ความคิดเห็นทั้งหมด : 10

นี่ก็ตลกไม่ออกเหมือนกัน ช่วยกันให้ความคิดเห็นหน่อย


   เป็นบุคลากรโรงพยาบาลสงขลานครินทร์มา>15ปี เมื่อญาติสายตรงเข้ารับการรักษาพยาบาล แต่ไม่มีเตียงให้ ต้องระเห็จไปอยู่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ช่วยกันเสนอความคิดเห็นหน่อย จะได้หายคับแค้นใจ

Posted by : neta , Date : 2009-11-27 , Time : 09:46:51 , From IP : 172.29.12.237

ความคิดเห็นที่ : 1


   มอ.ต้องตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจขึ้นมา คอยทำหน้าที่ตรวจสอบผู้ป่วยที่ไม่มีญาติทำงานอยู่ใน มอ.หรือเป็นญาติห่างๆ เพื่อจะได้คอยผลักดันให้ไปรักษาตัวที่อื่น เพื่อญาติสายตรงของบุคลากรจะได้มีเตียงว่างตลอดเวลา โดยเฉพาะบุคลากรที่ทำงานกับ มอ.มากว่า 15 ปี ให้มันรู้ซะบ้างว่าทีหลังถ้าคิดว่าจะได้รับสิทธิพิเศษเทียบเท่ากับญาติของบุคลากร มอ. ก็ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า มีลูกมีหลานก็ให้ส่งเข้ามาทำงานที่นี่ไว้ก่อน ไม่เกี่ยวหรอก ว่าใครจะมาก่อน มาทีหลัง จะป่วยหนักเบาแค่ไหน ก็เรามันคนใน ใช่ไหมครับ คุณ neta

Posted by : ฮาเลลูยา , Date : 2009-11-27 , Time : 10:22:46 , From IP : 172.29.9.85

ความคิดเห็นที่ : 2


   อ๋อ..คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ก็แค่น้อยใจ คับแค้นใจว่า พอถึงเวลาญาติตัวเองไม่มีที่ก็แค่นั้น คงไม่ไปเบียดเบียนใครเขาหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะที่แสดงความคิดเห็น

Posted by : neta , Date : 2009-11-27 , Time : 11:05:40 , From IP : 172.29.12.237

ความคิดเห็นที่ : 3


   อ๋อ..
ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงเราก็เป็นคนกันเองอยู่แล้ว
ผิดถูกยังไงเราก็ต้องถือหางคนของเราอยู่แล้ว พวกเรามันคนในด้วยกัน
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่าน


Posted by : ฮาเลลูยา , Date : 2009-11-27 , Time : 12:56:10 , From IP : 172.29.9.85

ความคิดเห็นที่ : 4


   กำไป

Posted by : สองตา , Date : 2009-11-27 , Time : 13:44:23 , From IP : 172.29.11.67

ความคิดเห็นที่ : 5


   เวรกรรม เพื่อนเค้ากำลังมีทุกข์ ไม่ช่วยแล้วยังซ้ำเติมอีก
นี่แหละที่เค้าว่า ไม่เจอกับตัวไม่รู้สึกหรอก....กำจริงๆๆ

แต่ก็ทำใจเถอะนะครับ รพ.เราก็แบบนี้แหละ ผมว่าบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
ก็คงพยายามช่วยเท่าที่ทำได้แล้วหละครับ...แต่บางเรื่องก็คงช่วยได้เท่านั้นจริงๆ
จองเตียงไว้ครับ ว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยย้ายมาแล้วกัน...เห็นใจครับ


Posted by : culdesac , Date : 2009-11-27 , Time : 15:44:59 , From IP : 172.29.14.73

ความคิดเห็นที่ : 6


   ขอแสดงความคิดเห็นด้วยค่ะ เคยเจอปัญหาแบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นอาการคุณแม่ยังพอรอได้ รออยู่ 2 วันกว่าจะได้เตียง แต่ก็เข้าใจนะว่าเตียงมันไม่มีจริงๆ
วันนั้นได้ยิน อาจารย์เจ้าของไข้บอกว่า นอนตึกไหนก็ได้ขอให้อยู่ใน ม.อ ผมเดินไปดูได้ ตอนนั้นซาบซึ้งใจอาจารย์แพทย์ท่านนั้นจริงๆ และตอนได้เตียงก็เอาไปฝากตึกอื่นไว้ก่อนนะ..ประมาณ 3-4 วัน กว่าจะได้ย้ายไปยังตึกที่ตรงกับอาการที่ต้องรักษา....
ก็เข้าใจนะว่าเป็นบุคลากรของที่นี่ ก็อยากรักษาที่นี่ แต่บางครั้งก็มีข้อจำกัด อาจต้องมีทำใจยอมรับบ้าง...และลองหาทางปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม และลองพูดคุยกันดูด้วยเหตุผล (ไม่ใช่อารมณ์) อาจมีทางออกที่ดีก็ได้ค่ะ


