ความคิดเห็นทั้งหมด : 53

หมอๆ จะเขียนให้ลายมือมันอ่านง่ายนักไม่เหรอ


   ก็ตามหัวข้อ

อึดอัดเวลาทำงาน
ลายมือ


เอ่อ
ประทานโทษนะครับ
ถ้าจะบรรจงกว่านี้มันจะทำให้ตรวจคนไข้ได้น้อยลงเหรอ?
หรือจะเสียเวลามากไป
หรือเป็นค่านิยม ลายมือหมอมันต้องแบบนี้เว้ย
.
.
.
ไม่ได้ตั้งใจให้บรรจงคัด
แต่ก็ไม่ใช่ตัวเองอ่านออกคนเดียว



ทำไมครับ
ทำไม
ทำไม
ทำไม
.
.
.
.
.
.
.




Posted by : ยิ้มเดียว , Date : 2004-01-16 , Time : 18:01:48 , From IP : 172.29.2.104

ความคิดเห็นที่ : 1


   ขออภัยที่ลายมือทำให้ดีได้แค่นี้ พยายามคัดให้สวยกลายเป็นว่าพออ่านออก พอเขียนธรรมดาก็โดนว่าแกล้งเขี่ย โอยถ้าเลือกได้อ่ะเราก็อยากเกิดมามีลายมือสวยเหมือนกันล่ะหงุดหงิดเหมือนกันเวลาเขียน เวลาเขียนรายงานหรือทำข้อสอบก็สงสารอาจารย์กลัวจะสลบคาข้อสอบเรา แต่ทำไงได้....

Posted by : จัง-ไร , Date : 2004-01-16 , Time : 19:34:35 , From IP : 172.29.2.80

ความคิดเห็นที่ : 2


   ก็ลายมือไม่สวยโดยธรรมชาติอ่ะ ทำงัยได้ จะให้กลับไปหัดคัดลายมือใหม่ก็ไม่ทันแล้ว ว่าแต่เจ้าของกระทู้เนี่ย ลายมือสวยหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่น่าจะตกไวยากรณ์ภาษาไทยนะ ตั้งกระทู้่ได้ส่อภูมิปัญญามาก

Posted by : Aqua , Date : 2004-01-17 , Time : 09:49:08 , From IP : 202.129.48.122

ความคิดเห็นที่ : 3


   การรักษาพยาบาลเป็นการทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก เป็นการทำงานเป็นทีม ดังนั้นการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าหากว่าลายมืออ่านยาก แล้วทำให้ผู้ร่วมงานไม่สามารถเข้าใจได้ ผลเสียจะตกแก่คนไข้ในที่สุด เช่นได้รับยาผิด ผู้ที่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา ผู้ที่ post ประเด็นนี้ขึ้นมาคงได้รับความลำบากในการทำงาน และสงสารคนไข้ เป็นบุคคลที่ควรได้รับการชมเชย เนื่องจาก 1 รู้ปัญหา 2 พยายามเรียกร้องเพื่อมีการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น ความจริงปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ แต่ไม่ได้รับการสนใจ หากเกิดความผิดพลาดดังกรณีที่คนไข้ได้รับยาผิดชนิดที่มีอันตรายรุนแรงจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เพราะสาเหตุเกิดจากการสื่อสารผิดพลาดเท่านั้นเอง สาเหตุหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้ยินความเสียหายจากกรณีนี้มาก แต่มักจะได้ยินคำบ่นว่า ลายมืออ่านยากนั้น อาจเป็นเพราะว่า ทีมงานมีความรู้ มีประสบการณ์พอสมควร และพอจะเดาๆไปได้ว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ คำถามว่า วิชาชีพการรักษาพยาบาลควรจะมีความถูกต้อง เที่ยงตรง เชื่อถือได้แค่ไหน หรือจะปล่อยให้ผู้ร่วมงานต้องคอยเดาๆ ไปในการทำงานต่อไป

การเขียนให้ผู้อื่นอ่านออก ไม่จำเป็นต้องลายมือสวย แต่ขอให้ผู้อ่านสามารถแยกได้ว่าเป็นอักษรอะไร ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ การเขียนให้ผู้อื่นอ่านออกไม่ได้ยากเกินความสามารถของคุณหมอทั้งหลายหรอกใช่ไหมค่ะ ถ้าคิดจะทำจริงๆ เพราะคุณหมอมีความสามารถมากกว่านั้นอีกหลายๆเท่า วิชาชีพแพทย์ถือว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ขอเพียงคุณหมอใส่ใจ และเห็นใจผู้ร่วมงาน และคนไข้ มากกว่านี้อีกนิดหนึ่ง คุณหมอก็จะพบว่า เขียนให้ผู้อื่นอ่านออกนั้น ง่ายนิดเดียว


Posted by : Lunar , Date : 2004-01-17 , Time : 10:40:58 , From IP : webcache01.mas.optus

ความคิดเห็นที่ : 4


   เขียน ก็เป็นหนึ่งใน communication skill ที่สำคัญพอๆกับพูด

ข้อสำคัญคือจุดเริ่มต้นนั้นได้แก่ "เขียนให้อ่านออก" ไม่ใช่ big deal หรือ ต้องการ rocket scientist หรือ brain surgeon จึงทำได้ (น่าสงสัยว่าพวกนั้นซะอีกที่จะทำไม่ได้!!!) เพียงแต่คนเขียนคิดว่าที่เราเขียนสำคัญหรือไม่ และที่คนที่มีหน้าที่จมาอ่านให้เข้าใจนั้นสำคัญหรือไม่ ถ้าแม้แต่ตัวเองกลับมาอ่านก็ยังเกาหัวแกร๊กเกาก้นอีกสามแกร๊กยังอ่านไม่ออก ก็ต้องแก้ไขปรับปรุง

อย่างที่เคยอภิปรายไปแล้วครั้งหนึ่ง communication skill นั้นประกอบด้วยสามปัจจัยคือ คนให้ คนรับ และบริบท ส่วนใหญ่เรามักจะนึกออกแต่คนให้ (คือตัวเราเอง) ไม่ได้นึกว่าที่เราต้องการจะสื่อนั้น มีคนรับไปรึเปล่า ไม่สนตูสื่อไปแล้ว หมดหน้าที่ของตู ทั้งเขียนหรือพูด "ถ้าเราคิดว่า message ของเราสำคัญ" ก็พึงระลึกว่าคนรับรับได้ และเข้าใจตรงกับที่เราต้องการจะสื่อก็สำคัญเท่าๆกับการให้



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-17 , Time : 11:12:09 , From IP : 172.29.3.232

ความคิดเห็นที่ : 5


   ครับผม ถ้าอ่านไม่ออกก็ไปทำอาชีพอื่นดีกว่านะครับได้ไม่ต้องมาทนกับการลายมือ ผมว่าไปสอนหนังสือคนตาบอดสิครับใช้อักษรเบล ไม่ต้องอ่าน!


Posted by : like tiger , Date : 2004-01-17 , Time : 11:31:28 , From IP : 172.29.3.240

ความคิดเห็นที่ : 6


   ครับผม ถ้าอ่านไม่ออกก็ไปทำอาชีพอื่นดีกว่านะครับได้ไม่ต้องมาทนกับการลายมือ ผมว่าไปสอนหนังสือคนตาบอดสิครับใช้อักษรเบล ไม่ต้องอ่าน!


