ความคิดเห็นทั้งหมด : 1

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนไทยไม่ต้องซื้อ “iPad เครื่องหิ้ว”


   จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนไทยไม่ต้องซื้อ “iPad เครื่องหิ้ว”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ธันวาคม 2553 09:07 น.


แฟ้มภาพนักศึกษากับ iPad ที่ซื้อจากร้านไอสตูดิโอ สาขาเซ็นทรัลเวิร์ลในวันที่ 3 ธันวาคม 53

หลังจากมีการจำหน่ายเครื่องหิ้วอย่างเป็นล่ำเป็นสันมาช้านาน ในที่สุด iPad คอมพิวเตอร์แท็ปเล็ตหน้าจอสัมผัสทรงกระดานชนวนของแอปเปิลก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 53 ผู้บริหารไทยชี้ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้คือ iPad จะสามารถเข้าถึงตลาดใหม่ได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น แอปพลิเคชันที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคนไทยก็จะมีปริมาณมากขึ้น ท่ามกลางรายได้มหาศาลที่จะไหลเข้ากระเป๋าค่ายมือถือโอเปอเรเตอร์ต่อเนื่องในปีหน้า

นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานบริษัท คอปเปอร์ไวร์ด จำกัด ให้ความเห็นว่าความเปลี่ยนแปลงที่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดจากการนำเข้า iPad เข้ามาจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฏหมายในประเทศไทย คือยอดขาย iPad จะสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ปริมาณการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันละเมิดลิขสิทธิ์ใน iPad เชื่อว่าจะน้อยลง รวมถึงปริมาณสื่อออนไลน์ใน iPad ที่เป็นภาษาไทยจะมีจำนวนมากขึ้น

“ที่เห็นชัดคือยอดขาย iPad จะเพิ่มขึ้น ปริมาณคนที่จะเสียเงินดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกับผู้ค้ารายย่อยครั้งละ 500 บาทก็เชื่อว่าจะน้อยลง ที่เห็นชัดอีกอย่างคือคอนเทนต์ที่เป็นนิตยสารภาษาไทย ที่สร้างออกมาในรูปแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดไปอ่านบน iPad ในขณะนี้ก็มีมากกว่า 10 หัวหนังสือ ถือเป็นครั้งแรกที่เรามีพัฒนาการด้านคอนเทนต์เร็วเท่ากับต่างประเทศ”

คอปเปอร์ไวร์ดเป็น 1 ใน 5 บริษัทค้าปลีกสินค้าของแอปเปิลในนามไอสตูดิโอที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ปรเมศร์จึงระบุว่าไม่สามารถประมาณตัวเลขเป้าหมายยอดขาย iPad ของไอสูดิโอทั้งหมดในประเทศไทยได้ แต่คาดว่าส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มสินค้าแท็บเล็ตประเทศไทยช่วงปีหน้า อาจไม่แตกต่างจากหลายประเทศที่มีสัดส่วนการใช้งาน iPad สูงถึง 95%


ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่/ประธานคณะผู้บริหาร และรองหัวหน้า กลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด เชื่อว่าการนำ iPad เข้ามาจำหน่ายอย่างถูกต้องในเมืองไทยจะทำให้ทรูมีลูกค้าผู้ใช้บริการกลุ่มโพสต์เพดมากขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจให้บริการดาต้าแพกเกจ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีหน้า

“เชื่อว่าผู้ใช้กลุ่มโพสต์เพดจะมากขึ้นนับจากนี้ เพราะแพคเกจ iPad ของทรูสามารถใช้ร่วมกับแพคเกจของ iPhone ได้ ส่วนธุรกิจดาต้าแพกเกจ ปีนี้เราเติบโต 40% ปีหน้าก็เชื่อว่าจะไม่ต่ำกว่านี้”

ทรูเชื่อว่าจะสามารถจำหน่ายไมโครซิม หรือซิมการ์ดขนาดจิ๋วเพื่อใช้งานกับ iPad ได้มากกว่า 1 หมื่นชิ้นในเวลา 1 เดือน

