ความคิดเห็นทั้งหมด : 25

พี่ๆครับบบ..ทำไมพี่ๆนศพ.จึง....


   พี่ๆครับ...ทำไมพี่ๆนศพ.หรือแพทย์ถึงชอบบอกว่า เรียนหมอต้องถึก
บางคนก็เปรียบตัวเองกับควายกับนรก ว่าการเรียนหมอหรือเป็นหมอเหมือน
กับการตกนรก ถูกใช้งานอย่างหนัก เหมือนเป็นทาส..อะไรทำนองนี้อ่ะคับ
อยากถามพี่ๆว่า ยังมีพี่ๆคนไหนไหมครับที่มีความสุขและภูมิใจกับการเรียนหมอ
และเป็นหมอ...คือผมเองก็อยากเรียนหมอ..แต่คนรอบข้างที่เรียนหมอมัก
จะพูดแบบนี้กรอกหูใาตลอด3ปี...แต่ผมก็ยังยืนยันความตั้งใจเดิม จนปีนี้ต้องเอน์จิงๆแล้ว ยิ่งเจอหนักกว่าเดิมอีก พี่ๆบางคนบอกว่า...เลิกคิดได้แล้วไปเรียนอย่างอื่นดีกว่า.....ผมอยากขอความคิดเห็นจากพี่ๆหน่อยครับ....


Posted by : คนกำลังเอนท์ , Date : 2004-01-25 , Time : 10:16:16 , From IP : 203.156.64.161

ความคิดเห็นที่ : 1


   จริงๆแล้วเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ ผู้ที่จะตอบคำถามน้องได้ดีที่สุดน่าจะเป็นพี่Dhan หรือพี่ว่าวซึ่งตอนนี้จะเรียกShonikekaก็ไม่ผิด แต่พอดีดั๊น เปิดมาอ่านคนแรก ก็ขอลองออกความเห็นนิดนึง

เป็นความจริงครับที่การเรียนแพทย์นั้นเหนื่อย จะว่าสาหัสไหมคงต้องว่ากันไปในแต่ละคน ที่ว่าเหนื่อยนั้นเพราะจำนวนปีที่เรียนยาวกว่าเพื่อนๆ ในชั้นคลีนิคต้องมีการอยู่เวรอดไปเที่ยวกับเพื่อนๆ และเวรที่แสนจะสุดโหดที่ทุกคนต้องผ่านมันก็คือเวรตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ปี6หรือexternนั่นเอง อะไรที่ไม่เคยทำก็จได้ทำตอนนั้น นอกจากนี้ความเครียดของการที่จะต้องเรียนไปพร้อมกับการต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานอื่นๆก็อาจสร้างปัญหาให้กับผู้ที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ไหนจะพยาบาล ไหนจะแพทย์ใช้ทุน ไหนจะอาจารย์แพทย์ ที่สำคัญเลยคือผู้ป่วยที่เราดูแล เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันเกี่ยวข้องกับชีวิต เราจึงเครียดเพราะเรารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น พอจบพ.บ.น้องก็คงคิดที่จะเรียนต่อกันส่วนใหญ่ ก็ต้องบวกกันไปอีก 4-7 ปี แล้วแต่ว่าเรียนอะไร ที่เล่ามาเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมคิดออกว่าอาจจะเป็นสาเหตุของความเหนื่อย

คราวนี้ น้องลองมาถามตัวเองว่า "ทำไมน้องอยากจะเป็นหมอ"
1.ใฝ่ฝันมาแต่เด็กว่าจะได้นำมาช่วยชีวิตผู้อื่น
2.เรียนเก่ง ต้องเอนท์หมอ
3.พ่อแม่อยากให้เรียน
4.คิดว่าเป็นหมอแล้วหาเงินง่าย น่าจะรวยไม่ยาก
5.บังเอิญชอบ
6.เลือกไปอย่างนั้นตามเพื่อนๆ
7.ไม่รู้