Posted by : like tiger , Date : 2004-01-17 , Time : 11:31:36 , From IP : 172.29.3.240

ความคิดเห็นที่ : 7


   ขออภัยที่สื่อไม่ค่อยดี ลองอีกทีนะครับ

การสื่อนั้นประกอบด้วย ให้ รับ และบริบท สามประการ failure ของ communication เมื่อเกิดขึ้น เกิดได้ทั้งสามระบบครับ เช่น อ่านไม่ออก อาจเกิดจาก เขียนไม่เป็นภาษามนุษย์ อ่านหนังสือไม่ออก หรืออ่านบนรถที่สั่นคลอนมากหรือในห้องมืด ผลท้ายสุดก็อ่านไม่ออกทั้งสิ้น จึงต้องแก้ให้ถูกจุด

ผมคิดว่าประเด็นของกระทู้นี้ค่อนข้างชัดเจนว่าเกิดจาก "ลายมืออ่านยาก" ซึ่งการแก้ไข ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย หรือเป็นเรื่องน่าละอายที่ลายมืออ่านยาก เพราะเป็นสิ่งที่ปรับได้ง่ายมาก ยอมรับว่าลายมืออ่านยากจริงๆก็ไม่เห็นต้องเสีย self ตรงไหน



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-17 , Time : 16:28:29 , From IP : 172.29.3.243

ความคิดเห็นที่ : 8


   ทำไมไม่คิดกลับกันบ้างละคะ คุณหมอว่า...ถ้าเขียนให้คนอ่านออกไม่ได้ ก็ไม่น่าจะมาประกอบอาชีพที่ต้องมีการเขียน......ไม่ต้องมีการ communicate กับคนอื่น...ในประเทศโลกที่หนึ่งนะคะ good communication skill ถูกปลูกฝังตั้งแต่ระดับอนุบาลค่ะ คนของเขาจึงทำงานเป็นทีมได้ดี เพราะเขายอมรับฟังผู้อื่น และสามารถถ่ายทอดให้คนอื่นเข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการพูด หรือการเขียน และนั่นหละค่ะ ที่เป็นความแตกต่างอย่างหนึ่ง และอย่างแรง ระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา

ผู้ที่ไม่รับฟังปัญหาที่เราสามารถแก้ไขได้ แต่สะท้อนกลับไปต่อว่าผู้ที่เขาเสนอปัญหานี้มา นับว่ายังห่างไกลจากผู้เจริญแล้วจริงๆ สงสารประเทศไทย......



Posted by : Lunar , Date : 2004-01-17 , Time : 16:35:55 , From IP : webcache01.mas.optus

ความคิดเห็นที่ : 9


    ด้วยความเคารพครับคุณ Lunar ทำไมคุณถึงไม่คิดว่าคนที่อ่านลายมือไม่ออก
อาจจะไม่มีความรู้ด้านนั้นๆเพียงพอที่จะทำความเข้าใจให้กับสมองของเขา ดังนั้น
พึงมองกลับตัวเองก่อนว่า ลายมือนั้นๆอาจจะมีคนที่มีความรู้มากกว่าเราเข้าใจได้ โดยง่าย ! น่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้นนะครับ


Posted by : Like tiger , Date : 2004-01-17 , Time : 17:23:55 , From IP : 172.29.3.170

ความคิดเห็นที่ : 10


   การเขียนให้อ่านออกโดยไม่จำเป็นต้องสวยก้ได้ ขอแนะนำให้เขียนหนังสือให้มีหัว ไม่จำเป็นต้องสวย แต่อ่านง่ายมากลองทำดูสิครับ (ยกเว้นตัวที่ไม่มีหัวก็ไม่ต้องพยายามใส่เช่นตัว ก

Posted by : กกก , Date : 2004-01-17 , Time : 19:24:33 , From IP : 203.155.221.253

ความคิดเห็นที่ : 11


   ปัญหาเดิมๆ

พวกเรายังมีปัญหากับการรับฟังและตอบสนองการ feedback อยู่อย่างฝังรากลึกทีเดียว

การ feedback ที่เรียกว่า constructive criticism (การวิจารณ์แบบสร้างสรรค์) บางครั้ง ถึงแม้จะฟังดูเป็นการเปิดเผยหรือ expose แต่แก่นอยู่ที่มีข้อแนะนำอยู่หรือไม่ ข้อแนะนำนั้นถ้าทำแล้วสร้างสรรค์หรือไม่ ถ้าสร้างสรรค์ก็รับไปได้ โดยมิจำเป็นต้องมีการกระฟัดกระเฟียด กระแทกกระทั้นแดกดันกลับ

การอ่านลายมือออกน้น ไม่ได้เกี่ยวกับ differentiation ที่ระดับหลังปริญญาตรีหรอกครับ ขอเพียงรู้หนังสือ ก ถึง ฮ และ A ถึง Z ก็อ่านออกเขียนได้ การแกะลายมือมันไม่เกี่ยวกับความรู้ แต่มันเกี่ยวกับการผสมตัวอักษรที่เดายากว่ามันเป็นตัวอะไรกันบ้าง Mechanism of literary นั้นไม่ต้องการ post-graduate education

ไม่เข้าใจว่าปฏิกิริยาของการ feedback ให้ปรับปรุงลายมือให้อ่ายง่ายขึ้นนั้นจะส่งผลให้เป็นทำนองที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-17 , Time : 20:43:23 , From IP : 172.29.3.238

ความคิดเห็นที่ : 12


   Re: เรียนคุณ Like Tigerที่นับถือเช่นกันค่ะ,

การอ่านออก กับการเข้าใจในเนื้อหานั้นไม่เหมือนกันค่ะ คล้ายคลึงกับ "ท่องแบบนกแก้ว นกขุนทอง" คือท่องได้ จำได้ อ่านได้ แต่ไม่เข้าใจในเนื้อหา ก่อนจะเข้าใจในเนื้อหา เราต้องสามารถอ่านให้ออกก่อน

ถ้าคุณหมอได้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กจะรู้ว่า เด็กสามารถอ่านอะไรต่ออะไรได้ แต่เด็กไม่เข้าในในความหมาย เด็กได้เรียนรู้วิธีสะกดคำ เด็กก็อ่านตามที่เรียนมา แต่คำศัพท์บางอย่างเด็กยังไม่เคยได้ยินมาก่อน อาจจะไม่เข้าใจในความหมาย

คิดว่าตอนนี้เรากำลังคุยกันในเรื่อง "การอ่านให้ออก" ไม่ใช่ "การเข้าใจในเนื้อหา" ปัญหาของการอ่านไม่ออก จะให้ไปถามใคร คนอื่นๆคงช่วยไม่ได้ เพราะอ่านไม่ออกเหมือนกัน คงต้องกลับไปถามผู้เขียน ส่วนการอ่านออก แต่การไม่เข้าใจในเนื้อหา สามารถถามผู้ทราบ หรือผู้มีประสบการณ์มากกว่าได้ เช่นรุ่นพี่ เพื่อนร่วมงาน ค้นหาจากตำรา หรือ internet

