ความคิดเห็นทั้งหมด : 14

Debate LII: Casino...... Should we have it?


   ไหนๆก็ชวนอภิปรายด้านการจดทะเบียนโสเภณีแล้ว เอาเรื่องใกล้ๆกันอีกสักเรื่อง ประเทศไทยควรเปิดบ่อนการพนันแบบ Casino หรือไม่ เพราะเหตุใด อะไรเป็นข้อดีข้อเสีย

ลอกๆมาก็ได้ แต่ขอให้สรุปและใส่ความเห็นของพวกเราลงมาด้วยตอนท้ายยิ่งดีนะครับ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-28 , Time : 10:06:22 , From IP : 172.29.3.110

ความคิดเห็นที่ : 1


   เรารู้ เราเห็นว่าสิ่งดังกล่าวมีจริงและเกิดขึ้นจริง
แต่เราพยายามบิดเบือนว่ามันไม่มี
เพราะเราแก้ไขปัญหาไม่ได้
หรือเพราะไม่อยากแก้
วันดีคืนดี ใครคนหนึ่งก็เลยบอกว่า
ทำมันให้ถูกกฏหมายแล้วกัน
ช่างแก้ปัญหาได้ไกลจากต้นตอเหลือเกิน
นี่หรือ คนใหญ่คนโต


Posted by : Aqua , Date : 2003-11-28 , Time : 14:40:07 , From IP : 202.129.48.122

ความคิดเห็นที่ : 2


   OK ผมคิดว่าจะปู background ของเรื่องนี้อีกสักนิดนึงก็แล้วกัน

การพนัน
ที่เรารู้ๆกันอยู่นั้นเป็นอบายมุข ที่ "สามารถ" นำไปสู่ความหายนะได้ แต่เราก็รู้ว่ามีหลายต่อหลายกิจกรรม รวมทั้ง "รัก" ที่ "สามารถ" นำไปสู่เส้นทางเดียวกัน ฉะนั้น "บริบท" น่าจะมีส่วนที่จะปรับให้กิจกรรม "ใดๆ" ให้มีทิศทางบวกหรือลบ มาลองดูที่ความหมายของ "การพนัน" ดูก่อนไม่ได้หามาจากหนังสือเล่มไหนหรอกนะครับ แค่ลองพยายามนิยาม

การพนัน คือ "การลงทุน ในรูปแบบใดแบบหนึ่งเพื่อหวังผลตอบแทน โดยที่ขาดข้อมูลที่ครบถ้วนของปัจจัยในการพยากรณ์ผล"

ถ้าเรารู้ปัจจัยมากพอที่จะคำนวณผลก็ไม่ใช่พนัน กิจกรรมหลายๆอย่างไม่น่าจะป็นการพนันแต่ก็เป็นได้ถ้าตกอยู่ในคำนิยามเบื้องต้น เช่น การเล่นหุ้น โดยไม่มีการศึกษาแต่ใช้วิธีถามเจ้าพ่อหลักเมืองว่าตัวไหนจะขึ้นจะลง การโยนลูกเต๋าถ่วงน้ำหนักก็ไม่ใช่พนันแต่เป็นการโกง กิจกรรมหลายๆอย่างที่เราทำอยู่ทุกวี่ทุกวันก็เป็นการพนันได้ตามนิยามนี้ เช่น การไปจีบสาวโดยไม่มีการศึกษาไตร่ตรองว่าเป็นยังไง (อาจพบทีหลังว่าเป็นกระเทยแปลงเพศ!!!) การข้ามถนนในประเทศไทยอาจจะเป็นการพนันได้ ถ้าเปอร์เซนต์ของคนที่เคารพกฎจราจรลดลงมากพอจนเราไม่สามารถพยากรณ์พฤติกรรมคนขับรถได้อย่างใช้เหตุผล ทีนี้ปัญหาสำคัญคือ "อะไรทำให้การพนันไม่ดี"

ที่ไม่ดีนั้น ถ้าดูจากนิยามก็คือ "โอกาส" ที่การลงทุนไม่คุ้มนั้นจะสูง สูงมากขึ้นแปรผกผันกับสัดส่วนการประสบความสำเร็จกับความล้มเหลว เช่น ทายลูกเต๋าหนึ่งลูกให้ถูก ก็ 6:1 ซื้อเลขท้ายสองตัวก็ 1:100 (เอาคร่าวๆนะครับ) ถามว่าอะไรที่จะเสีย ก็มี ส่วนที่ลงทุน กะ เวลาที่ใช้ ที่เหลือก็จะเป็น consequence จาก direct loss ทั้งสองประการนี้

