ความคิดเห็นทั้งหมด : 19

ขอคำชี้แจงจากผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้อง


   มีข้อสงสัยบางประการเกี่ยวกับ web board ของคณะ
** เริ่มไม่ทราบเหตุผลของการมา post เพราะทุกครั้งที่เสนอปัญหา หรือข้อเสนอแนะ ไม่เห็นมีการตอบปัญหา หรือชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเลย มีเพียงการ post แสดงความคิดเห็นของผู้ที่ประสบปัญหาเท่านั้น แล้วก็ถูกปล่อยให้เวลาผ่านไป จนกระทู้ถูกลืม ผมคิดว่าถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไป web board แห่งนี้คงเป็นแค่เพียงสถานที่ไร้สาระที่ใช้ระบายความรู้สึกเท่านั้น
ปล. ขอคำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องด้วยครับ ผมอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นกับคณะของเรา


Posted by : รัก มอ. , Date : 2004-02-21 , Time : 19:19:12 , From IP : 172.29.3.244

ความคิดเห็นที่ : 1


   ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงแต่ก็เป็นผู้ร่วมใช้กระดานข่าวแห่งนี้เหมือนกัน

ผมไม่แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของกระดานข่าวแห่งนี้คือเวทีชี้แจงการบริหารจัดการคณะฯอย่างเป็นทางการหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้
๑) ไม่มีวัตถุประสงค์อย่างที่ว่าบ่งบอกไว้ตรงไหนของกระดานนี้เลยว่าเป็นเวทีดังกล่าว รวมทั้งเราไม่ทราบด้วยซ้ำไปว่าผู้บริหารหรือใครบ้างที่อ่าน
๒) ไม่มีระบบสมาชิกที่ทำให้ความเห็นต่างๆที่ลงบนที่แห่งนี้ตรวจสอบได้ ซึ่งระบบ feedback ที่เป็นทางการที่ไหนก็ตาม ที่ต้องการคำตอบอย่างถูกต้อง เป็นทางการ จะผ่านขั้นตอนที่โปร่งใสและตรวจสอบข้อมูลต่างๆได้ การที่เราใช้นามแฝงที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ การที่เราทุกคนเสนอความเห็นโดยไม่ต้องชี้แจงที่มาของข้อมูล อย่างที่ผ่านมา ทำให้การสื่อสารในที่นี้ห่างไกลจากลักษณะของ "การชี้แจงอย่างเป็นทางการ"
๓) ถึงกระนั้นก็ตาม ที่ว่าไม่มีการตอบหรือชี้แจงเลยนั้น คงไม่ใช่ทีเดียว ถ้านับย้อนหลังไปประมาณสองปีมานี้ ผมคิดว่ามีเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องได้ลงมาชี้แจง หรือตอบปัยหา หรือมีการปฏิบัติการบางอย่างที่แก้ไขสิ่งที่พูดกันบนนี้โดยไม่มีการแสดงตัวอยู่หลายกรณี ซึ่งก็เป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจ เพราะเวทีนี้ไม่ใช่ที่นำเสนอผลงานของหน่วยงานต่างๆอยู่แล้ว

ตราบใดที่กระดานข่าวนี้ ยังเป้นระบบเปิดต่อบุคคลทั่วไป เรื่อง "ภายใน" ที่อ่อนไหวก็จะไม่ได้มีการพูดกันอย่างชัดเจน เพราะว่าคณะฯเราเกี่ยวเนื่องกับผู้ป่วย ผลกระทบที่โดน confidentiality ของคนไข้ หรือกระทบต่อการบริการทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจจะลงเอยไปถึง สถาบัน และจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์พยาบาล ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ควรมีการจัดการอย่างรอบคอบ มากกว่าที่จะให้เป้น open-end ที่สามารถกลายเป็นระบบข่าวลือ หรือ ระบบบัตรสนเท่ห์

การที่ web-board แห่งนี้สามารถเป็นที่ระบายความรู้สึกได้ก็มีประโยชน์ แต่เรายังสามารถทำได้อีกอย่างหนึ่งคือการเรียบเรียงความคิดเห็นพร้อมทั้งเหตุผลมาแลกเปลี่ยนกัน เป็นเวทีในการฝึกหัดการสื่อสาร ณ ที่สาธารณะที่ดีมาก ซึ่งตามนิยามของบัณฑิตคือ ๑) มีความรู้ความสามารถและความชำนาญในวิชาที่ศึกษา ๒) มีความสมบูรณ์ ความงามการแสดงออกทั้งกายวาจาใจ และ ๓) สามารถรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคมได้ การฝึกหัดแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ฝึกหัดเสนอแนะเรื่องราวต่างๆประกอบเหตุและผลและหลักการจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง

ส่วนเรื่องการบริหารคณะฯนั้น ผมคิดว่ามี channel ที่เปิดโอกาสให้ผู้หวังดีทุกท่านแสดง และเป็น channel ที่ตรวจสอบได้ เรื่องธรรมาภิบาลนั้น สิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ accountability หรือการสืบย้อนหา "ความรับผิดชอบ" และ "คนรับผิดชอบ" ได้นั่นเอง

นั่นคือความเห็นส่วนตัวของผมต่อสิ่งที่เราน่าจะได้จากการใช้กระดานข่าวแบบเปิดนี้ครับ




Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-21 , Time : 22:11:11 , From IP : 172.29.3.246

ความคิดเห็นที่ : 2


   ......ผมคิดว่ายากครับ....กับการคาดหวังอะไรกับกระดานข่าวแบบนี้...ผมเคยเห็นบางกรณีที่ผู้เกี่ยวข้องมาตอบก็มี...ซึ่งผมนับถือคนเหล่านั้นที่กล้าออกมายอมรับ....ที่กล้าออกมาพูดโดยใช้ชื่อจริง....ผมเองก็ยังเป็น Anonymous อยู่เหมือนเดิม...ถึงจะมีใครหลายๆท่านทราบว่าผมเป็นใครก็เถอะ....ผมเองก็ยังใจไม่กล้าพอที่จะใช้ชื่อจริงเขียนอยู่ดีนั้นหละ....แล้วคุณคิดว่าไงหละครับ.....คิดว่าคนที่กล้า...กับคนที่ขี้ขลาดอย่างผม....ใครน่านับถือกว่ากัน......:D...:D.....สำหรับผม....ผมนับถือคนกล้าครับ....ผมได้แต่ดูและเก็บไว้ชื่นชมเท่านั้นหละครับ.....
................ผมเคยพูดประโยคนี้มาแล้ว....และผมก็ยังชอบมันอยู่....."มีเพียงความตายเท่านั้น....ที่ทำให้เราเสมอภาคกัน"......คุณหาความยุติธรรมจากสังคมเหลวแหลกนี้ไม่ได้หรอก....แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ขี้ขลาด...ใครก็ตามที่ไม่ใส่ใจ....ใครก็ตามที่เอาเปรียบคุณ....สักวัน....ทุกคนก็ต้องเสมอภาคกัน....ใครบ้างที่จะชนะ"ความตาย".....ไม่มีวันครับ......