ปัญหาการไม่เข้าใจในเนื้อหา แก้ไม่ยาก เท่ากับการอ่านตัวหนังสือยากๆให้ออกหรอกค่ะ

"ผู้ให้ความเคารพ ย่อมได้รับความเคาพรตอบ" ของคุณคุณ Like Tiger ที่สื่อสารได้อย่างมีสติ มีสัมมาวาจา เยี่ยงที่แพทย์ทุกคนควรจะมี



Posted by : Lunar , Date : 2004-01-18 , Time : 10:23:05 , From IP : webcache01.mas.optus

ความคิดเห็นที่ : 13


   ด้วยความเคารพอีกครั้งครับคุณ Lunar , ผมหมายถึงคนที่มีความรู้ด้านนั้นๆ
[ specialty ]อาจจะพอเดาความหมายของประโยคที่เขียนแบบนั้นได้บ้าง ไม่มากก็น้อยเมื่อเทียบกับคนอื่นที่ไม่ได้เป็นหรือเกี่ยวข้องกับวิชาชีพครับ แต่ปัญหานี้คงน้อยลงเนื่องจากมี computer เข้ามาใช้มากขึ้น , ความหมายที่ผมเขียนไม่ได้มีเจตนาที่ดูถูก บุคคลที่ระดับความรู้ กรุณาปรับความเข้าใจของคุณ ใหม่นะครับ คุณPhoenix!


Posted by : like tiger , Date : 2004-01-18 , Time : 11:29:12 , From IP : 172.29.3.244

ความคิดเห็นที่ : 14


   ยังสื่อกันไม่ตรงอยู่ดี

ประเด็นคือสิ่งที่แพทย์ต้องการจะสื่อนี่ เรา"ไม่" ต้องการให้สื่อโดยการเดาครับ สิ่งที่ขอจากคนเริ่มกระทู้คือเขียนให้อ่านออกนั้น น่าจะหมายถึงอ่านออกโดยไม่ต้องเดา ประเด็นคอมพิวเตอร์นั้นก็คงจะช่วยได้ แต่ฟังตอนแรกที่คุณ like tiger แนะนำให้ผู้รับปรับระดับความรู้เพื่อที่จะสามารถ "เดา" ลายมือที่อ่านยากได้อย่างแม่นยำนั้น ไม่คุ้มกับ risk ?จะเกิดขึ้นกับคนไข้ และฟังดูยังไงๆก็ไม่สอดคล้องกับความรับผิดชอบของคนเขียนอยู่ดี อย่างที่ได้เรียนให้ทราบ เรื่องนี้เป็นข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ ไม่เห็นจะต้องโยนให้คนไปเสริมหลักสูตรความรู้เพิ่มเพื่อเดาลายมืออ่านยากอะไรเลย

ที่สำคัญคือ ในอนาคตอันใกล้นี้ ระบบสั่งคอมพิวเตอร์นั้นคงจะไม่ใช้กันแพร่หลายในประเทศไทย หมอก็ยังเขียน order อยู่ดี เกิดอะไรขึ้นหมอนั่นแหละจะเป็นจำเลยที่หนึ่ง จะไปอ้างในศาลว่าพยาบาลเดาลายมือหมอไม่ออกเพราะเรียนมาน้อย ก็ลองวิจารณญานดูว่าศาลจะรับฟังหรือไม่ ลองคิดว่า alternative reaction กับข้อแนะนำเรื่องลายมือ คือแค่ปรับการเขียนให้อ่านออกโดยไม่ต้องเดานั้น จะมีประสิทธิภาพมากกว่าหรือไม่





Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-18 , Time : 12:31:38 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 15


   เรียน คุณ Like Tiger,
อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ หากผู้ที่ต้องมาอ่านลายมือนั้น มีประสบการณ์พอสมควรก็อาจจะพอเดาได้ แต่ในวิชาชีพแพทย์นั้น เราต้องการ ความถูกต้องและแม่นยำมากไม่ใช่หรือคะ......อาชีพแพย์เป็นสายวิชาชีพทางวิทยาศาสตร์ต้องการความถูกต้องแม่นยำ วัดได้ ตรวจสอบได้ ไม่เหมือนบางสายงานเช่นพวกศิลปะ ที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว ในการตีความ และใช้อารมณ์ ความรู้สึกในการสร้างสรรค์งาน

ม.อ. เป็นโรงเรียนแพทย์ ที่ประกอบด้วย นักศึกษาแพทย์ และนักศึกษาพยาบาล บุคคลเหล่านี้ นับว่าประสบการณ์ยังไม่แก่กล้า ถ้าให้เขาต้องเผชิญกับการตีความเองก็น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะคนกลุ่มนี้ อาจจะไม่กล้าถามผู้อื่นเพราะเกรงว่าจะรบกวนผู้อื่นได้ค่ะ

การมีคอมพิวเตอร์ใช้งานอาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่ไม่ใช่ว่า โรงพยาบาลทุกโรงจะมีเงินทุนจัดสรรให้มีคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ นักศึกษาแพทย์หลายคน จบไปอาจจะต้องไปอยู่โรงพยาบาลที่ขาดแคลน ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ช่วยชีวิตบางอย่างที่จำเป็น ปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายโดยไม่ต้องลงทุนเงินเป็นหมื่นมาซื้อคอมพิวเตอร์ โดยอาจทำตามคุณ nnni ที่ได้ช่วยแนะนำไว้

Lunar เป็นคนหนึ่งที่ลายมือสวย (มาก) ตอนเด็กๆ พอเห็นตัวอักษรที่สวยๆ เห็นแล้วประทับใจ ก็จะกลับมาหัดเขียน เพื่อนคนไหนเขียนลายมือสวยๆ ก็จะให้เขียน ก-ฮ และตัวเลขมาให้แผ่นหนึ่ง แล้วจะกลับบ้านไปหัดเขียน เมื่อสามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนไหวของมือได้แล้ว ก็สามารถดัดแปลงตัวอักษรได้หลายแบบมาก สนุกดีค่ะ ลองไปหัดทำดูก็ได้

วิชาชีพแพท์ เป็นวิชาชีพหนึ่งที่ต้องใช้ hand skill สูง Lunar คิดว่าไม่เกินความสามารถของคุณหมอหรอกค่ะ Lunar ไม่ได้เป็นแพทย์ แต่ก็มีเพื่อนหลายคนเป็นแพทย์ เพื่อนแต่ละคนน่ารักทั้งนั้น และลายมือสวยด้วยค่ะ


Posted by : Lunar , Date : 2004-01-18 , Time : 12:31:41 , From IP : webcache01.mas.optus

ความคิดเห็นที่ : 16


    ขอบคูณครับ!

"ไปอ้างในศาลว่าพยาบาลเดาลายมือหมอไม่ออกเพราะเรียนมาน้อย
ก็ลองวิจารณญานดูว่าศาลจะรับฟัองหรือไม่ "
"โดยมิจำเป็นต้องมีการกระฟัดกระเฟียด กระแทกกระทั้นแดกดันกลับ" ???????