มาถึงตรงนี้การพนันอาจจะไม่ใช่ Big Deal ถ้าคนพนันมีปัจจัยทั้งสองคือ ส่วนที่ลงทุน กับ เวลา เหลือเฟือไม่จำกัด ไม่มีวันหมด แต่เราจะพบว่ามีคนแบบนั้นน้อยมาก แต่ถ้าเปลี่ยนคำถามใหม่ว่ามีคนที่ "พอจะมี" ทั้งสองอย่างนี้ที่ "สามารถ" หรือ "afford" ที่จะ "เสีย" ได้ไหม คำตอบก็จะเหมือนกับที่หลายๆประเทศบนโลกใบนี้ทราบและเปิด Casino คือ "มี และมีมากพอสมควรด้วย" ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งที่ไม่ได้พูดถึงก่อนหน้านี้แต่เป็นสาเหตุสำคัญของเรื่องนี้คือ "อะไรที่เราอาจจะได้จากการพนัน" การได้สิ่งตอบแทนจากการพนันนั้นจะมีความสะใจ ความพึงพอใจที่สูง สูงมากไม่เป็นสัดส่วนกับส่วนที่เสีย คือเสียเป็นหมื่นเป็นแสนจากหลายๆตารวมกันนั้นสามารถลบล้างด้วยการได้เป็นพันเพียงครั้งเดียว sensation ของ "การได้" จากการพนันนั้น เกือบจะเหมือน Magic bullet ที่ทำให้โลกสวยงาม

ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละครับ มีคนที่ "คิดว่า" การพนันนั้นเหมือน consentiing adult คือเป็นกิจกรรมที่ผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบตนเองได้สามารถทำได้เพราะว่าไม่ได้หนักหัวใคร แต่การณ์ก็คือไม่ใช่ทุกคนที่ "คิดถูก" หรือ "ประเมิน" ถูกว่าเขาสามารถ "เสียได้" เท่าๆกับความเป็นจริง (ส่วนใหญ่จะเกินจริงไปมากๆๆๆๆ)





Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-29 , Time : 09:48:17 , From IP : 172.29.3.214

ความคิดเห็นที่ : 3


   การพนันคงเป็นสิ่งที่คนดีๆและคนที่รู้จักคุณค่าของเงินมากพอจะเข้าไปเกี่ยวข้องหรอกครับ การที่คนที่เข้าไปเล่นการพนัน หมายความว่าเงินของเค้าคงหมดความหมายแล้วมากกว่า ถ้าเช่นนั้นการที่นำเงินส่วนนั้นไปช่วยพัฒนาสังคมให้โอกาสแก่คนพิการและคนด้อยโอกาสมันคงจะดีกว่าการนำเงินเหล่านี้ไปซื้อสุราและบุหรี่ใช่ม้ยละครับ


Posted by : Cruz , Date : 2003-11-29 , Time : 14:34:27 , From IP : 203.113.76.8

ความคิดเห็นที่ : 4


   ประเทศไทยควรเปิดบ่อนการพนันแบบ Casino หรือไม่ เพราะเหตุใด
-ผมว่าควร เพราะผมเห็นด้วยนะกับความคิดที่ว่ามันมีอยู่แล้ว ทำให้มันถูกไปเลยจะได้ไม่ต้องเสียอะไรหลายๆอย่างโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย

อะไรเป็นข้อดีข้อเสีย
-ผมมองว่าปัจจุบัน การเล่นพนันผิดกฏหมายมีมากเหลือเกิน จนบางครั้งผมคิดว่าตำรวจก็ไม่สามารถจับได้หมด อาจมีเหตุผลหลายประการส่วนนึงที่ผมคิดไ้ด้คือเรื่องของงบประมาณในการปราบปราม ซึ่งหากเรามีการพนันถูกกฏหมายอาจหมายถึงเงินที่เพิ่มมากขึ้นในแง่ของการปราบปรามการพนันผิดกฏหมาย เมื่อการปราบปรามสัมถทธิ์ผล เงินก็จะเข้ามาสู่ประเทศอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และง่ายต่อการดูแลอย่างทั่วถึงเพราะเรารู้ว่าที่ใดมีบ่อนบ้าง

