ความคิดเห็นทั้งหมด : 9

การใช้ทรัมไดฟ์สำหรับคอมฯโรงพยาบาล


   การใช้ทรัมไดฟ์สำหรับคอมฯโรงพยาบาล
ขอรับฟังความคิเห็นหน่อยนะค่ะ

ในปัจจุบันวิทยาการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่ง วิทยาการนี้ทำให้เราสะดวกสบายจริงไหมค่ะ
เข้าเรื่องกันเลย เรื่องมีอยู่ว่า นศพ. ส่วนใหญ่นิยม เสียบ ทรัมไดฟ์ กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในโรงพยาบาลซึ่งมีข้อมูลผู้ป่วยอยู่ เพื่อนำไปทำเป็นกรณีศึกษา ซึ่งทำให้สะดวกรวดเร็ว ส่วนนักศึกษาคณะอื่นๆ ที่เรียนเช่นเดียวกัน กลับโดนพยาบาลประจำหน่วยงานบอกทำไม่ได้ อยากทราบถึงความยุติธรรม และอยากทราบว่า ทรัมไดฟ์ที่มีไวรัสจะป้องกันได้มากน้อยแค่ไหนที่จะทำให้ระบบ คอมฯในโรงพยาบาลไม่ผิดปกติ


Posted by : ไม้พันสำลี1 , Date : 2010-10-10 , Time : 17:06:00 , From IP : 172.29.19.158

ความคิดเห็นที่ : 1


   น่าสนใจครับ เข้าใจว่ากำลังชวนคุยเรื่องประเด็น Ethics ในหัวข้อ Confidentiality ของคนไข้ไหมครับ อยากฟังความเห็นต่อครับ

Posted by : phoenix , Date : 2010-10-10 , Time : 21:47:21 , From IP : 172.29.9.100

ความคิดเห็นที่ : 2


   เอ... เท่าที่ทราบ คอมพิวเตอร์ระบบ HIS ของโรงพยาบาล ไม่สามารถ copy ข้อมูลของผู้ป่วยจากตัวเครื่องได้นี่คะ เพราะเป็นการเปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วยโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ดิฉันเคยทำคือ ต้องทำหนังสือขออนุญาตขอข้อมูลผู้ป่วยจากฝ่าย IT ค่ะ
**********


Posted by : chicky , Date : 2010-10-10 , Time : 22:30:30 , From IP : 172.29.9.191

ความคิดเห็นที่ : 3


   เท่าที่ทราบมา เมื่อก่อน คอมพิวเตอร์ระบบ HIS ของโรงพยาบาล ไม่สามารถ copy ข้อมูลของผู้ป่วยจากตัวเครื่องได้ ผมยังคงเชื่ออย่างนั่น แต่ตัว notebook ที่มาใหม่(ตัวบางๆ เล็กๆ ทำงานช้ามากๆ) สามารถเสียบทรัมไดฟ์ได้ ขอคอนเฟริม เพราะเจอกับตัวเอง ในความคิดเห็นของตัวเอง หากเป็นนักศึกษา/บุคลากรที่นำไปทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมหรือประโยชน์ให้กับคนไข้นั่นๆ ถึงแม้มันจะผิดจริยธรรมบ้างแต่ผมว่าโอเคน่ะครับ แต่หนึ่ง. เราจะเชื่อได้หมดรึป่าวว่านำไปทำประโยชน์จริงๆหรือเพื่อการศึกษาจริง แต่หากเพื่อการศึกษาหรือการอื่น ผมมองว่าต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลนั้นด้วย นั่นคือ ผู้ป่วย แพทย์ที่ให้การรักษา และพยาบาลที่บันทึกข้อมูล สอง. หากเป็นบุคคลอื่นละมันเป็นความเสี่ยงที่ใครๆ สามารถเข้าข้อมูล และนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีได้ เท่าที่ผมทราบ ข้อมูลของผู้ป่วยจะเปิดเผยได้เมื่อ1. ผู้ป่วยอนุญาต 2.ศาลสั่ง อันนี้ผมคิดว่าเข้าใจถูกน่ะ ถ้าไงอาจารย์phoenix ช่วยแนะนำด้วย

Posted by : บวบเองคับ , Date : 2010-10-11 , Time : 02:26:40 , From IP : 172.29.7.81

ความคิดเห็นที่ : 4


   อย่าเอาสะดวกตัวเองเป็นที่ตั้งสิครับ หากเกิดความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวจาก Thumbdrive ใครจะรับผิดชอบไหวครับ ระบบ รพ. ทำงานไม่ได้ขึ้นมาสัก 3 ชั่วโมง วิกฤติที่เำกิดขึ้น HA , TQC , KEISEN, Lean award ทั้งหลายที่ได้มา หมดความหมายในพริบตาเลยนะครับ