Posted by : like tiger , Date : 2004-01-18 , Time : 14:19:22 , From IP : 172.29.3.233

ความคิดเห็นที่ : 17


   บรรยายโวหาร สาธกโวหาร และอุปมาโวหาร (ปรมัย สอบ entrance!) วิชาภาษาไทยก็ดีมีประโยชน์หลายอย่าง



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-18 , Time : 15:16:52 , From IP : 172.29.3.234

ความคิดเห็นที่ : 18


   จากที่debate กันอยู่ ผมว่าเรื่องนี้ มันไม่ยากที่จะเข้าจนะครับ คุณ like tiger และ phoenix การที่เขียนลายมืออ่านไม่ ออก
0.ตัวลายมือหวัดโคตร ตัวเองยังอ่านไม่ออก แต่จะประหยัดเวลาเขียน ..ให้เป็น Stage 4
1. ตัวลายมือหวัดมาก Stage 3ทำให้ อ่านออกได้ยาก มาก ตัวเองพออ่านได้...คนอื่นอ่านไม่ออก
2.ตัวลายมือหวัดไม่มาก แต่ถ้าคนมีความรู้ พอ ก้พอจะเดาออกได้ ..stage 2 ตัวเองอ่านได้
3.ตัวลายมือสวย คนมีความรู้อ่านได้สบายตา คนไม่มีความรู้อ่านได้ สะกดได้
4.ตัวลายมือคัด กดหนัก สวยงาม แต่เสียเวลา...

แต่ผมว่าเสียเวลาเขียน 1 คน ก็ย่อมดีกว่า เสียเวลาอ่าน อีก 10คน ต้องช่วยกันอ่าน... และเสียเวลา ล่าช้า กับความทรมานคนไข้...ยอมรับว่าความรู้ มีส่วนที่จะช่วยให้อ่านได้ แต่ผมว่าคนที่ว่าก็ไม่น่าจะไม่ได้ไม่รู้มาก ขนาดนั้นนะ..คือ เขียนดี ไม่มีใครว่า หรอก..แต่เขียนไม่ดีสิ มีคนว่า..พูดไป2ไพ่เบี้ย หรือเปล่า เนี่ย ดูเหมือน เป็นเรื่องที่ น่าจะเข้าใจกันอยู่นะ

จะปรับปรุงลายมือนะครับ...
มีคนว่าเหมือนกันว่า ลายมือผม หมายถึงตัวอัษร น่ะ อ่านออก ไม่หวัด
แต่ผมมักจะเขียนเบียดติดกันเป็นพืด(พืช) ไม่ค่อยวรรค จึงทำให้อ่านยาก ต้องแก้ไขครับ....เฮ้อ... ชีวิต เรานี่ มีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้เยอะนะ..
จำไว้นะว่า การตระหนักรู้ถึงข้อผิดพลาดของตัวเอง ต้องใช้ปัญญา และความซื่อสัตย์
ส่วน การแก้ไขข้อผิดพลาดที่ตระหนักรู้ได้แล้วนั้น ใช้ปัญญา ความซื่อสัตย์ ความขยัน ความมีวินัย และ ความพยายาม ซึ่งยากกว่าอีกหลายเท่าตัวครับ...ขอเป็นกำลังใจให้คนอยากมีลายมือที่ดีขึ้นครับ


Posted by : Oozing , Date : 2004-01-18 , Time : 17:27:22 , From IP : 172.29.2.144

ความคิดเห็นที่ : 19


   ถ้ากระทู้นี้ ทำให้คุณหมอหลายคนมีความตั้งใจที่จะเขียนลายมือให้อ่านออกง่ายขึ้นเพื่อให้ราบรื่นต่อการทำงานแบบเป็นทีม และเกิดประโยชน์ต่อคนไข้มากที่สุด ก็ต้องขอ acknowledge ทุกคนที่ทำให้เวทีนี้มีรสชาติ น่าสนใจ น่าติดตามและขอบคุณผู้ตั้งกระทู้.....................ในนามของพระเจ้า...............อาเมน

Posted by : Lunar , Date : 2004-01-18 , Time : 18:20:20 , From IP : webcache01.mas.optus

ความคิดเห็นที่ : 20


   ผมว่าควรบอกหมอท่านนั้นๆตรงๆ และบ่อยๆนะครับว่าลายมือหมออ่านไม่ค่อยออก โดยเฉพาะ ......

ผมว่าบางทีท่านเหล่านั้นอาจคิดว่าลายมือเค้าก็อ่านออกอยู่นี่ เพราะว่าไม่เคยมีพยาบาลมาบอกเลย เห็นรับ order ได้ทุกครั้ง

ผมคิดว่าถ้าหากหมอคนนั้นๆ ถูกถามบ่อยๆว่าเค้าเขียนอะไรลงไปเค้าคงเปลี่ยนแปลงลายมือเค้าบ้างล่ะครับ

ถ้าเค้าไม่เปลี่ยนแปลงเลย ผมว่าเค้าก็เป็นหมอที่แย่มาก อันนี้ก็ต้องพื่งผู้มีอำนาจล่ะครับ

ถ้าเล่นโพสอย่างนี้ เค้าจะรู้ตัวมั้ยครับ

ไม่แน่คนที่โพสอยู่นี้ทุกคน อาจจะเป็นคนที่ลายมือสวยหมดเลยก็ได้นะครับ เราจะรู้ได้ไงว่าเรา feed back ตรงจุดน่ะครับ ถ้าเราไม่บอกเค้าตรงๆ

ดีมั้ยครับ


Posted by : เหอๆๆ , Date : 2004-01-18 , Time : 21:11:57 , From IP : 172.29.4.214

ความคิดเห็นที่ : 21


   .........ผมคนนึงหละครับ.....ที่ลายมืออ่านไม่ออก.....มีพยาบาลถามอยู่บ่อยๆ....บางทีโทรมาถามด้วยว่าเขียนว่าอะไร....ถ้าคุณคิดว่า feed back ไม่ตรงหละก็.....ผมคนนึงหละที่โดนตรงจุดเลย....HAHAHAHA...:D...:D.....ถามผมว่าผมอายไหมที่ลายมือห่วย......สมัยเด็กๆอายครับ...ครูสั่งให้ผมคัดไทยและอังกฤษช่วงปิดเทอมเป็นการบ้านประจำ..[เพื่อนๆไม่ต้องทำนะครับ...ผมทำคนเดียว].....พอเปิดเทอมทีก็เอาไปส่งครูคนเดียวของห้อง....เพื่อนก็จะล้อเลียนอยู่ประจำ......จนถึงเดี๋ยวนี้...ก็ยังเขียนเหมือนใช้เท้า[คำที่ไม่สุภาพ]เขียนอยู่ตลอดเวลา......ผมคิดว่าบางทีมันเร่งครับ.....ถ้าตั้งใจเขียนผมก็พอทำได้ครับ.....แต่ไม่ค่อยทำ...ผมชอบที่มีคอมพิวเตอร์ครับ....เพราะเวลา Order จะอ่านได้ง่ายมาก....และไม่ค่อยมีพยาบาลโทรมาถามอีก......แต่อย่างที่เราเหห็นๆกัน....ความสามารถในการพิมพ์ของผมไม่เท่าเขียน.....บางที่ก็ต้องรีบๆเขียน....เดิน Round กับอาจารย์จะให้มานั่งเขียนช้าๆได้ไง....คนไข้เกือบ 30-40 คน...Round ช้าก็เข้า Conference ช้า....:D...:D........ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจะเปลี่ยนได้แค่ไหน......แต่ผมว่าสำหรับตัวผมเองคงยาก.....นั้น......ผมคงอาจจะเป็นหมอที่แย่ในสายตาคุณหละ.....เฮ้ออออ......ไม่รู้จะทำไง.....หัวหน้าภาคอาจจะต้องสั่งให้ผมคัดลายมือส่งไหมเนี่ย?....:D..:D.....วันนึงอาจจะมีหนังสือมาถึงผม.....เรียนหมอ Death....เนื่องด้วยลายมือท่านห่วยมาก....ทางคณะกรรมการองค์กรแพทย์.....ขอขับท่านออกจากการเป็นแพทย์ ณ บัดนี้......อะไรแบบนั้นหละมั้ง....HAHAHAHAHA....:D..:D



