ความคิดเห็นทั้งหมด : 2

คลัง เสนอครม.ออกมาตรการคุมเข้มเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลข้าราชการอีกรอบ


   คลังผวารายจ่ายปี"53 ทะลุ 1 แสนล้าน เสนอครม.ออกมาตรการคุมเข้มเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลข้าราชการอีกรอบ หลังพบใช้ยาแพง-มีการจ่ายยาจำนวนมาก

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า คลังเตรียมเสนอมาตรการควบคุมการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเห็นชอบ ประกอบด้วยมาตรารควบคุมการใช้ยาในกลุ่มยา 9 กลุ่ม และมาตรการให้มีการศึกษาระบบการออมเพื่อสุขภาพ ซึ่งในประเทศสิงคโปร์ใช้อยู่ โดยรัฐบาลจ่ายเงินสมทบเพื่อตั้งเป็นกองทุนเพื่อสุขภาพของประชาชน

ทั้งนี้คลัง เตรียมเสนอเรื่องนี้ตั้งแต่การประชุม ครม. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากมีวาระการประชุมมากจึงถึงเลื่อนออกมาก่อน

สำหรับการออกมาตรการควบคุมค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ เพราะการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมา มีการเบิกจ่ายวงเงิน 7 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้ 80% เป็นการจ่ายให้กับข้าราชการที่ไปรักษาเป็นผู้ป่วยนอก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายาที่ใช้รักษา ที่เหลืออีก 20% เป็นข้าราชการที่เป็นผู้ป่วยใน ขณะเดียวกันยังพบว่า มีโรงพยาบาลประมาณ 34 แห่ง ที่เป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย เบิกค่ารักษาพยบาลเป็นสัดส่วนถึง 90% ของวงเงินทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ก็พบตามสมมุติฐานที่กรมบัญชีกลางตั้งไว้ คือ มีการใช้ยาแพง ยาผลิตนอกไม่ใช้ยาบัญชีหลัก และก็มีการจ่ายยาจำนวนมาก

นอกจากนี้ หากไม่มีมาตรการควบคุมค่ารักษาพยาบาลปีงบประมาณ 2553 จะเพิ่มเป็น 1.05 แสนล้านบาท และในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือปี 2563 จะสูง 1.56 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นภาระกับงบประมาณจำนวนมาก

ที่มา นสพ.กรุงเทพธุรกิจ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20100303/103027/คลังชงคุมเข้มเบิกค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ.html


Posted by : ช่วย , Date : 2010-03-03 , Time : 12:57:35 , From IP : 172.29.1.210

ความคิดเห็นที่ : 1


   จะขอออกจากราชการไปใช้ 30บาทแล้วนิ หวังฝากผีฝากไข้กับราชการยามแก่เฒ่า แต่ถูกรังแกเข้าไปทุกวัน ร้อยวันพันปีไม่เคยป่วย โทดใครดี ระบบอีกล่ะสิ ก็เห็นยาราคาแพงของมอ.ไม่เคยเบิกได้ ต้องไปซื้อเงินสดจากรพ.ใกล้เคียง แบบนี้ยังบอกว่าใช้ยานอกอีกเหรอ???

Posted by : กระปุกชั้นแปด , Date : 2010-03-03 , Time : 17:08:57 , From IP : 172.29.17.76

ความคิดเห็นที่ : 2


    คลังน่าจะกำหนดโควต้าหรือวงเงินการรักษาพยาบาลตลอดชีวิตของขรก.แต่ละคนนะ ใครใช้งบรักษาพยาบาลน้อยน่าจะได้รับเงินคืนเป็นการตอบแทนที่มีสุขภาพดี อาจกำหนดวงเงินตามชนิดโรคก็ได้ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าใจร้าย ใช้งานและให้เงินเดือนน้อย เจ็บป่วยก็ไม่รักษาให้ดีเสียอีก ตอนนี้คลังจ่ายกันเต็มที่แล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์ ทุกคนก็เลยป่วย แพทย์ก็รักษากันไม่หวาดไม่ไหว รักษาน้อยก็ถูกด่า รักษาเต็มที่เพราะก็หัวอกเดียวกัน ก็เหมือนพ่อแม่เราเหมือนกัน งบก็บาน เทคโนโลยี่ก็แพงขึ้นทุกวัน คนก็มีโอกาสดีขึ้น มีเจ้ามือจ่าย ก็ย่อมต้องเต็มที่หน่อย ไม่ใช่ว่าอยากป่วยซะเมือ่ไหร่กัน แต่ถ้าทุกคนแข็งแรงและรักษาแต่พอดี ซ้ำยังมีเงินเพิ่มกลับคืนมาด้วย ก็ยิ่งมีแรงจูงใจให้ดูแลสุขภาพ ราชการก็จะมีแต่ข้าราชการที่สุขภาพดี มีครอบครัวที่สุขภาพดี ประสิทธิภาพของระบบราชการก็คงดีขึ้นอีกมาก เพราะข้าราชการก็ไม่ต้องเทียวพาญาติหาหมอ ไม่เป็นอันทำงานทำการอย่างปัจจุบัน
การควบคุมเรื่องยาอย่างเดียวคงได้ผลยาก ตัวเลขค่ารักษาพยาบาลก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ได้ผล คงต้องใช้การบริหารจัดการด้านการเงินน่าจะได้ผลกว่า
เห็นด้วยกับคุณกระปุกชั้นแปด เพราะเราก็อยู่มาจนจะเกษียณแล้ว ไม่เคยเจ็บป่วยอะไรเลย เบิกแต่ยาแก้ปวดหัวตัวร้อน และยาบำรุงนิดหน่อย ตอนนี้ก็ไม่ให้เบิกแล้วไอ้ยาบำรุงนี่น่ะ คิดอยู่เหมือนกันว่าตอนแก่พอป่วยเข้าจริงๆ คงเบิกอะไรไม่ค่อยได้แล้ว รู้สึกว่าสวัสดิการหดตัวตามความตึงของผิวหนังของเราไปด้วย อิอิ ตอนนี้ก็ต้องเริ่มประหยัดเรื่องเสื้อผ้า เก็บตังไว้เผื่อต้องจ่ายค่ายาพิเศษบางตัว ค่ารากฟันเทียม เข่าเทียม เลนส์ตาเทียม รวมทั้งค่าห้องพิเศษหากต้องนอนรักษาในรพ.เอกชน เพราะตอนนี้เตียงรพ.มอ ก็เต็มเหลือเกิน


Posted by : Doreme , Date : 2010-03-04 , Time : 16:22:48 , From IP : 172.29.13.250

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<