156.20.27 อ่ะแฮ่ม ถึงรู้ตัวว่าหาเรื่องเข้าตัว ก็ยังมาโพสอีกจนได้ อาจารย์นกไฟและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆบนเวปบอร์ดนี้ครับ เราหยุดสนใจกระทู้นี้แล้วไปสนใจกระทู้น่าสนใจอื่นดีกว่าไหมครับ เช่น กระทู้เรื่อง ผีช่องแอร์, ผีตู้เย็น, ผีทะเล อะไรข้างบนนั่น ปล่อยให้เรื่องนี้มันเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องของมัน ปล่อยให้ความสะใจของใครบางคนเป็นหมันไปดีกว่า นะครับ ผมว่าไปโพสกระทู้ ผีช่องอะไรพวกนั้น สบายอารมณ์กว่า ฮิฮิ Posted by กะหลั่วเป็ด() 2004-03-07 , 21:08:55 , 203.156.20.27 เรียน คุณนะครับ, ถ้าแพทย์เป็นฝ่ายผิด ผมคิดว่าที่ทุกคนส่งกระทู้มานี่ก็จะยอมรับว่าผิดแน่นอน ไม่งั้นเราจะขอให้มีการสอบสวนหรือ? การสอบสวนไม่ได้หมายความว่าแพทย์จะเป็นฝ่ายถูกครับ แต่หมายถึงนั่นเป็นวิธีที่โลกศิวิไลซ์เขาทำกันก่อนมีการตัดสิน ผมเชื่อว่าวงการแพทย์จะมีมาตรการป้องกันและรักษาความเป็นธรรมเรื่องนี้อยู่แล้ว นึกถึงตอน conference palliative care ออกไหมครับ ในเรื่องตัวบทกฏหมาย เรื่องนี้ยากนักหนังสือพิมพ์อาชีพจะเขียนจนมัดตัวเองขึ้นศาลหมิ่นประมาท แต่ที่เราทำได้และที่พวกเรากำลังทำอยู่ในขณะนี้ ไม่ได้เป็นการปกป้องแพทย์ที่เราทราบว่าทำผิด เป็นแค่การขอให้มีกระบวนการสืบสวนที่เป็นธรรมก่อนเท่านั้น การเปลืองตัวนั้นเกิดขึ้นแน่นอนครับ ถ้าเราลงมาทำความสะอาดโคลนที่สาดใส่กัน คุณนะครับลองคิดดูว่าถ้าบุคคลที่ถูกกล่าวหาในกรณีนี้เป็นคุณ นะครับ เอง เป็นบุคคลที่คุณนะครับรักเป็นห่วง เป็นลูกคุณนะครับ หรือเป็นบุรพการีคุณนะครับ คุณอยากจะให้มีการเรียกร้องความยุติธรรม ณ ที่นี้หรือไม่ หรือเราจะปล่อยให้อะไรเกิดก็เกิดไป ตราบใดที่ตนเองไม่เดือดร้อน ก็จะไม่มีใครต้องการจะ "เปลืองตัว" ใช่ไหมครับ? ก็อาจจะเป็นอีกวัฒนธรรมหนึ่ง ที่ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีใครสนใจเรื่องราวภายนอกตราบที่ไม่โดนด้วยตนเอง ส่วนที่พวกเราที่ส่งกระทู้มาลงในที่นี้จะเสียชื่ออย่างไรครับ? เราไม่ได้ปกป้องคนกระทำผิดแต่อย่างใดแล้วทำไมเราถึงจะเสียชื่อ อ่านกระทู้แรกสุดที่ผมตอบดูก็จะรู้ว่าความรู้สึกประการแรกที่เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นจริง เราจะรู้สึกอย่างไรกับแพทย์ท่านนี้อย่างไร เรียนคุณ บก. คำถามที่คุณถามมานั้น น่าจะถามกันระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ท่านนั้นรวมทั้งรายละเอียดว่าทำไมถึงผ่าได้ไม่ได้ที่ไหนด้วย ไม่ทราบว่าได้ถามหรือไม่? และได้ใจความว่าอย่างไร? จะมาอธิบายกับบุคคลที่สามโดยที่คุณ บก.ได้กวนน้ำให้ขุ่นในภายหลังนี่ คุณ บก. หมายความว่าหากเราได้ข้อมูลไม่ตรงกับที่ว่า คุณ บก.จะลงข่าวขออภัยหรืออย่างไร? ผมคิดว่ามันเป็น "หน้าที่" ของนักข่าวเสียอีกนะครับ ที่จะสืบเสาะข้อเท็จจริงให้ทราบแน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะลงข่าว ไม่ใช่ให้คนอ่านข่าวสืบเอง คำถามสี่ข้อแรกที่สำคัญนั้น คุณ บก.ได้สัมภาษณ์ แพทย์ท่านนี้แล้วหรือยัง ถ้ายัง ทำไมคุณ บก.จึงสรุปว่าข้อมูลของคุณ บก.ครบถ้วนและถูกต้องที่สุด? ข้อมูลห้าข้อหลังไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องจรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ว่าควรปฏิบัติกับข้อมูลอย่างไร ตรวจสอบอย่างไรก่อนลงข่าวเลยครับ และไม่ได้เกี่ยวกับคุณ บก.