Posted by : Death , Date : 2004-01-18 , Time : 22:54:35 , From IP : 172.29.3.242

ความคิดเห็นที่ : 22


   ไอ้L.. ti... เห็นใจคนอื่นบ้าสงซีวะ

Posted by : .... , Date : 2004-01-19 , Time : 09:55:14 , From IP : 172.29.2.159

ความคิดเห็นที่ : 23


   สรุปว่าจะมีข้อแนะนำในการเขียนลายมือให้อ่านออกหรือไม่ หรือแค่บ่น

Posted by : บ่น , Date : 2004-01-19 , Time : 10:41:54 , From IP : 172.29.3.112

ความคิดเห็นที่ : 24


   โอโห
ต้องขอขอบคุณทุกคนที่สนใจล่ะ
เจ้าของกระทู้เป็นคนลายมือธรรมดาๆ หวัดก็อ่านยากหน่อย ไปหวัดก็อ่านง่ายหน่อย

แต่ยอมรับจริงๆ ว่าอึดอัดในการแกะลายมือหมอๆ
หมอเขียนแค่คนเดียว ต้องเรียกเพื่อนสามสี่คนมานั่งแกะ
บางครั้งมากกว่าสิบคนก็ยังแกะลายมือไม่ออก
สุดท้ายก็ต้องเดา เสี่ยงนะนี้ หรือบางทีถ้าคิดว่าไม่สำคัญนักก็ตัดทิ้งไปเลย
แต่จริงเหรอที่ข้อมูลทางการแพทย์จะมีส่วนไม่สำคัญ บางครั้งบางประเด็นเล็กๆ อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

ดูการตั้งกระทู้แบบนี้ เป็นการเหมารวมไปมั้ยน้อ หมอลายมือดีๆ ก็ต้องขอโทษไว้ก่อน

คุณ จัง-ไร
คาดว่ายังคงเป็นนักศึกษาอยู่สินะ เพราะดูจากการตอบกระทู้ที่อิงอาจารย์ ไม่เสียดายคะแนนบ้างเหรอ บางทีเพราะอาจารย์อ่านไม่ออก ประเด็นที่คุณสื่อเลยตกหล่นไปได้
ไมได้ตั้งใจให้คุณเขียนสวย แต่ให้เขียนอ่านออก
บางทีคุณอาจจะเขียนไม่สวย แต่อาจารย์คุณอ่านออกก็ได้นะ
ดีใช่มั้ยถ้าเป็นแบบนั้น
แล้วทำไมคุณไม่คิดช่วยอาจารย์ อย่างที่อาจารย์พยายามอ่านตัวหนังสือของคุณให้ออกบ้าง แต่ก็บางที นะคุณอาจไม่ต้องปรับปรุงเพราะอาจารย์คุณอ่านออกแล้วนี้ hahaha งงมั้ยเนี้ยะ เราเพียงอาจให้แยกประเด็กเขียนสวย กับอ่านออก
แต่เวลาคุณออกไปทำงานล่ะ

คุณ Aqua คุณเป็นตัวอย่างที่ดีมาก
หมอๆ จะเขียนให้ลายมือมันอ่านง่ายนักไม่เหรอ
ู^^^ นี่คืด หัวข้อประเด็นที่ตั้งกระทู้ เห็นมั้ยว่าคุณบอกว่า เราตั้งกระทู้ส่อปัญญา เพราะคุณอ่านออก ทำไมถึงอ่านออกล่ะ เพราะว่ามันอ่านง่าย คุณสามารถมองเห้นถึงข้อผิดผลาดได้ ว่าเราเขียนผิด
ในวิชาชีพก็ด้วย ลายมือหมอที่อ่านไม่ออก เราจะรู้ได้ไงว่าพลาดไปตรงบ้าง
อันตรายนะ
.
.
เอาล่ะแค่นี้ก่อน จะบ่ายโมงแล้ว


Posted by : ยิ้มเดียว , Date : 2004-01-19 , Time : 12:29:55 , From IP : 172.29.2.104

ความคิดเห็นที่ : 25


   เขียนให้อ่านง่าย ไม่เสียเวลามากมายนัก
ดีกว่าต้องไปเพิ่มเวลาให้ผู้ร่วมงานให้มาแกะลายมือของเราอีก
เขียนให้อ่านออก ไม่ต้องสวย
เขียนให้ครบทุกตัวอักษร
แค่นั้นเอง
ที่อ่านไม่ออกกันนั้นเพราะส่วนใหญ่เขียนแบบมีตัวหน้าตามด้วยลายขยุกๆ
เขียนผิดเขียนถูกก็ไม่รู้


Posted by : ArLim , Date : 2004-01-19 , Time : 19:37:08 , From IP : 203.156.38.144

ความคิดเห็นที่ : 26


   ทั้ง ยิ้มเดียว และ Lunar ไปไกลๆ ดีกว่า นี่ webboard ของหมอ พยาบาลไม่เกี่ยว


Posted by : .. , Date : 2004-01-20 , Time : 23:58:53 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 27


   เลิกเถียงได้แล้วคุณ like tiger หัดอายตัวเองซะบ้าง รู้มั๊ยมันน่าสมเพช

Posted by : non , E-mail : (hh) ,
Date : 2004-01-21 , Time : 04:55:09 , From IP : 172.29.3.176


ความคิดเห็นที่ : 28


   "ทั้ง ยิ้มเดียว และ Lunar ไปไกลๆ ดีกว่า นี่ webboard ของหมอ พยาบาลไม่เกี่ยว


Posted by ..() 2004-01-20 , 23:58:53 , 172.29.3.231"

ผู้เขียนกระทู้นี้โปรดเข้าใจเสียใหม่ webboard นี้เป็นของคณะแพทย์ สำหรับบุคคลากรทุกท่านในคณะแพทย์ ไม่ใช่ webboard ของหมอ อย่าหลงเข้าใจผิด


Posted by : แมวดำ , Date : 2004-01-21 , Time : 15:07:49 , From IP : 172.29.1.152

ความคิดเห็นที่ : 29


   "ทั้ง ยิ้มเดียว และ Lunar ไปไกลๆ ดีกว่า นี่ webboard ของหมอ พยาบาลไม่เกี่ยว


Posted by ..() 2004-01-20 , 23:58:53 , 172.29.3.231"

