ความคิดเห็นทั้งหมด : 4

ยังไม่จำเป็นต้องกิน แต่รู้ไว้ก่อน เรื่อง Dose ไอโอดีน เมื่อมีการแพร่กระจายรังสี


   ผมต้องขึ้นหัวข้อไว้อย่างนั้นเพื่อให้รู้ว่า ในวินาทีนี้ไม่จำเป็นต้องไปหาไอโอดีนมากิน เพราะกลัวรังสีจาก สถานการณ์เตาปฏิกรณ์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนัก และถึงจะมีปัญหามากขึ้น มันก็มาทางอากาศไม่ถึงอยู่ดี แต่ถ้าจะมาถึงเราได้ ก็คงเป็นผลิตภัณท์ อาหารที่จะเข้ามาได้ในอนาคต อย่างผลิตภัณฑ์นม แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงอีกนั่นแหละเพราะ ที่ปนออกมาจริงๆ คงไม่มากเหมือนสมัยเมื่อ ยี่สิบปีก่อนที่ รัสเซีย และตัวที่กลัวกันคือ ไอโอดีน 131 ก็มี decay ตลอดเวลาอยู่แล้ว มาถึงเราก็ไม่น่า จะเหลือ และด่านสุดท้ายก่อนที่จะเข้ามาในประเทศ ฟังข่าววันก่อนเขาก็เริ่มจะสุ่มตรวจแล้ว
เกริ่นมานาน ขอเข้าเรื่อง dose ของไอโอดีน ที่จะช่วยเข้าไป block ในกรณีที่จะเป็น อย่างคนที่จะเดินทางไปแถวๆ นั้น หรือที่อื่นๆ ที่มี nuclear plants และกลัวจะเกิดแผ่นดินไหว แล้วอยากจะพกยาไป เผื่อเอาไว้
ผมต้องขอบคุณศูนย์ข้อมูลยาของเราด้วย ที่ให้คำตอบกับยาที่เรามีอยู่อย่างครบถ้วนดี
ข้อมูลที่จะให้ไว้คือ
1. ไอโอดีน ที่เรารับไปตามปกติทุกวัน ในพื้นที่ที่ไม่ขาดไอโอดีน คือ 100-150 ไมโครกรัมต่อวัน (0.15 มิลลิกรัม) ไม่ต้องเสริมไอโอดีน
2. ปริมาณไอโอดีนที่แนะนำเพื่อกินป้องกันกัมมันตภาพรังสีคือ (น้ำหนักของไอโอดีน)
ผู้ใหญ่หรือเด็ก > 18 ปี หรือ เด็ก 12-18 ปี ที่น้ำหนักเกิน 70 กก กิน 130 มิลลิกรัมต่อวัน
เด็ก 3-18 ปี ทั่วไป กิน 65 มิลลิกรัมต่อวัน
เด็ก 1 เดือน - 3 ปี กิน 32.5 มิลลิกรัมต่อวัน
แรกเกอดถึง 1 เดือนกิน 16.25 มิลลิกรัมต่อวัน
3. ยาเราตอนนี้ มีสำหรับคนท้อง คือ iodine เม็ด จะมี iodine 150 ไมโครกรัม ซึ่งพอที่จะเสริมในคนท้องที่ต้องการไอโอดีนเพิ่มมากกว่าปกติเล็กน้อย (เป็น 220 ไมโครกรัมต่อวัน ไม่แน่ใจว่าคนใต้ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารทะเล จะจำเป็นต้องเสริมไหม)

จะเห็นได้ว่า ยาเม็ดไอโอดีนที่เรามี ไม่เพียงพอต่อการป้องกันรังสีนะครับ ต้องกินเกือบพันเม็ด ?
4. เรายังมี lugol solution ที่ห้องยาเราเตรียมเอง เท่าที่สอบถามและผมจำไม่ผิด 1 cc จะมี iodine 130 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอที่จะใช้เพื่อวัถุประสงค์ดังกล่าว แต่ผมไม่แน่ใจเรื่องการเก็บยาไว้ใช้ ในระยะยาวในรูปสารละลาย iodine จะระเหยได้ไหม
5. ที่แจกที่สนามบินแห่งหนึ่ง ไว้ให้คนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น ศูนย์ข้อมูลยาของ รพ. เรา บอกผมว่า GPO องค์การเภสัชกรรม ทำเอง เป็นชนิดที่ใช้เพื่อกันรังสีโดยเฉพาะ


