ความคิดเห็นทั้งหมด : 2

ตราบใดที่ “แม้ว”ยังอยู่-เงินไม่หมด คนไทยก็อย่าหวังเป็นสุข !!




   ตราบใดที่ “แม้ว”ยังอยู่-เงินไม่หมด คนไทยก็อย่าหวังเป็นสุข !!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2553 23:05 น.


ผ่าประเด็นร้อน

"เพราะตราบใดที่ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนาทีนี้ถือว่าเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้าย เป็น “หัวหน้าขบวนการล้มเจ้า” ยังมีชีวิตอยู่ และที่สำคัญยังมีเงินเหลืออยู่เต็มกระเป๋า เมื่อนั้นคนไทยและประเทศไทยก็ไม่มีวันสงบสุข เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “แรงอาฆาต” นั้นไร้ขีดจำกัด"

คำประกาศของ ทักษิณ ชินวัตร หลังจากถูกศาลอนุมัติหมายจับข้อหา “ผู้ก่อการร้าย” ยืนยันต่อสู้ดิ้นรนต่อไป พร้อมทั้งส่งข้อความสั้นมาถึงบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายว่า “อย่าท้อ ให้สู้ต่อไป” นั่นเป็นการส่งสัญญาณอันตราย

และนั่นย่อมหมายความว่าในอนาคตอีกไม่นานนักคนไทยก็จะต้องเจอเหตุการณ์ร้ายขึ้นอีก เพียงแต่ว่ารูปแบบอาจจะมาในรูปแบบใหม่ ไม่ใช่ในลักษณะของการชุมนุมเพื่อแอบอ้างประชาธิปไตยบังหน้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่หมายความว่าจะมาในลักษณะของการเคลื่อนไหว “ใต้ดิน” และการ “ก่อการร้าย” เต็มรูปแบบ

แม้ว่าเมื่อมีการพิจารณาเปรียบเทียบจากหลายประเทศว่าการเคลื่อนไหวแนวทางแบบนี้อาจจะประสบความสำเร็จได้ยากก็ตาม แต่หากเป็นการสนองตอบต่อ “ปมแค้น” ส่วนตัวมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในความหมายของคำพูดในลักษณะที่ว่า “หากตัวเองไม่ได้ในสิ่งต้องการ คนอื่นก็อย่าหวังอยู่เป็นสุข” หรือ “ถ้าหากไม่หยุดตามล่าและนิรโทษปรองดองบ้านเมืองก็จะ เละ”

สัญญาณอันตรายดังกล่าวกำลังจะมาถึงอีกรอบ เมื่อ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิ์วิชัย ได้ออกมาเปิดเผยให้เห็นภาพคร่าวๆว่าเวลานี้มีกลุ่ม “แดง” กำลังเคลื่อนไหวรวบรวมกำลังคนเพื่อก่อการในลักษณะใต้ดิน

สอดรับกับคำพูดของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่กำชับให้ฝ่ายทหารเข้มงวดในเรื่องคลังอาวุธ และการลอบสังหารบุคคลสำคัญ ทั้งนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมไปถึงบุคคลอื่นที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีสังหาร

ที่ผ่านมาเป็นที่รับรู้กันไปทั่วว่า ทักษิณ ไม่เคยหยุดนิ่ง ทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางหวนคืนสู่อำนาจ และได้ทรัพย์สินที่ศาลสั่งยึดไปจากคดีทุจริต และกรณีเหตุการณ์จลาจลเผาบ้านเมืองของคนเสื้อแดงที่เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ ทุกคนก็เข้าใจดีว่าเขานั่นแหละอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง

แม้ว่าในเหตุการณ์ “รบพุ่ง” กันกลางเมืองเมื่อวันที่ 19 พ.ค.จะยุติลง และแกนนำเสื้อแดง จนทำให้หลายคนถูกควบคุมตัว ถูกตามล่าจนแตกกระสานซ่านเซ็นก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ เพราะ “หัวหน้าใหญ่” คือ ทักษิณ ยังอยู่ และคนเสื้อแดงทั่วประเทศที่ผ่านการปลุกระดมมาอย่างต่อเนื่องนานเป็นปี ข้อมูลบิดเบือนถูกฝังหัวจนเข้าไปในเนื้อ ยากที่จะเปลี่ยนแปลงในเวลาอันสั้น รอเพียงจังหวะเวลากลับมาใหม่อีกรอบ และคราวนี้หายนะจะร้ายแรงกว่าเดิมหลายเท่า

อย่างไรก็ตามภาพความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นล้วนเป็นภาพลวงตา เป็นการ “บิดเบือน” ข้อมูลอย่างเป็นระบบ ผ่านทางเครือข่ายสื่อเสื้อแดงไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุชุมชน สื่อสิ่งพิมพ์ หรือแม้กระทั่งสื่ออินเตอร์เน็ต ทุกอย่างได้กระทำอย่างครบวงจร แต่ที่ผ่านมาฝ่ายรัฐได้ปล่อยปละละเลย ไม่ยอมตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ปล่อยให้เกิดความเสียหายแล้วค่อยตามแก้ภายหลัง

