┣▇ฤ ทน.สงขลา สั่งรื้อป้ายกระเช้าลอยฟ้า อบจ.หลังติดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อมูลจากเฟซบุ๊ค นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ข้อความระบุว่า
"อุทิศ ชูช่วย นายกฯอบจ.สงขลา มาขึ้นป้ายบริเวณเขตอุทยานธรรมชาติป่าสนแหลมสนอ่อน เทศบาลนครสงขลา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายกเทศมนตรีนครสงขลา เมื่อเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้าไปตรวจสอบ นายกิตติ ชูช่วย น้องชายนายอุทิศ และพวก กระทำการขัดขวางและให้รถอบจ.และคนประมาณ ๕๐ คนเข้ายึดพื้นที่ มีความผิดตามกฏหมายอย่างน้อย ๓ กระทง คือ (๑) ก่อสร้างป้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ตามพรบ. รักษาความสะอาดฯ ๒๕๓๕ (๒) ก่อสร้างอาคาร(ป้ายที่ขึ้นเป็นลักษณะอาคาร)โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพรบ.ควบคุมอาคารฯ (๓) ขัดขวางการปฏิบัติงานตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
นายกเทศมนตรีนครสงขลา ในฐานะผู้บังคับการทางหลวงท้องถิ่นและผู้อำนวยการป้องกันสาธารณภัยฯ และเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายหลายฉบับ(รวมทั้งพรบ.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ๒๕๓๕) ใช้ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ตามพรบฯธรรมชาตและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย และสั่งการดำเนินคดีจนถึงที่สุด
อาศัยอำนาจตามกฎหมายหลายฉบับ(รวมทั้งพรบ.สิ่งแวดล้อมฯและพรบ.ผังเมืองฯและพรบ.ควบคุมอาคารฯ) ซึ่งนายกเทศมนตรีในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามกฎหมาย มีอำนาจบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องผืนป่าสนชาดหาด แหลมสนอ่อน ให้เป็นแหล่งมรดกธรรมชาติของนครสงขลา และอนุรักษ์พัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของนครสงขลาส่งมอบให้คนรุ่นหลังสืบไป ส่วนสถานีกระเช้าลอยฟ้าให้อบจ.ไปสร้างที่ท่าแพขนานยนต์ซึ่งอบจ.บริหารอยู่ ซึ่งผมจะอนุญาตให้ดำเนินการได้ตามพรบ.ควบคุมอาคาร อย่ามาแอบอ้างบุกรุกพื้นที่มรดกธรรมชาติของเมือง และแนะนำให้ไปทำความเข้าใจข้อกฎหมายทั้งหมดรวมทั้งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ก่อนจะดำเนินการต่อไป"
รายงานต่อพลเมืองนครสงขลา
ล่าสุด อุทิศ เพื่อนผม ในฐานะนายกอบจ.สงขลา หลังจากนำร่องด้วยการใช้พื้นที่มรดกธรรมชาติประจำนครสงขลา แหลมสนอ่อน จำนวน ๕ ไร่ เพื่อสร้างสถานีรถกระเช้าลอยฟ้า ได้เสนอโครงการซึ่งใช้พื้นที่แหลมสนอ่อนท่ีเหลืออยู่ตั้งแต่สมิหลาแคมปิ้งก์จนถึงสระบัวราว ๑๐๐ ไร่ ต่อหน้าผู้แทนพระองค์ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงอุบลรัตน์ ในฐานะประธานมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ บังเอิญผมอยู่ในที่ประชุม เช่นเดียวกับเอกชัย ศรีวิชัย และอัยการสุรินทร์ วัตตธรรม น้าบ่าวสุดที่รักของผม พร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการสำคัญทั้งหลาย
ผมได้เสนอความเห็นในที่ประชุมว่า (๑) ประเด็นเรื่องเจดีย์องค์ดำ องค์ขาว เป็นเรื่องละเอียดอ่อนในสถานการณ์ชายแดนใต้ปัจจุบัน เพราะตามประวัติศาสตร์ เจดีย์องค์ดำองค์ขาว สร้างขึ้นตามคติความเชื่อหลังจากทัพสยามปราบกบฎแขกหัวเมืองสำเร็จ แล้วไกด์จะบอกนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมอย่างไร (๒) อุทิศและพวก ดำเนินการโดยให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและบางเรื่องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงต่อผู้บริหารกรมศิลปากร กรมธนารักษ์ และผู้บริหารหน่วยราชการต่างๆ และรวบรัดขั้นตอนการปฏิบัติทางกฏหมายและวิธีปฏิบัติทางราชการ รวมทั้งประธานมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ (๓) เรื่องนี้ละเอียดอ่อนเพราะอาจจะเข้าข่ายดึงเอาสถาบันเบื้องสูงที่ผมและพสกนิกรเคารพรัก มาใช้เพื่อขอใช้พื้นที่ธรรมชาติประจำเมืองสงขลา
ในกรณีที่คล้ายกัน สมัยที่เขาเป็นนายกเทศมนตรีนครสงขลา ภายใต้โครงการพัฒนาของเขา ได้กู้เงิน ๒๐๐ ล้าน ทำโครงการสงขลาอควาเรียม สงขลาเจ็ตตี้(ค่าเช่า ๗,๐๐๐ บาท/เดือน) แล้วให้เอกชนเช่า ๓๐ ปี ในราคาที่ไม่คุ้มกับการลงทุน แล้วเทศบาลต้องชำระหนี้ให้ปีละราว ๒๐ ล้านบาท ต่อไปอีกสิบปี ซึ่งเป็นภาระทางการคลังต่อไปอีกสิบปี เช่นเดียวกับการให้เอกชนเช่าพื้นที่ที่มีค่ายิ่งทั้งท่าเทียบเรือประมงเก่าและท่าเทียบเรือประมงใหม่ในราคาที่แสนถูก เป็นเวลา ๓๐ ปี ก่อนที่จะลาออกมาเป็นลงเลือกตั้งอบจ. กลายเป็นภาระที่ผมต้องเข้ามาจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ชาวบ้านให้มากที่สุด
กรณีนี้โครงการกระเช้าลอยฟ้า เป็นกิจการที่ไม่ได้หวังผลกำไร แต่การครอบครองดูแลพื้นที่ที่มีค่าในอนาคตอย่างแหลมสนอ่อนเป็นโอกาสที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์อีกมหาศาล โดยใช้ที่ดินหลวง ผมกล่าวในที่ประชุมว่า ที่ดินที่เป็นของรัฐในรูปแบบต่างเป็นที่ดินที่เป็นของแผ่นดิน ซึ่งคือประชาชนไทยผู้เป็นเจ้าของแ่นดิน หน่วยราชการเพียงแค่ดูแลตามกฎหมายไปใช้ยกให้กันโดยสนใจความเห็นสาธารณะและพลเมืองไทยไม่ได้
Posted by : NiyGolfOO , Date : 2012-09-14 , Time : 17:36:51 , From IP : mx-ll-183.88.12-92.dynamic.3bb.co.th
|
