ความคิดเห็นทั้งหมด : 29

Debate XLIX: Matrix: The Revolutions====Discussion


   ชอบมากกว่าภาคสอง ตัดสินใจยากเทียบกับภาคหนึ่ง แต่มี element of thought provoking มากพอ ยิ่งหลังจาก search web-board อภิปรายหนังเรื่องนี้โดย enthusiasts จำนวนมากที่แทบจะเอาทุกคำพูด ทุก script มาวิเคราะห์แจกแจง (Wachowski brothers คงจะดีใจ และตั้งใจให้ทุก characters โดยเฉพาะ Neo, Smith, Oracles พูดช้าและชัดยิ่งกว่า BBC tape สอนภาษาอังกฤษ) เลยเกิดความสนใจว่าปฏิกิริยาของพวกเราเป็นอย่างไร

อ้อ..มีใครนับคำว่า "I believe, I can, I know" ในเรื่องนี้บ้างครับ อืม...อีกคำหนึ่งที่พอจะเป็น theme ได้คือ "choices"



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-13 , Time : 01:40:12 , From IP : 203.155.144.29

ความคิดเห็นที่ : 1


   ผมว่า คุณ Phoenic น่าจะหาอะไรที่มีสาระ ทำมากกว่า เที่ยวมานั่ง post กระดานข่าวถามเรื่องราวที่ไม่ค่อยจะ appropriate กับคนที่จบ PhD. มาซักเท่าไหร่ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่า jop discription ของคนที่จบ PhD. ของภาควิชาศัลย์ คือ การคุม conference ภาษาอังกฤษ ของ resident กับ การคอย post กระดานข่าว กับการคอยให้ความเห็นที่งี่เง่า ที่เหลือผมยังไม่เห็นผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันของคุณ Phoenic เลย นับเป็นระยะเวลามา 2 ปีกว่านี้
ก็แล้วแต่จะคิด หรือจะตอบโต้อะไรผมก็ได้ แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่เขาคิดอย่างนี้


Posted by : 773 , Date : 2003-11-13 , Time : 11:43:52 , From IP : 172.29.3.144

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมว่า คุณ Phoenic น่าจะหาอะไรที่มีสาระ ทำมากกว่า เที่ยวมานั่ง post กระดานข่าวถามเรื่องราวที่ไม่ค่อยจะ appropriate กับคนที่จบ PhD. มาซักเท่าไหร่ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่า jop discription ของคนที่จบ PhD. ของภาควิชาศัลย์ คือ การคุม conference ภาษาอังกฤษ ของ resident กับ การคอย post กระดานข่าว กับการคอยให้ความเห็นที่งี่เง่า ที่เหลือผมยังไม่เห็นผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันของคุณ Phoenic เลย นับเป็นระยะเวลามา 2 ปีกว่านี้
ก็แล้วแต่จะคิด หรือจะตอบโต้อะไรผมก็ได้ แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่เขาคิดอย่างนี้


Posted by : 773 , Date : 2003-11-13 , Time : 11:44:03 , From IP : 172.29.3.144

ความคิดเห็นที่ : 3


   เรียน คุณ 773

แต่ละคนมีความสนใจ ความชอบ งานอดิเรก แตกต่างไป นี่อาจเป็นความชอบของคุณ phoenizx ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ตราบใดที่เขายังคงรับผิดชอบในหน้าที่ การทำ personal attack ในนี้ผมว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม

ความคิดเห็นเรื่อง Metrix ผมว่า ภาคนี้เรื่องราวมันรวบรัดตัดจบมากเลยครับ ดูแล้วไม่ค่อยพอใจ ไม่เหมือนภาค 1 แต่ก็รู้เรื่องมากกว่า ภาค 2 สิ่งที่ยังไม่เข้าใจคือว่า เกิดอะไรขึ้นกับ smith เมื่อดูดนีโอเข้าไป ทำไมทุกอย่างถึงกลับสภาพเดิม แล้ว เมโรวินเจี้ยน กับ architec จะโดน smith จัดการไปด้วยหรือไม่ สรุปว่านีโอไปไหนหลังถูกหุ่นยนตร์แบกขึนหลังไป ฯลฯ ต้องการคน discuss ด้วยน่ะครับ ^_^

เรื่อง Matrix ถ้าได้ดูเพียง 3 ภาคจากในภาพยนตร์ ผมคิดว่าคนดูยังไม่ได้รู้ความเป็นมาเป็นไปที่แท้จริงของเรื่องนี้นะครับ อาจต้องกลับไปหาดู Animetrix และเล่นเกม enter the matrix จึงจะเข้าใจ ผมลองดู Anietrix มาแล้วจึงพอเข้าใจเรื่องราวได้ดีขึ้น