จากนั้นน้องลองเอา 2 อย่างมาใส่ตาชั่งในตัวน้อง ว่าด้านไหนที่มันหนักกว่ากัน ถ้ามันยังเท่าๆกัน น้องลองอ่านความคิดเห็นอื่นๆที่อาจจะช่วยน้องตัดสินใจเพิ่มอีกแล้วลองชั่งใหม่ อาจเดินเข้าร.ร.แพทย์ไปถามพี่ๆที่เรียนอยู่ปี4-5 ก็ได้ เมื่อได้ด้านที่หนักกว่าอีกด้านอย่างชัดเจน ก็คงเป็นคำตอบที่เหมาะสมกับตัวน้องที่สุดแล้วครับ



Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2004-01-25 , Time : 11:05:40 , From IP : 172.29.3.170

ความคิดเห็นที่ : 2


   มีอาจารย์ท่านนึงเคยถามนักศึกษาแพทย์(ปี5-6)เกือบทุกรุ่นที่เคยเรียนกับท่าน

ว่า ถ้าเลือด ent ใหม่จะเลือกหมอมั้ย

คำตอบที่ได้คือ 50% จะไม่เลือก และแนวโน้มปีหลังๆ ผู้ตอบว่าไม่เลือกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยครับ


Posted by : เหอๆๆ , Date : 2004-01-25 , Time : 13:07:46 , From IP : 172.29.4.128

ความคิดเห็นที่ : 3


   การเรียนวิชานี้มันมากกว่าแค่รับผิดชอบตัวเอง มากกว่าการเรียนหนังสือค่ะน้อง

ถ้าน้องเรียนอย่างอื่น ขณะเรียน น้องก็แค่รับผิดชอบตัวเองให้เรียนจบ ตักตวงความรู้ให้ได้มากที่สุด ความรับผิดชอบอื่นๆจะถาโถมเข้ามาตอนที่เริ่มทำงาน

อย่างที่พี่เป็ดเค้าบอกล่ะ ในวิชานี้ นอกจากเรียน น้องยังต้องเรียนรู้การทำงาน การสร้างความสัมพันธ์ ไปพร้อมๆกัน ความเครียดความกดดันไม่ได้มาจากการเรียนอย่างเดียว


Posted by : ตัวกมฮะ... , Date : 2004-01-25 , Time : 16:52:00 , From IP : 203.113.76.9

ความคิดเห็นที่ : 4


   อาจารย์ท่านเดียวกับ เหอๆๆๆ โพส แต่เป็นกลุ่มผม ถาม 7 คน อยากเรียนแค่ 2..... ปล. คนที่ตอบว่าไม่เรียนก็มีคนเกรดสูงๆรวมอยู่ด้วยนะ (คือ ไม่ได้ เรียนอ่อนหรือไปไม่รอดแล้วไม่อยากเรียน)

Posted by : ตัวยาวครับ , Date : 2004-01-25 , Time : 19:08:24 , From IP : 172.29.4.100

ความคิดเห็นที่ : 5


   แนะนำให้น้องถามต่อกับพี่ๆแต่ละคนที่น้องถามนั้นว่านรกเป็นอย่างไรทาสเป็นอย่างไร

สาเหตุเพราะคำพรรณนาดังกล่าวผ่านการ "ตีค่า" มาแล้วรอบหนึ่ง ฉะนั้นที่น้องต้องการจริงๆและนำมาคิดวิเคราะห์กับตนเองนั้นคือ "ข้อมูลดิบ" ที่ยังไม่ได้ถูกทำให้มันฟัง over หรือสะใจอะไรทำนองนั้น ลองขอให้พี่เขาอธิบายว่าหนักนั้นหนักอย่างไร ทั้งกายและใจ แล้วค่อยเอาข้อมูลดังกล่าวมาไตร่ตรอง

