ความคิดเห็นทั้งหมด : 15

ขอความคิดเห็นบุคลากรที่ใช้เส้นทางการจารจร (ทางเชื่อมจากเวชคาม1ไปงามทักษิณ1)


    ขอความคิดเห็นจากบุคลากรที่ใช้เส้นทางการจารจร (ทางเชื่อมจากเวชคาม1ไปงามทักษิณ1) ควรปิดเส้นทางได้แล้วหรือยัง

งานอาคารสถานที่ฯ/หน่วยรักษาความปลอดภัย
1120/1110


Posted by : car , E-mail : (snattapo@medicine.psu.ac.th) ,
Date : 2010-09-01 , Time : 10:50:18 , From IP : 172.29.25.131


ความคิดเห็นที่ : 1


   คิดว่า เปิดไว้ดีกว่าค่ะ สะดวกดี

Posted by : จริงใจ , Date : 2010-09-01 , Time : 12:58:30 , From IP : 172.29.25.208

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมใช้เส้นทางนี้ทุกวันครับ เปิดไว้ดีกว่าครับ สะดวกดีครับ เห็นด้วยกับ คห.1

Posted by : โณดอทคอม , Date : 2010-09-01 , Time : 16:22:48 , From IP : 172.29.3.74

ความคิดเห็นที่ : 3


   ผมไม่เห็นด้วยครับ เพราะว่าบริเวณดังกล่าว ลูกหลานบุคลากรที่อาศัยในบริเวณนั้นใช้พื้นที่สำหรับ ออกกำลังกายและวิ่งเล่นตามประสาเด็ก ๆ (เนื่องจากมีสนามหญ้าตรงหน้าหอพักงามทักษิณ 1) เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเปิดใช้ ก็จะพบว่ามีรถยนต์และจักรยานยนต์ขับผ่านเป็นจำนวนมากเพราะสะดวกและไม่มีเนินชะลอความเร็วเป็นอุปสรรค มีหลายคันที่ขับค่อนข้างเร็ว หากเด็ก ๆ วิ่งออกมาจากตัวตึกไม่ทันระวังก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ และขอให้ผู้เกี่ยวข้อง(น่าจะเป็นอาคารสถานที่) เร่งมาปิดทางด่วนครับ เพราะตอนนี้งานเกษตรก็หมดแล้ว ท่อน้ำก็สร้างเสร็จแล้ว

Posted by : นายจริงใจ , Date : 2010-09-01 , Time : 17:01:19 , From IP : 172.29.1.143

ความคิดเห็นที่ : 4


   -------------------------------------------------------------------------------



...สะดวก .ดี ผมเห็นด้วย แต่เด็กๆๆ เยอะ อันตราย ปิดดีกว่าครับ...




------------------------------------------------------------------------------


Posted by : kapi_pi , Date : 2010-09-01 , Time : 17:11:55 , From IP : 172.29.8.69

ความคิดเห็นที่ : 5


   ควรเปิดเอาไว้ เพราะ ทางเชื่อม สองกับสามนั้นจะมืดมาก และมีเกาะ [หลังเต่า ] กลางคืนจะมองไม่เห็นเลย เคยล้มด้วยดีที่ขับไม่เร็ว แต่พอเปิดสายหนึ่ง รู้สึกปลอดภัยขึ้นเยอะ ส่วนเด็กๆ ก็เห็นใจ ควรขับรถช้าๆกันหน่อย และเด็กๆส่วนใหญ่ก็เล่นแถวนั้นเฉพาะตอนเย็น และ เสาร์อาทิตย์ น่าจะมีทางออกที่ win win ทั้งสองฝ่าย

Posted by : omg , Date : 2010-09-01 , Time : 20:29:43 , From IP : 172.29.9.176

ความคิดเห็นที่ : 6


   ผมก็เห็นด้วยครับ เปิดเอาไว้ แต่ควรมีป้ายชะลอความเร็วหรือ ให้ระวังเด็ก เนื่องจาก ช่วงนี้รถ เยอะ แล้ะทางช่วงนั้นเชื่อมต่อกับปิ่งสงขลา ทำให้การจราจรง่ายละคล่องตัวมากขึ้น อีกอย่างคนนอกก็ไม่ค่อยเข้ามาเยอะเนื่องจากมีป้อมยามแสกนไว้ชั้นหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่ที่ขับ ก็จะมีแต่บุคลากรกันเอง ครับ