โดยสรุปผมคิดว่า Matrix ให้ข้อคิดเรื่องที่ว่า เราไม่จำเป็นต้องเชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอก หรือหลงงมงายในโชคชะตา แต่ตนเองนั่นแหละเป็นที่พึ่งแห่งตน เพราะ เราเท่านั้นเป็นคนเลือก choise ของเราเอง ใครมาบังคับมิได้ (ใช่ไหมครับ?) ดูไปดูมาแล้วสถานการณ์ภายในเรื่อง Metrix คล้ายๆ series นิยาย ญี่ปุ่น เรื่อง Ring นะครับ แต่สองเรื่องนี้ให้ข้อคิดต่างกันนะครับ


Posted by : โบทซึมุ , Date : 2003-11-13 , Time : 13:52:36 , From IP : 172.29.2.147

ความคิดเห็นที่ : 4


   นั่นน่ะสิครับคุณโบทซึมุ ผมคิดว่ามีผมคนเดียวซะอีกที่คิดแบบนี้ ไม่ได้ใส่ร้ายนะครับ ผมชักไม่แน่ใจว่า 2พี่น้องวาโชสกี้ ได้อ่านไตรภาค ring, spiral และ loop มาก่อนสร้าง Matrix หรือเปล่า เพราะทำไมแนวคิดมันถึงบังเอิญเหมือนกันมากขนาดนี้


Posted by : กะหลั่วเป็ด , Date : 2003-11-13 , Time : 16:54:12 , From IP : 172.29.3.207

ความคิดเห็นที่ : 5


   เรียนคุณ 773

ผมเห็นใจคุณ 773 ที่ไม่เข้าใจ job description ของคนที่จบ Ph.D. ครับ หวังว่าสักวันหนึ่งคงเข้าใจ ขออภัยด้วยที่ไม่ได้รายงานความก้าวหน้าของงานที่ผมทำให้คุณ 773 ทราบโดยละเอียด ให้ที่อยู่ติดต่อมาสิครับ เราจะได้สามารถคุยกันได้ว่าความเห็นอย่างไรคือความเห็นของ educated man หรือสมศักดิ์ศรี Ph.D. ผมเชื่อว่าผมจะเรียนรู้เพิ่มเติมจากคุณ 773 อีกไม่น้อย ส่วนเรื่อง personal attack นั้น เรามีการพูดไปแล้วหลายครั้ง ก็อาจจะยังไม่ต้องขยายความไปมากกว่านี้ ยกเว้นในกรณีที่คุณ 773 อาจจะอยากเสนอข้อดีของการโจมตีส่วนบุคคลบนกระดานข่าวสาธารณะโดยไม่แสดงตัว ก็น่าจะเป็นหัวข้ออภิปรายได้ว่า "คนส่วนใหญ่" คิดอย่างไร

เรียนคุณ โบทซึมุ

ตัวละครที่น่าสนใจของเรื่อง MAtrix ที่มีการพัฒนาตั้งแต่ภาคหนึ่งจนถึงภาคสุดท้ายคือ Neo และ Agent Smith ดูๆไปแล้วทั้งสองคนอาจจะมี purpose เหมือนกันแต่เดินคนละเส้นทางก็เป็นได้

อีกประเด็นหนึ่งคือนิยามของ win ในเรื่องนี้น่าสนใจในหลายๆแง่มุม ทั้งในสายตาของ programme architect หรือของ programme Oracle หรือในสายตาของมนุษย์ใน Zyon (และรวมทั้งมนุษย์ที่มีชีวิตปกติสุขใน Matrix ด้วย การที่เขาดำรงชีวิตต่อไปใน Matrix ก็อาจจะเป็น Win ในสายตา ความรู้สึกของพวกนั้น ถ้า Matrix ล่มสลายจริงๆ คนพวกนี้ก็อาจจะไม่ชอบชีวิตใต้ดินใน Zyon ก็เป็นได้)



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-13 , Time : 17:07:24 , From IP : 172.29.3.252

ความคิดเห็นที่ : 6


   อ้อลืมประเด็นที่คุณโบทซึมุเริ่มไว้

ผมคิดว่า Agent Smith เป็น anti-virus programme ที่เกิดพัฒนาตนเองเป็น AI เรื่องนี้เริ่มต้นตั้งแต่ภาคหนึ่งที่ Smith แสดงอาการ frustrate และมีอยู่ตอนถึงกับถอดหูฟังที่เชื่อมต่อกับ Matrix ออก มีบทพูดที่แสดงว่า smith เบื่อสถานการณ์ที่ต้องมาเล่นไล่จับกับสายลับจาก Zyon รอบแล้วรอบเล่า (Smith แสดงออกมาในบทว่าเขารู้เรื่อง 5 วาระที่แล้วที่ Zyon เกิดแล้วดับ เกิดแล้วดับขณะที่ Architect พยายามจะ "balance" สมการ)