แม้แต่นิดเดียว Posted by Phoenix() 2004-03-07 , 21:27:00 , 172.29.3.196 วิชา คุณมี อคติ นะผมว่า นักเขียนข่าวอย่างคุณ นักเขียนข่าวอย่าง นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว ขอชื่นชมในความสำเร็จของ ความเป็น นักเขียนข่าว ของคุณครับ ภูมิใจแทนทุกท่านที่เกี่ยวข้อง นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าว นักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าวนักเขียนข่าว Posted by ~~~~~~~~() 2004-03-07 , 21:30:52 , 172.29.3.242 เฮ้อ...รู้น้อย ว่ารู้มาก เริงใจ ...เอะ คุ้นๆ แฮ่ะ Posted by นายหัวครก() 2004-03-07 , 21:53:43 , 172.29.3.104 ขอตอบคำถามบางข้อที่คุณบก.ต้องการรู้ แต่ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมเป็นคนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยครับ แต่ผมคิดว่าส่วนที่ผมรู้และกำลังจะตอบ ณ ที่นี้เนี่ย เป็น"ข้อมูลที่เป็นความจริง"ครับ ที่คุณถามว่า "ทำไมแพทย์คนดังกล่าว ถึงบอกว่า ตนเป็นอาจารย์หมอ จึงผ่าหญิงชราที่โรงพยาบาลของรัฐซึ่งตนสังกัดอยู่ไม่ได้ อยากทราบว่าทำไม ช่วยอธิบายด้วย"... ทั้งนี้ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ภายในรพ.แห่งนี้นะครับ อาจารย์แพทย์ท่านที่คุณกล่าวถึงเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาและสังกัดอยู่หน่วยเฉพาะนั้นครับ ส่วนการผ่าตัดมะเร็งเต้านมของผู้ป่วยในทางการแพทย์นี่จะเป็นหน้าที่ของหน่วยศัลยกรรมทั่วไปครับ แพทย์ท่านนั้นไม่สามารถที่จะ"แหก"กฎดังกล่าวได้ครับ มันจะเป็นการก้าวก่ายหน้าที่ของอีกฝ่าย Posted by : แพทย์ไร้จรรยาบรรณ , E-mail : (channakhon@hotmail.com) , Date : 2004-03-18 , Time : 00:47:16 , From IP : 203.154.27.222 |
เท่าที่อ่านมาคิดว่าพอจะเดาถูกว่าเป็นแพทย์คนไหน แต่แพทย์ที่ดี ๆ ก็มีน่าจะระบุชื่อกันได้นะ เพื่อจะได้ ทำให้นมีกำลังใจที่จะทำความดีต่อไปได้ เพราะเคย ไปตรวจกับท่านที่คลีนิคและเห็นด้วยตาของตนเอง ท่านคือ อ.รุ่งดรจน์ กั่วพานิจ ขอให้ความดีเหล่านี้ คงอยู่ตลอดไปนะคะ Posted by : สดใส , E-mail : (3m) , Date : 2004-04-24 , Time : 23:40:56 , From IP : 172.29.1.176 |
ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ มีชีวิตอยู่ได้ ไม่ไปหาหมอ อยู่ไม่ได้นะครับ (โปรดใช้วิจารณญานในการชม) Posted by : . , Date : 2004-06-06 , Time : 11:16:55 , From IP : 203.113.41.104 |
ผมเชื่อคุณวิชาญครับ เพราะผมรู้จักป้าคนนั้น และที่สำคัญผมรู้ว่าหมอมักจะหมกเม็ดได้ ลองเข้ามาเป็นจริงๆ แล้วจะรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร มันดีและเลวพอกัน Posted by : kamon , E-mail : (kamon@hotmail.com) , Date : 2005-07-06 , Time : 01:06:16 , From IP : 172.29.3.67 |
เงินยังไม่เท่าไร อาจารย์หมอจากโรงบาลชื่อดังในกรุงเทพ ให้ลูกศิษย์รักษาแล้วเซนชื่อส่งเดชพอคนไข้อาการหนักตัวเองต้องมารับผิดชอบ ก็บอกให้เขาหยุดกลับมารักษาที่รพ. ใกล้บ้าน ทุเรศน่าดู Posted by : ya , E-mail : (ya@yahoo.com) , Date : 2006-06-09 , Time : 17:40:32 , From IP : 203-151-140-118.inte |
ความเห็นจาก Social Network : Facebook |
|
>>>>> Page loaded: 0.043 seconds. <<<<< |