ความคิดเห็นทั้งหมด : 13

Debate LVIII: Gay Marriage


   ประมาณปีที่แล้วเรามีการอภิปรายเรื่อง Gay กันกว้างขวาง (พอประมาณ) ในโลกแห่ง liberal left ทำให้เรื่องนี้กลายเป็น "issue" ตั้งแต่เมื่อปีกลายมีการแต่งตั้ง bishop openly gay ในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่อังกฤษก็ "เกือบ" ทำอย่างเดียวกันแต่โดน Arch-Bishop of Cantebury แทรกแซงซะก่อนเพราะกลัวรอยร้าวของ Church จะมากเกินประสาน เรื่องนี้มีทั้ง Gay Activist ที่สนับสนุนผลักดัน และมี Ultra-conservative ระดมกำลังต่อต้าน

ประมาณเดือนเศษๆ กฏหมายอีกฉบับหนึ่งระดับรัฐ (ในอเมริกา หลายๆกฏหมายสามารถออกเป็นรัฐๆได้โดยไม่ได้มีผลบังคับทั้งประเทศ) เกี่ยวกับเรื่อง "การแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน" คือ ชาย/ชาย หญิง/หญิง มีการอภิปรายกันมากพอดู รัฐที่เป็นหัวหอกคือ San Francisco ที่พึ่งมี Same-sex marriage หมู่

เรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเราโดตรง แต่ผมคิดว่าถ้าเราลองฝึกสมองคิดเหมือนกับว่าสิ่งนี้กำลังเกิดในประเทศไทย เราจะว่ายังไง ลองดูกันไหมครับ เอาแบบ

Be mature, Be positive, Be civilized นะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-17 , Time : 00:41:35 , From IP : 172.29.3.221

ความคิดเห็นที่ : 1


   สำหรับความรู้สึกส่วนตัวฉันเองคงรับได้ยากนะคะ(ความคิดอาจจะหัวเก่าไปหน่อย) แล้วสังคมมันจะเป็นอย่างไรน้า ลองหลับตานึกดูคงสับสนมั่กๆเลย แต่ก็นั่นแหละหากเขาไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน มันก็คงไม่เสียหายอะไร เพื่อนๆฉันบางคนคงจะมีความสุขน่าดูเลย (เพื่อนเป็นเกย์)


Posted by : aishiteru , Date : 2004-02-17 , Time : 07:51:02 , From IP : 172.28.91.56

ความคิดเห็นที่ : 2


   

Posted by : aishiteru , Date : 2004-02-17 , Time : 07:52:32 , From IP : 172.28.91.56

ความคิดเห็นที่ : 3


   เป็นความหลากหลายของธรรมชาตินี่ครับ
เพียงแต่อาจจะเป็นส่วนน้อยในสังคม
แต่รับรองว่ามีมานานก่อนเราๆเกิดแล้วแน่ๆ

วัฒนธรรม หรือ ความคิดของผู้คนเปลี่ยนแปลงได้
วันนี้เกย์ในเมืองไทยอาจจะไม่ได้รับการยอมรับเท่าบางประเทศ
แต่ก็มีอิสรเสรีกว่าอีกหลายๆประเทศเหมือนกัน

ก็รอดูต่อไปครับ


Posted by : ArLim , Date : 2004-02-17 , Time : 14:55:43 , From IP : 172.29.2.184

ความคิดเห็นที่ : 4


   ..........อืออออ......ผมคิดว่า.........ไม่เห็นเป็นไรเลย......เพราะผมมีเพื่อนเป็นเกย์เป็นกะเทยตั้งหลายคน......แต่ละคนเท่าที่รู้ยังไม่มีใครที่จะแต่งงานหรอกนะครับ...แต่ถ้าจะแต่ง...ถามผมว่าแปลกไหม....ไม่หรอก....ผมเป็นผู้ชายยังชอบผู้หญิงได้...แล้วทำเพศเดียวกันจะชอบกันและแต่งงานกันไม่ได้หละ....:D...:D
........ปัญหาที่กลัวๆกันผมคิดว่านะ.....บางทีคิดไปเองหรือเปล่า......อาจจะไม่มีปัญหาอะไรก็ได้.......ทีไอ้ที่มีปัญหากันอยู่เรื่อยโดยไม่เคยคิดว่าจะมีก็มีอยู่เต็มไปหมด......ที่คิดๆว่ามีมันอาจจะไม่มีก็ได้.....:D...:D
........ผมเองไม่ได้เป็นเกย์หรอกนะ...ถ้ามีใครมาถามว่าถ้าผมเป็น...ผมมีคนที่รัก....ผมจะแต่งงานไหม.....แต่งสิ.....ใครที่คิดจะห้ามผมกับคนที่ผมรัก [ถ้าคนที่ผมรักยินดีจะแต่งกะผมนะ] คงต้องมีปัญหากะผมหละ....:D....:D
..............อืออออ...แสดงความเห็นลำบากเหมือนกัน.....ไม่ได้มีประสบการณ์ตรง....:D...:D


