เรียนวิชาสุดท้ายกับ สตีฟ จ็อบส์
เมื่อตอนอายุ ๑๗ ปี ผมอ่านเจอคำพูดของคนๆ หนึ่งว่า ถ้าคุณใช้ชีวิตในแต่ละวันเหมือนกับเป็นวันสุดท้ายในชีวิต สักวันคุณจะดีขึ้นแน่นอน ผมประทับใจมากและตลอด ๓๐ ปีตั้งแต่นั้นมา ผมจะมองกระจกและถามตัวเองทุกเช้าว่า ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของผม ผมอยากทำอะไร ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คำตอบ คือ ไม่รู้จะทำอะไรติดต่อกันหลายๆ วัน ผมรู้เลยว่าผมต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างแล้ว การระลึกอยู่เสมอว่าเราต้องตายเร็วๆ นี้เป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดที่ผมใช้ในยามต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิต เพราะเกือบจะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความคาดหวัง ความภาคภูมิใจ ความกลัว การเสียหน้า หรือล้มเหลว ล้วนแต่ไม่เป็นสาระทั้งสิ้นเมื่อเราต้องเผชิญกับความตาย การระลึกว่าคุณกำลังจะตายเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลุดพ้นจากความกลัวการสูญเสีย เพราะชีวิตคุณมีแต่ตัว เพราะฉะนั้นก็ไม่มีเหตุอะไรที่จะไม่เดินตามความฝันของตัวเอง
เมื่อปีที่แล้วผมไปตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง หมอสแกนแล้วเห็นชัดว่ามีก้อนเนื้อที่ตับอ่อน ผมไม่รู้แม้กระทั่งว่าตับอ่อนคืออะไร หมอบอกว่าเท่าที่ดูแล้วค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นมะเร็งชนิดที่ไม่มีทางรักษา และบอกว่าผมน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน ๓-๖ เดือน หมอแนะนำว่าให้กลับบ้านและจัดการอะไรต่างๆ ให้เรียบร้อย พูดแบบชาวบ้านก็คือ หมอบอกให้ไปเตรียมตัวตายนั่นเอง มันหมายความว่าคุณต้องรีบคุยกับลูกในสิ่งที่คุณคิดว่าจะคุยในอีกสิบปีข้างหน้า หมายความว่าต้องเตรียมสิ่งต่างๆ ไว้ให้ครอบครัวเมื่อคุณต้องจากไป และหมายความว่าคุณต้องลาโลกนี้ไปแล้ว
ผมอยู่กับความรู้สึกว่าเป็นมะเร็งและต้องตายเร็วๆ นี้ทั้งวัน จนกระทั่งตอนเย็นหมอต้องตัดเอาเนื้อเยื่อเพื่อวิเคราะห์อีกครั้ง หมอใช้กล้องส่องภายในสอดผ่านลำคอ ผ่านกระเพาะ ลำไส้เล็ก และใช้เข็มเล็กๆ เจาะก้อนเนื้อเล็กๆ ในตับอ่อนออกมาตรวจ ตอนนั้นผมถูกวางยางสลบอยู่ แต่ภรรยาผมบอกภายหลังว่า เมื่อหมอตรวจเนื้อเยื่อผ่านกล้องจุลทรรศน์อีกครั้งหนึ่งก็พบว่า ผมเป็นมะเร็งแบบที่พบได้น้อยมากคือ เป็นชนิดที่รักษาได้ด้วยการผ่าตัด และผมก็เข้ารับการผ่าตัดรักษาจนหายดีแล้วในตอนนี้ นี่ถือว่าเป็นการเข้าใกล้ความตายมากที่สุดของผม และผมก็หวังว่ามันจะรักษาสถิติที่ใกล้ที่สุดไปอีกหลายสิบปีข้างหน้าด้วย
การที่ผมผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ก็ทำให้ผมเล่าให้พวกคุณฟังได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่คิดเชิงหลักการอย่างเดียว ไม่มีใครอยากตายหรอกครับ แต่ไม่มีใครหลีกพ้นความตายได้ และผมถือว่าความตายน่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดของชีวิต ความตายทำให้ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นการกำจัดคนเก่าเพื่อเปิดทางให้คนใหม่ ตอนนี้คนใหม่คือพวกคุณทั้งหลาย และจะค่อยๆ แก่ไปในที่สุดและจะถูกกำจัดไป ขอโทษที่ผมอาจจะพูดอะไรที่เป็นนิยายไปหน่อยแต่ก็เป็นความจริงนะครับ ชีวิตของพวกคุณมีจำกัดครับ จงอย่าเสียเวลาใช้ชีวิตอยู่บนชีวิตของคนอื่น อย่าตกอยู่ในหลุมพรางของความเชื่ออะไรบางอย่าง ซึ่งทำให้เราดำรงชีวิตอยู่บนความคิดของคนอื่น อย่าให้ความคิดของคนอื่นมากดความต้องการที่แท้จริงภายในใจของเรา สิ่งที่สำคัญนะครับ จงมีความกล้าหาญที่จะก้าวเดินตามสิ่งที่หัวใจเราเรียกร้อง ซึ่งตอนนี้อาจจะรู้แล้วว่าคุณต้องการเป็นอะไร อย่างอื่นเป็นเรื่องรองทั้งสิ้น...
Posted by : ช่วย , Date : 2011-10-12 , Time : 16:36:36 , From IP : 172.29.1.186
|