Posted by : team , Date : 2009-11-27 , Time : 17:36:29 , From IP : 172.29.10.153

ความคิดเห็นที่ : 7


   ลองคิดแบบนี้ดูไหม
เอาเป็นว่าเราอย่ามองว่ามอ.ดีกว่าที่ร.พ.อื่นในภาคใต้ เพราะมันเทียบกันไม่ได้หรอก มอ.เป็น tertiary care จะไปเทียบกับรพช. รพท. หรือว่ารพศ. มันเป็นไปไม่ได้เพราะระดับขั้นการรักษามันต่างกัน อีกอย่างร.พ.มอ.เป็นร.พ.สังกัดมหาลัย ไม่ใช่กระทรวงสาธารณสุข หากจะเทียบกันก็น่าจะไปเทียบกับร.พ.ในสังกัดมหาวิทยาลัยอื่นๆ
ที่เกริ่นนำมาก็เพราะเข้าใจว่า เหตุผลส่วนหนึ่งที่ใครๆก็อยากมามอ. ก็เพราะเข้าใจว่ามอ.ดีที่สุด ก็อีกนั่นล่ะ ถ้ามอ.ไม่ถึงที่สุดที่มอ.ก็คงไม่ถูกเรียกว่า tertiaty care หรอก
ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า สถานพยาบาลที่รับผู้ป่วยไว้ดูแลรักษาจะมีศักยภาพในระดับหนึ่ง โดยที่มีระบบส่งต่อเมื่อร.พ.มีศักยภาพไม่เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยรายนั้น
ทีนี้มาดูเหตุผลของคนที่พวกเราที่เป็นคนในร.พ.มอ.กันที่อยากให้ญาติสายตรงมารักษาที่มอ. ไม่มีใครเถียงว่าไม่อยากให้ญาติตัวเองได้รับการรักษาด้อยกว่ามาตรฐาน ก่อนอื่นเรามาดูนิยามของคำว่าญาติสายตรงก่อนดีกว่าเพราะเราว่า แต่ละคนตีความไม่เหมือนกันแน่ ตามที่เราเข้าใจโดยยึดเอาบุคลากรเราเป็นตัวตั้งน่าจะมีความหมายถึงพ่อแม่ สามีหรือภรรยาและบุตร อาจรวมพี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน ในขณะที่หลายคนอาจนับรวมไปถึงปู่ย่าตายายหรือถ้ายังอยู่ก็อาจจะเป็นคุณทวดไปเลย ซึ่งเราเข้าใจว่าไม่น่าจะนับถึงขั้นนั้น ไม่งั้นก็คงต้องรวมเอาลุงป้าน้าอามาด้วยเพราะเป็นลูกของปู่ย่าตายายของเราเหมือนกัน ซึ่งเราคงต้องจัดลำดับความสำคัญเอา สมมติว่าคนเหล่านี้ป่วย แต่ไม่ได้ต้องการการรักษาในระดับของ tertiary care ก็คงไม่เห็นด้วยที่ยังไงๆก็จะพามามอ.ให้ได้ เว้นแต่ว่าเป็นคนที่สำคัญกับเราที่สุด เราต้องดูแลเองเช่นเฝ้าพ่อแม่หรือลูกที่ป่่วยซึ่งเป็นเรื่องลำบากหากไปอยู่ที่อื่น แต่ถ้าเป็นโรคร้ายแรงหรืออาการหนักอันนี้เราคงไม่ไปเถียงเพราะเป็นเราก็คงอยากให้เข้ามาซึ่งพวกเรากันเองก็น่าที่จะช่วยๆ กัน ส่วนคนที่อยู่ในลำดับความสำคัญต่อๆไปก็คงต้องใช้ความเหมาะสมเข้ามาเป็นตัวตัดสินด้วย เพราะมอ.ไม่ได้เป็นร.พ.ของบุคคลากรเราเท่านั้น ยังเป็นของชาวภาคใต้ทุกคนซึ่งเราก็ต้องย้อนกลับไปมองที่ระดับขั้นของการรักษาอีกนั่นล่ะ โรคที่ primary care หรือ secondary care ดูแลรักษาได้เราก็ควรให้เป็นไปตามนั้น
ps. แม้ว่าเค้าไม่ได้เป็นพ่อแม่หรือลูกของเรา ไม่ได้แปลว่าเค้าจะมีความสำคัญน้อยกว่าพ่อแม่หรือลูกของเรา


