ความคิดเห็นทั้งหมด : 0

เริ่มแล้ว กระเช้าลอยฟ้า มูลค่ากว่า 300 ล้านขึ้นเขาคอหงส์


   






ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – “นครหาดใหญ่” เบิกฤกษ์ลงฐานรากโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นเขาคอหงส์มูลค่า 381 ล้านบาทในระยะที่ 1 แล้ว ส่วนโครงการระยะที่ 2 และ 3 กำลังจะเปิดประมูลตามมาติดๆ มั่นใจปี 2554 จะแล้วเสร็จและถือเป็นจุดขายใหม่การท่องเที่ยว วาดหวังใช้ดึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลย์-สิงคโปร์ให้เพิ่มมากขึ้น เพราะถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการขึ้นไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม พระพุทธมงคลมหาราชและพระพรหมบนเขาคอหงส์ อีกทั้งสามารถมองเห็นทั้งเมืองหาดใหญ่และวิวทะเลสาบสงขลา

นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการ” ถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นเขาคอหงส์ (Cable Hat) ซึ่งจุดที่จะสร้างอยู่บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ว่า ขณะนี้ได้เริ่มลงมือก่อสร้างฐานรากของโครงการในระยะที่ 1 แล้ว โดยได้สร้างเสาตอหม้อจากสถานีที่ 3 บริเวณพระพุทธมงคลมหาราช ไปยังสถานีที่ 4 บริเวณศาลท้าวมหาพรหม ระยะทางรวม 524.4 เมตร ซึ่งโครงการระยะที่ 1 นี้จะใช้เวลาก่อสร้างราว 18 เดือน

สำหรับโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นเขาคอหงส์จะใช้เงินลงทุนรวม 381 ล้านบาท โดยเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ไปแล้วเมื่อเดือน มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมๆ กับโครงการก่อสร้างศูนย์วิทยาศาสตร์ดาราศาสตร์นครหาดใหญ่ ซึ่งจะใช้เงินลงทุน 67 ล้านบาทและจะตั้งอยู่บนเขาคอหงส์เช่นกัน อันเป็นไปตามนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการศึกษา ณ บริเวณลานพระพุทธมงคลมหาราช สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่

นายไพรกล่าวว่า ตอนนี้โครงการก่อสร้างกระเช้าขึ้นเขาคอหงส์ยังเดินหน้าได้เฉพาะโครงการในระยะแรกเท่านั้น โดยมีผู้รับเหมาก่อสร้างที่ชนะการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์คือ หจก.เพิ่มพูนวิศวกรรม ด้วยวงเงิน 181.76 ล้านบาท ตามสัญญาให้นับวันเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2552 และกำหนดให้แล้วเสร็จในวันที่ 5 เม.ย.2554 ส่วนการก่อสร้างโครงการในระยะต่อๆ กำลังอยู่ระวางเตรียมกำหนดราคากลางและจัดให้มีการประมูลหาผู้รับเหมาต่อไป

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นเขาคอหงส์ระยะที่ 2 จะเริ่มจากสถานีที่ 1 บริเวณสนามเด็กเล่นในสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ที่เป็นพื้นราบ ขึ้นไปยังสถานีที่ 2 บริเวณศาลเจ้าแม่กวนอิมบนเนินเขา ด้วยระยะทาง 500 เมตร และโครงการระยะที่ 3 จากสถานีที่ 2 บริเวณศาลเจ้าแม่กวนอิม ขึ้นเขาคอหงส์ต่อไปยังสถานี 3 บริเวณพระพุทธมงคลมหาราช ระยะทาง 220 เมตร ซึ่งการก่อสร้างโครงการระยะที่ 2 และ 3 จะใช้งบประมาณรวมกันราว 200 ล้านบาท

นายไพรกล่าวต่อไปว่า ตามแผนโครงการนี้เทศบาลนครหาดใหญ่จะมีการนำเข้ากระเช้าไฟฟ้าระบบเดินหน้า-ถอยหลัง (Jig Back) จำนวน 2 คันจากประเทศออสเตรีย ซึ่งจะทำให้โครงการกระเช้าขึ้นเขาคอหงส์มีมาตรฐานเดียวกันกับกระเช้าไฟฟ้าของประเทศสิงคโปร์ โดยจะเป็นกระเช้าที่มีความสูงระหว่าง 2 สถานี 58.1 เมตร สามารถบรรทุกผู้โดยสารขาละ 8 คน หรือ 165 คน/1 ชม. วิ่งด้วยความเร็ว 5 เมตร/วินาที

“โครงการนี้เป็นไปตามนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งได้มุ่งหวังให้กระเช้าลอยฟ้าขึ้นเขาคอหงส์ ณ สวนสาธารณะนครหาดใหญ่เป็นจุดขายใหม่ทางการท่องเที่ยว ที่นอกเหนือจากความโดดเด่นในศักยภาพด้านอื่นๆ เราเชื่อมั่นว่าเมื่อโครงการเสร็จจะช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ ต่างต้องการขึ้นไปสักการะพระพุทธมงคลมหาราชและพระพรหมบนเขาคอหงส์ อันจะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้คนในท้องถิ่นมากขึ้นด้วย”

นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่กล่าวถึงแผนการประชาสัมพันธ์โครงการกระเช้าขึ้นเขาคอหงส์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ว่า จะใช้วิธีการประสานไปยังเอเยนซีทัวร์ทั้งในไทยและในต่างประเทศให้ช่วยโปรโมต และในส่วนของเทศบาลฯได้เตรียมแผนทำโฆษณาไว้แล้ว ซึ่งในช่วงที่โครงการใกล้จะเสร็จหรือประมาณปี 2554 คงจะออกมาเป็นล็อตใหญ่ และขณะนี้สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ก็พร้อมให้ความร่วมมือติดต่อไปยังเอเยนซีต่างๆ อีกทางหนึ่งด้วย


Posted by : JoeJo , Date : 2010-07-01 , Time : 14:37:29 , From IP : 172.29.1.119

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<