ปริมาณรังสี เป็นเรื่องน่าสนใจที่ต้องใส่ใจ แต่ตอนนี้ประเทศไทยยังปลอดภัยอยู่ ไม่ต้องตระหนก

รังสีใกล้ตัวอย่าง ตอนทำ CT scan มากกว่ารังสีที่กระจายออกมาเสียอีก


Posted by : Omnisci , Date : 2011-03-21 , Time : 12:41:02 , From IP : 172.29.16.246

ความคิดเห็นที่ : 1


   ของแถม และแหล่งที่มาของข้อมูลที่คนสนใจก็ไป่านเพิ่มได้

http://www.ki4u.com/products1.php
http://emedicine.medscape.com/article/122714-overview
http://www.ki4u.com/ki-vial-insert.pdf
http://www.nrc.gov/about-nrc/emerg-preparedness/about-emerg-preparedness/potassium-iodide.html
http://thyroid.about.com/gi/dynamic/offsite.htm?site=http://www.ki4u.com/index.html


Posted by : omnisci , Date : 2011-03-21 , Time : 12:47:37 , From IP : 172.29.16.246

ความคิดเห็นที่ : 2


   วิธีกิน ก็กินก็ต่อเมื่อ มีคำประกาศให้กิน และกินซ้ำทุก 24 ชั่วโมงจนกว่าจะมีคำสั่งยุติการกิน
เท่าที่อ่านมา ถ้ากินในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่มีผลเสียอะไร ยกเว้น คนที่แพ้ไอโอดีน
ถ้ากินมากไป ถี่ไป อาจเกิด side effect ได้
อย่างต่อมน้ำลายบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดหัว และอาการแพ้ต่างๆ
บางคนต่อมไทรอยด์อาจผลิตฮอร์โมนเกิน ทางตรงข้าม แต่บางคนต่อมอาจหยุดทำงานได้ โดยเฉพาะเด็กต่ากว่า 1 เดือน

อยู่เฉยๆ อย่าไปกิน dose ขนาดนั้นดดยไม่จำเป็นเชียว


Posted by : omnisci , Date : 2011-03-21 , Time : 12:57:38 , From IP : 172.29.16.246

ความคิดเห็นที่ : 3


   อ้อ อีกอย่าง ไอโอดีนที่ให้กินจะมาในรูป KI หรือ protassium iodide ซึ่งต้องพิจารณาน้ำหนักของไอโอดีน ไม่ใช่ของ KI

Posted by : omnisci , Date : 2011-03-21 , Time : 13:00:22 , From IP : 172.29.16.246

ความคิดเห็นที่ : 4


   http://www.gpo.or.th/Default.aspx?tabid=88&mid=446&ctl=ArticleView&articleId=115&language=th-TH

จริงๆ ด้วย GPO ผลิตยาเม็ดไอโอดีน เพื่อส่งไปช่วยจริงๆ เพราะตอนนี้ขาดแคลนไปทั่วโลก


นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2554 ที่องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่าได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุขให้ผลิตยาเม็ดโปแตสเซี่ยมไอโอไดด์(Potassium Iodide) ซึ่งยาชนิดนี้มีสรรพคุณในการช่วยลดการดูดซึมกัมมันตภาพรังสีเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งองค์การเภสัชกรรมมีความพร้อมในการผลิตทั้งด้านวัตถุดิบ อุปกรณ์ เครื่องมือ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ผลิตล็อตแรก จำนวน 15,000 เม็ด โดยแบ่งเป็น 2 ขนาด คือ ขนาด 65 มิลลิกรัมสำหรับเด็กและผู้มีน้ำหนักตัวน้อย จำนวน 5,000 เม็ด และขนาด 130 มิลลิกรัมสำหรับผู้ใหญ่ จำนวน 10,000 เม็ด และสามารถจัดส่งไปยังสนามบินเป้าหมายทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินภูเก็ต ภายในคืนนี้ สาเหตุที่เลือกทั้ง 3 สนามบินเพราะเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปญี่ปุ่นจำนวนมาก ซึ่งก่อนที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง จะได้รับการแจกจ่ายยาก่อน โดยจะมีการคัดกรองตรวจสอบจากแพทย์ พยาบาล สำหรับประชาชนที่ไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ไม่แนะนำให้รับประทานยาดังกล่าว และหากมีความจำเป็นต้องรับประทานจะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น

posted @ 18 มีนาคม 2554 15:54 by information gpo


Posted by : omnisci , Date : 2011-03-21 , Time : 20:27:10 , From IP : 182.53.186.87

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<