Posted by : Death , Date : 2004-02-17 , Time : 17:03:32 , From IP : 172.29.3.156

ความคิดเห็นที่ : 5


   เรื่องสิทธิของ gay นี่เป็นเรื่อง sensitive ที่ฝ่าย liberal พยายามจัดตั้ง campaign เรียกร้องให้มีการคุ้มครองมานาน ล่าสุดที่ประสบความสำเร็จก็คือได้อยู่ในร่มเดียวกันกับกฏหมายที่ criminalize กิจกรรมใดๆที่ก่อให้เกิดความเกลียดต่อกลุ่มบุคลลหรือบุคคลอันเนื่องมาจากเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ความเชื่อ sexual orientation ผิวสี ดังที่เราคงจะเคยได้ยินหลายๆคดีอันน่าสลดที่เด็กนักเรียนถูกรุมตีจนตายเพราะเป็นเกย์ คนผิงดำถูกจับลากท้ายรถปิคอัพไปตามถนนจนตาย หรือที่พวก extremist บางศาสนาชักชวนให้ฆ่าคนในศาสนาอื่นเพียงเพราะความแตกต่างในศรัทธาและความเชื่อ

อีกประการคือเรื่อง gay หรือ homosexual นี่ในอดีตตอนที่แต่ละศาสนาเริ่มก่อตั้ง คนยังไม่เข้าใจดี คิดว่าเป็นผีเข้า หรืออะไรบางอย่างซึ่งแตกต่างจากปกติอย่างสุดขั้ว ดังที่จะได้เห็นจากใน scripture ของต่างศาสนาที่ได้ทีการ address เรื่องนี้ในทางที่ไม่ใคร่ยอมรับเท่าไหร่ ตอนจะบวชของพุทธก็ยังมีถามว่าเป็นบัณเฑาะก์รึเปล่า? ซึ่งเจ้านาคก็ต้องตอบอุปัชฌาย์ว่าไม่เป็นจ้ะ (นตฺถิภนฺเต) จึงจะได้บวช ของคัมภีร์คริสต์ก็รู้สึกว่าจะเขียนต่อต้านไว้พอสมควร (ไม่ทราบข้อความขอละไว้แค่นี้) ทีนี้ปัญหาก็คือการแต่งงานนี่มันเป็นกิจกรรมคู่ขนานระหว่างศาสนากับ civil law คือมีทั้งความหมายทางศาสนา และในแง่กฏหมาย เรื่องมันเลยยุ่งอีนุงตุงนังพอสมควร

OK ขอว่าแค่นี้ก่อน



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-17 , Time : 17:13:56 , From IP : 172.29.3.215

ความคิดเห็นที่ : 6


   มีปัญหาเรื่อง โรคเอดส์ ด้วยที่ควรจะระวัง

Posted by : ArLim , Date : 2004-02-18 , Time : 11:51:33 , From IP : 203.113.76.11

ความคิดเห็นที่ : 7


   เอ้อ...เรือง HIV กับ homosexual นี่จริงๆแล้วยิ่งมี "คู่ขา" คนเดียวจะเป็น recommendation ว่าปลอดภัยนะครับ ฉะนั้นถ้าจากกระทู้เรื่อง Gay Marriage ยิ่งจะทำให้ปลอดภัยที่สุด เพราะเชื่อ HIV มันอยู่ๆไม่ติดขึ้นมาเองหรือ mutate เอง จะมาจาก sexual intercourse กับ carrier หรือใช้เข็มฉีดยาร่วม คุณ ArLim เข้าใจว่า HIV เกิดใน homosexual หรือครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-18 , Time : 19:39:18 , From IP : 172.29.3.197