แต่ในปัจจุบันเราเสียเงินงบประมาณที่มาจากภาษีต่างๆเพื่อไปปราบปรามส่วนเหล่านี้โดยไม่ได้อะไรตอบแต่กลับมาเป็นทุนในการปราบปรามครั้งต่อไป เสียทั้งเวลาเจ้าหน้าที่ เสี่ยค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมพวกที่จับได้มาก็จะเป็นปลาเล็กปลาน้อย ไม่ได้ตัวใหญ่ๆ ผมมองอย่างไรก็ไม่คุ้ม

ที่ผมเขียนผมพูดรวมถึงการพนันอื่นๆด้วย ขอรับ

-ข้อเสียของการมี การพนันถูกกฏหมาย ผมรอให้ึคนอื่นมาเขียนต่อแล้วกันนะครับ


Posted by : เหอๆๆ , Date : 2003-11-29 , Time : 15:01:40 , From IP : 172.29.2.118

ความคิดเห็นที่ : 5


   ผมคิดว่าการที่การอภิปรายเรื่องนี้ในอดีตไม่ไปถึงไหนเพราะมีการ "ตราหน้า" หรือ "ตีคุณค่า" ของบุคคลเร็วเกินไป ข้อสำคัญคือสังคมต้องการความ "เคารพในสิทธิส่วนบุคคล" อยู่ด้วยอย่างมาก

ข้อคิดเห็นของคุณ Cruz นั้นผมเห็นด้วยบางส่วน การที่คนบางคนได้สูบบุหรี่ก็ย่อมจะไม่เป็นการดีไปกว่าการที่คนอื่นจะได้กินข้าวอย่างแน่นอน แต่เราควรจะ "ตราหน้า" หรือ condemn คนสูบบุหรี่ว่าเลวทรามหรือไม่? หรือทุกครั้งที่เราซื้อสินค้าราคาแพงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดแปลว่าฟุ่มเฟือยหรือไม่ หรือการที่เราเลือกซื้อรถยนต์ยี่ห้อนี้ๆ ใช้คอมพิวเตอร์ยี่ห้อนั้นๆ เป็นการดีกว่าหรือเลวกว่าการบริจาคเงินส่วนที่ "เกินมา" ให้ผู้ด้อยโอกาส เรากำลังพบตัวเองเดินอยู่บนขอบ slippery slope แล้วอาจจะเจอสถานการณ์ที่ "ยกเว้น" ถ้ามันเกิดกับตัวเราเอง หรือคนรักคนใกล้ชิดได้ง่ายๆ

การพนันคง "ไม่" เป็นสิ่งที่คนดีๆและคนที่รู้จักคุณค่าของเงินมากพอจะเข้าไปเกี่ยวข้องหรอกครับ
ขออนุญาตยกตัวอย่าง (คิดว่าตก "ไม่" ไปคำนึง ขอวิสาสะใส่ไปเอง) อย่างที่ผมบอกไว้ในกระทู้ลำดับที่สอง ผลอย่างหนึ่งของการพนันนั้นคือความรู้สึก "ดี" จากการชนะ ไม่ว่าจะเป็นนิดๆหน่อยๆ หรือหลังจากสูญเสียไปก่อนหน้านี้เยอะแล้ว อันนี้แหละที่เป็นส่วนหนึ่งที่การพนันดึงดูดความสนใจ เหมือนกับเล่นเกม ดูหนัง ดูภาพยนต์นั่แหละครับสามารถสร้างความบันเทิงสำหรับบางคนโดยที่บางคนอาจจะร้องยี้ ไม่มีวันจะย่างกรายไปใช้บริการอย่างว่าเป็นอันขาด ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไปเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง นั้นไม่ได้เป็น "คนดีๆ หรือคนที่รู้จักคุณค่าของเงิน" แต่อย่างใด แต่เป็นพฤติกรรมของ consent adult ที่พิจารณาแล้วว่าการใช้เงินที่เขาหามาได้ เพื่อแลกต่อความบันเทิง ความตื่นเต้น การได้ "ลุ้น" นั้นคุ้มค่า เป็นการตอบสนองความรู้สึกส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเขาเหล่านั้นควรเอาเงินส่วนนี้ไปบริจาควัด โรงพยาบาล หรือให้ทาง จึงจะเป็นวิธีเดียวที่จะเป็นคนดี หรือรู้จักครค่าของเงิน

