ความคิดเห็นทั้งหมด : 0

ความจริงทึ่ต้องรู้ไทยกับกัมพูชา


   ป่านนี้ นายกฯฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา คงหัวร่อต่อกระซิกกับ ซก อัน เป็นที่ครึกครื้น เมื่อเห็น นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ นพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายค้าน และ เครือข่าย

ประชาชนไทยหัวใจรักชาติ หรือ เครือข่ายเสื้อเหลือง ที่สนับสนุน นายกฯอภิสิทธิ์ ออกมาลากไส้กันเองอย่างสนุกสนาน ทั้ง เอ็มโอยู 43 และ แถลงการณ์ร่วม ที่ทำให้ไทยเพลี่ยงพล้ำเขมร

ล่าสุด เครือข่ายเสื้อเหลือง ออกมา ชำแหละเอ็มโอยู ปี 2543 ของ รัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่ไปเซ็นไว้กับ กัมพูชา สมัย ชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี

ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ สมาชิกเครือข่ายแถลงว่า เอ็มโอยู 2543 ที่ระบุให้มี คณะกรรมการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา และ การปักปันเขตแดนให้เป็นไปตามแผนที่ฝรั่งเศส 1 : 200,000 ส่งผลให้ไทยเสียพื้นที่กว่า 3 พันไร่ และสุ่มเสี่ยงที่จะเสียดินแดนใน 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่ อุบลราชธานี ยัน ตราด อีกกว่า 1.8 ล้านไร่ และจะสูญเสียพื้นที่ทางทะเลฝั่งอ่าวไทยอีก 1 ใน 3

ถือเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงยิ่ง หากไทยต้องสูญเสียดินแดนมากมายขนาดนั้นจริง ผมเชื่อว่าคนไทยไม่ยอมแน่ ไทยกับกัมพูชา คงต้อง ทำสงครามกันแน่ เพื่อปกป้องและช่วงชิงดินแดนจำนวนมหาศาลนี้

แต่ นายกฯอภิสิทธิ์ ก็ออกมายืนยันหนักแน่นว่า เอ็มโอยู 43 ฉบับนี้แหละที่ช่วยปกป้องไทยไม่ให้เสียดินแดนในการประชุมมรดกโลกที่บราซิล เป็นเอ็มโอยูที่ทำให้ไทยได้เปรียบกัมพูชาในเรื่องการปักปันเขตแดน

ประชาชนอย่างเราๆท่านๆฟังแล้วก็ได้แต่งงๆ ไม่รู้จะเชื่อใครดี แต่ละฝ่ายก็พูดจาดูเหมือนจะน่าเชื่อถือ แต่จะเชื่อถือได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง

วันก่อน กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ดูเหมือนจะมีปัญหากับต่างประเทศมาตลอด ก็ออกมาเถียงฉอดๆอีกคนว่า เอ็มโอยู 43 ไทยไม่ได้เสียเปรียบกัมพูชา แต่เอ็มโอยู 43 ทำให้ไทยได้เปรียบกัมพูชา

ผมฟังแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด เถียงกันเหมือนเด็กข้างถนน

ก็เมื่อสองฝ่ายถกเถียงกันเรื่อง เนื้อหาเอ็มโอยู 43 ฉบับเดียวกัน ทำไม รัฐบาล และ กระทรวงการต่างประเทศ จึงไม่เอา เอกสารเอ็มโอยู 43 ตัวจริง ออกมาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ ชี้แจงให้เข้าใจว่า ได้เปรียบตรงไหน ข้อกล่าวหาทำให้เสียดินแดนจริงหรือไม่

แต่ทั้ง นายกฯอภิสิทธิ์ และ รัฐมนตรีต่างประเทศ กลับเอาแต่เถียงอย่างเดียว ชาวบ้านเลยไม่รู้ว่า ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ เพราะ ไม่เห็นหลักฐานเอ็มโอยู 43 ฉบับของจริง เขียนไว้ว่าอย่างไร ทั้งๆที่อยู่ในมือกระทรวงการต่างประเทศแท้ๆ

การไม่เปิดเผยหลักฐานเอกสารก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกสงสัยว่าข้อกล่าวหาน่าจะมีมูลความจริง รัฐบาลจึงได้แต่เถียง แต่ไม่กล้านำเอกสารมาเปิดเผย ทำให้ข้ออ้างของรัฐบาลไม่ค่อยมีน้ำหนัก

ผมเลยขอเรียกร้องต่อ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไว้ตรงนี้ว่า ขอให้รัฐบาลนำ เอกสารเอ็มโอยู 43 ที่รัฐบาลประชาธิปัตย์สมัย นายกฯชวน หลีกภัย ไปเซ็นไว้กับ กัมพูชา ออกมาเปิดเผยต่อประชาชน และชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า ได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไรตรงไหน ไม่ใช่มาพูดกันลอยๆ

และขอเรียกร้องให้เปิดเผย เอกสารฝ่ายกัมพูชา ที่ยื่นเสนอต่อ คณะกรรมการมรดกโลก ขอจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร เพื่อให้คนไทยได้รู้ว่า เขมรเสนออะไร คนไทยรับได้หรือไม่ ที่สำคัญ จะได้ ติดตามตรวจสอบรัฐบาล ได้ทำการบ้านเพื่อแก้ไขปัญหานี้ในการประชุมมรดกโลกปีหน้าอย่างไร

เอกสารทั้งสองเรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญครับ มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยโดยตรง รัฐบาลจะมาพูดแบบรู้กันเองไม่กี่คนไม่ได้ คนไทยจะต้องร่วมรับรู้ทั้งประเทศครับ จะได้ตัดสินใจถูก จะเชื่อใครดี.

จากคอลัมณ์ หมายเหตุประเทศไทย
นสพ. ไทยรัฐ 5 ส.ค. 53


Posted by : RR , Date : 2010-08-05 , Time : 14:43:22 , From IP : 172.29.1.118

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.002 seconds. <<<<<