Posted by : เป็นต่อ , Date : 2010-09-02 , Time : 00:52:54 , From IP : 172.29.9.244

ความคิดเห็นที่ : 7


   ควรเปิดไว้ในเมื่อเป็นถนนที่เป็นของส่วนรวมก็ต้องเปิดใช้ จะปิดทำไมเพื่อคนบางกลุ่ม แต่คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ เห็นด้วยกับคุณเป็นต่อว่าควรมีป้ายเตือนไว้
และเด็กๆที่วิ่งเล่น ผู้ปกครองก็ต้องดูแลและเตือนด้วยไม่ให้ขึ้นบนถนน อันนี้เพื่อความปลอดภัยของเด็กด้วย


Posted by : well , Date : 2010-09-02 , Time : 01:53:36 , From IP : 172.29.17.103

ความคิดเห็นที่ : 8


   คำว่าส่วนรวม ควรจะมองผู้อาศัยในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่ควรเอาความสะดวกสบายของผู้ผ่านทางเป็นที่ตั้ง case นี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำประชาพิจารณ์ที่ต้องขอความเห็นส่วนรวมจากคนในพื้นที่ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ช่วงเดือนที่ผ่านมาผู้ขับผ่านเส้นทางนี้อาจรู้สึกสะดวกสบายที่ไม่ต้องขับไปอ้อมที่งามทักษิณ 2 หรือ 3 และไม่มีเนินชะลอความเร็วให้ต้องสะดุด นั้นเพราะถนนเส้นนี้ไม่ได้ใช้ขับขี่ในเวลาปกติ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น
โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยให้เปิด แต่ถ้าคิดจะเปิดก็ควรมีมาตรการรองรับที่ดี ป้ายเตือนที่หลาย ๆ ท่านแนะนำมีติดไว้ก็ดี แต่ผมคิดว่ามีประโยชน์น้อยเพราะความมีระัเบียบวินัยและการเคารพกฏจราจรนั้นวัดใจกันยาก จิตสำนึกของคนแต่ละคนไม่ได้มีมาตรฐานเดียวกัน สิ่งที่จำเป็นคือควรจะมีเนินชะลอความเร็วที่เป็นมาตรฐาน มีสีสะท้อนแสงทาไว้อย่างดี ทำเนินไว้อย่างน้อยสี่ระยะตลอดแนว เวชคาม 1- งามทักษิณ 1 เพื่อให้รู้ว่าเป็นเขตที่พักอาศัย ควรขับขี่ช้า ๆ
ที่เสนอก็มีทั้งสองทางเลือกคือ ไม่เปิดก็เป็นปกติ แต่ถ้าจะเปิดก็ขอให้ดำเนินการสร้าง และติดตั้งระบบความปลอดภัยให้ได้มาตรฐานก่อน อันนี้ก็เป็นทางออกที่เป็นแบบ win-win


Posted by : นายจริงใจ , Date : 2010-09-02 , Time : 09:03:55 , From IP : 172.29.1.143

ความคิดเห็นที่ : 9


   ผมขอสนับสนุน ทางออกที่2 ของ "นายจริงใจ " (คห.8) ดูเป็นกลางดีครับ

Posted by : โณดอทคอม , Date : 2010-09-02 , Time : 10:03:37 , From IP : 172.29.3.74

ความคิดเห็นที่ : 10


   ขอตอบในฐานะที่ใช้เส้นทางนี้บ่อย

ปิดไปเลยก็โอเค เพราะยังมี ซอย 2 และ 3 รองรับ ขับไกลขึ้นอีกหน่อย ก็ไม่ได้มากมายอะไร