เหตุผลของคุณ เหอๆๆๆ นั้นก็มีคนอ้างถึงอยู่ แต่ผมไม่อยากจะใช้เป็นเหตุผลหลัก เพราะเรามีตำรวจ "ไม่พอ" ที่จะทำกิจกรรมอีกมากมาย แต่ก็ยังต่อดำเนินการต่อเช่น การปราบปรามยาเสพย์ติด การปล้นฆ่า ต่างๆ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-29 , Time : 15:51:00 , From IP : 172.29.3.234

ความคิดเห็นที่ : 6


   เคยไปเที่ยวบ่อนทั้งที่ฝั่งพม่าและเกาะกง จ.ตราด
เล่นสนุกๆนิดหน่อย แต่คนที่ตั้งใจไล่นจริงๆก็มี
ส่วนใหญ่เป็นคนไทยทั้งนั้น
ขนาดไกลมากๆก็ยังมีคนตามไปเล่น ก็คนมันชอบนะ
ถ้าคนไม่ชอบเล่นเขาก็ไม่เล่น แล้วแต่นิสัยคนๆนั้น
สรุป เห็นด้วยที่จะให้เปิดในไทย


Posted by : อีแต๋น , Date : 2003-11-29 , Time : 17:01:10 , From IP : 202.29.37.1

ความคิดเห็นที่ : 7


   ทุกอย่างบนโลกใบนี้ ล้วนมี2ด้าน ด้านบวกและด้านลบ ไม่มีสิ่งใดเป็นบวกหรือลบอย่างเดียว อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ถ้าคิดว่าสามารถกำหนดคุณสมบัติของคนที่จะเข้าไปเล่นและปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด เช่นนักท่องเที่ยว,หรือผู้ที่มีฐานะดีอย่างชัดเจน ไม่ใช่ว่าใครก็เข้าไปเล่นได้ อย่างนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์มากกว่า อย่างน้อยก็ไม่ทำให้เงินทองรั่วไหลไปอยู่ต่างประเทศ และรัฐบาลจะต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับเด็กๆควบคู่กันไปด้วยว่า สาเหตุที่เปิดคาสิโนเพราะอะไร และบอกถึงข้อเสียของการพนันด้วย และก็คิดว่าคนที่เล่น ถึงประเทศไทยไม่มี เขาก็ดั้นด้นหาที่เล่นจนได้ บางคนไปถึงมาเก๊าบ้าง เก็นติ้งบ้าง ส่วนคนที่ไม่เล่น ต่อให้อยู่หน้าบ้านก็ยังไม่สนใจที่จะเล่นเลย

Posted by : +หรือ- อะไรมากกว่ากัน , Date : 2003-11-30 , Time : 02:16:57 , From IP : 203.107.133.48

ความคิดเห็นที่ : 8


   ขออนุญาตขยายความเนื้อหาอันล่าสุดของคุณ "+หรือ-อะไรมากกว่ากัน" นิดนึงก็แล้วกัน เพราะเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่หลายๆที่เขา install ไว้เพื่อเรื่องบวกลบที่เรากำลังว่ากันอยู่นี้