นอกจากนั้นก็อาจจะถามกับคนที่อยู่ในอาชีพนี้นานๆบ้างก็ดีนะครับ ว่าเขาทนอยู่เพราะอะไร ดีไม่ดีตรงไหน คนพวกนี้อาจจะต่างจากพี่ๆที่กำลังเรียนอยู่คือเขาผ่านช่วงที่ว่านั้นมาแล้ว และกำลังทำงานจริง สัดส่วนของเวลาที่น้องจะใช้คือ 6 ปีในโรงเรียนแพทย์ กับที่เหลือทั้งชีวิต ดังนั้นหกปีก็จะดูไม่ใคร่ยาวนานเท่าไหร่

แนะนำให้ถามตัวต่อตัว จะได้เห็นสีหน้าท่าทางคนให้ข้อมูล จับเข่าคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าเขาคิดว่าถามเล่นๆก็อาจจะได้คำตอบที่ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ บอกว่าเรียนหนักบางทีก็ดูเท่ห์ดี ยิ่งผ่านมาแล้ว ทำมาแล้ว ก็ยิ่งเท่ห์หนักขึ้น ถามภาควิชาไหน คณะอะไรก็เรียนหนักกันทั้งนั้น



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-25 , Time : 20:30:21 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 6


   คือ ผม ก็เป้นคนหนึ่งนะ ที่เรียนเพราะคิดว่ามันดูดี พอได้มาทำ จริง ก็รุ้สึกว่ามันเหนื่อยมากกกก เคยยืน ย้อมUA ตอนตี 3 ขณะที่รอ สไลด์แห้ง ก็มองออกไปนอกหน้าต่าง ( วิวชั้น 9 ตอนตีสามสวยมากกกกกกก ) แล้วคิดในใจว่า นี่กูมายืนทำบ้า อะไรอยู่ตรงนี้ นี่มันเป็นเวลานอนนะ ทำไมกูไม่ได้นอนเหมือนคนอื่นเค้า คิดได้แค่นั้น น้ำตามันก็ซึม พร้อม กับทำงานต่อไป หรือแม้แต่ อ่านหนังสือไป ร้องไห้ไป ด้วยความเบือ่ และ ล้า เต็มที พอเรียนจบคิดว่าจะสบาย ก็ไม่ได้เป้นไปตามที่คิด เหนือย ท้อ แต่ถ้าถามว่าถ้ากลับไปเอ้นใหม่ได้จะเอนใหม ก็ขอตอบว่า คงเอนหมอ เหมือนเดิม เพราะมันไม่รู้จะเรียนอะไรดี
ตอนนี้แม้มันทำอะไรไม่ได้ ก็คงต้องทำหน้าที่ของหมอ ให้ดีที่สุด คิดซะว่า อย่างน้อย เราก็เป็นในสิ่ง ที่คนหลายคนเค้าไม่ได้เป็น ได้ทำในสิ่งที่น้อยคนจะได้ทำ แม้มันจะต้องแลก กับอะไรหลายอย่าง ถ้าถามว่า สนับสนุนให้คนเรียนหมอหรือปล่าว คงบอกว่า ถ้าไม่ได้เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น อย่างจริงใจ อย่าเรียนเลย เหนือ่ยปล่าว เบือ่ด้วย และแทนที่จะได้ทำบุญ อาจกลายเป็นทำบาป ก็ได้ใครจะไปรู้


Posted by : Dr K , Date : 2004-01-25 , Time : 22:31:17 , From IP : proxy-mu2.mahidol.ac

ความคิดเห็นที่ : 7


   คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก

สิ่งที่อยากที่สุดในช่วงชีวิตของวัยเรียน นอกเหนือจากการสอบเช้า คือการเลือกเส้นทางเดินของตัวเอง ว่าจะเรียนอะไร ไปทางไหนดี อนาคตเราจะเป็นอย่างไรต่อไป
คนที่โชคดีรู้ใจตัวเองว่าอยากเป็นนั่นเป็นนี่จากใจจริง และได้เดินไปทางนั้น ก็คงจะมีความสุข แต่คนที่สับสนและเดินไปในทางที่ตัวเองก็ยังไม่รู้อนาคต ก็คงต้องทนกับความรู้สึกว้าวุ่นใจอยู่ทุกๆเวลา