ส่วนเรื่องขับรถเร็วก็ไปห้ามเค้ายาก ขนาดมีลูกระนาดให้ชลอความเร็ว ก็ยังพยายามวิ่งเบี่ยงหลบกัน เดี๋ยวนี้เด็กวัยรุ่น ลูกหลานบุคลากรก็ขี่จยย.กันเร็ว แล้วก็ขี่แบบคึกคนองซะด้วย น่าเป็นห่วง

ส่วนซอย 2 และ 3 ก็ควรทำป้ายให้ชัดเจน ที่เนินชลอความเร็วก็ควรทำสีสะท้อนแสงให้เห็น ( ทุกเนินในคณะ ) หรือไม่ก็เพิ่มเสาไฟฟ้า ให้รู้ว่าตรงนั้นมีเนิน จะได้ระมัดระวังกันมากขึ้นครับ


Posted by : eng , Date : 2010-09-02 , Time : 13:25:55 , From IP : 172.29.25.179

ความคิดเห็นที่ : 11


   ผมขอออกความเห็นเป็นข้อๆครับ ผมจะพยายามอธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้น
1 การที่เรามาระดมความเห็นแบบนี้ดูจะไม่ยุติธรรมกับผู้เดือดร้อนเลย
เพราะคนที่ไม่เดือดร้อน ไม่ได้อาศัยอยู่แถบนี้ ย่อมไม่รู้สึกอะไรและอยากให้เปิดอยู่แล้ว เพราะแค่ขับผ่านชั่วเวลาสั้นๆและก็จบไป สะดวกดีแต่ทิ้งปัญหาไว้กับคนอื่นที่อาศัยอยู่ เพราะฉะนั้นผู้อาศัยอยู่แถบนี้ควรจะมีสิทธิ์ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่มากกว่า
2 ทางวิ่งช่วงนี้มีปัญหาตั้งแต่โครงสร้างเนื่องเป็นทางแคบ หลังคาต่ำ หักโค้งและอยู่ในมุมอับ ผู้ขับรถออกจากหอพักจะไม่สามารถมองเห็นรถโดยเฉพาะมอเตอร์ไซด์ที่ขับลงมาจากทางลาดได้ชัด โดยเฉพาะเวลามืดเนื่องจากมีมุมของตึกและเสาบัง จนมีอุบัติเหตุชนและเห็นกับตามาหลายครั้งแล้ว รวมทั้งผมเองก็เคยชนมอเตอร์ไซด์กระเด็นมาแล้วเนื่องจากมองไม่เห็นรถทางขวาที่โผล่มาจากมุมเสาเลย ผู้อาศัยที่อื่นมักจะมองไม่เห็นในประเด็นนี้ (ส่วนทางเชื่อมอีกสองทางจะใหญ่ สว่างกว่าและหักมุมน้อยกว่า)
3 ทางนี้ขับสวนไม่ได้ รถที่ขับมาจากทั้งสองทางก็โดนมุมตึกบัง กว่าจะเห็นว่ามีรถสวนก็มักจะติดออกไปไม่ได้ ต้องถอยหลังเสมอ นอกจากนี้หากมอเตอร์ไซด์วิ่งมาเร็วๆไม่มีทางหยุดทันเลย
4 ยังขอยืนยันว่า ทางนี้ยังมีเด็กเล่นอยู่ และยิ่งอันตรายมากขึ้นที่ทางคณะไม่ยอมรื้อซากเรือนเพาะชำออกไปให้หมด ทำให้มีต้นไม้ขึ้นเกะกะมากยิ่งทำให้มองไม่เห็นเด็กๆที่อาจวิ่งเผลอลงมาที่ถนน เพราะฉะนั้นต่อให้มีป้ายเตือนการขับรถก็ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะคนไทยไม่เคยเคารพป้ายเตือนอยู่แล้ว นอกจากนี้การมีหลังเต่าหรือลูกระนาดก็ไม่สามารถป้องกันมอเตอร์ไซด์ที่คึกคะนองได้ อาจจะยิ่งทำให้แย่ขึ้นเมื่อรถพยายามจะหลบหลังเต่าจนไปชนคนหรือรถที่จอดได้
5 ทางนี้ไม่ใช่ทางเดียว ยังมีอีกตั้งสองทางที่อยู่ติดกันมาก ทำไมต้องปล่อยให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้น ทั้งๆที่เห็นๆกันอยู่ ต่อให้ผมไม่อยู่แถวนี้ก็จะเสนอให้ปิดอยู่ดี
6 สุดท้าย ขอให้ทุกคนคิดถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อย่าเห็นแก่ความสะดวกเท่านั้น หากมีทางที่จะป้องกันได้ ควรทำดีกว่า อย่าปล่อยให้เกิดการสูญเสียแล้วมานั่งเสียใจที่หลัง เพราะวันนั้นคนที่สูญเสียอาจเป็นเรา เราควรจะคิดถึงผลได้ผลเสียว่าคุ้มหรือไม่ แค่ปิดทางเดียว เหลืออีกตั้งสอง ห่างกันนิดเดียว แต่ปลอดภัยขึ้นน่าจะดีกว่า อย่างไรก็ตามการตัดสินใจจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นกับผู้ใหญ่ที่ไม่ได้มาอยู่อาศัยแถบนี้แล้ว แต่ผมก็ถือว่าทำหน้าที่เตือนเต็มที่แล้ว