ความคิดเห็นที่ : 8


   เป็นไปได้หรือคะที่ gay จะมีคู่ขาเพียงคนเดียว เราเห็นด้วยกับ arlim เพราะรู้สึกว่า gay ส่วนมากมักจะให้ความเป็นอิสระกับการมี sex คือ free sex ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับเชื้อ ดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องยาก อีกอย่างการออกกฎหมาย gay marriage เนี่ยคิดว่าวัตถุประสงค์ที่จัดขึ้นเพื่ออะไร ถ้าเป็นเพื่อการต้องการได้รับการยอมรับจากสังคมคิดว่า ถ้าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวก็เป็นสิ่งที่พอจะรับได้ ส่วนเรื่องคนในสังคมบางกลุ่มจะยอมรับหรือไม่คิดว่าคงต้องใช้เวลายาวนาน ไม่ต่างกับการเหยียดสีผิว เคยดูหนังที่ทำจากเรื่องจริงเรื่องหนึ่งซึ่งจำชื่อไม่ได้เป็นเรื่องของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เป็น gay และถูกฆาตกรรมโดยบุคคลที่รังเกียจ gay ดูแล้วค่อนข้างสะเทือนใจ เพราะตัวเอกของเรื่องเป็นเด็กที่ค่อนข้างเงียบ (ทั้งที่ครอบครัวไม่มีปัญหา) แต่ถูกสังคมรังเกียจโดนคนรอบข้างรังเกียจไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทั้งๆที่เค้าก็เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่เพระเป็น gay ทำให้สุดท้ายชีวิตของเค้าก็ต้องจบลงโดยถูกทำร้ายอย่างไร้เหตุผลและถูกปล่อยทิ้งไว้ให้ตาย เรามองว่า gay ก็มีการแสดงความรักอย่างหนึ่งเพียงแค่การแสดงออกต่อเพศและวิธีการผิดไปจากวิถีปกติ ยังไงความรักก็เป็นสิ่งที่สวยงามแต่เราไม่แน่ใจว่าการแสดงความรักของ gay มาจากใจหรือเป็นเพียงความใคร่กันแน่ และการแต่งงานให้ถูกต้องตามกฎหมายจะช่วยให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไรเรายังไม่แน่ใจ ดังนั้นทีว่ามี "คู่ขา" คนเดียวนั้นจะเป็นไปได้หรือและถ้าเป็นไปไม่ได้การแต่งงานก็ไม่น่าจะจำเป็น แต่น่าจะหาวิธีที่ทำให้สังคมหันมายอมรับเรื่อง gay มากขึ้นน่าจะดีกว่า

Posted by : ก้ารู , Date : 2004-02-19 , Time : 22:56:00 , From IP : 172.29.4.254

ความคิดเห็นที่ : 9


   ดูเหมือนเรื่องนี้จะไกลตัวไปนิด

สาเหตุหนึ่งที่เรื่องนี้มีการอภิปรายกันเยอะในต่างประเทศเป็นเพราะว่ากฏหมายรุ่นใหม่ที่ออกมาระยะหลังจะอิงบทสรุปจาก social value ที่มีการตีความใหม่มากขึ้น นั่นคือการ integrate เอา ethics, social value เข้ากับรัฐศาสตร์

เดิมกฏหมายซึ่ง promote family ได้แก่เรื่องการคิดภาษี การหักค่าใช้จ่ายระหว่างโสดกับครอบครัวต่างกัน เมื่อมีบุตรก็เพิ่มสิทธิประโยชน์มากขึ้น ไปเที่ยว theme park ก็มีตั๋ว family package ที่ลดราคาเพื่อ promote ให้ครอบครัวใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นเป็นการให้ Incentive โดยเชื่อว่าจะทำให้สังคมแข็งแกร่งยิ่งขึ้น (harmonious fabric of society) ไปถึงการขออนุญาตรับ adoption เด็กกำพร้า เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์จะมีมาตรการในการตรวจสอบครอบครัวที่ยื่นแสดงความจำนงค์ว่ามีความพร้อมที่จะเป้น "ครอบครัว" หรือเป็น "ผู้ปกครอง" ของเด็กมากน้อยเพียงใด หลังจากได้รับอนุมัติไปแล้ว ก็ยังต้องอยู่ภายใต้ probation period ที่มีการ visit จากเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์เป็นระยะจนครบกำหนด Cohabit couples ที่ไม่ได้จดทะเบียนตามกฏหมายก็จะไม่ได้รับสิทธิต่างๆเหล่านี้ โดยการจดทะเบียนตามกฏหมายนั้นถือเป็นการแ "แสดงเจตนา" ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของโครวสร้างสังคมที่รัฐบาลนั้นๆ approve งานแต่งงานส่วนใหญ่ก็จะมีพิธีทางศาสนาซึ่งแสดงถึง "อีกนัยยะ" หนึ่งของการแสดงเจตนาที่ว่าโดย reflect ถึง social value ในระดับจิตวิญญาณ ความเชื่อ หรือศาสนา

ระยะหลังกลุ่ม minority เริ่มมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ากันตั้งแต่สิทธิสตรี ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่ minority แต่ในโลกยุคเก่าที่สงครามการใช้กำลัง (หรือยุคปัจจุบันก็ตาม) ผู้ชายจะเป็นชนชั้น dominate แต่ปัจจุบันจากการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ว่า เริ่มมีกฏหมายคุ้มครองเรื่องทำนองนี้มากขึ้น เช่น sexual harrassment ในที่ทำงาน หรือคดี dismiss due to sexual discrimination เช่น การไม่ Promote พนักงานเพียงเพราะเป็นผู้หญิง เป็นต้น ครอบคลุมไปถึง gay หรือ homosexuality และศาสนา ลัทธิ ต่างๆ

