ความคิดเห็นทั้งหมด : 2

พร้อมรับไหม “10 เรื่องร้าย” เมื่อมีเซ็กซ์ก่อนถึงวัยอันควร


   พร้อมรับไหม “10 เรื่องร้าย” เมื่อมีเซ็กซ์ก่อนถึงวัยอันควร
ความกังวลว่าวัยรุ่นไทยจะมีเพศสัมพันธ์ หรือเซ็กซ์ก่อนวัยอันควร เป็นมาอย่างสม่ำเสมอและช้านาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลวันแห่งความรักเช่นนี้ กับค่านิยมในการแสดงถึงความรักและความแนบแน่นของวัยรุ่นไทย ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้หลายๆ ฝ่ายยิ่งวิตกกังวลกันหนักเข้าไปใหญ่ว่าจะทั้งป้องกันและส่งเสริมกันอย่างไรด ี

เดี๋ยวจะหาว่าวัยรุ่นคิดไม่เป็น เอะอะจะทำอะไรก็เอาแต่ห้ามๆ ฉะนั้นลองพิจารณาความเสี่ยงทั้ง 10 ประการที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ ก่อนลงมือทำอะไรลงไป กันการเสียใจภายหลัง

1.ท้อง แท้ง หรือจับผ้าอ้อมก่อนใบปริญญา ปัจจุบันจะเห็นว่าการทำแท้งของวัยรุ่นทั้งที่ไปใช้บริการคลินิกและที่กินยาเ องมีสูงถึงกว่าปีละแสนราย แถมยังทำให้การเรียนพังพินาศ รวมถึงบางรายที่มิได้ทำแท้ง ก็ต้องเริ่มชีวิตการเป็นแม่ตั้งแต่วัยรุ่นที่ยังขาดความพร้อมและนำมาซึ่งปัญ หาทั้งแม่และเด็กมากมาย

ส่วนวัยรุ่นที่คิดว่าจะไม่มีการตั้งท้องเพราะอุปกรณ์คุมกำเนิดนั้น จากงานวิจัยพบว่า แม้จะมีการใช้ถุงยางอนามัยก็ยังมีโอกาสพลาดได้สูงถึง 20% เนื่องจากคุณภาพของถุงยางเสื่อมหรือใช้ไม่ถูกต้องและการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดก ็มีโอกาสพลาดได้สูงถึง 5%

2. ซึมเศร้า เหงาลึก จากการเปลี่ยนคู่บ่อยๆ งานวิจัยในสหรัฐฯพบว่า วัยรุ่นที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย โดยเฉพาะฝ่ายหญิง เพราะในส่วนลึกยังต้องการความผูกพันมากกว่าเพศชาย ฝ่ายหญิงที่มักเป็นฝ่ายถูกทิ้ง จึงอยู่ในภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เสรีหลายเท่า และที่สำคัญจากสถิติพบว่าวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์เสรีมีอัตราการฆ่าตัวตายสู งกว่าวัยรุ่นที่ชีวิตปกติ

3. ติดโรค อวัยวะเพศเน่า งานวิจัยทางการแพทย์ชี้ว่า แม้จะมีการใช้ถุงยาอนามัย ก็ยังไม่สามารถปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศต่างๆ เช่น โรคผิวหนังบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ รวมถึงโรคอื่นๆเช่นโรคหนองใน ในหลายประเทศพบว่า กลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-29 ปี เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อกามโรคมากที่สุด

4.เรียนตก การมีเซ็กซ์ในวัยรุ่นสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเรียนและทำให้ผลการเรียนตกต่ำ

5.ชื่อเสีย เพราะตกเป็นขี้ปากที่ถูกพูดต่อๆกันไปในกลุ่มเพื่อทั้งหญิงชายและนำไปสู่ภาพล ักษณ์ที่เลวร้าย เช่น ผู้หญิงถูกพูดถึงว่า"ถูกฟันแล้ว" ผู้ชายถูกพูดถึงว่าเป็น "นักล่าพรหมจรรย์" ที่น่ากลัวสำหรับผู้หญิง

6. หมิ่นหญิง หยามชาย การติดเซ็กซ์ทำให้วัยรุ่นไม่อาจยกระดับการมองคุณค่าความเป็นหญิงความเป็นชาย ได้มากไปกว่าการสนองความใคร่ซึ่งกันและกัน