Posted by : Death , Date : 2004-02-22 , Time : 19:37:09 , From IP : 172.29.1.206

ความคิดเห็นที่ : 3


   เห็นด้วยขั้นสุด ไม่งั้นมันก็ไม่ได้ปรับปรุงซักที ทั้งๆที่มันเป็นความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆจริงๆ

Posted by : มาดูกันบ้างเถอะ , Date : 2004-02-22 , Time : 19:56:58 , From IP : 172.29.2.163

ความคิดเห็นที่ : 4


   นับถืออาจารย์เหมือนกันที่ยอมเปิดเผยตัวเอง (ถึงแม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม อิอิ)

แล้วไม่คิดจะทำให้เว็บบอร์ดเป็นระบบที่สามารถใช้ feedback ได้จริงๆ หรือครับ ผมคิดว่าทรัพยากรของเราที่มีอยู่สามารถทำได้ครับ

ขึ้นอยู่กับว่าจะทำหรือไม่ทำ


Posted by : ปีศาจลูกหมี , Date : 2004-02-22 , Time : 20:45:10 , From IP : 203.157.228.17

ความคิดเห็นที่ : 5


   ไม่เห็นจำเป็นต้องตอบหรือชี้แจงเลย แค่เค้าเข้ามาอ่าน แล้วเก็บเอาไปคิด เอาไปแก้ไข ก็พอ



Posted by : โซดา โค้ก , Date : 2004-02-22 , Time : 21:07:31 , From IP : 172.29.3.242

ความคิดเห็นที่ : 6


   Technically แล้วไม่ยากจริงๆอย่างคุณปิศาจลูกหมีว่า แต่เท่าที่ลองถามเล่นๆดูว่าถ้า feedback แบบ trace กลับได้ว่าใคร รู้สึกหลายเสียงจะยังไม่พร้อม ชอบเชกแบบห็นตัวข้างเดียวอยู่

อย่างที่คุณโซดา โค้กว่าก็มีส่วนถูก แต่เพื่อป้องกัน frustration ของคน feedback (ในระบบเปิดเผยนะครับ) การชี้แจงว่าทำอะไรไปถึงไหนหรือว่าไม่ทำเพราะอะไรก็มีประโยชน์มากเหมือนกัน

จริงๆคุณ garnet ก้บอกๆว่าถ้ามีเวลาจะจัดการเรื่องระบบสมาชิกให้ ถ้าเรามีระบบอย่างว่าและมี Input ข้อแนะนำดีๆ ก็จะดีไม่น้อยครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-23 , Time : 00:03:27 , From IP : 203.155.144.25

ความคิดเห็นที่ : 7


   ความคิดเห็นจากกระดานข่าวจากคนที่ไม่ประสงค์จะออกนามอาจเป็นเพียงหนึ่งเสียงที่แสดงความคิดเห็น ถามว่าเชื่อถือได้หรือไม่ ตอบว่าทั้งได้และไม่ได้
หากถามต่อไปว่าจะมีการแก้ไขหรือไม่ ก็น่าจะตอบว่าไม่ได้ เพราะความคิดเห็นของคนเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งจำนวนไม่แน่นอน ไม่ใช่ตัวแทนของคนทั้งหมด คงไม่มีใครที่จะแก้ไขบางเรื่องให้กับคนเพียงคนๆเดียวหรือกลุ่มเดียว ที่ไม่รู้ว่าเป็นความคิดเห็นของใครกันแน่ คนในหรือนอก เพราะการปรับเปลี่ยนคงจะต้องมองในภาพรวมของคนทั้งหมด นักศึกษาแพทย์ไม่ใช่ทั้งหมดที่มีความคิดเห็นตรงกันกับคนเสนอในกระดานข่าว มีวิธีทางหรือทางอื่นหรือไม่ที่จะเสนอแน่ทั้งไม่ลงชื่อ คิดว่ามีและคิดว่าหลายภาควิชาได้จัดทำแล้ว แต่เท่าที่เคยฟังอาจารย์บ่นก็คือนักศึกษาไม่สนใจที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะอะไร หรือ(ไม่แน่ใจ)การอ้างว่าเสนอไปแล้วไม่แก้ไขไม่ได้หมายความว่าจำต้องแก้ แต่หากเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ก็ไม่จำเป็นต้องแก้ กลุ่มของพวกเราปี 5 บางคนยังมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน หากความคิดเห็นเพียงเล็กน้อย ถามว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนหรือไม่
แต่สิ่งที่ได้จากความคิดเห็นก็คือ มีคนไม่เห็นด้วยซึ่งเป็นหน้าที่ของอาจารย์ต้องนำไปพิจารณาและตั้งอยู่ในความเป็นกลางและไม่ทิฐิ และพิจารณาปรับปรุงในส่วนนั้น เข้าใจว่ามีระบบในการจัดทำอยู่แล้ว การทำงานในสังคมไม่ว่าทำอะไรก็ตามมักจะมีสองมุมมองเสมอ เพียงแต่เราจะเอาอารมณ์หรือเหตุผลเป็นที่ตั้งกันแน่


Posted by : นักศึกษาแพทย์ 5 , Date : 2004-02-24 , Time : 00:18:20 , From IP : r178-skaHS1.S.loxinf

ความคิดเห็นที่ : 8


   ผมเห็นด้วยกับคุณ "นักศึกษาแพทย์ 5" นะครับ

กระดานข่าวที่ post โดยใช้นามแฝงนั้น เราไม่สามารถจะตัดสินเรื่อง "จำนวน" ได้ ไม่สามารถจะตัดสินว่าเป็นเสียงของ "ใคร" ได้ ไม่สามารถจะลงความเห็นว่าข้อมูลที่ให้มานั้น valid หรือไม่เพราะไม่ทราบแม้แต่ว่าเป้นคนในคณะรึเปล่า