ถ้าผมจะบอกว่า การเรียนแพทย์นั้น สบายกว่าการเรียนวจก. อก. วิศวะ ทันตะ ฯลฯ ถ้าผมเข้าไปเรียนในคณะนั้นๆ ผมก็คงจะรู้สึกท้อแท้และเหนื่อยยากเช่นเดียวกัน

ตอนนี้ผมมีความสุขกับการเรียนแพทย์และการใช้ชีวิตครับ


Posted by : ArLim , Date : 2004-01-25 , Time : 23:22:16 , From IP : 203.113.76.75

ความคิดเห็นที่ : 8


   สาเหตุที่เรียนแพทย์หนักก็เพราะว่า
1. จำนวนปีมากว่าคณะอื่น ยกเว้นทันต เภสัชสาขาใหม่ (6 ปี)
2. เป็นการเรียนที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์มาก ทำให้เกิดความเครียดมาก โดยเฉพาะเรียนกับอาจารย์แพทย์ที่เป็นกลุ่มเล็กๆ ต้องตื่นตัวตลอดเวลา (เหมือนว่าต้องหวาดระแวงว่าวันนี้จะโดนอะไรบ้าง ที่ว่าโดนก็คือต้องถูกถาม)
3. อาจารย์มีความคาดหวังสูง คิดว่านักศึกษาแพทย์จะทำได้เหมือนอาจารย์
4. นักศึกษาแพทย์มีความคาดหวังสูง เพราะคิดว่าตัวเองเก่ง ได้คะแนนสอบเข้ามาดี ก็หวังว่าเรียนน่าจะประสบผลสำเร็จ ดังนั้นจึงเกิดความเครียดในการเรียน(เคยเรียนมาแล้วได้คะแนนดี)
5. เนื้อหาค่อนข้างมาก
6. เนื้อหาเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบมากจบออกไปต้องทำได้ (ความคาดหวังสูง)
ถ้าถามว่ายากหรือไม่ก็ต้องตอบว่า ไม่ยาก ขอให้ขยัน ตั้งใจ รับผิดชอบ รับรองว่าสอบผ่าน


Posted by : เทน , Date : 2004-01-25 , Time : 23:26:05 , From IP : r138-skaHS1.S.loxinf

ความคิดเห็นที่ : 9


   มาเรียน วจก.อย่างผมดิครับ สบาย อ่านหนังสือคืนก่อนสอบก้อยังทัน ถ้าเก่งหน่อยไปต่อเมืองนอก ได้เป็นผุ้บริหารระดับสูง เงินเดือนก็ 5เสนขึ้นเหมือนกัน
หรือว่าลงทุนในกิจการซักอย่าง งานสบาย รอรับแต่เงินอย่างเดียวด้วย

แต่ว่าผมก็ชอบแพทย์นะครับ เพราะว่าเด็กแพทย์น่ารัก.... อยากมีแฟนอยุ่คณะแพทย์ครับ (อันนี้ต้องบอกชอบเด็กแพทย์ แต่ไม่ชอบเรียนแพทย์นะ ถูกต้องนะคร้า.......อิอิ)


Posted by : เด็ก วจก. , Date : 2004-01-26 , Time : 01:58:44 , From IP : 203.170.229.241