หากสังเกตไม่ว่ากรณี “ขบวนการล้มเจ้า” ที่กว่าจะขยายเติบโตเป็นเครือข่ายใหญ่โตจนทุกวันนี้ ก็มีการเคลื่อนไหวกันอย่างต่อเนื่อง มีการประสานกันทั้งภายในและต่างประเทศ นับวันเหิมเกริมและท้าทายมากขึ้น จนในที่สุด รัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพิ่งมีการเปิดโปงแถลงให้เห็นรายชื่อบุคคลที่ร่วมอยู่ในขบวนการดังกล่าวว่ามีใครบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าก็เป็นกลุ่มเดียวกับที่สังคมได้รับรู้กันไปตั้งนานแล้ว

ขณะเดียวกันหลังจากเกิดการเผาราชประสงค์ เผาศาลากลางกันเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ก็เพิ่งมาตามไล่ปิดวิทยุชุมชน ปิดสื่อล้มเจ้า หรือก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุร้ายก็มีการสั่งตัดสัญญาณโทรทัศน์ดีสเตชั่น พีเพิลชาแนล ทุกอย่างแทบจะเรียกได้ว่าสายเกินการณ์แทบทั้งสิ้น

รู้กันอยู่ว่าสื่อเสื้อแดงดังกล่าวล้วนเป็นชนวนปลุกระดมด้วยข้อมูลเท็จ ให้ชาวบ้านเข้าใจผิดและก่อให้เกิดความเกลียดชังอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

เพราะถ้าพิจารณาจากความเป็นจริงแล้ว ชาวบ้านหรือกลุ่มผู้สนับสนุน ทักษิณ ส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้ข้อมูลที่บิดเบือน และฝังหัวจากจากมายานโยบายประชานิยม แต่ที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่เคยใช้สื่อของรัฐชี้แจงความจริงให้คนเหล่านั้นได้เข้าใจอย่างตรงประเด็น

หากพิสูจน์ให้เห็นเปรียบเทียบชัดเจนก็คือกรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่มีการใช้โฆษกของ ศอฉ. พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด และ โฆษกรัฐบาล ปณิธาน วัฒนายากร ออกมาแถลงชี้แจงโดยการใช้หลักฐานที่เป็นภาพถ่าย เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมและอธิบายความเป็นจริงอย่างได้ผล ให้เห็นว่าแท้ที่จริงแล้วมี กองกำลังติดอาวุธ ใช้เด็ก มีการใช้ความรุนแรงแอบแฝง จนทำให้ความชอบธรรมลดลงเรื่อยๆ

นี่คือตัวอย่างของการใช้ประโยชน์ของการใช้สื่อเพื่อชี้แจงความจริง ต่างจากการโฆษณาชวนเชื่อ อย่างสิ้นเชิง ซึ่งหากรัฐบาลตื่นตัวและนำมาใช้ตั้งแต่แรกทุกอย่างก็จะไม่เลวร้ายอย่างที่เป็นอยู่ ในทางตรงกันข้ามหากยังคิดที่จะปรองดองโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ หรือยังไม่ยอมปรับปรุงพฤติกรรมการทำงานของข้าราชการ “นอกรีต” ทั้งหลายให้หมดไปโดยเร็ว บ้านเมืองก็จะหนีไม่พ้นวัฏจักรความปั่นป่วนไปได้

เพราะตราบใดที่ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนาทีนี้ถือว่าเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้าย เป็น “หัวหน้าขบวนการล้มเจ้า” ยังมีชีวิตอยู่ และที่สำคัญยังมีเงินเหลืออยู่เต็มกระเป๋า เมื่อนั้นคนไทยและประเทศไทยก็ไม่มีวันสงบสุข เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “แรงอาฆาต” นั้นไร้ขีดจำกัด !!








Posted by : thiopental , Date : 2010-05-28 , Time : 08:18:17 , From IP : 118.173.146.47.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 1




   การเมืองก้อคือการเมือง วันนี้วันวิสาขบูชา ขอให้ตั้งอยู่ในความสะอาด สว่าง สงบ มีจิตใจเข้มแข็งทุกคนครับ

Posted by : thiopental , Date : 2010-05-28 , Time : 08:22:29 , From IP : 118.173.146.47.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 2


   ตราบใดที่สื่อยังให้ความสำคัญกับคนชื่อทักษิณ โดยนำข้อมูลความต้องการของคนๆนี้มาประกาศให้สังคมโดยเฉพาะคนบางกลุ่มรับรู้อยู่ และรัฐบาลยังเป็นรัฐบาลที่ไม่มีอำนาจในการบริหารที่แท้จริง คนไทยก็คงต้องทำใจ ก็ได้แต่หวังไว้ว่าคงไม่ต้องให้ทำใจกันนานเกินไป เพราะเมื่อหมดเวลาทำใจนั้นมาถึงก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกต่อไป

Posted by : ภูผาหน้าฝน , Date : 2010-05-29 , Time : 10:28:35 , From IP : 172.29.14.182

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<