ที่สามารถทำได้คือถ้าความเห็นต่างๆนั้นประกอบด้วย "เหตุผลและหลักการ" ครับ ต่อให้เป้น anonymous หรือใช้นามแฝงนามปากกา สิ่งที่คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจคือ logic ที่มาที่ไปของข้อสรุป ข้อเสนอแนะ

ดังนั้นถ้าใช้นามแฝง ก็ขอให้อธิบายที่มาที่ไปว่าประเมินอย่างไร วิธีไหน และมีข้อเสนอว่าอย่างไร ที่คิดว่าดีเพราะอะไร ทำอย่างนี้แล้วเราจะอภิปรายอยู่บนเหตุและผล ไม่มีอารมณ์ หรือความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยว จะดีกว่าหรือไม่? อะไรที่เป็นความรู้สึก หรือที่เรียกว่า subjective evaluation นั้น นับยากครับ มันมีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่ช่วงของวัน อารมณ์ของคนพูด ไม่เหมือน objective evaluation





Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-24 , Time : 16:39:59 , From IP : 172.29.3.209

ความคิดเห็นที่ : 9


    ลุงนกครับ...แล้วถ้า register users แล้วจะ ckeck ตัวผู้ Post ได้ แล้วถ้าวิจารณ์ไปก็รู้หมดสิครับว่าใครเป็นใคร ก็เท่ากับว่าโดนไล่เบี้ยที่หลังได้แล้วใครจะกล้าล่ะครับลุง ...

Posted by : นะครับ.. , Date : 2004-02-25 , Time : 05:29:58 , From IP : 172.29.3.94

ความคิดเห็นที่ : 10


   อย่างที่เราเคยพูดกันไว้แล้วหลายครั้ง อย่างไปไหนคือ "วัฒนธรรม" ที่เราอยากจะใช้ ให้เกิดขึ้น วัฒนธรรม "บัตรสนเท่ห์" หรือ วัฒนธรรมที่เราสามารถวิพากษ์วิจารณ์แบบเปิดเผยและ "สร้างสรรค์"

แน่นอนครับ ถ้าเราสามารถ check ผู้ส่งกระทู้ได้ สิ่งที่ผมเห็นว่าจะหายไปจากกระดานข่าวคือไม่มีใครมาด่าพ่อล่อแม่กันตามอำเภอใจบนที่สาธารณะ ไม่มีการชี้หน้าว่าว่าใครสาระเลวในสายตาของใครแค่ไหน และถ้าไม่พอใจอะไรสิ่งที่จะทำได้คือให้เหตุผลว่าทำไม และอะไรคือสิ่งที่ฉลาดกว่า หรือมีประสิทธิภาพมากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะอะไร เพราะว่าสิ่งที่เราพูดจะทำให้เราถูกเชื่อถือหรือไม่นี่เอง ที่จะเป็นกรอบทำให้เราทำการ feedback แบบ positive กันได้ แบบสร้างสรรค์กันได้ แบบประมเนได้ แบบใช้เหตุใช้ผลกันได้ จะดีกว่าการที่กระตุ้นความเกลียดชัง หรือทำให้คนอ่านเกิดความสงสัยว่าคนส่งกระทู้มีอะไรเป็นส่วนตัวกับผู้ถูกวิจารณืหรือเปล่าจากการเลือกภาษา การโจมตี อย่างที่ผ่านมา แล้วความน่าเชื่อถือหรือประโยชน์ที่จะได้จากการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการนั้นจะเกิดรึเปล่า? "การวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์" นี่แหละครับที่จะเป็นเกราะให้ใครไม่มา "ไล่เบี้ย" เราทีหลัง

"ไล่เบี้ย" นั้น พูดกันมานาน ลองขยายความเป็นรูปธรรมสักหน่อยได้ไหมครับ ว่าถ้าเป้นข้าราชการ พนักงานของรัฐแล้ว จะ "โดน" อะไร และถ้าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้วจ "โดน" ไล่เบี้ยอย่างไร จินตนาการดูว่าเราส่งความเห็นอย่างเปิดเผย เป็น constructive criticism ซึ่งทุกๆคนรู้ว่าเราเป็นใคร แล้วต่อมาเราโดน "ไล่เบี้ย" จากผู้ที่รับผิดชอบแล้วนั้น เรื่องราวมันจะโจ๋งครึ่ม แจ่มแจ้งแค่ไหน จะมีใครยอมสละชื่อเสียงตำแหน่งเพื่อแก้แค้นนักศึกษาหรือข้าราชการที่ทำ positive criticism โดยที่สามารถตรวจสอบได้ชัดๆทั้งแรงบันดาลใจและกลไกต่างๆจริงหรือ

ตรงกันข้ามถ้าเป็นระบบใต้ดิน การ feedback ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใคร จากที่ไหน ทำงานอะไรสังกัดอะไร มาชี้หน้าบุคคลที่สาม ด่าประณามโดยไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าเป็นยังไงมายังไงเลยนั้น คุณนะครับคิดว่าบรรยากาศอย่างที่ว่านั้น กระตุ้นการสนองตอบแบบใด? และถ้าไม่มีการตอบสนองนั้นเพราะข้อมูลที่ให้มามันไม่มีแหล่ง ไม่มีอะไรยกเว้นการก่นด่าเฉยๆนั้น คนกลางที่มาอ่านจะเข้าข้างใคร? ลองไตร่ตรองดูว่ากรรมการจัดสรรซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากที่อื่นนั้น มาอ่านข้อมูลต่างๆเหล่านี้ เขามีทางเลือกที่จะเชื่อว่านี่เป็นข้อมูลที่กลั่นกรองแล้ว ถูกต้องแล้วหรือไม่ ถ้าคนให้ข้อมูลยืนยันว่าไม่ขอทำให้เกิด accoutable ได้

คุณ นะครับ ลองอภิปรายคำถามต่างๆข้างบนให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ? ไหนๆเวลาคุณถามผมตอบ จะดีหรือไม่ถ้าผมถามแล้วคุณเสนอความเห็นบ้าง?