ความคิดเห็นที่ : 10


   พี่เป็น นศพ. คนหนึ่งที่โดนพี่ ๆ ที่เป็นหมอบอกอย่างนี้เหมือนกัน แต่ความแน่วแน่ของพี่ที่จะเรียนหมอทำใหพี่สอบได้ และเรียนมาจนตอนนี้ ปี 4 มีทั้งสุขและทุกข์ แต่นี่คือชีวิตที่พี่เลือกแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดที่อยู่ในใจพี่คือความภาคภูมิใจที่ได้มาเรียนแพทย์ นอกจากตัวพี่เองแล้วที่มีความรู้สึกอย่างนี้ ยังมี เพื่อน ๆ พ่อ แม่ และอีกหลายที่คนคอยอยู่ น้องต้องถามตัวเองว่าอยากเป็นหมอหรือไม่ หากอยากเป็นหมอทำไมต้องกลัวความลำบากล่ะ แค่คนอื่นมาพูดนิดเดียวก็ลังเลเลยหรือ ลองนึกถึงความสำเร็จที่รออยู่ซิ แล้วจะมีกำลังใจเอง มีหลายคนที่อยากเรียนหมอแต่ไม่ได้เรียน หากน้องมีโอกาสจะปล่อยมันไปเชียวหรือ น่าเสียดายนะ พี่ก็เกือบไม่ๆได้เรียนหมอนะ เพราะคะแนนน้อยมากแต่อาจเพราะ Born to be ก็เลยได้มาเรียน อีกอย่างไม่ต้องกลัวว่าเรียนไม่ได้เพราะ คนที่คะแนน Ent น้อย ๆ พอลองขยันดู เกรดก็ดีกว่าพวกที่ Ent ได้คะแนนเยอะ ๆ อีก แล้วที่พี่หมอบอกว่าอย่าเรียนเลยนั้น พี่คิดว่าเขาก็ภูมิใจอยู่ลึก ๆ นะที่เขาเป็นหมอ แต่ที่พูดอย่างนั้นเพราะว่า อยากประกาศว่าหมอน่ะ มัน ยาก ต้องเก่งอะไรทำนองนี้ เพื่อให้ดูว่าเขาน่ะจบมาได้ สามารถฝ่าฟันสิ่งที่ยาก ๆ มาได้ ดังนั้นอย่าไปฟังมากนะ อยู่ที่ใจน้องเองแล้วแหละ

Posted by : รักหมอ , Date : 2004-01-26 , Time : 11:22:34 , From IP : 172.29.2.174

ความคิดเห็นที่ : 11


   ถ้าเลือกได้
อยาก ไปทำไร่ ทำนา


Posted by : หมอ ไม่หล่อ , Date : 2004-01-26 , Time : 12:36:06 , From IP : 172.29.1.229

ความคิดเห็นที่ : 12


   พี่ก็เป็นหมอเหมือนกัน เห็นด้วยกับที่ว่างานเหมือนวัวเหมือนควาย ทำงาน 365 วัน ไม่มีวันหยุด ต้องทนทำตัวเป็นแพทย์ที่ดีทั้งๆ ที่บางครั้งหรือบ่อยๆที่ คนไข้ทำกริยาตำๆ
แต่ถ้าคุณคิดว่าชอบหมอจริงๆก็ขอให้เลือกเถิด เพราะมีข้อดีดังนี้
1.ไม่ตกงาน
2.แม้ไม่รวยแต่ก็ไม่จนแน่
3.ยังไงเราก็เหนือกว่าคนไข้เพราะเค้าต้องง้อเรา
4.งานส่วนใหญ่เราเป็นเจ้านายตัวเอง
5.ดูแลรักษาคนในครอบครัวได้
6.มีสิทธิ์พิเศษเวลาเข้ารับการรักษาในรพ.ที่ทำงาน เช่น ลัดคิว, เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นพิเศษม อื่นอีกมากมาย
นับข้อดีได้ 6 ข้อแล้วก็เลือกเลยไอ้น้อง


Posted by : doctor_single but not virgin , Date : 2004-01-26 , Time : 22:22:19 , From IP : 172.29.1.151

ความคิดเห็นที่ : 13


   คนข้างบนล่อเป้าอะ...



Posted by : ตัวกมฮะ... , Date : 2004-01-27 , Time : 01:03:51 , From IP : 203.113.76.72