Posted by : garnet , Date : 2010-10-11 , Time : 09:56:11 , From IP : 172.29.1.74

ความคิดเห็นที่ : 5


   เห็นด้วยคับคุณ Garnet

Posted by : หัวครก , Date : 2010-10-11 , Time : 12:55:35 , From IP : 172.29.30.79

ความคิดเห็นที่ : 6


   ประโยชน์ของระบบคงจะมีลำดับความสำคัญลักลั่นกันไป ในด้านข้อมูล สิทธิส่วนบุคคลของผู้ป่วยคงจะเป็นอันดับต้น security ของระบบฐานข้อมูลยิ่งต้นไปอีก (เพราะมีผู้ป่วยจำนวนมากได้รับผลกระทบ) ส่วนเรื่องประโยชน์ในการเรียนการสอน การวิจัย ความสะดวกสบายนั้นมาเป็นอันดับหลังๆ เมื่อไรก็ตามที่มีความขัดแย้งระหว่างประโยชน์สองประเภท สามประเภท เราก็จะใช้ลำดับความสำคัญที่ว่านี้มาช่วยตัดสินครับ นั่นคือ เราจะไม่ compromise เรื่องสำคัญต้นๆเพื่อให้ได้เรื่องสำคัญรองๆ

software ป้องกันไวรัสถึงดีแค่ไหน ก็คงจะไม่ justify ความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่ เพราะพูดถึงความเสี่ยงเราไม่ได้พูดแค่ความถี่ แต่จะต้องพิจารณาถึงน้ำหนักความเสียหายด้วย ถ้าเสียหายเยอะมาก ความถี่แค่ 1-2 ครั้งต่อหลายๆปี เราก็ยังไม่อยากจะเสี่ยงเลย

หวังว่าคงเข้าใจและสบายใจขึ้่นบ้างนะครับ


Posted by : phoenix , Date : 2010-10-11 , Time : 14:35:05 , From IP : 172.29.17.115

ความคิดเห็นที่ : 7


   ขอบคุณ ข้อมูลมากเลยนะคะน้องบวบ และคุณphoenix ถ้าอย่างนั้นดิฉัน ขอฝากช่วยตรวจสอบคอมพิวเตอร์ในระบบโรงพยาบาลได้ไหมค่ะว่าเครื่องไหน เสียบได้ เครื่องไหนเสียบไม่ได้ เพราะ ดิฉันก็เจอมากับตัวเองเหมือนกัน(อาจจะเป็นเด็นเดียวกับน้องบวบก็เป็นไปได้) คือมี นศพ. มีการใช้ Thumbdrive ในการดูดข้อมูลไป เพื่อความสะดวกในการเรียน ดิฉันเคยได้เข้าไปบอกแต่ก็ไม่เป็นผล

ขอบคุณค่ะ


Posted by : ไม้พันสำลี1 , Date : 2010-10-11 , Time : 17:03:03 , From IP : 172.29.19.158

ความคิดเห็นที่ : 8


   ในการเอา drive เสียบไปในเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นการเพิ่มความเสี่ยงแน่นอนครับ เหมือนกับเรากำลังให้ยืมผ้าเช็ดหน้าคนอื่นอะไรปานนั้น ทั้งเราและเขาอาจจะไม่สบายใจพอๆกัน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด น่าจะเป็นการขออนุญาตเจ้าของเครื่อง หรือผู้ดูแลสถานที่ที่คอมฯเครื่องนั้นตั้งอยู่โดยตรงว่าปลอดภัยพอหรือไม่ และชี้แจงรายละเอียดว่าเรากำลังทำอะไร เพื่ออะไร แค่ไหน เนื่องจากการใช้คอมฯในแต่หน่วยงานมีความแตกต่างกันมาก ทั้งโปรแกรมและฐานข้อมูลภายใน คอมห้องพักนักศึกษาหรือห้องพักแพทย์อาจจะไม่ serious มากเท่ากับคอมที่ ward หรือ OPD (จริงไม่จริงไม่ทราบเหมือนกัน) ผมคิดว่าคุณ Garnet คงจะไม่สามารถ authorize security breach ได้จากตรงนี้

คุณ Garnet หรือผู้ดูแล system อาจจะชี้แจงเพิ่มเติมยิ่งชัดเจนมากขึ้นครับ


Posted by : phoenix , Date : 2010-10-11 , Time : 22:57:59 , From IP : 172.29.9.100

ความคิดเห็นที่ : 9








   ผมขออ้างบทความ เรื่อง Critical Infrastructure : Information Security and Health IT นะครับ

Posted by : garnet , Date : 2010-10-12 , Time : 12:56:04 , From IP : 172.29.1.74

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.007 seconds. <<<<<