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-25 , Time : 18:33:11 , From IP : 172.29.3.224

ความคิดเห็นที่ : 11


   ......ผมว่ามันได้อย่างเสียอย่างนะครับ.....ระบบที่คุณว่ามามันอาจจะดีในแง่ที่คุณว่า......สังคมมันอาจจะดีจริง.....แต่มันเป็นสังคมที่ใส่"หน้ากาก" หรือเปล่า......มันจะเป็นระเบียบเรียบร้อย.....แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆนะเหรอ???.....ผมไม่เชื่อครับว่าจะไม่มีการมานั่งด่ากัน....คุณคิดว่าผมจะเกรงใจใครงั้นเหรอ....ถ้าคนรู้ว่าผมเป็นใครนะ?......คุณยังไม่กลัวใครเลยนิ.....อย่างนึงที่ผมยังเชื่ออยู่ว่า.....ยังมีคนอยู่บางจำพวกที่เป็นพวกอคติ...ที่ทำให้ประเทศชาติเราไม่เจริญสักที....และคนเหล่านี้หละ.....ที่มีไอ้สิ่งที่คนหลายคนกลัวหนักหนาก็คือ"อำนาจ".....คุณจะมองว่าด้านดีเป็นยังโง้นอย่างงี้.....ทุกอย่างตรวจสอบได้.....คุณเคยลงไปอยู่ด้านมืดสุดๆที่มีแต่คนเห็นแก่ตัว.....เอารัดเอาเปรียบ...ไม่เคยเหลียวแลความเป็นคนของคนอื่นบ้างหรือเลย....แล้วสิ่งที่คุณร่ำร้องหาคือความยุติธรรม....ไม่เคยแม้แต่จะเหลือบแลมาทางคุณ......แล้วคุณคิดว่าการทำตามขั้นตอนเหล่านั้น....ในสังคมแบบนี้.....จะพามาซึ่งความเที่ยงธรรมที่ใครๆใฝ่หาอย่างงั้นหรือ......คนเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องสละตำแหน่งหน้าที่การงาน....ไม่ต้องลงมือเองด้วยซ้ำ......คำว่าไล่เบี้ยนั้นนะ....เป็นเพียงคำที่บ่งบอกถึงการกระทำด้านสว่างเท่านั้นหละครับ.....คิดเหรอครับว่าคนที่มีอำนาจทั้งด้านมืดและด้านสว่าง.....จะใช้แต่ด้านสว่าง.....ผมเคยบอกมาหลายครั้งแล้วว่าผมสูญสิ้นศรัทธาเรื่องนี้มานานแล้ว......บางช่วงเคยมีความหวังขึ้นมาบ้าง.....แต่โดยรวมแล้วแย่ครับ.....อย่าหลงไหลอะไรในสิ่งที่เลื่อนลอยเลยครับ....การมีความหวังนั้นดีครับ.....แต่ไม่จำเป็นเสมอไปที่ทางที่จะนำเราไปยังจุดมุ่งหมายจะต้องเป็นทางสายตรงเท่านั้น...................



Posted by : Death , Date : 2004-02-25 , Time : 23:07:27 , From IP : r11-skaHS1.S.loxinfo

ความคิดเห็นที่ : 12


   มีหรือไม่มีศรัทธานั้นเรื่องหนึ่ง สุดท้ายอยู่ที่อะไรคือสิ่งที่เรา "ทำ"

พูดถึงเรื่องสังคมที่ "ใส่หน้ากาก" เหมือน ironic เรากำลังเปรียบเทียบระบบการแสดงความเห็นอันหนึ่งซึ่งใช้นามแฝง ใช้ภาษาอย่างหนึ่ง กับอีกระบบหนึ่งที่แสดงความเห็นโดยสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนแสดงความเห็น แต่คุณ Death สรุปว่าระบบหลังเป็น "สังคมใส่หน้ากาก"?

คนนั่นงด่ากันตลอดเวลานั้นอาจจะจริงครับ แต่ผมกำลังจะบอกว่ากระดานสาธารณะแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ และผมคิดว่าบางทีมันอาจจะถูกมองเป็นตัวแทนความคิดเห็น การกระทำของคนในคณะแพทยศาสตร์ ใครจะนั่งด่ากันในห้องนั่งเล่น ในห้องนอน ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะไปเดือดร้อนหรือแสดงความเห็น แต่บนที่แห่งนี้คุณสามารถด่าใครตามที่คุณต้องการ ผมก็สามารถแสดงความเห็นว่าผมคิดของผมแบบนี้ ใครถูกใครผิด ผมไม่ care หรอกครับ

คุณ Death พูดถึงเรื่อง "อคติ" ผมคิดว่าอคติคือการ fix idea ที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ หรือไม่พอใจจะเปลี่ยนไม่ว่าคนอื่นจะมีความเห็นว่าอย่างไร ผมอาจจะมีอคติก็ในแง่ที่ว่าผม "เชื่อว่า" เราสามารถมีสังคมที่เราต้องการ แต่เราต้องช่วยกันทำ ทุกคนมีอคติกันทั้งนั้น แต่อคตินั้นๆถูกนำมาใช้ในทางบวกหรือทางลบก็เป็นสิ่งที่แต่ละปัจเจกใช้สติปัญญาไตร่ตรองออกมาเอง

ผมไม่ทราบว่าการสูญเสียศรัทธาในระบบเปิดเผยนั้น เป็นเรือ่งเดียวกับการสร้างศรัทธาในระบบ "มืด" หรือไม่ มีคนมากมายคิดว่าประสบการณ์ของตนเองนั้นสุดๆ เห็นมาหมดทุกอย่างแล้ว ผ่านมาแล้วชีวิตที่มืดสุดๆ สังคมนี้แก้ไม่ได้ ลองศึกษาความเห้นส่วนตัวของคนอย่าง Nelson Mandala ที่ต่อสู้ Apathy ที่ติดคุกเป้นสิบๆปี ดูแล้วเปรียบเทียบว่าที่เราว่าเรา "เห็นมาหมดแล้ว" นั้นน่ะ ที่เราว่าเราสู้มาทุกรูปแบบนั้นน่ะ เป็นอย่างไร ทำไมและอะไรที่เป็นความแตกต่าง? เราคิดว่าเราเคยสู้กับความอยุติธรรมมาแล้วทุกรูปแบบ ลองคิดดูว่าทำไมคนอย่างมหาตมะคานธีถึงมีความตั้งใจที่จะแก้ และที่ท่านผ่านๆมานั้นเท่าหรือไม่เท่ากับที่ "เรา" เคบประสบพบและแก้ปัญหามา