เรื่องนี้ ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มธุรกิจบริการเสริม บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นสวนทางกับทรู โดยยอมรับว่ายอดใช้บริการดาต้าของดีแทคในกรุงเทพฯ จะได้รับอานิสงส์จากการเปิดตลาด iPad น้อยกว่าในพื้นที่นอกกรุงเทพฯ

“ในกรุงเทพฯ เรายอมรับว่าแพ้ทรูเรื่อง 3G แต่ในต่างจังหวัดทุกคนจะนึกถึงเรา ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนหลังไทยสามารถจำหน่าย iPad อย่างถูกต้องไม่ใช่เรื่องไลฟ์สไตล์ เพราะตอนนี้ไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนไปแล้วเรียบร้อย แต่การมีหน้าร้านไอสตูดิโอ จะทำให้คนที่ไม่กล้าเข้าไปซื้อ iPad ตามตู้ค้ามีทางเลือกมากขึ้น”

ปกรณ์มองว่า การวางจำหน่าย iPad อย่างแพร่หลายจะเป็นตัวกระตุ้นความต้องการแท็บเล็ตในสังคมไทย กลบกระแสเน็ตบุ๊กในเวลาไม่นานนับจากนี้ เบื้องต้นคาดว่า ปริมาณแท็บเล็ตในตลาดไทยช่วงปีหน้าจะทะลุ 200,000-300,000 เครื่อง


นาทีนี้ผู้บริหารหลายคนเชื่อว่าตลาดแอปพลิเคชัน iPad ที่จะขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในประเทศไทยคือตลาดนิตยสารดิจิตอล นำหน้าเกมหรือแอปพลิเคชันทางธุรกิจทุกประเภท โดยขณะนี้ นิตยสารไทยที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันร้านหนังสืออิสระนั้นมีจำนวนมากกว่า 40 หัวหนังสือแล้ว

พชร สมุทวณิช บรรณาธิการบริหารนิตยสารมาร์ส ให้สัมภาษณ์ว่ารูปแบบการอ่านของคนไทยกลุ่มหนึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะ iPad เชื่อว่า iPad จะทำให้ผู้อ่านนิตยสารเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการอ่านทุกหน้า แม้แต่หน้าที่เป็นโฆษณา เนื่องจากลูกเล่นในการนำเสนอที่น่าสนใจ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านการตลาดในอีกรูปแบบหนึ่ง

iPad นั้นเป็นแท็ปเล็ตคอมพิวเตอร์หน้าจอสัมผัสทรงกระดานชนวนรุ่นล่าสุดซึ่งแอปเปิลเริ่มเปิดตัวเมื่อต้นปี 2010 ที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนเมษายน ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 15,900 บาท สูงสุดคือ 25,900 บาท ต่ำกว่าราคา iPad เครื่องหิ้วที่เคยจำหน่ายในราคา 20,000-21,000 บาท

ล่าสุด การสำรวจตลาดมาบุญครอง (วันที่ 3 ธันวาคม 53) พบว่า iPad เครื่องหิ้วยังมีราคาจำหน่ายแต่ละร้านไม่คงที่ บางร้านวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 15,800 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ขณะที่บางร้านจำหน่ายในราคาสูงกว่า เช่น 16,500 บาท และ 17,000 บาท ไม่มีการรับประกันสินค้าแต่ให้บริการติดตั้งแอปพลิเคชัน

ที่น่าสนใจคือ ผู้ค้าในตลาดมาบุญครองขณะนี้มีการนำเสนอแท็ปเล็ตทางเลือกหลายขนาดมากขึ้น เป็นสินค้าจากจีนที่มีหน้าจอตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไป ราคาเบื้องต้นเริ่มที่ 7,000 บาท ถือเป็นอีกการเปลี่ยนแปลงด้านสินค้าในมาบุญครองที่เริ่มเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น




Posted by : thiopental , Date : 2010-12-06 , Time : 12:06:57 , From IP : 113.53.10.10

ความคิดเห็นที่ : 1








   ผู้ไม่มีหนี้สิน เป็นความสุขอันประเสริฐ

Posted by : thiopental , Date : 2010-12-06 , Time : 12:10:59 , From IP : 113.53.10.10

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<