Posted by : ผู้อยู่อาศัย , E-mail : (mratanasukon@yahoo.com) ,
Date : 2010-09-02 , Time : 17:28:11 , From IP : 172.29.5.169


ความคิดเห็นที่ : 12


   ถ้าปิดถนนเส้นนี้แล้วเกิดผู้พักอาศัยที่พักหองามทักษิณ 2 และ3 หรือหออื่นๆ เกิดขอปิดทางบ้างเพราะกลัวลูกหลานไม่ปลอดภัยเหมือนกันแล้วจะทำยังไงดี
ไม่ต้องปิดทางกันหมดเหรอ และคนที่ใช้ก็เป็นบุคลากรด้วยกันเองทั้งนั้น
ถ้า
** คำว่าส่วนรวม ควรจะมองผู้อาศัยในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่ควรเอาความสะดวกสบายของผู้ผ่านทางเป็นที่ตั้ง **
ถ้าอย่างนั้นยังมีอีกหลายหอที่ได้รับผลกระทบ เช่น ศรีตรัง 6 ที่รับเลี้ยงเด็ก ถนนหน้าหอก็มีรถของบุคคลภายนอกด้วยซ้ำมารับส่งเด็กจอดรอเต็มไปหมด ขวางทางจอดตรงทางแยกจนปิดทางด้วยซ้ำไป
อยากถามอีกอย่างตอนสร้างถนนเส้นนี้เพื่อเหตุผลอะไร ให้รถวิ่ง หรือ เด็กวิ่ง
ถ้าสร้างให้เด็กๆ ก็ปิดถนนแล้วทำสนามไปเลย อันนี้ไม่ได้คิดปิดกั้นพัฒนาการเด็กแต่อย่างใดแต่บนถนนก็ไม่ใช่ที่วิ่งเล่นอยู่แล้ว มันไม่ปลอดภัยทุกคนก็รู้กันอยู่