คุณเตือนพวกเราว่าอย่าหลงไหลอะไรที่เลื่อนลอย ผมเห้นด้วยครับ เรา "ทุกคน" อย่าเชื่อมั่นอะไรเกินไป บางทีที่เรา "มั่นใจ" ว่าเราเป็นเอกทัตคะทางชีวิตนั้นอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดจริงๆก้ได้



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-25 , Time : 23:26:21 , From IP : 172.29.3.201

ความคิดเห็นที่ : 13


   ........:D....:D.....ขอบคุณครับ....:D....:D
...............ผมชอบที่คุณพูดจัง.....ว่าใครผิดใครถูกคุณไม่แคร์เนี่ย...:D.....คุณกำลังเดินมาทางด้านมืดแบบผมแล้วหละ...:D...:D.........
....................ผมคิดว่าที่คุณเชื่อนั้นถูกครับ......แต่สังคมที่เรามีนี้.....เราคงไม่สามารถมีแต่คนดีอยู่ได้อย่างเดียวหรอกครับ......คิดดูถ้ามีแต่คนอย่างคุณ.....คนแบบผมเอาไปยิงเป้าหมด.....คุณคิดว่าสังคมที่มีแต่คนดีๆนี่....ไม่มีปัญหาเหรอครับ???.......ทุกสังคมไม่ว่าจะที่ไหน....กระดานข่าวของอะไรของใครที่ไหน....ทุกทีมีปัญหาทั้งนั้นหละครับ......และทุกที่ก็มีหน้ากากให้ใส่ทั้งนั้น...ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือกระดานข่าวนี่.....คุณแน่ใจเหรอว่าสังคมที่คุณอยู่....ไม่มีใครใส่หน้ากากเผชิญหน้ากับคุณ?.....ไม่หละมั้ง......การที่กระดานข่าวไม่มีระบบสมาชิก.....คุณจะได้เห็นกระทู้อะไรประหลาดๆโผล่มาเรื่อยๆ.....ไม่จำเป็นนี่ครับ....ว่าทุกอย่างจะมีความหมาย.....ทุกกระทู้ที่อ่านมีแต่เรื่องดีๆ.....กระดานที่มีแต่กระทู้เหล่านั้นจะขาดชีวิตชีวาไปเยอะเลยครับ.....คุณอาจจะคิดว่าการที่มานั่งด่าคนอื่นที่ไม่ยุติธรรม.....แล้วบางสิ่งที่คุณไม่รู้..บางความไม่ยุติธรรมทีคุณไม่เคยเห็น...บางสิ่งที่คุณหวังจากระบบ จากความเที่ยงธรรมที่คุณคิด.....มันจะนำพามาซึ่งความเสมอภาคในสังคมงั้นเหรอ?.....ดีครับที่คุณยกตัวอย่างบุคคลสำคัญมาสองคน....ผมไม่เถียงครับว่าแนวทางในการดำเนินชีวิตสองท่านนั้นน่าสนใจ......แต่....คุณเคยคิดหรือเปล่าว่า......มีสักกี่คนของประชากรในโลกนี้.....ที่มีโอกาสไปถึงอย่างที่สองท่านนั้นไปได้.......เคยคิดถึงบางคนที่ไม่เคยได้รับความยุติธรรมเลยตลอดชีวิต....เคยคิดถึงใครที่โอกาสในชีวิตไม่เคยอำนวยให้เลย....เคยคิดถึงใครที่มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้อย่างถูกเอาเปรียบ อย่างสิ้นหวัง โดยที่ไม่มีแม้แต่ชื่อจารึกลงบนพื้นดินบ้างหรือเปล่า......คนเหล่านั้นมีกี่คน.....????.......ผมไม่ได้เห็นอะไรมามากจนถือว่าแนวทางของผมกลายเป็นทางดำเนินชีวิตที่น่านับถือหรอกนะครับ......ชีวิตผมไม่ได้สวยหรูแบบนั้น......อย่างที่ผมบอก.....ไม่จำเป็นว่าทางสายตรงเท่านั้นที่จะพาเราไปยังจุดหมาย.....ทางที่คุณเลือกเป็นทางที่ดีครับ....คุณชอบเล่นเกมวางแผนไม่ใช่หรือครับ....คุณคงเคยเห็นว่า Unit แบบเดียวที่ดี.....ไม่สามารถชนะ Unit 10 แบบของอีกฝั่งได้หรอกครับ......คุณต้องเลือกที่จะใช้บาง Unit ที่คุณคิดว่าไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้กับ Unit ประหลาดของฝ่ายตรงข้าม....โดยที่ Unit ปกติที่คุณคิดว่าดีไม่สามารถใช้ได้.......นั่นคิอการวางแผน.....เหมือนกันหละครับ....คุณกับผมคิดกันคนหละอย่าง......คุณไปทางตรง....ผมไม่ได้ไปทางนั้น.....คุณคิดว่าผมเป็นคนเลวหรือเปล่าหละ?.....คุณคิดว่าผมที่เห็นคนเอาเปรียบผมนี่....ผมยังอยากให้ไอ้คนเหล่านี้ยังเดินอยู่เพื่อไปเอาเปรียบคนอื่นต่อแบบที่เอาเปรียบผมงั้นเหรอ?..???.......

......เพื่อนผมคนนึงเคยสอนผมเล่นเกมครับ....มันบอกว่า.....จะต้องเสีย Unit ที่ดีเป็นกองทำไมเพื่อไปกำจัด Unit ที่เลวสักตัว.....ทำไมไม่ส่งไอ้ Unit ที่เลวที่มี...ลงไปจัดการหละ???......คุณอาจจะรู้เทคนิคนี้อยู่แล้วก็ได้....:D...:D



Posted by : Death , Date : 2004-02-26 , Time : 00:29:56 , From IP : 172.29.3.225

ความคิดเห็นที่ : 14


   ผมไม่ชอบการ label ใครว่าเลวหรือไม่เลวครับ ผมเชื่อในเรื่องกรรมและผลแห่งกรรม ดังนั้นการตีค่านั้นดูเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยไป

ผมจะไม่พยายามบอกใครด้วยว่าเขาอยู่ในความมืดหรือความสว่าง แต่ผมจะพยายามเข้าใจตนเองว่า "ผม" เองนั้นอยู่ในความมืดหรือความสว่างก่อน สังคมมีคนอย่างผมมากขึ้นจะเป็นอย่างไร หรือมีอย่างคุณมากขึ้นจะเป็นอย่างไรนั้น เราแต่ละคนก็ไม่จำเป็นต้องมีจินตนาการที่เหมือนกัน