ผู้เขียนกระทู้นี้โปรดเข้าใจเสียใหม่ webboard นี้เป็นของคณะแพทย์ สำหรับบุคคลากรทุกท่านในคณะแพทย์ ไม่ใช่ webboard ของหมอ อย่าหลงเข้าใจผิด


Posted by : แมวดำ , Date : 2004-01-21 , Time : 15:07:56 , From IP : 172.29.1.152

ความคิดเห็นที่ : 30


   ไม่รู้จะเถียงกันไปทำไม ผมว่าไม่มีใครอยากแกล้งเขียนให้คนอ่าน อ่านไม่ออกหรอกครับ บางครั้งลายมือมันห่วยโดยไม่ตั้งใจจริงๆ อ่านไม่ออกก็ไม่ต้องเดาหรอกครับ เรียกมาถาม โทรตามมาถาม โดนบ่อยๆก็ขี้เกียจเอง และคงพยายามเขียนให้อ่านออกมากขึ้น ถ้าไม่ไหวจริงๆก็คงต้องใช้วิธีพิมพ์เอาแหล่ะครับ แต่เอ รู้สึกในภาควิชาผม มีน้องๆบางคนตั้งใจเขียนชื่อตัวเองให้อ่านไม่ออกแล้วทับชื่อพี่ที่เขียนได้บรรจงมากไว้ด้วยล่ะครับ ถ้าแบบนี้แสดงว่ายังงัยเนี่ย? เหอๆ



Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2004-01-21 , Time : 22:35:46 , From IP : 203.156.78.52

ความคิดเห็นที่ : 31


   เอ...ผมว่าประเด็นที่ "เถียงกัน" ไม่ได้อยู่ที่มีการกล่าวหาว่าใคร "ตั้งใจ" เขียนให้อ่านไม่ออกแล้วจึงขอให้เลิกพฤติกรรมอย่างว่านะครับ ทำไมหมู่นี้ประเด็นมัน slippery เหมือนสบู่เปียกน้ำ ลื่นไหลออกไปสร้างประเด็นใหม่ให้ทะเลาะกันได้ตลอดเวลา

ผมคิดว่าที่มีกระทู้นี้ขึ้น ขั้นตอนต่างๆที่คุณกะหลั่วไปได้กรุณาแนะนำนั้น ผ่านการทดลองทำมาแล้ว แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น อันนี้ไม่ใช่เดา แต่เรื่องลายมือแพทย์อ่านยากนั้นผมได้ยินมาตั้งแต่ผมยังเด็กๆ การแก้ปัญหาก็ไม่หนีที่ว่าคือ เดา โทรมาถาม เรียกมาถาม ถามเพื่อนหมอ อะไรเหล่านี้ เผอิญกระดานข่าวเป็นสื่อใหม่เท่านั้นเอง

แต่ก็ยอมรับว่าที่แล้วมามีการ "เถียง" เกิดขึ้นจริงๆ คือมีการแนะนำกลับไปให้คนรับแสวงหาความรู้เพิ่มเติมซึ่งผมว่ามันผิดที่ผิดทาง กาเขียนให้อ่านไม่ออกนั้น ผมไม่เชื่อว่ามันเป็น irreversible pathology (อืม...ยกเว้นพวก brain damage จริงๆ อาจจะ irreversible) มันอยู่ที่ตั้งใจขนาดไหนเท่านั้น เวลาที่จะเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ต้องการขนาดบรรจงสุดขีด แค่ "พออ่านได้ง่ายๆ" ซึ่งการขอร้องแค่นี้ ผมและหลายๆคนถึงได้ประหลาดใจที่กระทู้นี้มันได้งอกงามออกมาถึงเท่าที่เป็นอยู่ รวมทั้งมีการอ้างว่ากระดานแห่งนี้เป็นของหมอ พยาบาลไม่เกี่ยวอะไรนั่นด้วย น่าเศร้าใจจริงๆ

ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นอย่างที่คุณกะหลั่วเป็ดยกตัวอย่างสุดท้ายนั่นมา คือใช้ลายมืออ่านไม่ออกแทนการใช้นามแฝงบนกระดานข่าว คือการละอายไม่อยากจะรับผิดชอบหรือแสดงตัวว่าเป็นคนแสดงความเห็นแบบนี้ แบบนั้น หรือสั่ง order นี้ สั่ง order นั้น



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-21 , Time : 23:33:40 , From IP : 172.29.3.230

ความคิดเห็นที่ : 32


   เรียน ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ที่เชิญให้ Lunar ไปไกลๆ

ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนแล้ว ถ้าไกลกว่านี้ อาจตกขอบโลกไปได้ค่ะ : )............

โดยปกติถ้ากระดานอภิปรายไม่ต้องการให้ผู้อยู่นอกวงการมาเข้าร่วม เขาจะมีระบบป้องกันดังกล่าว เช่นต้องมีรหัสผ่าน ต้องลงทะเบียน ที่กระดานอภิปรายคณะแพทย์ไม่มีระบบระเบียบดังกล่าว จึงน่าจะเปิดกว้างได้ อย่าง"เรื่องภายในคณะ" Lunar เข้าไม่ได้ ก็น่าจะหมายถึง ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงสามารถเข้าได้
อย่ามาตู่เขานะ เขารู้ทันนะ.......

ถ้า Lunar ทำงานรับราชการใน ม.อ คงได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนนักศึกษาแพทย์ขี้ตู่ที่ ม.อ บางคนให้มีสติ มีสัมมาวาจาแม้ในที่ลับตาคน หรือที่ที่ไม่มีใครรู้จักเรา นักเรียนแพทย์ของ Lunar กระตือรือร้น ขยัน พูดจามีสัมมาคารวะ เสียดายไม่ใช่นักเรียนไทยเท่านั้นเอง



Posted by : Lunar , Date : 2004-01-22 , Time : 04:19:17 , From IP : webcache03.mas.optus

ความคิดเห็นที่ : 33


   Lunar ครับ คุณคือ พยาบาล หรือ อาจารย์หมอครับ

Posted by : 1234 , Date : 2004-01-22 , Time : 10:45:38 , From IP : 192.168.13.214

ความคิดเห็นที่ : 34


   ทำไมเราต้องสนใจว่า "ใคร" เป็นคนพูดหรือเป็นความเห็น "ของใคร" ด้วยล่ะครับ? พิจารณากันที่ contents ไม่ดีกว้าหรือ?