Posted by : @rchman , Date : 2009-11-28 , Time : 03:59:39 , From IP : 172.29.9.140

ความคิดเห็นที่ : 8


   เห็นใจค่ะ
เจอแบบนี้ก็ทำใจลำบากเหมือนกัน
ยังไงก็ขอให้ได้ย้ายมา เมื่อมีเตียงนะคะ


Posted by : ลูกปัด , Date : 2009-11-28 , Time : 19:26:49 , From IP : 172.29.9.79

ความคิดเห็นที่ : 9


   ขอบคุณทุกความคิดเห็น คนไข้ได้ย้ายกลับมารักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์แล้วค่ะ ก็สบายใจขึ้น ได้เยี่ยมดูแลใกล้ชิดมากขึ้น และเชื่อมั่นในทีมรักษาพยาบาลของเราค่ะ

Posted by : neta , Date : 2009-11-30 , Time : 11:05:38 , From IP : 172.29.12.237

ความคิดเห็นที่ : 10


   มันน่าเห็นใจนะครับที่ญาติบุคคลากรสายตรงไม่ได้รับความเป็นธรรม (ขอใช้คำว่าความเป็นธรรม) เป็นถึงบุคคลากรแถมอายุการทำงาน > 15 ปี แต่กลับต้องไป Admit ที่ต่างบ้านต่างเมือง (เปรียบเทียบ) คิดดูละกันว่าลงเวรและต้องขับรถแด๊กๆๆ ไปเพื่อเยี่ยม สิทธิเหล่านี้ก็เหมือนชิ้นเค้กพวกเรา (บุคคลากร) เฝ้าฟูมฟัก โดยไม่ได้หวังว่าการได้ลิ้มรสเค้กก้อนนี้ เป็น first piority แต่เมื่อถึงจุดจุดนึง ก็คงไม่แปลกหรือผิดอะไรเมื่อมีความจำเป็นที่เราจะได้ลิ้มรสเค้กชิ้นนี้ก่อนใครเพื่อน แม้หลายคนอาจคิดว่า"ควรจะ" มองตามควยามจำเป็นอันนั้นก็ถูกและเป็นสิ่งจำเป็น แต่อะไรที่เราควรเลือกหากมีสองฝ่ายที่มีความจำเป็นเท่ากันควรเหรอที่จะเลือกคนนอก ขนาดคนต่างด้าวแรงงานราคาถูก (ถูกกดราคา) หลบหนีเข้ามาเป็นแรงงานให้นายจ้างหน้าเลือด เอากำไรเข้ากระเป๋าตัวเองเจ็บป่วยมาไม่มีใครรับผิดชอบ มาโรงพยาบาลเรายังรักษาให้ไม่คิดตังเลยซักบาทยังมี ได้รับการรักษาดีๆกว่าคนไทยหลายคนที่เข้าไม่ถึง แล้วนี่อะไรเรายัง service คนของเราไม่ได้
สำหรับบางคนที่แขวะ กระแนะกระแหนกันเองมันนสมควรแล้วเหรอ คนพวกนี้คงตัดสินอะไรมันไม่ได้นอกจากปล่อยให้ร่วงโรยไปตามกาลเวลา ถึงแม้ว่ากว่าจะจากไปจะสำรอกอะไรเอาไว้ก็อีกเรื่องนึง แต่ระหว่างนี้ก็ควรเบิ่งตาดูบ้างว่าโลกมันก้าวไปถึงไหนกันแล้ว สร้างสรรค์รู้จักไหม


Posted by : usa , Date : 2009-12-02 , Time : 20:45:37 , From IP : 172.29.1.127

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<