7.ถูกหลอกซ้ำซาก วัยรุ่นหญิงมักถูกหลอกให้รักหรือหลงเพื่อแลกกับเซ็กซ์ แต่ก็มีข้อมูลบ่งชี้ว่า เด็กวัยรุ่นชายเองก็อาจถูกหลอกโดยเพื่อนชายและเพื่อนหญิงโดยใช้เซ็กซ์เป็นสื ่อเพื่อให้ได้ "สิ่งของ"หรือสิ่งต่างๆที่วัยรุ่นต้องการ

8.ใช้เซ็กซ์เลี้ยงรัก วัยรุ่นจะเริ่มคุ้นเคยกับการมีเพศสัมพันธ์ตามความต้องการหรือความใคร่มากกว่ าความรู้สึกรัก ซึ่งท้ายที่สุดความสัมพันธ์จะมีแต่ความไม่แน่นอนและไม่ยั่งยืน

9. เจอคนดีจริงก็อาจแห้วโดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่รู้สึกว่าตนเองมีเบื้องหลังที่ไม่ด ี อาจปฏิเสธตนเองหรือปิดบังอดีตตนเองไม่ได้ ก็อาจถูกปฏิเสธ ส่วนฝ่ายชายเองเมื่อพบผู้หญิงดีๆ ก็อาจเสี่ยงถูกปฏิเสธจากผู้หญิงดีๆเช่นกัน เพราะถือว่าผู้ชายโชกโชนเกินจะรับได้

10. ทำลายอนาคตชีวิตคู่ ความทรงจำที่เลวร้ายในช่วงวัยรุ่นของกันและกัน
ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ไม่เคารพซึ่งกันและกัน หรืออาจทำลายชีวิตคู่อันเนื่องมาจากภาวะเจ็บป่วยจากกามโรคหรือการทำแท้งที่ท ำลายภาวะเจริญพันธุ์

ข้อมูลดังกล่าว ศึกษาและค้นคว้าโดย ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทำวิจัยเรื่องวัยรุ่นให้กับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)


Posted by : No name No.1 , E-mail : (warit74@hotmail.com) ,
Date : 2004-02-14 , Time : 01:36:27 , From IP : 203.113.71.169

ความคิดเห็นที่ : 1


   ของบางอย่าง ถ้ามัวไปคิดถึงแต่เรื่องร้ายๆ ก็ไม่ดี

จะกินเค้ก ก็กลัวอ้วน
จะกินเนื้อย่าง ก็กลัวมะเร็ง
จะขับมอเตอร์ไซด์ ก็กลัวอุบัติเหตุ
จะมีเซ็กส์ ก็กลัวท้อง กลัวติดโรค จริงๆแล้ว มันก็สมควรกลัวนั่นแหละ แต่มันก็ป้องกันได้ คนพูดจบครุศาสตร์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องกามโรคกับถุงยางอนามัย มากกว่าพวกเราหรอก ถุงยางอนามัยก็เลือกที่มันดีๆ รู้จักวิธีการเก็บ วิธีการสวม วิธีการใช้ คุมกำเนิดก็มีล้านแปดวิธี ของอย่างนี้มันอยู่ที่การป้องกัน อย่าคิดมาก

แล้วที่บอกว่า มีเซ็กส์แล้ว ซึมเศร้า เรียนตก น่ะ อันนั้นมันก็มองโลกในแง่ร้ายเกินไป มันมีโอกาสที่จะเป็นความสัมพันธ์ประเดี๋ยวประด๋าว แต่ถ้าเค้าพอใจที่จะลองศึกษา ลองคบ ลองมีเซ็กส์กันก่อน มันก็เป็นเรื่องของเค้า ไม่ได้สนับสนุน แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน


Posted by : โซดา โค้ก , Date : 2004-02-14 , Time : 11:47:04 , From IP : 172.29.3.230

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมเห็นด้วยว่างานวิจัยเชิงคุณภาพนั้นสรุปออกมาเป็นกฏค่อนข้างยาก และควรจะต้องระมัดระวังในการตีความ ทั้งผู้ตีความและผู้รับไปใช้