ความคิดเห็นที่ : 14


    ขอบคุณพี่ๆทุกคนสำหรับทุกความเห็นมีประโย๙น์มากๆครับ...
อ่านแล้วก็คิดได้ว่า..ผมจะเป็นหมอครับบบบ..ยังยืนยันความตั้งใจเดิม
(ต้องบอกว่า...ความฝันเดิม)...
เวลาผมไปรพ.เห็นตาสีตาสา..เจ็บป่วย..ก็รู้สึกสงสารมากๆ..
ในใจก็คิดอยากจะช่วยเหลือเค้าอยากให้กำลังใจเค้ามากๆเลย...ผมรู้สึกแบบนี้
จริงๆ...และเป็นทุกครั้งเลยที่ไปรพ...โดยเฉพาะเวลาที่เห็นหัวหน้าพยาบาลดุแก
จะรู้สึกสงสารและคิดไปถึงพ่อแม่ของผมเอง..ถ้ามารพ.ก็คงจะเป็นแบบนี้..เพราะ
ผมเป็นลูกชาวนาจนๆคนนึง...ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆก็คงไม่ไปเพิ่งหมอถึงรพ...
แต่ผมไม่ได้อยากเป็นเพราะครอบครัวผมจนหรอกนะครับ...มันอยากเป็น
มาจากข้างในจริงๆ...
หวังว่าสักวันผมคงมีโอกาสได้มาเป็นรุ่นน้องพี่ๆที่นี่นะครับบบบบบ...


Posted by : เจ้าของกระทู้ , Date : 2004-01-27 , Time : 10:21:39 , From IP : 203.156.70.184

ความคิดเห็นที่ : 15


   ขอให้โชคดีครับ คุณน้องเจ้าของกระทู้

Posted by : โบทซึมุ(ตอนนี้อยู่นครฯ) , Date : 2004-01-27 , Time : 16:44:25 , From IP : 202.129.18.181

ความคิดเห็นที่ : 16


   3.ยังไงเราก็เหนือกว่าคนไข้เพราะเค้าต้องง้อเรา
6.มีสิทธิ์พิเศษเวลาเข้ารับการรักษาในรพ.ที่ทำงาน เช่น ลัดคิว, เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นพิเศษม อื่นอีกมากมาย


เห้อ ไม่รู้ว่านศพ.ที่นี่เค้าสอนให้คิดแบบนี้ได้อย่างไร


Posted by : 1234 , Date : 2004-01-27 , Time : 17:19:32 , From IP : 192.168.33.28

ความคิดเห็นที่ : 17


    เรียนอะไรก้อเหนื่อยเหมือนกันนะ แม้แต่ขอทานก้อยังเหนื่อยคับ

Posted by : ทะเลๆๆ , Date : 2004-01-29 , Time : 16:53:34 , From IP : 172.29.2.137

ความคิดเห็นที่ : 18


   ก่อนที่พี่จะมาเรียนหมออ่ะนะก้อมีคนบอกอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ แต่เราตั้งใจแล้วนี่นา มุ่งมั่นขนาดนี้ ความคิดของคนแค่ไม่กี่คนมันมาทำลายไม่ได้หรอกจ้า ว่าแต่ว่าเราตั้งใจจริงป่าวล่ะ
ก่อนถามมันก้อน่าจะรู้คำตอบอยู่นาพี่ว่า คิดดูดิถามว่าเรียนหนักมั๊ย ไม่ว่าเป็นใครตามหลักแล้วมันก้อต้องบอกว่าหนักกันทั้งนั้นแหละ ครายยยละจ้าจะมาบอกว่า โหเรียนหมอเหรอน้องง่ายชะมัดยาด นั่งๆนอนๆก้อสอบได้ มีเรอะแบบเนี๊ยะ
เอาเป็นว่าถ้าเราชอบอาชีพนี้จริงๆมาเรียนเหอะ เชื่อมั่นในตัวเองดิ คนอื่นเค้าทำได้เราก้อทำได้ ทางนี้เราเลือกเอง ที่เหลือก้อแค่รับผิดชอบให้จบ 6 ปีเอง แป๊บเดียววว


Posted by : หมอคนหนึ่ง , Date : 2004-01-31 , Time : 02:54:53 , From IP : r143-skaHS1.S.loxinf

ความคิดเห็นที่ : 19


   ครับพี่่่....