Casino นั้นประเทศที่ตั้ง รัฐบาลมี target ที่นักท่องเที่ยวเป็น primary and principle customers รัฐบาลไหนที่เจาะกลุ่มประชากรในพื้นที่เป็นลูกค้าหลัก casino ต้องไปตรวจสภาพสมองจริงๆ กลุ่มเป้าหมายดังกล่างคือที่ผมเรียนให้ทราบคือ กลุ่มที่มี "แหล่งลงทุนหรือต้นทุน กับเวลาว่าง" สูงไม่จำกัดหรือ afford ได้นั่นแหละ โดยทั่วๆไปจะมีการ assume ว่าถ้าลองบินข้ามประเทศได้ ก็น่าจะรวยพอ ว่างพอที่จะมาผลาญเงินตัวเองต่ออีกสักหน่อย mechanism ที่จะป้องกันคน local หรือพวกไม่เจียมตัวเข้าไปเล่นก็มีได้หลายวิธี เช่น หนึ่ง กำหนดไว้สำหรับ Passport ต่างประเทศ สอง ถ้าเป็นคนในประเทศก็จะต้องจ่าย premium ต่อครั้งหรือ long-term membership fee ที่แพงมากๆ เช่น premium สัก 50,000 บาทต่อครั้ง (ค่าต๋ง) หรือค่าสมัครสมาชิกเบื้องต้นสัก 200,000 บาท อย่างนี้เป็นต้น ผีการพนันที่เข้าสิงลึกขนาดยอมเสีย premium ขนาดนี้ก้จะบินไปเล่นที่อื่นอยู่แล้ว ก็เก็บไว้เล่นที่เราดีกว่า สาม อาจจะมีการตรวจสอบหลักฐานการเงินเหมือนกับเวลาเราเปิดบัตร credit เลยก็ยังได้ ถ้าใครมีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 100,000 ก็ไม่ qualified อย่างนี้เป็นต้น รัฐบาลต้องมีความชัดเจนในกลุ่มลูกค้า คือ รวย ว่าง และไม่ทำความเดือดร้อนต่อครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคนในประเทศเอง

แต่ยังมีข้อเสียอีกบางประการของการเปิดบ่อนที่ยังควรจะพิจารณาให้รอบคอบ นอกเหนือจาก premium แบะ mechanism ในการ "กัน" ผีพื้นเมือง เข้ามา ruin their lives & families ขออุบไว้ก่อน และรอฟังความเห็นคัดค้านจากคนอื่นเพิ่มเติมอีกสักนิด



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-30 , Time : 03:31:40 , From IP : 172.29.3.207

ความคิดเห็นที่ : 9


    ที่จริงที่นายกบอกจะเปิดนั้นเป็น Entertainment complex ที่มี casino เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง และอาจจะเปิดได้เพียงแค่ 2-3 แห่ง ภายในประเทศไทย (เหมือนเกนติงของมาเลเซ๊ย) และกลุ่มเป้าหมายก็ต้องอย่างที่คุณ Phoenix ว่าล่ะครับ มีเงิน เวลา และใจที่ถึงพอ

แต่ถ้าพูดในความหมายของคนทั่วๆไป (ที่ฟังมา) ว่า หากเปิดบ่อนเสรีถูกกฏหมาย แล้วจะเป็นเช่นไร
บ่อนที่ลักลอบเปิดๆกันอยู่ในเมืองไทยนี่ก็คนละเรื่องกับคาสิโนเลยนะครับ คนมีตังค์หน่อยก็เล่นได้แล้ว ยกตัวอย่างเรื่องของ พนันบอลแล้วกัน จะได้เห็นภาพง่ายหน่อย
อืม ถ้าสามารถเปิดการเล่นพนันได้อย่างถูกกฏหมายแล้ว ก็ต้องมีการควบคุมผู้ที่จะลงทุนในการพนันนี้ให้ดีด้วย เพราะถ้าเปรียบการพนันถูกกฏหมายอย่างการเล่นหุ้น(ผมก็เห็นว่าเป็นการพนันอย่างหนึ่ง) ก็ไม่ใช่ว่าใครๆจะเล่นได้ ต้องมีทุนและวิจารณญาณพอสมควรทีเดียว
แต่มันก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุจริงๆ รวมทั้งจะเป็นการสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีกด้วย
ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่า หากการพนันเป็นเรื่องที่เปิดเผย เล่นกันอย่างทั่วไปแล้วนั้น เด็กรุ่นใหม่ๆที่โตและรับรู้สภาพแบบนั้น จะมีมุมมองที่กว้างขึ้นไปกว่าเด็กสมัยนี้ไหม หากเด็กรุ่นใหม่ๆเขาได้เห็นว่าการพนันเป็นเรื่องธรรมดา แต่คนเล่นอาจจะล่มจมได้ เด็กๆก็อาจจะไม่สนใจการพนัน แต่หันไปสนใจธรรมะที่เป็นเรื่องลี้ลับกว่า ก็เป็นได้


Posted by : ArLim , Date : 2003-12-01 , Time : 02:54:12 , From IP : 203.113.76.75