ทีนี้มาถึงเรื่องของหัวข้อนี้คือ Gay หลังจากที่มีการยอมรับ และแสดงออกในด้านตัวบทกฏหมายอย่างเป็นทางการ เริ่มมีการอภิปรายกันถึง "สิทธิ" ต่างๆที่ครอบครัวปกติได้รับการสนับสนุนจากรัฐ และต้องการความทัดเทียมด้านนี้ แต่อย่างว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ และมีผลกระทบทั้งด้านรัฐศาสตร์ และ ศาสนา กฏหมายควรจะยอมรับให้ gay couple รับเลี้ยงดูลูกบุญธรรมหรือไม่? sexual orientation ขอ_ผู้ปกครองมีผลมากน้อยต่อเด็กแค่ไหน อย่างไร

เป็นเรื่องที่กำลังอภิปรายกันอย่างมากในขณะนี้



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-19 , Time : 23:03:56 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 10


   คุณก้ารูครับ

Gay กับ polygamy นั้นเป็นคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิงครับ ทำนองเดียวกับสังคม monogamy (ส่วนใหญ่) นี่แหละครับ ที่มีบางคนยังแหกกฏ เด้กเดี๋ยวนี้เรียกอะไรนะ? กิ๊ก เกิ๊ก อะไรนี่ใช่ไหมครับ อาจจะไม่ตรงทีเดียวเพราะ monogamy จะหมายถึงความสัมพันธ์ลงลึกระดับครอบครัวแล้ว

Gay ระดับเกรด A นั้นไม่สำส่อนหรอกครับ เช่น Elton John ก็มีคู่ขาคนเดียว พวกนี้มีการศึกษาดีมาก จริงๆแล้วมีคนดังๆทั้งด้านศิลปินหรือศาสตร์สาขาต่างๆที่มี sexual orientation ที่ไม่ conventional แต่พวกนี้จะ well-informed และเข้าใจถึงโทษประโยชน์ของอาหาร ของการรักษาสุขภาพ การออกกำลังกาย และรู้ว่าการเปลี่ยนคู่ขาคู่นอนไปเรื่อยๆนั้นก็ไม่ healthy ต่อทั้ง gay หรือไม่ gay



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-19 , Time : 23:09:54 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 11


   เข้าใจว่าเกย์ที่มีความรู้จะสามารถป้องกันตัวเองและคู่ของตนได้ และการแต่งงานก็อาจจะเป็นผลดีสำหรับพวกเขาที่อยากจะมีชีวิตคู่และได้รับการยอมรับในสังคม

แต่คงยังมีเกย์อีกมากที่ไม่ได้ให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ และอาจจะมีปัญหาจากการแต่งงาน(แล้วหย่า) การควบคุมโรคติดต่อ วัฒนธรรมเกย์และคนทั่วไปที่อาจเปลี่ยนแปลงไป

อธิบายไม่ค่อยรู้เรื่องแฮะ แต่ประมาณนี้ล่ะครับ


Posted by : ArLim , Date : 2004-02-22 , Time : 01:13:59 , From IP : 203.113.76.75

ความคิดเห็นที่ : 12


   เราไม่สามารถใช้เหตุผลว่ามีเกย์ส่วนมากหรือส่วนน้อยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จึงไม่ค่อยออกกฏหมายคุ้มครองสิทธิ เพราะจริงๆแล้วคนที่ไม่ gay ที่ไม่ได้เคารพนับถือสถาบันครอบครัวเลยเผลอเยอะกว่าเยอะ heterosexual นี่แหละตัวดี พวกผิดลูกเมียเขา พวกกะจะมี sex อย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงเรื่องสร้างครอบครัว สร้างฐานะในสังคม ถ้าดูจากอย่างนี้และนับส่วนมาก ส่วนน้อยอย่างคุณ ArLim ว่าจริงๆ เราอาจจะต้อง ban การแต่งงานของ heterosexual แทน

รึเปล่าครับ? หรือผมเข้าใจความหมายผิด?



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-22 , Time : 02:56:25 , From IP : 172.29.3.254

ความคิดเห็นที่ : 13


   เข้าใจถูกแล้วครับ ผมหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ
และก็เป็นอย่างที่คุณ Phoenix ว่าด้วย
...
ตอนนี้ไม่มีความเห็นครับ


Posted by : ArLim , Date : 2004-02-22 , Time : 15:21:06 , From IP : 172.29.2.151

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<