งานวิจัยเชิงคุณภาพได้แก่ คำถามที่ตัววัดไม่สามารถประเมินแบบปริมาณ (quantitative) ได้ ฉะนั้นจึงไม่มีการหาค่า mean SD หรือ ความมีนัยสำคัญทางสถิติ มักจะเป็นงานวิจัยเชิงสังคมศาสตร์ หรือในทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ ก็ได้แก่ที่เกี่ยวเนื่องกับพฤติกรรมศาสตร์ จริยศาสตร์ Quality of Life หรือ pain score เป็นต้น เราไม่สามารถบวกค่า pain ของนาย ก เข้ากับของนาย ข แล้ว "หาค่าเฉลี่ย" ว่าจริงๆแล้ว "ทั้งสองคน" มีความปวดประมาณเท่าไหร่

แต่กรรมวิธีทางระบาดวิทยาก็ไม่ถึงกับนำมาใช้ไม่ได้กับงานวิจัยทางสถิติซะเลยทีเดียว ถ้าประชากร 99.9% คิดว่าเรื่องนี้ทำให้คนเศร้า คนเสียใจ ตรงนั้นก็น่าจะบอกอะไรบางอย่าง ผลงานวิจัยเชิงคุณภาพหรือสังคมศาสตร์จะนำมาใช้ set social value ซึ่งต่อไปจะเป็น guideline ในการออกกฏหมายที่จะรักษาความแข็งแกร่งของสังคมนั้นๆต่อไป

งานวิจัยชิ้นบนนั้น ในส่วน quantitative ได้แก่ ปริมาณท้อง ปริมาณทำแท้ง ปริมาณติดเชื้อนั้นอาจจะวัดได้จริง และป้องกันได้โดย scheme ที่ชัดเจนอย่างที่คุณ Soda Coke ได้แนะนำไว้ แต่ผมว่านั่นคงไมใช่ main conclusion ของงานวิจัยชิ้นนี้ หรืองานวิจัยทำนองนี้ สิ่งที่เราน่าจะนำมาพิจารณาจริงจังคือเรื่อง Social Value มากกว่า

กิจกรรมเพศสัมพันธ์นั้นเป็น physical activity ที่มีเบื้องหลังทาง psychosocial ลึกลงไปหลายมิติ สามารถสำคัญขนาดบ่งบอกถึงสภาพของสังคมทั้งสังคมได้ สามารถบ่งบอกถึง "คุณค่า" ของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ระหว่างชายหญิง ของคนส่วนใหญ่ในสังคมนั้นๆ ในบางที่มีคนนำเอาเรื่องนี้มา exploit หาประโยชน์ เช่น ประเทศอังกฤษมี Single Mother benefit นั่นคือ ถ้าคุณมีลูกแล้วหาพ่อไม่เจอ (มักจะเจอในกลุ่ม teenage-mother) รัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือ เมื่อบวกกับถ้าคุณยังหางานทำไม่ได้รัฐบาลก็จะมี unemployment benefit, Housing benefit ให้เงินจับจ่ายใช้สอย หาค่าเช่าบ้าน หาบ้านให้อยู่ ก็จะมีวัยรุ่นที่คิดสั้นๆ ไม่สนใจเรื่องที่ลึกซึ้งไปกว่าความสัมพันธ์ทางกาย พยายามมีลูกแต่เนิ่นๆ ไม่จดทะเบียน ตัวพ่อก็อยู่แถวนั้นแต่ไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อที่แม่วัยรุ่นเหล่านี้ได้เงินฟรีๆจากรัฐบาล เด้กที่เกิดมาในบ้านแบบนี้จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เคยเห็นคนทำงานในบ้านก็มีเงินใช้ มีพ่อซึ่งไม่ปราถนาจะ claim ว่าเป็นพ่อเพราะเงิน มีแม่ซึ่งใช้ sex และหาประโยชน์จากลกโดยไม่ได้มีความต้องการมีลูกเพราะรักจริงๆ

ประเทศเรายังไม่ถึงขนาดนั้น แต่การคำนึงถึงความหมาย และความมีนัยสำคัญของการที่เราจะมีเพศสัมพันธ์กับใครสักคนหนึ่ง โดยส่วนตัวของผมก็คิดว่าเป็นจุดแข็ง (หรือเคยเป็น) ของ social value ของสังคมตะวันออกที่เราควรรักษาไว้



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-14 , Time : 12:52:44 , From IP : 172.29.3.232

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.01 seconds. <<<<<