ความคิดเห็นทั้งหมด : 3

เรียนรู้ชีวิตจากเรื่องของ ลิง


   จิตของคนเรานั้น เหมือนกับลิง
เราจึงเรียนรู้เรื่องของจิตใจของเราได้มากมายจากพฤติกรรมของลิง
ลิงนั้นเกลียดกะปิ ถ้ากะปิถูกมือมันเมื่อใด
มันจะถูนิ้วกับพื้นจนเลือดไหลเต็มมือจนกว่ากลิ่นกะปิจะหายในที่สุด
จนกลายเป็นว่า “กะปิ”
ถึงจะร้าย ก็ไม่ร้ายเท่า “ความเกลียดกะปิ”
ที่มือลิงเป็นแผลเหวอะหวะ ไม่ใช่เพราะกะปิ
หากเป็นเพราะความจงเกลียดจงชังกะปิต่างหาก
สิ่งที่เราเกลียดนั้น
บ่อยครั้งไม่น่ากลัวเท่ากับความเกลียดชังในจิตใจเรา
ความเกลียดชัง
หรือพูดให้ถูกก็คือความรู้สึกอยากผลักไส
ซึ่งรวมทั้งความโกรธและความกลัว
แต่นั่นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของความจริงเท่านั้น
นอกจากความอยากผลักไสแล้ว

ความยึดติดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องระวังไม่แพ้กัน
ในอินเดีย ลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้าน
เพราะชอบขโมยผลไม้ในสวน ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิง
โดยใช้กล่องไม้ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็กๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้
ในกล่องมีถั่วซึ่งเป็นของโปรดของลิง
วางไว้เป็นเหยื่อล่อ
วันดีคืนดี ลิงมาที่สวน
เห็นถั่วอยู่ในกล่อง ก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบถั่ว
แต่พอถอนมือออกมาก็ติดฝากล่อง
เพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝากล่องที่เจาะไว้
ลิงพยายามดึงมือเท่าไรก็ไม่ออก
พอชาวบ้านมาจับ ก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้
เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียว
สุดท้ายก็ถูกคนจับได้
ลิงหาได้เฉลียวใจไม่ว่า
เพียงแค่มันคลายมือออกเท่านั้น
มันก็เอาตัวรอดได้
แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
จึงต้องเอาชีวิตเข้าแลก
มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่เราใฝ่ฝันอยากได้
จนถึงกับยึดไว้อย่างเหนียวแน่น
เวลาประสบปัญหา
เพียงแค่คลายสิ่งที่ติดยึดนั้นเสียบ้าง ปัญหาก็คลี่คลาย
แต่เป็นเพราะเราไม่ยอมปล่อย
จึงเกิดผลเสียตามมาอย่างมากมาย..
ไม่คุ้มกับสิ่งที่ติดยึด
ปัญหาทั้งหลายในชีวิตนั้น
ถ้าเรารู้จักปล่อยวางเสียบ้าง
มันก็จะบรรเทาไปได้เยอะ
บ่อยครั้งการปล่อยวางไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาเท่านั้น
หากแต่เป็นทางออกจากปัญหาเลยทีเดียว
ความจริงการอยากผลักไสอะไรสักอย่าง
ก็เป็นการติดยึดอีกแบบหนึ่ง
ทั้งๆ ที่ลิงพยายามถูกำจัดกลิ่นกะปิไปจากมือ
ก็อดไม่ได้ที่จะดึงมือมาดมหากลิ่นกะปิซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในหลายๆกรณี
ความทุกข์ไม่ได้มาจากไหน
หากมาจากการยึดติดไม่ยอมปล่อย
ดั่งเจ้าลิงหวงถั่ว.



Posted by : จิต , Date : 2004-02-23 , Time : 11:55:54 , From IP : 172.29.3.126

ความคิดเห็นที่ : 1


   เป็นเรื่องที่ดีนะครับ
หวังว่ามันคงมีประโยชน์กับหลายๆคนที่อ่านบทความนี้


Posted by : เห็นดีเห็นงาม , Date : 2004-02-23 , Time : 14:11:35 , From IP : 192.168.26.65

ความคิดเห็นที่ : 2


   ธรรมธรรมโม ดีจังเลยนะครับ
อ่านแล้วรู้สึกว่าผู้เขียนกำลังน้อยเนื้อต่ำใจอะไรอยู่สักอย่างหนึ่ง
การดำเนินชีวิตของคนเรามีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ไม่มีใดรที่มี
รูปแบบที่เหมือนกันเลย

แต่สิ่งหนึ่งที่เรามักยึดและถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ
ก้อคือการมีชีวิตที่ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร แต่ก้อล่ะเน๊าะในเมื่อสังคม
มีคนที่มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป บางรูปแบบฃีวิตจึงเป็นรูปแบบที่เรารู้สึกว่ามัน
แตกต่างและดูไม่เหมาะสม บางครั้งก้อรู้สกน่ารังเกียจเลยก้อมี

แต่เคยคิดใช่มั๊ยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ถือกำเนิดขึ้นล้วนมีหน้าที่ที่ถูกกำหนดให้
ทำ ทุกสิ่งทุกอย่างจึงมีความสำมะคัญเท่ากัน


Posted by : muser , E-mail : (muser_na@hotmail.com) ,
Date : 2004-02-23 , Time : 18:52:48 , From IP : cacheku.ku.ac.th


ความคิดเห็นที่ : 3


   ชอบจัง ให้ขัอคิดดีมาก นำสิ่งดีๆมาอีกนะคะ

Posted by : Josephine , E-mail : (MU_ideal@hotmail.com) ,
Date : 2004-03-23 , Time : 21:29:05 , From IP : 203.113.77.132


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<