Posted by : เจ้าของกระทู้ , Date : 2004-01-31 , Time : 15:32:31 , From IP : 203.156.8.58

ความคิดเห็นที่ : 20


   พี่ขอให้น้องเจ้าของกระทู้โชคดี ได้เข้ามาเรียนแพทย์สมใจ ตั้งใจอ่านหนังสือดีๆนะครับ


Posted by : พี่นัท , Date : 2004-02-01 , Time : 19:24:21 , From IP : 202.129.18.132

ความคิดเห็นที่ : 21


   พี่พอใจกับความถึกที่เพิ่มขึ้นเมื่อมาเรียนคณะนี้นะน้อง

Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2004-02-02 , Time : 18:47:36 , From IP : 203.113.76.9

ความคิดเห็นที่ : 22


   สู้ ๆ จ้า แล้วเจอกันที่คณะแพทย์นะ ^0^

Posted by : โนบุคุง , Date : 2004-02-03 , Time : 13:12:58 , From IP : 172.29.2.131

ความคิดเห็นที่ : 23


   น้องเรียนมหาลัย ถ้าเป็นสายวิทย์ ก็เรียนหนักเกือบทุกคณะละครับ
เผอิญแพทย์เรียนหนักที่สุดเพราะหลักสูตรมันถูกบีบมาจากต่างประเทศที่เรียนสายวิทย์ 4 ปี + หมอ 5 ปี จึงจะจบ เมืองไทยเมื่อก่อนก็ดัดแปลงเรียน 7 ปี เดี๋ยวนี้เรียน 6 ปี ในคณะอื่นๆเป็นที่รู้กันว่านักศึกษาจบใหม่บางครั้งทำอะไรไม่ค่อยเป็นสู้เสมียนยังไม่ได้ มีแต่ความรู้เพราะเรียนแต่ในห้องเรียน แต่"หมอ" จริงอยู่มากทีเดียวว่าประสบการณ์ทำให้คนเก่งขึ้น แต่กับหมอจบใหม่ไม่ใช่แบบนั้น ยังไม่ทันจบปี6 ปีสุดท้ายก็ต้องตัดสินใจรักษาคนไข้ รับผิดชอบชีวิตคนไข้ด้วยตัวเอง น้องจะเห็นได้ชัดว่า ความรับผิดชอบของหมอและความคาดหวังของสังคมที่มีต่อหมอสูงมาก หมอจึงจำเป็นต้องฝึกตัวเองเองทุกๆด้านอย่างหนัก แต่หมอไม่ใช่เทวดา จบไปแล้วใช่ว่าต้องทำได้ตามความคาดหวังของคนอื่นที่คิดว่าหมอต้องรู้ทุกๆเรื่องทำได้ทุกๆ อย่าง คนไข้มาถึงมือหมอแล้วต้องไม่ตาย โธ่...น้อง น้องกำลังพูดถึงคนอยู่นะและนี่เราอยู่ในธรรมชาติของโลก(และของโรค)


Posted by : ชีวิตน้องน้องมีสิทธิ์เลือกเอง , Date : 2004-02-17 , Time : 19:40:17 , From IP : 172.29.2.152

ความคิดเห็นที่ : 24


   อยากทราบว่าเรียนหมอเราต้องแข่งกับคนอื่นด้วยหรือเปล่า ไม่อยากแข่งกันเลย อยากให้ช่วยกันติวมากกว่า และอยากให้รุ่นพี่ take care รุ่นน้องด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

Posted by : น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ , E-mail : (()) ,
Date : 2004-03-09 , Time : 09:30:43 , From IP : 203.147.29.123


ความคิดเห็นที่ : 25


   แข่งแน่นอนจ้า
แต่แข่งกะตัวเองนะ
แข่งกะเวลา
แข่งกะกิเลสกะความท้อ ความ.....สาระพัดแหละ
ไม่ว่าที่ไหนก็มีการแข่งขัน
ชีวิตก็งี้แหละน้องเอ๋ย
แต่คณะแพทย์อบอุ่นกว่าที่พี่คิดนะ ลองดูแล้วจะรู้ หุหุ


Posted by : สาวน้อยร้อยชั่ง , Date : 2004-03-12 , Time : 15:40:33 , From IP : 202.129.18.132

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<