ความคิดเห็นที่ : 10


   
ปัญหาของบ่อนการพนันถูกกฏหมาย


มีสองประเด็นหลักที่ผมอยากจะขยายความ
๑) global effects
๒) practical application

1) Global Effects
เป็น concept ที่ทุกประเทศที่เปิด casino ถูกกฏหมายในขณะนี้ "จงใจ" ที่จะเพิกเฉย ไม่คิดถึงมัน จะเห็นว่า (เกือบ) ทุกประเทศจะมี mechanism ในการที่ป้องกันคน "ในประเทศ" ตนเองเล่นการพนัน หรือไม่ก็สร้างจุดมุ่งหมายหลักเป้น tourists โดยอ้างเหตุผลเดียวว่า Consenting adults สามารถทำกิจใดๆก็ได้ แม้เป็นการ RUIN ชีวิตตนเองและครอบครัว ตราบเท่าที่ไม่ไปเดือดร้อนคนอื่น ผมว่ามีนิทานจบเศร้ามากมายเหลือที่จะนับจากรอบๆบ่อนการพนันทุกขนาด แต่ปัญหานี้มันบานปลาย "เท่าๆ" กับเหล้าบุหรี่ ที่อยู่ในสังคมมานานจนเราไม่สามารถจะเลิกได้ ที่สุดก็ใช้วิธีที่ว่าคือ หนักหัวกู ไม่ได้หนักหัวใคร concept ของพวก liberitarian หรือพวก "หัวสมัย" คลั่งสิทธิส่วนบุคคลมาอ้าง จะเห็นว่าเหล้าบุหรี่นั้นหาประโยชน์แล้วเทียบกันไม่ติดกับโทษเลย (wine ที่ว่ามีประโยชน์ และ nutrition มากกว่า 50 ชนิดนั้นจริงครับ แต่เราสามารถหาทานได้ในรูปอื่นที่ไม่มี alcohol เป็น solvent ก็ได้ รสมันไม่ดีเท่าแค่นั้น)
ติดการพนันนั้น ในต่างประเทศสามารถเป็นระดับ pathological และต้องการ course therapy หรือกลุ่มบำบัดเหมือนๆกับติดเหล้านั่นเลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นสิทธิส่วนตัวที่ใครจะถลุงเงินตัวเองอย่างไรก็ได้ แต่การมีนโยบายหาประโยชน์จาก "คนป่วย" พวกนี้ ผมไม่สามารถจะ balance moral ตรงจุดนี้ได้โดยการพูดแบบไหนก็ตาม

2) practical application
เมื่อมาถึงจุดที่ประเทศไทบต้องการออกกฏอะไรซักอย่างที่ restrict มีการ reinforced มีการเคารพกฏ ผมว่าหลายๆคนอาจจะค่อนข้าง sceptic เหมือนผมว่ามันจะ work รึเปล่า
ค่านิยมประการหนึ่ง ไม่ทราบจริงรึเปล่า ที่ว่าถ้ามีกฏ และใครแหกกฏได้ แปลว่าคนนั้น "ใหญ่จริง" มี "อำนาจวาสนา" จริง "ประกอบอาชีพที่มีประโยชน์ต่อสังคมจริง" (ถ้าคุณมีเงินในบัญชี 7 หลักขึ้นไป ไม่ว่าจากวิธีใด คนเป็นคนเก่ง และสุจริต) สถานะเหล่านี้จะถูก reinforced ด้วยการ "ยกเว้น" กฏต่างๆให้ "เป็นเกียรติ" แก่ท่านเหล่านี้ การได้เข้าบ่อนจะถูก GLAMORIZED หรือทำให้ดูเท่ห์ สมาร์ท แต่งสูท ทักซิโด วางมาดเป็นแบบเจมส์บอนด์ มีสาวๆแตงหน้าทาปากแวดล้อม ฯลฯ นี่คือภาพโฆษณาที่ผมจินตนาการไว้หากมี casino ในเมืองไทยจริงๆ ที่นี้อะไรที่จะเป็น ROLE MODEL ให้เด็กไทยในอนาคต? มันก้หนีไม่พ้นกิจกรรมที่ "คนที่ประสบความสำเร็จ" ทำเป็นตัวอย่างและได้รับการยอมรับอย่าง
เปิดเผยจากสังคม จากโฆษณานั่นแหละ ผิดถูกลองดูหากเมืองเราจะถูกดันไปในทางนั้น ผมขอให้ผมคิดผิดจริงๆครับ กลัวแต่จะไม่เท่านั้น