การที่คนอย่าง Nelson Mandela หรือ มหาตมคานธีมีน้อย ไม่ได้แปลว่าเราควรจะทำตัว "ตรงกันข้าม" กับหลักการเหล่านั้น ผมไม่เคยพบเห็นคนที่โชคร้ายอย่างที่คุณยกตัวอย่างมาด้วยตาของผมเอง แต่ในขณะเดียวกันการที่คนเราคิดว่าเราโชคร้ายมากๆนั้น บ่อยครั้งที่เราเจอคนที่เขาโชคร้ายกว่าเราแต่ก็ยังยิ้มสู้ได้ มองโลกในแง่ดีอยู่ได้ คนเหล่านี้ที่ผมถือเป็นแรงบันดาลใจ ผมพร้อมจะเปลี่ยนแนวทางที่ผมเดิน ถ้าผมมีข้อมูลใหม่ที่บอกทางที่ดีกว่า สมบูรณ์กว่า ทั้งนี้นิยามของดีไม่ดี สมบูรณ์ไม่สมบูรณ์ก็คงจะมาจากสติปัญญาของผมเอง ไม่สามารถจะ copy ตีพิมพ์ลงไปให้ใครได้

ในเกม strategy นั้น ผมไม่คิดหรอกครับว่ามี unit ดี หรือ unit เลว ผลแห่งการกระทำ หรือวิธีการที่เรา deploy units เหล่านั้นต่างหากที่เป้นตัวกำหนดคุณค่า ใน chess นั้น ถ้า pawn เดินถึงอีกฝั่งก็สามารถกลับกลายเป็น queen ได้ ถ้าเบี้ยของเรากลายเป็นเบี้ยหงายก็อาจจะดึงเกมให้เสมอได้ หรือแค่เบี้ยเทียมสามตัวก็รุกจนได้ในขณะที่เบี้ยผูกสามตัวเหมือนกันได้อย่างมากก็เสมอ ในเกมโกะ ทุกเบี้ยก็เป็นเบี้ยเหมือนกันหมด แต่เป็นเกม strategy ที่ประกอบด้วยเบี้ยเหมือนกันหมดที่แสดงให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าเบี้ยที่ดูเหมือนกันหมดนั้นแตกต่างราวกับฟ้าดินได้ ก็เพราะ "บทบาท" ของเบี้ยตัวนั้นครับ และเพราะ "ปฏิสัมพัทธ์" ของเบี้ยตัวนั้นๆกับเบี้ยธรรมดาๆตัวอื่นๆที่สร้างสังคมที่ win/win ได้ ส่วนเบี้ยหัวแตกที่ไม่สมานประสานสร้างสรรค์นั้นรังแต่จะแพ้พ่ายไปในที่สุด

ลองใช้อุปมาอุปไมยแบบไหนก็ได้ครับ ผมเล่นได้ทุกแบบ



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-26 , Time : 00:52:59 , From IP : 172.29.3.201

ความคิดเห็นที่ : 15


   ........ผมเองก็เชื่อเรื่องเวรกรรมครับ.....แต่บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่า.....ทำไมบางที....ไอ้เวรกรรมนี่...เมื่อไหรมันจะตามทันไอ้คนแย่ๆสักที.....ทำไมมันยังอยู่ได้ในสังคม.....ทำไมมันยังมีหน้าไปเอารัดเอาเปรียบคนอื่นต่อไปอีก...จะต้องมีอีกกี่สักกี่คนที่โชคร้าย......จนกว่าไอ้เวรกกรมจะตามคนเหล่านั้นทัน.....เพราะอะไรเหรอครับ????...............
.............ผมไม่ได้คิดว่าการที่คนดีมีน้อยจะสามารถทำให้ผมเป็นคนเลวได้....แต่ผมคิดว่าการที่จะดำเนินชีวิตไปอย่างถูกต้องตามระเบียบ เดินทางตรงตลอด.....โดยไม่แคร์ว่าชีวิตผมหรือครอบครับผมจะตกระกำลำบากอย่างไรนั้นผมคงทำไม่ได้......ผมเคยพยายามร่ำร้องหาความยุติธรรม.....แต่สิ่งที่ผมได้เรียนคือ.....ถ้าผมได้แต่ฝันถึงอะไรที่ดี.....แล้วนั่งรอ.....ชาตินี้ผมคงไม่มีวันที่ความฝันผมจะเป็นจริง....ผมต้องดิ้นรนเพื่อหาโอกาส.....และก็ได้เห็นว่าการเอารัดเอาเปรียบในสังคมมันมีมากแค่ไหน....เพราะอะไรเราถึงไม่เจริญกันเสียที.....เพราะว่าเราใส่ใจแต่ประโยชน์ของตนและประโยชน์ของพรรคพวกของตนเท่านั้นหละ.......คุณน่าจะไม่เคยเห็นความเลวร้ายของคนที่ทำกับคนด้วยกัน....ผมไม่เสียใจหรอกที่คุณไม่เข้าใจ....ผมอยากจะมีชีวิตที่ผ่านมาแบบดีเหมือนที่คุณเคยผ่านมาเหมือนกัน.....ผมคงได้แต่ฝัน.....และความฝันนั้นได้ผ่านไปแล้ว........ผมเสียอะไรไปหลายๆอย่างที่เรียกร้องกลับมาไม่ได้.....ผมควรจะต้องเสียอีกสักกี่อย่างกันเหรอครับจนกว่าจะได้มาซึ่งความเสมอภาคกันเนี่ย?......แต่จะว่าไปนะ....ผมเองก็คงเห็นแก่ตัวเหมือนกัน....ใช่ไหมครับ???
...........ในแง่ของเกม.....ผมเสียใจที่เล่นโก๊ะไม่เป็นครับ.....ส่วนเกมวางแผน....ในแง่ของ Unit.....Unit แต่ละส่วนของเกมที่ผมเล่น...จะมีข้อดีข้อเสีย...ไม่มี Unit ไหนที่ Perfect.....บาง Unit ข้อดีของมันจะสามารถต่อกรกับข้อดีของอีก Unit ฝั่งตรงข้ามได้......ดังนั้นถ้าคุณเลือกผลิตแต่ Unit ที่คุณชอบออกมา.....คุณอาจจะนำไปรบกับ Unit อีกฝั่งที่มีความหลากหลายมากกว่าลำบาก......เพราะข้อเสียของ Unit คุณอาจจะป้องกัน Unit ฝั่งตรงข้ามไม่ได้หมดก็ได้......ส่วน Unit ที่ดีนั้นหมายถึง Unit ที่คุณชอบใช้เพราะคิดว่ามันมีประโยชน์ อาจจะดี อาจจะสวยถูกใจ......แต่มันอาจจะไม่ได้ใช้ได้ตลอดทุกสถาณการณ์......บางครั้งเวลาคุณเจอ Unit อีกฝั่งซึ่งคุณต้องใช้ Unit ที่คุณชอบนี้ลงไปจัดการ....คุณอาจจะต้องเสีย Unit เหล่านี้หลายตัว......แต่ถ้าคุณลองมองข้อดีข้อเสียของฝั่งตรงช้าม.....คุณอาจจะต้องเลือกผลิต Unit ที่คุณไม่ชอบสักตัว......เพื่อเอาลงไปจัดการกับฝั่งตรงข้าม.....แค่นั้นหละครับ......ลองเอาไปใช้เล่นก็ได้ครับ.....ผมเองก็เคยเล่นเกมแบบนี้อยู่ช่วงนึง....แต่บางทีมันช้า.....ไม่ถูกใจเวลาเบื่อๆครับ......นอกจากมีเวลาว่างมากๆเท่านั้น............



