สธ."เคลื่อนไหวแยก"ก.พ."
* การศึกษา-สาธารณสุข* ไทยโพสต์ออนไลน์
18 มิถุนายน 2553 - 00:00
" ปลัด สธ." เตรียมตั้งคณะทำงานแยก สธ.ออกจาก ก.พ. เสนอทางเลือกจัดตั้งกองทุน "สธ." รูปแบบเดียวกับ กบข. ให้เงินเดือนมากกว่าข้าราชการ 1.5 เท่า เกษียณได้รับเงิน 3-5 ล้านบาท ยกเหตุผล หากผูกกับระบบ ก.พ.มีปัญหาจัดงบฯ และขาดแคลนกำลังคนตลอดไป พร้อมเริ่มล่ารายชื่อเสนอ "ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการ สธ." แล้ว
ในการประชุมสัมมนาเรื่อง "การแยกข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกจาก กพ." เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรและค่าตอบแทนของ สธ. จัดโดยแพทยสภา มีแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ สธ.เข้าร่วมกว่า 500 คน ซึ่งภายในงานมีการเปิดลงนามเพื่อรวบรวมรายชื่อเสนอ "ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการ สธ. พ.ศ. ..."
นพ.ไพจิตร วราชิต ปลัด สธ. ประธานเปิดสัมมนา กล่าวว่า วันนี้ที่มีผู้เข้าร่วมสัมมนามากเพราะต่างเห็นตรงกันว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา ใหญ่ต้องเร่งจัดการ ซึ่งขณะนี้ สธ.มีข้าราชการและลูกจ้างกว่า 240,000 คน และลูกจ้างชั่วคราวกว่า 100,000 คน ซึ่งทางออกมี 3 แนวทาง คือ 1.คงระบบไว้เช่นเดิม และขอตำแหน่งบรรจุเพิ่มจาก กพ. 2.การแยก สธ.ออกจาก กพ.ตามที่มีการเสนอ และ 3.การจัดตั้งกองทุนของ สธ.เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่ในระบบพิเศษขึ้นมา รูปแบบบริหารเช่นเดียวกับกองทุน บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) มีการจ่ายเงินสมทบระหว่างภาครัฐและเจ้าหน้าที่ ซึ่งพนักงานและเจ้าหน้าที่ทำงานในระบบนี้จะได้เงินเดือนสูงกว่าข้า ราชการ 1.5 เท่า และหลังเกษียณได้รับเงินจากกองทุน 3-5 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นทางออกต้องศึกษาระยะยาว ในการประชุมมีผลสรุปอย่างไรให้นำเสนอมา ยังตน และจะมีการตั้งคณะทำงาน 1 ชุดขึ้นมาศึกษาและดำเนินการ โดยให้ นพ.เสรี หงส์หยก รองปลัด สธ. เป็นประธาน หลังจากนั้นจะทำประชาพิจารณ์เพื่อถามความเห็นเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุก ฝ่าย
นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกันหลังจากที่แพทยสภาได้รับฟังปัญหาที่เกิด จากระบบการบริหารไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ของสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ก่อให้เกิดปัญหาอัตรากำลังคน ปัญหาค่า ตอบแทน ภาระงาน ซึ่งงาน สธ.จะเปรียบเทียบและบริหารเหมือนกระทรวงอื่นคงไม่ได้เพราะเป็นงานบริการ อีก ทั้งตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน แม้จะเปิดไว้ว่าการพิจารณาเงินเดือน ค่าตอบ แทนต้องเป็นไปตามกลไกตลาดและค่าของงาน แต่ ก.พ.ก็ไม่เคยปฏิบัติตามนี้ ทั้งๆ ที่แพทย์พยาบาลถือเป็นวิชาชีพ ดังนั้นจึงต่างเห็นพ้องว่าควรแยกกระทรวงสาธารณสุขออกจาก ก.พ.
"ในช่วง 5 ปีนี้จะมีแพทย์จบใหม่ประมาณ 10,000 คน แต่ ก.พ.อนุมัติตำแหน่งให้ได้ไม่ถึง 2,000 ตำแหน่ง ขณะที่พยาบาลจบใหม่ตามนโยบายการผลิตของกระทรวงจำนวน 3,000 คน ก็ยังไม่มีตำแหน่งให้ หากปล่อยไว้เช่นนี้ก็จะเป็นปัญหาแน่นอน" เลขาธิการแพทยสภากล่าว และว่า ทั้งนี้เราไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องยึดแนวทางเฉพาะการแยก สธ.จาก ก.พ.เท่านั้น แต่หากมีแนวทางอื่นๆ ที่ช่วยตอบโจทย์ปัญหาได้ก็ยินดี
นพ.ธงชัย ซึงถาวร ประธานชมรม รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป กล่าวว่า สธ.มีระบบการบริหารที่แตกต่างจากกระทรวงอื่นๆ เพราะมีเงินบำรุง รพ.ที่มาจัดการบริหารได้ อีกทั้งเงินเดือนยังผูกอยู่กับงบเหมาจ่ายรายหัว คิดเป็นร้อยละ 60 ของงบประมาณที่จัดสรรให้ รพ. จึงเห็นได้ว่า ขณะนี้เราไม่ได้อยู่ในระบบ ก.พ.แล้ว จึงไม่ควรผูกมัดกระทรวงไว้ อีกทั้งขณะนี้ สธ.มีลูกจ้างชั่วคราวจำนวนมาก เฉพาะที่ รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป มีเกือบ 10,000 คน บางคนทำงานมาเกือบ 20 ปี ไม่ควรใช้คำว่าลูกจ้างชั่วคราวแล้ว แต่ก็บรรจุให้ไม่ได้เพราะไม่มีตำแหน่ง ซ้ำเงินที่จ้างยังนำมาจากเงินบำรุง รพ.ที่เหลืออยู่ไม่มากที่ถูกบีบจากงบเหมาจ่ายรักษาฟรีก่อนหน้านี้...............
Posted by : กระปุกชั้นแปด , Date : 2010-06-19 , Time : 22:53:38 , From IP : 172.29.5.59
|