Posted by : Phoenix , Date : 2003-12-01 , Time : 18:42:39 , From IP : 172.29.3.208

ความคิดเห็นที่ : 11


   ภาพที่สวยหรู ก็ย่อมมีภาพด้านเสื่อมโทรมเช่นกัน
ทำอย่างไรเราถึงจะทำให้เยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถเข้าใจเรื่องพิษภัยของอบายมุขต่างๆได้ ในเมื่อผู้ใหญ่ในบางครอบครัวยังไม่เข้าใจหรือยอมรับเรื่องเหล่านี้เลย


Posted by : ArLim , Date : 2003-12-02 , Time : 20:39:54 , From IP : 203.113.76.75

ความคิดเห็นที่ : 12


   เรามีเพื่อนที่เป็นฝรั่งหลายคนนะ
ทุกคนชื่นชมประเทศของเราว่านี่แหละคือเมืองต้นแบบของศาสนาพุทธ
ศาสนาที่มีคนนับถือเป็นอันดับสามในโลก
และความเป็นจริงที่หลายคนในประเทศนี้อาจจะยังไม่รู้ก็คือ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสัดส่วนของผู้นับถือศาสนาพุทธ "มากที่สุดในโลก"

วีซ่าประเทศไทยที่ประทับบนพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยว เป็นรูปครุฑซึ่งเป็นสัตว์ในวรรณคดีของพุทธศาสนา(แม้ว่าจะเอามาจากพราหมณ์อีกที)
ร้านอาหารไทยในต่างประเทศมีรูปพระพุทธรูปวางตกแต่งอยู่ในร้านคู่กับรูปพระบรมมหาราชวัง
และสถานทูตไทยต้องทำหนังสือประท้วงในแทบทุกครั้งที่มีสื่อหรือประชาชนฝรั่งเอารูปพระพุทธรูปไปวางหรือประดับไว้กับสิ่งที่ไม่เหมาะสม

เราบอกกับชาวโลกมาตลอดว่านี่คือเมืองพุทธ และเราเดือดร้อนหากมีใครจะทำลายความดีงามของศาสนาที่เรานับถือ

แต่เรากำลังจะเอาสิ่งซึ่งเป็นข้อห้ามในศาสนามาทำเงินสร้างรายได้ให้ตัวเอง
คุณยังเรียกตัวเองว่าเป็นชาวพุทธ เป็นเมืองพุทธ ให้คนอื่นเขานับถือได้อีกหรือ

มันไม่เกี่ยวว่าคุณจะเข้าไปเล่นหรือจะให้แค่ฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทยเข้ามาเล่น แล้วคนไทยเก็บเกี่ยวภาษีกับกำไร
แม้คุณไม่เข้าไปเล่น แต่คุณนั่งมองคนอื่นประพฤติตัวค้านหลักศาสนาของเรา ....ในบ้านของเรา โดยไม่คิดจะห้ามปราม
คุณภูมิใจกับรายได้ที่จะได้มา พร้อมกับศีลธรรมที่เสื่อมลงไป รอให้ลูกหลานเราที่เติบโตมา มองว่ามันเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นหรือ

มันไม่เกี่ยวกับข้อมูลของฝ่ายสนับสนุนที่ว่า ในความเป็นจริงคนไทยก็ชอบเล่นพนันอยู่แล้ว สู้เอาเงินพนันมาพัฒนาประเทศดีกว่า

สิ่งที่ผู้คนควรจะคิดกันก็คือ
คนอีก 40 ล้านคนจะทำยังงัย เพื่อให้คนที่เล่นพนัน 20 ล้านคน เลิกเล่นการพนัน
ไม่ใช่นั่งลงแล้วบอกว่า คงห้ามไม่ไหว ไหนๆก็ไหนๆ ถือว่าเรื่องผิดนั่นกลายเป็นเรื่องถูกไปเลยดีกว่า
นั่นคือเรากำลังยอมจำนนต่อปัญหา ยอมแพ้ที่จะแก้ไขมัน แล้วยอมรับที่จะอยู่กับมันอย่างนั้นหรือเปล่า
ถ้าอย่างนั้น เปิดคาสิโนเสร็จ เราก็ประกาศให้ยาบ้า มือปืนรับจ้าง ขบวนการลักลอบตัดไม้ เป็นธุรกิจถูกกฎหมายไปเลยมั้ย
เพราะไหนๆก็มีคนบางส่วนทำอยู่แล้ว
จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาปราบปราม





Posted by : natalie , Date : 2003-12-03 , Time : 17:59:16 , From IP : 172.29.3.235

ความคิดเห็นที่ : 13


   เห็นด้วยๆ แต่ทุกศาสนาก็ห้ามเล่นพนันไม่ใช่เหรอ
ทำไมมาเลย์ก็มีเกนติ้ง
คนอิสลามก็ไม่เห็นเข้าไปเล่นเลย


Posted by : คนเฝ้าบ่อน , Date : 2003-12-05 , Time : 11:06:04 , From IP : 172.29.3.199

ความคิดเห็นที่ : 14


   ผมคิดว่าทุกศาสนานั้นสอนให้คนเป็นคนดีทั้งนั้นครับ แต่ผมสังเกตเห็นว่าไม่มีประเทศไทยที่พอจะบอกได้ว่าเป็นตัวแทนศาสนาใดได้อย่างเต็มที่ ถ้าพิจารณาจาก "ผลลัพธ์" แห่งการปฏิบัติจริงของคนทั้งประเทศ

มีฝรั่งชื่นชมศาสนาพุทธอย่างที่คุณ Natalie ว่าจริงๆ แต่ผมเองจะรู้สึกขัดเขินถ้าใครสรุปว่าคนไทยกับศาสนาพุทธนั้นเป็น representative ซึ่งกันและกัน และผมอยากจะคิดว่าฝรั่งเองก็อาจจะไม่ใคร่อยากให้คนอเมริกัน อังกฤษ อินเดีย ซาอุดิ ฯลฯ เป็น representative ของศาสนาใดศาสนาหนึ่งเหมือนกัน ศาสนานั้นเป็นของโลกมากกว่าประเทศ

การขอให้รัฐบาลออกกฏหมายตามหลักศาสนานั้นเป็นเรื่องดีครับ แต่ผมว่าไม่มีประเทศไหนในโลกทำได้ ไม่ต้องพูดถึงแต่ละศาสนามีการตีความหลากหลายแม้แต่ในศาสนาเดียวกันเอง การพนันนั้นยังไม่อยู่ในศีลห้าซะด้วยซ้ำ ถ้าจะเริ่มจากศีลห้าเราก็จะต้องเป็นมังสะวิรัติมิฉะนั้นจะผิดกฏหมาย การโกหกจะต้องมีโทษปรับหรือจำ เหล้าก็จะถูก outlawed ไปด้วย ถ้า extend ไปถึงศีลสิบ เราก็จะต้อง ban เครื่องสำอางค์ ของหอม พวงมาลัย ที่นอนสูง การใช้เงิน การไปดูหนังดูละครฟังวิทยุ

แต่เท่าที่ผ่านมาเราก็เป็น "ประเทศพุทธ" เท่าที่เป็นได้ ส่วนปัจจเจกอยากจะบำเพ็ญธรรมให้ได้ขนาดไหนนั้นเป็นเรื่องของปัจเจกที่รัฐบาลไม่ลงไปเป็นกรรมการซึ่งผมว่าถูกต้องแล้ว เป็นเรื่องที่ tricky มากๆเมื่อไหร่ก็ตามที่รัฐบาลไหนจะกำหนด moral เป็นกฏหมาย ดีก็ดีไป ไม่มีนี่จะเป็นความยุ่งยากอย่างมาก

เรื่องการพนันเราสามารถชี้ข้อดีข้อเสียได้โดยไม่ต้องอ้างหลักศาสนาใดๆเลย เอารูปธรรมที่ทุกคนเข้าใจได้สัมผัสได้ก็สามารถมีหัวข้อให้พูดได้เยอะแยะไปหมด เมื่อไหร่ก็ตามเอาศาสนามาเป็นหัวหอกจะทไห้เกิดความรู้สึก I am better than you หรือ in your face เกิดขึ้น และความร่วมมือก็จะไม่เกิด



Posted by : Phoenix , Date : 2003-12-07 , Time : 19:33:42 , From IP : 172.29.3.224

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.011 seconds. <<<<<