Posted by : Death , Date : 2004-02-26 , Time : 21:28:35 , From IP : 172.29.3.210

ความคิดเห็นที่ : 16


   เนื่องจากเราพูดเป็นนามธรรม ผมไม่สามารถจะวิเคราะห์อะไรได้ เพราะไม่สามารถทราบได้ว่าจริงๆแล้วผลสุดท้ายพฤติกรรมออกมาเป็นแบบไหน

พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เราพะวงว่าเมื่อไหร่คนเลวจะถูกกรรมตามทัน และไม่ได้สอนให้เราพะวงว่าเมื่อได้กรรมดีจะตอบสนองต่อความดีของเราหรอกครับ ท่านเสนอให้เราลองแล้ว "รอ" ให้เมล็ดแห่งความดีนั้นค่อยๆงอกงาม ในระหว่างนี้เราใช้ "ศรัทธา" ครับ บวกกับการใช้มรรคแปดเพื่อป้องกันไม่ให้อวิชชา ความสุขชั่วครั้งคราว อะไรนั่นมานำเราออกนอกลู่นอกทาง

ผมไม่คิดว่าผมนำชีวิตของผมตรงหรือคดอย่างใด มันไม่ได้ตรงหรือคดอย่างคำที่ใช้นี่ แต่ผมทราบว่าถ้าผมก่อกรรมดี สิ่งที่ดีๆจะเกิดขึ้น และถ้าผมก่อกรรมชั่ว สิ่งไม่ดีก็จะเกิดขึ้น ไม่กับตัวผมเอง ก็กับคนรอบข้าง ได้แก่ครอบครัว เพื่อนฝูง ผมมี "ศรัทธา" ในเรื่องนี้ และไม่คิดว่าการไปกังวลหรือตั้งข้อสงสัยว่าความดีนั้นทำไปดีรึเปล่า ตัวเรานั้นจะเป็นคนดี "เกินไปรึเปล่า" (ไม่ได้ล้อเล่น มีคนพูดมาในกระดานข่าวนี้จริงๆว่าเราไม่ควรจะทำอะไรที่มันถูกต้อง เพราะเขากลัวจะเป็นคนดี "เกินไป") โดยส่วนตัวผมก็ต้องดื้นรน แต่มีขอบเขตอยู่ตรงนี้แหละครับ ว่าผมจะไม่ดิ้นรนโดยไม่คำนึงถึง "หลักการ" ที่ผมตั้งใจว่าจะยึด บางคนมีหลักการเหมือนกัน เช่น ไม่ให้คนอื่นได้ดี กดขี่เหยียบหลังเพื่อนฝูงผู้ร่วมงาน ส่อเสียด หยาบคาย โกหก เพื่อประโยชน์ส่วนตน ก็สุดแล้วแต่ ความเสมอภาคที่คุณเรียกร้องว่าไม่เคยได้ ไม่เคยมีนั้นคืออะไร ไม่มีใครเข้าใจยกเว้นตัวคุณเอง socialism ก็มีนิยามความเสมอภาคแบบหนึ่งว่ามนุษย์ทุกคนเหมือนกัน เท่าเทียมกัน ทั้งๆที่ genetics มี high polymorphism, highly selective, and highly competitive คนเรามีกำลง สติปัญญา และหน้าที่บทบาทไม่ทันเทียมกัน นั่นคือคำ meritocratic หรือคุณค่าของคนอยู่ที่ผลงาน อยู่ที่สิ่งที่คนๆนั้นทำ ไม่ได้อยู่ที่ "สิ่วที่สามารถจะทำ" แต่ยังไม่ได้ทำ จะอยู่ที่สิ่งที่ทำไปแล้ว

ในเกม strategy Axis & Allies มี units ให้ซื้อมากมายหลายชนิด เช่น infantry, artillery, armour, Fighter, Bomber, anti-aircarft gun, Battleship, Destroyer, transport, submarine, aircraft carrier ซึ่งราคา และอำนาจการโจมตีและ defend ไม่เท่ากัน ไม่มีอะไร perfect ถ้าดีพร้อมก็อาจจะแพงมาก ถ้าราคาถูกก็จะมีอำนาจการยิงลดลง บางตัว defend ดี บางตัว attacjk ดี แต่เหนืออื่นใด นอกเหนือจากเราต้องวางแผนให้ดีว่าจะซื้ออะไรจากเงินที่มีอยู่จำกัด เรายังต้องวางแผนไปถึง ultimate objective ว่าเราจะชนะแบบไหน ถ้าในที่นี้แปลให้เข้าเรื่องก็คงจะเป็นการ set standard ว่าอะไรคือเป้าหมายล่ะครับ เราอยากจะเป็นคนดีมีหลักการ ก็อาจจะต้องลงทุน และอดทน และพยายาม ส่วนวิชามารต่างๆนั้นราคาถูก ตอบแทนเร็ว แต่มันอาจจะสั่งสมอะไรบางอย่างซึ่งไปแสดงออกในรุ่นลูกหลานเราก็ได้



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-26 , Time : 22:19:44 , From IP : 172.29.3.197