Posted by : well , Date : 2010-09-02 , Time : 21:18:06 , From IP : 172.29.9.72

ความคิดเห็นที่ : 13


   อ่านความคิดเห็นที่ 11 ดูแล้วอยากให้หลาย ๆ ฝ่ายลองชั่งใจ ก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ เพราะเหตุผลที่ คุณผู้อยู่อาศัย ได้ให้ไว้ชัดเจนและหนักแน่น ประกอบด้วยหลักการทางด้านวิศวกรรม มาตรฐานความปลอดภัยและหลักมนุษยธรรมดังนี้
1.มุมเบี่ยงของตึกกับแนวถนนที่ลาดชันและเป็นมุมโค้งก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ไม่เหมาะสำหรับการใช้เป็นถนนให้รถใช้สัญจร
2.หน้าเวชคาม 1 มีสนามเด็กเล่น หน้างามทักษิณ 1 ก็มีสนามหญ้าไว้ให้เด็ก ๆ ออกกำลังกาย ตลอดแนวถนนเส้นนี้จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ไม่ว่าจะกับเด็กที่เป็นลูกหลานบุคลากร หรือเป็นลูกหลานบุคคลภายนอกที่มาใช้บริการสนามเด็กเล่น
3.การลดความเสี่ยงทางนึงคือ การลดปริมาณรถที่จะวิ่งในถนนเส้นนี้ เรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องระวัง ผมว่าคนที่มีลูกมีหลานทุกคนคงเข้าใจดีว่าไม่มีใครไม่คิดระวัง (ลูกหลานใครใครก็รัก) แต่เหตุบังเอิญย่อมเกิดขึ้นได้ การลดความเสี่ยงย่อมเป็นหนทางที่ดีที่สุด (กันไว้ดีกว่าแก้)
4.คณะแพทย์พยายามจะทำ TQA ในขณะที่ TIS 18001 ซึ่งกล่าวถึงการลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานก็เป็นส่วนสำคัญในการทำให้บรรลุเป้าประสงค์ของ TQA หากปล่อยให้ถนนที่มีแนวโน้มว่าก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย มาใช้เป็นถนนในการสัญจรของคณะก็เท่ากับเป็นการเมินเฉยต่ออุบัติการณ์ข้อนี้


Posted by : นายจริงใจ , Date : 2010-09-03 , Time : 10:02:32 , From IP : 172.29.1.143

ความคิดเห็นที่ : 14


   ครับ
ไปกันใหญ่แล้ว
ผมเพียงแต่อยากบอกว่า ถนนคือถนนก็จริงแต่เมื่อสร้างแล้วมีปัญหาก็ต้องแก้ไข ไม่ใช้คิดว่ามันคือถนนก็ต้องใช้ โดยไม่สนใจใคร หรือสนามเด็กเล่น ถ้าคิดว่าเสี่ยงก็ต้องปิดสนาม เพราะตอนนี้ยังเปิดให้ใช้อยู่ จะอ้างว่าเด็กไม่ค่อยมาแล้วก็ไม่ได้
นอกจากนี้มันยังมีถนนทางเลือกอีกสองทางที่ใกล้กันมาก ขอยืนยันว่าห่างกันนิดเดียว ก็ควรเลือกความปลอดภัย
ส่วนคนที่อ้างว่า ต่อไปนี้ทุกที่ก็ขอปิดถนนกันหมด ก็ไม่ถูก เพราะมันมีทางเลือกให้ผู้เดินทางหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ต้องฝืนใช้หรือหาทางแก้ไขกันไป
เรากำลังมองความสะดวกอยู่เหนือความปลอดภัยและพยายามเถียงกันเพื่อเอาชนะให้ตัวเองได้ผลประโยชน์มากที่สุด ผมถึงบอกว่าการตั้งกระทู้นี้จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย จะไม่มีทางได้คำตอบ
จริงๆแล้วการแก้ปัญหามันง่ายนิดเดียว เอาความปลอดภัย เปรียบเทียบกับความสะดวกสบาย ทางเลือกอื่นที่ใช้ได้ ก็แค่นั้น ไม่มีทางที่จะทำให้คนถูกใจได้หมดหรอก ทางออกมีแค่สองทาง ออกทางไหนก็มีคนไม่ถูกใจทั้งนั้น มันขึ้นกับเหตุผลแล้วว่าจะอิงเอาความปลอดภัยหรือความสะดวกสบายเป็นหลัก


Posted by : ผู้อยู่อาศัย , Date : 2010-09-03 , Time : 11:47:44 , From IP : 172.29.14.249

ความคิดเห็นที่ : 15


   หลังจากรับฟังข้อคิดเห็นแล้ว สรุปว่างัยละครับท่านผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย
เห็นเงียบไปเลย ถนนก็เปิดใช้อยู่เหมือนเดิม ตกลงว่าจะเปิดหรือจะปิดครับ...



Posted by : นายจริงใจ , Date : 2010-09-09 , Time : 08:59:37 , From IP : 172.29.1.143

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.009 seconds. <<<<<