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-22 , Time : 11:02:34 , From IP : 172.29.3.103

ความคิดเห็นที่ : 35


   ขอสรุปในฐานะคนกลางครับ

ผมว่า เพื่อนแพทย์ทุกคนครับ เรามาช่วยกันเขียนลายมือให้อ่านออกกันดีกว่าครับ จะได้แก้เผ็ดพวกที่ชอบยึดติดกับความคิดที่ว่า "เป็นหมอต้องลายมือห่วย" งัยครับ จะได้ไม่ต้องมีกระทู้แบบนี้อีก เถียงไปก็ไม่จบ เราก็แก้เผ็ดด้วยการคัดลายมืองัยครับ สุดท้าย ผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับผู้ป่วยของเรางัยครับ



Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2004-01-22 , Time : 19:02:12 , From IP : 172.29.3.245

ความคิดเห็นที่ : 36


   โลกคือละคร แบ่งเป็นตอนๆ ตัวละครคือคนทุกคน............บทในละคร อาจจะยอกย้อน ยุ่งยากกกกก ...............ฉากสุดท้ายต้องตายทุกตัวละคร.............(ขับร้องโดย คุณนันทิดา แก้วบัวสาย)

ตอนนี้ Lunar คงกำลังเล่นเป็นบท "นักเขียน" "ผู้ร่วมอภิปราย" พยายามเล่นบท "นักวิชาการ" บางครั้ง เล่นบ่อยๆคงจะเป็นบท "คุณแม่" กับ "(นี่!) แม่คุณ" บทที่ชอบมากที่สุดคือบท "ครู" บทในอดีตที่ประทับใจคือบท "หมอ" บทที่ไม่ชอบคือบท "ทหาร" บทในฝันคือ "นักร้อง" บทที่ต้องเล่นในอนาคตถ้าโชคดีคือ "คุณยายแก่ๆขี้บ่นที่มีลูกหลานล้อมรอบและรุมรัก" .............ค่ะ


Posted by : Lunar , Date : 2004-01-22 , Time : 19:04:05 , From IP : webcache03.mas.optus

ความคิดเห็นที่ : 37


   ฉันไม่คิดว่าลายมือฉันจะอ่านยาก



Posted by : ซาดาโกะ , Date : 2004-01-24 , Time : 15:43:17 , From IP : 172.29.3.244

ความคิดเห็นที่ : 38


   เรียนเจ๊ Lunar
เอ่อ...ผมขอยืมคำพูดเฮียนกมาใช้หน่อยนะครับ...
เออ..คำพูดที่ประมาณว่า..เอาแต่ Post ในกระดานข่าว อยากให้ใครรู้แล้วมันเกิดประโยชน์ต่อเจ๊จริงหรือ..นอกจากความสะใจ..กับเอวที่ลดลงและสีข้างที่เจ๊ไถจนเป็นแผล...แล้วทำไมไม่ไปบอกให้เจ้าตัวเขารู้ล่ะครับเจ๊......


Posted by : นะครับ.... , Date : 2004-01-25 , Time : 09:59:32 , From IP : 172.29.3.233

ความคิดเห็นที่ : 39


   ดูจากคำพูดของคุณ "นะครับ" ผมว่าคุณไม่ได้ติดหรือเป็นหนี้คำพูดอะไรของผมหรอกครับ ประการที่หนึ่งคือไม่ใช่คำพูดของผม ประการที่สองคำพูด "ไม่ใช่" ของใคร และ "บริบท" หรือเจตนาที่คนใช้นั้นทำให้ทุกๆคนต้อง "own-up" สิ่งที่ตนเองพูดออกมา

จริงๆแล้วต้นเหตุว่าใครเขียนอ่านไม่ออกสำหรับคุณยิ้มเดียวนั้น ไม่ใช่สาเหตุของการอภิปรายกันยาวขนาดนี้ (และคุณ Lunar ก็ไม่ได้เป็นคนเริ่มกระทู้ด้วย) แต่เป็นเจตคติและปฏิกริยาการตอบสนองกระทู้ต่อกระทู้ทั้งหมดที่สานกันต่อมา ในตอนแรกที่อาจจะยังกำกวมว่ากระทู้นี้มีประโยชน์อะไรต่อส่วนรวมหรือไม่ พอเราได้อ่านได้รับทราบได้ประเมิน ปฏิกิริยาของบางท่านว่าท่านรู้สึกอย่างไรกับการขอร้องที่สุดจะ simple และหนทางในการแก้ไขปัญหาที่ท่านได้กรุณาแนะนำมา ผมว่ากระทู้นี้มีประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยทางอ้อมหลายอย่างทีเดียว



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-25 , Time : 20:18:33 , From IP : 172.29.3.218

ความคิดเห็นที่ : 40


   เคยเห็นลายมือหมอคนหนึ่ง สวยมาก...
เส้นวาสนาชัดเจน เส้นสมองเรียบลึก ยาวโค้งรับเนินจันทร์
แสดงถึงสติปัญญาเฉียบแหลม ยอดเยี่ยมมากๆๆ


Posted by : ผ่านมา , Date : 2004-01-26 , Time : 16:12:21 , From IP : ppp-210.86.146.71.re

ความคิดเห็นที่ : 41


   พี่ๆ คะ...ไหนๆ ก็ละลาบละล้วง ละล้าละลัง เข้ามาเยี่ยมชมแล้ว
รบกวนถามหน่อยค่ะว่า..ระยะเวลาในการเรียน 6 ปีและการเรียนต่อ
รวมทั้งการใช้ทุน..จนถึงการเป็นอิสระที่จะประกอบอาชีพแพทย์ ในโรงพยาบาลเอกชนหรือเปิดคลีนิคได้..จะต้องใช้เวลาประมาณกี่ปีคะ


Posted by : มาอีกรอบ , Date : 2004-01-26 , Time : 16:25:20 , From IP : ppp-210.86.146.71.re

ความคิดเห็นที่ : 42


   อ้าวลุงนกไม่เคยใช้ประโยคความหมายทำนองนี้หรือ..นะครับ
แต่ทำไมเวลาผมอ่านกระทู้ลุงนกทีไร..มันรู้สึกคุ้นๆ ความหมายทำนองนี้...นะครับ


Posted by : นะครับ... , Date : 2004-01-26 , Time : 20:22:07 , From IP : 172.29.1.154

ความคิดเห็นที่ : 43


   ขออภัยที่สื่อไม่เข้าใจ ลองอีกหน

การสื่อทุกครั้งนั้นความหมายจะต้องขึ้นกับ "บริบท" เสมอ บริบท แปลว่า สถานการณ์รอบด้านของผู้พูด ผู้ฟัง และเหตุการณ์เจตนาที่คนสื่อต้องการจะสื่อ ขออนุญาต quote เออ..คำพูดที่ประมาณว่า..เอาแต่ Post ในกระดานข่าว อยากให้ใครรู้แล้วมันเกิดประโยชน์ต่อเจ๊จริงหรือ..นอกจากความสะใจ..กับเอวที่ลดลงและสีข้างที่เจ๊ไถจนเป็นแผล...แล้วทำไมไม่ไปบอกให้เจ้าตัวเขารู้ล่ะครับเจ๊......

พอจะมองเห็นไหมครับว่าอะไรคือ "สิ่งที่แตกต่าง" กับสิ่งที่ผมเคยใช้กับสิ่งที่คุณได้ใช้?