ความคิดเห็นที่ : 17


   ........ในชีวิตของแต่ละคนแต่ละช่วง....โอกาสของการตัดสินใจหลายๆอย่างคงไม่เหมือนกัน.....บางที...โอกาสของผมและทางเลือกคงมีไม่มากนัก.....บางสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว...มันคงไม่ย้อนกลับมาให้คิดใหม่ได้อีก......แต่กับบางอย่างที่คิดว่าดีแล้ว.....บางทีมันก็ไม่ดีอย่างที่คิด......ชีวิตที่สุขสบายนี่คงไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไรนัก................
.........ผมกำลังจะได้พักสักระยะ.....ซึ่งไอ้การแค่ลาพักนี่ผมเองก็กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว....ไร้ความรับผิดชอบ.....เลว....หรือจะอะไรก็ตามแต่ที่อยากจะมีคนว่า......บางทีผมก็แค่อยากจะกลับไปนอนอยู่บ้านเฉยๆสักพัก.....โดยไม่ต้องมาบ้ากับสังคมแย่ๆนี่สักพัก.....แต่ไม่ค่อยมีคนอยากจะเข้าใจหรอกครับ.....ผมเองก็คงเห็นแก่ตัวจริงๆ.......การเป็นคนดีนี่มันยากจริงๆครับ......อาจจะต้องยอมโดนเอาเปรียบ....ดูถูกเหยียดหยาม...หรืออะไรก็แล้วแต่.....ต้องอดทนอย่างเดียว....เมื่อใดที่อ้าปากเถียงปุ๊ป....กลายเป็นว่าสิ่งที่พยายามทำมาไม่มีความหมายอะไรเลย.....เป็นอะไรที่เข้าใจยากจริงๆ.....
...............ผมจะไปพรุ่งนี้แล้วสักระยะนึง......เผื่อจะหายเครียดเรื่องบ้าๆได้บ้าง....ความหวังอย่างนึงของผมตอนนี้คือ.....หวังว่าจะได้ดู Cold Mountain และ Lost in translation ก่อน Oscar จะประกาศในวันจันทร์หน้านี้......คิดว่ามะรืนนี้ผมคงได้ดูทั้งสองเรื่อง.....เฮ้ออออออออออ..........โชคดีครับ.....แล้วเจอกันใหม่......



Posted by : Death , Date : 2004-02-26 , Time : 23:46:40 , From IP : 172.29.3.251

ความคิดเห็นที่ : 18


   ไม่เห็นจะต้องวุ่นวายอะไรเลย ชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขก็จะเกิดขึ้นเมื่อ
1.พยายามใช้ชีวิตโดยเดินสายกลางให้มากที่สุด
2.จะต้องไม่พยายามคิดว่าทุกสิ่งที่เราทำจะต้องเป็นของเราทั้งหมด
3.มีใจเมตตาเผื่อแผ่ถึงเพื่อนมนุษย์ เท่าที่จะสามารถทำได้
4.ดำเนิธุรกิจอย่างเป็นธรรม ไม่ขูดรีดผู้ด้อยโอกาศ หรือเอาเปรียบต่อสังคม
5.มีจรรยาบรรณ ในความเป็น มนุษย์/คน
ไม่ต้องให้ถึงขั้นบรรลุอรหันต์ หรอกครับ แค่รู้ตัวว่าทำอย่างไรให้ชีวิตมีความสุขอย่างแท้จริงก็น่าจะเพียงพอแล้วมั๊ง....ขอให้พบกับความสุขในช่วงหยุดพักการเดินทางของชืวิตครับ...


Posted by : ง่ายนิดเดียว , Date : 2004-02-27 , Time : 15:30:24 , From IP : r11-skaHS1.S.loxinfo

ความคิดเห็นที่ : 19


   ถ้าเราเอาความคิดของคนอื่นว่ากำลังคิดอะไรอยู่กับเรานั้น ผมว่าเป็นเรื่องที่ลำบากอยู่เหมือนกัน

อันดับแรก ตัวเราเองคิดว่ายังไงบางทีเรายังไม่แน่ใจ
อันดับสอง โอกาสเป็นไปได้น้อย ที่เราจะรู้ว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรอยู่
อันดับสาม โอกาสที่เราจะรู้ว่าคนอื่นคิดถึงเราอยู่รึเปล่าน้อยลงไปอีก
อันดับสาม โอกาสที่เราจะที่เราจะรู้ว่าถ้าคนอื่นคิดถึงเรา คิดว่าอย่างไรก็น้อยลงไปอีก
อันดับสี่ การที่คนอื่นคิดอย่างไรกับเรา ไม่ได้ทำให้เราเป็นอย่างนั้น
อันดับห้า ความรับผิดชอบของเราอยู่ที่ผลงาน
อันดับหก การที่เราจะ "กลายเป็น" อะไรซักอย่างนั้น ไม่ได้ขึ้นกับความคิดของใคร ยกเว้นของเราเอง
อันดับเจ็ด เราไม่มีทางทราบว่าใครอยากหรือไม่อยากจะเข้าใจเราหรอกครับ แต่สงสัยว่าในเมื่อเราไม่มีทางพิสูจน์หรือรู้แน่ ก็มีทางเลือกสองอย่างคือ คิดบวกกับลบ ทำไมเราเลือกลบ?
อันดับแปด วิธีที่จะแก้ปัญหาดูถูกเหยียดหยามคือพิสูจน์ด้วยการกระทำและผลงานของเรา ไม่ใช่นอนครับ
อันดับเก้า อย่าเถียง แต่จงอภิปราย อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้เหตุผล

สังคมแย่ๆนั้น เราต้องแก้ให้มันเป็นอย่างที่เราต้องการ แก้โดยการกระทำ ไม่ใช่โดยการบ่น แก้โดยหลักการ ไม่ใช่หนามยอกเอาเกลือทา แก้โดยมีเจตนาดีและเปิดเผยว่าเราต้องการแก้ ไม่ใช่โดยทางใต้ดินหรือหลิ่วตาตาม

ข้างบนนั่นเป็นความเห็นส่วนตัวของผม ไม่การันตีว่าดี หรือใช้ได้กับทุกคน ไม่การันตีจริยธรรมถูกต้องด้วย แต่ผมว่าเข้าท่าของผมเองเอง



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-27 , Time : 23:25:35 , From IP : 172.29.3.245

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.016 seconds. <<<<<