ประชานิยมอย่างนี้ ประเทศหายนะ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ครม. นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เห็นชอบ โครงการปลูกยางพาราในพื้นที่ใหม่ทั่วประเทศ ระยะที่ 3 จำนวน 800,000 ไร่ ใช้งบประมาณ 3,974.56 ล้านบาท ตามที่รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เสนอในฐานะประธานกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ
มิไยที่ คุณอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสภาพัฒน์ จะแสดงความเห็นคัดค้าน แต่ เทพเทือก เสียอย่าง ก็ดันทุรังผ่านจนได้ เพราะ นายกฯมาร์ค ไม่กล้าหือ
เงินภาษีเกือบ 4,000 ล้านบาท ที่ นายสุเทพ จะนำไป "แจกฟรี" ให้ "เกษตรกรหน้าใหม่" ที่เป็นใครบ้างยังไม่รู้นี้ แบ่งเป็น ค่าพันธุ์ยางและปุ๋ย 2,823.20 ล้านบาท ค่าฝึกอบรม ปลูกยาง 800 ล้านบาท นับเป็นค่าสอนที่แพงมหาโหดจริงๆ ที่เหลือเป็น ค่าบริหารจัดการโครงการ อีก 351.36 ล้านบาท
ตามข่าวบอกว่า เมื่อ นายสุเทพ เสนอ ครม. คุณอำพน เลขาธิการสภาพัฒน์ได้คัดค้านว่า โครงการนี้เกษตรกรจะได้ผลตอบแทนสูงถึง 224,000 บาทต่อ 10 ไร่ เป็นผลตอบแทนที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับพืชเศรษฐกิจอื่น จึงไม่ควรให้เปล่า แต่ควรสนับสนุนในลักษณะสินเชื่อผ่อนปรน มีระยะเวลาปลอดหนี้ยาวกว่าปกติ ให้เกษตรกรเสนอโครงการเอง เพื่อ รับสินเชื่อโดยตรงจากสถาบันการเงิน (มิฉะนั้นอาจจะมี "เกษตรกรนอมินี" เหมือน "รัฐมนตรีนอมินี" ขึ้นมาได้)
แหล่งข่าวบอกว่า ข้อเสนอของ คุณอำพน ได้ทำให้ นายสุเทพ ไม่พอใจมาก ยืนยันจะต้องทำให้ได้ ทำให้ นายกฯอภิสิทธิ์ ต้องผ่านแต่โดยดี เมื่อนายกฯกลายเป็นหัวหลักหัวตอใน ครม.เสียอย่างนี้ อีกหน่อยจะมีข้าราชการคนไหนกล้าลุกขึ้นมาคัดค้านโครงการของนักการเมืองที่ส่อไปในทางที่ไม่ชอบมาพากล หรืออาจเปิดช่องให้มีการทุจริตโกงกันได้ในอนาคต
เป็นเรื่องที่ นายกฯอภิสิทธิ์ ควรจะต้อง แสดงความรับผิดชอบ ให้เห็น ถ้าเงินภาษีประชาชน 4 พันล้านบาท ก้อนนี้เสียหายขึ้นมา นายกฯจะรับผิดชอบอย่างไร
วันนี้ "ยาง" ถือเป็นสินค้าเกษตรที่ดีที่สุด ทำรายได้ให้เกษตรกรสูงสุด จากเดิมราคายาง กิโลละ 20-30 บาท วันนี้ราคายางพุ่งขึ้นไป 500 เปอร์เซ็นต์ เป็น กิโลละ 100 กว่าบาท ทำให้ นักการเมืองทุกภาค หันมาสนใจปลูกยางกันใหญ่
คำถามที่จะต้องถาม นายกฯอภิสิทธิ์ ก็เหมือนกับคำถามที่ เลขาฯอำพน ถามใน ครม. คือ สินค้าเกษตรที่ได้กำไรสูงอย่างนี้ ทำไมรัฐบาลจึงต้องเอาเงินภาษีของประชาชนไปอุ้ม "แจกฟรี" ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกอีก มี "เจตนาอื่นแอบแฝง" หรือไม่ ทำไมเกษตรกรที่เดือดร้อนซ้ำซาก เช่น ชาวนา ปลูกข้าวขาดทุนทุกปี รัฐบาลจึงไม่ แจกพันธุ์ข้าวฟรีปุ๋ยฟรี เหมือนเกษตรกรยางหน้าใหม่บ้าง
นายกฯควรจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนผู้เสียภาษี ให้ความเป็นธรรมต่อเกษตรกรทุกกลุ่ม ไม่ใช่ "เกรงใจกันส่วนตัว" แล้วปล่อยให้นำเงินภาษีของประชาชนไปแจกกันอย่างล้างผลาญอย่างนี้ อย่าง เงินค่าสอนปลูกยาง 800 ล้านบาท เฉลี่ยออกมาคิดเป็น ค่าสอนไร่ละ 1,000 บาท บ้าไปแล้ว ค่าสอนอะไรมันแพงอย่างนี้ สอนปลูกกันทีละต้นหรือไง แล้วนายกฯก็หลับหูหลับตาอนุมัติไปได้ อย่างนี้จะเรียกว่าบริหารประเทศได้อย่างไร
ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของ เลขาฯอำพน ว่า โครงการที่มีกำไรดี อย่างนี้รัฐบาลควรจะ "สอนให้เกษตรกรรู้จักทำมาหากินเอง" โดยรัฐเป็นพี่เลี้ยง ไม่ใช่สอนให้แบมือขอฟรีจากรัฐบาลอย่างเดียว หรือว่าเกษตรกรไทยฉลาดขึ้น รู้จักทำมาหากินเอง ไม่ต้องแบมือขอจากรัฐบาล นักการเมืองไม่ชอบ เพราะ ไม่มีเอี่ยว
นอกจากนี้ "เกษตรกรหน้าใหม่" ที่จะมา "รับแจกฟรี 4 พันล้าน" ยังไม่รู้เป็นใคร จะมี "เกษตรกรนอมินี" หรือ "รายชื่อผีๆ" โผล่มาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้
วันนี้บ้านเมืองเสียหายไปเยอะแล้ว ผมหวังว่า นายกฯอภิสิทธิ์ จะได้คิดให้รอบคอบ ไม่ควรทำให้ประเทศเสียหายมากไปกว่านี้อีก ผมไม่ได้คัดค้านโครงการนี้ แต่ผม "คัดค้านวิธีการ" เพราะเอื้อให้มีการทุจริตได้ง่าย.
Posted by : Nick , Date : 2010-07-09 , Time : 13:14:58 , From IP : 172.29.1.73
|