ส่วนอีกประการหนึ่งนั้นคำพูดนั้นไม่ได้เป็นของของใครครับ มีคนจำนวนมากเคยพูดสิ่งที่เราพูดหรือคิดจะพูดมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้นคุณ "นะครับ" จะสื่อโดยใช้คำเหล่านี้ก็สามารถทำได้โดยคง "ความเป็นเจ้าของ" ของคำพูดนั้นๆและเจตนาทั้งหมดที่คุณนะครับต้องการจะสื่อ โดยม่ต้องขออนุญาตของที่ไม่มีเจ้าของ และรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองได้แสดงออกไป

ดีขึ้นไหมครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2004-01-26 , Time : 20:43:30 , From IP : 172.29.3.214

ความคิดเห็นที่ : 44


   เบื่อ นะครับจัง

Posted by : nj , Date : 2004-01-27 , Time : 11:30:38 , From IP : 172.29.3.161

ความคิดเห็นที่ : 45


   เรียนแพทย์ 6 ปี
จบแล้วเป็นแพทย์เพิ่มพูนทักษะปีที่ 1 อีก 1 ปี
ชดใช้ทุนเพิ่มอีก 2 ปี (รวมทั้งหมดสามปี) เป็นอิสระปราศจากทุน
แต่หลังจากเพิ่มพูนทักษะ 1 ปีแล้วก็มีศักดิ์และสิทธิ์ที่จะเปิดร้านได้ เพียงแต่ว่าประสบการณ์จะน้อยและไม่ค่อยมีใครอยากจะหาหมอหน้าตาเด็กๆ และด้อยประสบการณ์
แต่หากว่าจะเรียนต่อ สาขาเฉพาะทางก็คงต้องหาทุนเรียนต่อ คำว่าทุนเรียนต่อก็หมายถึงหาต้นสังกัดที่เขาจะส่งให้เราไปเรียนต่อโดยที่เรายังกินเงินเดือนต้นสังกัดเดิมได้ ซึ่งต้องใช้เวลาอีก ประมาณ 3 ปี แล้วแต่สาขาวิชา ส่วนใหญ่ 3 ปี พอจบแล้วก็ต้องชดใช้ทุนอีก 6 ปี (สองเท่าของสามปี) หมายความว่าต้องกลับไปทำงานที่สังกัดเดิม จะโอนย้ายไม่ได้ หากจะลาออกต้องชดใช้ทุน สองเท่าของเงินเดือนที่รับในสามปีนั้น ก็ไปทำงานเอกชนได้
กรณีที่หาต้นสังกัดไม่ได้ ก็อาจจะสมัครเรียนต่อได้เช่นกันเราเรียกว่า Free training ซึ่งหมายความว่ารพ.ที่เราจะไปเรียนเขาจะเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้เรา ซึ่งก็มีโอกาสได้เช่นกัน แต่โดยทั่วไป รพ.ส่วนใหญ่มักจะเลือกคนที่มีต้นสังกัดเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินเดือน แต่มีคนมาฝึกทำงาน หากเขารับเราเรียนแล้วแสดงว่าไม่มีต้นสังกัดส่ง เมื่อจบแล้ว ก็ต้องไปหางานเอง ว่าจะไปทำงานทีไหน ทำเอกชนได้ ก็ต้องวัดดวงเพราะตอนนี้งานก็เริ่มหายาก ครั้นจะสมัครทำงานรัฐอีก อายุราชการก็จะหายไป อาจจะต้องเริ่มต้นใหม่หรือช้ากว่าเพื่อนที่มีต้นสังกัด ซึ่งกลุ่มนั้นจะมีอายุราชการต่อเนื่อง แถมจบก็มีงานทำด้วย
ก็คงต้องพิจารณาเลือกผลดีผลเสียทั้งสองแบบ ว่าอยากได้แบบไหนที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของตัวเอง


Posted by : ปี 6 , Date : 2004-01-27 , Time : 17:01:49 , From IP : 203.113.76.12

ความคิดเห็นที่ : 46


   ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่ตอบคำถาม

Posted by : ขอบคุณๆ , Date : 2004-01-30 , Time : 17:39:19 , From IP : cache3.swu.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 47


   รู้แล้ว !!!!!!!!!! คุณ Lunar..........

Posted by : MIDAS , Date : 2004-01-31 , Time : 22:19:20 , From IP : 172.29.3.204

ความคิดเห็นที่ : 48


   รู้แล้ว !!!!!!!!!! คุณ Lunar.......... คุณคือ...........
.
.
.
..
"คนไข้จิตเวช" นั่นเอง นึกว่าเป็นใคร มาจากไหน ที่แท้ก็อยู่ชั้น 2 ตึก 13 ชั้นนี่เอง


Posted by : MIDAS , Date : 2004-01-31 , Time : 22:21:34 , From IP : 172.29.3.204

ความคิดเห็นที่ : 49


   จริงๆแล้วคนไข้จิตเวชที่ admit อยู่ในหอผู้ป่วยบางส่วนก็ยังคงสติปัญญา ความสามารถในการแยกแยะอยู่ได้เหมือนกัน เป็นที่รู้กันว่า schizophrenia นั้น ไม่ได้สูญเสีย intelligence แต่มี abnormal thought

ถ้าคุณ Lunar เป็นคนไข้จิตเวช สามารถชี้แจงและส่งกระทู้ได้ระดับที่ผ่านมา อาจจะทำให้เราอดเป็นห่วงคนที่ไม่ได้ admit หลายคนทีเดียวที่ยังไม่สามารถเข้าใจว่ากระทู้ที่ผ่านมาเราอภิปรายกันเรื่องอะไร ในที่นี้ Realism อาจจะเป็นประเด็นสำคัญ หรือปัญหาสำคัญของเราก็ได้



Posted by : Phoenix , Date : 2004-02-01 , Time : 09:49:02 , From IP : 172.29.3.197

ความคิดเห็นที่ : 50


   รู้สึกว่าจะหลงประเด็นกันมานานแล้ว เริ่มต้นจาก ลายมืออ่านยากของคุณหมอ จบลงที่ตัวละครเล็กๆตัวหนึ่งว่าเป็นไผ เป็นไผ...............ขอตัวไปทานยาก่อนนะคะ ขาดยาไปหลายวันแล้ว ตอนนี้คุณหมอจิต ไม่ค่อยจะอนุญาตให้มาใช้คอมพิวเตอร์แล้วค่ะ :-)

Posted by : Lunar , Date : 2004-02-02 , Time : 03:22:27 , From IP : 203.122.72.239

ความคิดเห็นที่ : 51


   อ๋อย


ฟู่
.
.
.
.
เหนื่อยใจ
แต่ก้ดีใจที่มีคนสนใจ
พยายามทำความเข้าใจ

ขอบคุณมากๆ
ขอบคุณทุกๆคน
ขอบคุณจริงๆ


Posted by : ยิ้มเดียว , Date : 2004-02-02 , Time : 16:28:46 , From IP : 172.29.2.98

ความคิดเห็นที่ : 52


   ไม่ทราบจะเถียงกันทำไม ก็พยายามเขียนลายมือให้อ่านง่ายหน่อย ก็แค่นั้น

Posted by : jp , Date : 2004-02-26 , Time : 15:54:32 , From IP : 172.29.3.108

ความคิดเห็นที่ : 53


   อยากถามว่าสาธกโวหารมีอะไรบ้้าง


Posted by : ทราย เด็กคอน , Date : 2005-09-19 , Time : 19:48:44 , From IP : 203.113.71.196

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.02 seconds. <<<<<