แต่ขณะที่ทั้งสองฝ่าย (Smith กับ Neo) ต้องการที่จะหา "บทจบ" (tagline ภาคนี้คือ ทุกสิ่งที่มีการเริ่มต้น ก็จะมีการสิ้นสุด) ใหม่ที่เป็น equilibrium แต่ทั้งสองก็มีเป้าหมายหรือวิธีที่แตกต่างกันไป วิธีของ Smith เป็นการ exterminate มนุษย์ (และ programmes อื่นๆของ Matrix ทั้งหมด) ซึ่งอันนี้เป็นการสร้างความ "ไม่เสถียร" ต่อระบบ Matrix มากที่สุด แน่นอนเมื่อเปรียบเทียบกันในสายตาของ super CPU อย่าง Matrix เป็นการง่ายที่สามารถจัดลำดับความสำคัญของภาวะคุกคามได้ Smith นั้นต้องการทำลายทั้งระบบ Matrix และ "ชีวิต" มนุษย์ทั้งหมด (สังเกตฉากสุดท้ายที่ Smith เยอะเย้ยถากถาง "นิยาม" หรือ "คุณค่า" ความเป็นมนุษย์ของ Neo) ถ้าไม่มีชีวิตมนุษย์ ระบบ Matrix ก็จะอยู่ไม่ได้ ถ้า programme ที่ทำงานอยู่ในระบบ Matrix "ถูกกลืนกิน" ระบบ Matrix ก็อยู่ไม่ได้ Neo เอง ไม่ได้มี "อำนาจ" ที่จะเอาชนะ ROQUE programme AI อย่าง Smith ได้ แต่ก้ใช้วิธีหลอกล่อให้ Smith เชื่อมตนเองกับ Neo ขณะที่ Neo "hard-linked" กับ Matrix อำนวยให้ Matrix สามารถจัดการกับ Smith ได้ในที่สุด ท่านอนของ Neo ในหลุมนั้นเกือบจะเลียนแบบรูป จีซัส (ขออภัยถ้ามีใคร offended) แสดงภาวะการ sacrifice เพื่อ "ชำระบาป" ให้ Zyon (และเมื่อพิจารณาถึงคนอื่นๆในระบบ Matrix ที่ Architect สัญญาว่าจะ "ปลดปล่อย" ถ้าต้องการ อันนี้ก็แทบจะเป็น symbolic ของการไถ่บาปที่ชัดเจนยิ่งขึ้น)

ในภาคหนึ่ง Neo คล้ายๆกับ enlightenment ทางพุทธ แม้แต่กระบวนการคิดแบบ "logic" ก็เป็นไปตามอริยสัจสี่ ส่วนภาคนี้ผมค่อนข้างดูออกมาเป็นการ shift เป็น Christ domain ได้แก่ key words เช่น faith, believe และ choice (ตามความเข้าใจของผม Freedom of will เป็น God gift ที่ทางคริสต์ให้ความสำคัญมากที่สุดประการหนึ่ง)

บทบาทของ oracle (ต้องเปลี่ยนตัวเพราะคนเล่นคนเดิมเสียชีวิตขณะถ่ายทำภาคสอง ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใด) ในเรื่องนี้ยังตีไม่แตกเหมือนกัน อาจจะเป็นตัวผลักดันใน Smith ดเนินมาถึงฉากสุดท้ายด้วยการทำให้ Smith คาดการณ์อกว่า Neo จะต้องมาสู้กับเขาในตอนนี้เพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่จะช่วย Zyon เหลือ (ให้ดวงตาพยากรณ์แก่ Smith)




Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-13 , Time : 17:50:28 , From IP : 172.29.3.252

ความคิดเห็นที่ : 7


   เข้าใจขึ้นเยอะเลยครับ คุณ Phoenix สรุปว่า Oracle คงบงการเจ้า Smith อีกทีหนึ่งสินะครับ อยากทราบว่า แล้ว เมอโรวินเจี้ยน กับ architect น่าจะเป็นอย่างไร โดนดูดไปด้วยหรือเปล่าครับ?

แล้วก็อยากทราบว่า ต่อไปคนใน Zyon ต้องเข้าไปใน Matrix อีกไหมครับ ในเมื่อดูเหมือนว่าสงครามสิ้นสุดลง ทว่า ตอนจบ คุณลุง architect ยังหันมาบอกอีกเลยว่า "ไม่รู้ว่ามันจะสงบอีกนานแค่ไหน" ดังนั้น ภาระกิจของ Zyon ก็ยังคงต้องตามหา the one คนต่อไปอีกใช่ไหมครับ?

อีกอย่างครับ ผมเข้าใจว่า ชาวอินเดียที่เข้ามาพบ Neo ในตอนแรกเป็น Program ฟังไปฟังมาคล้ายกับว่า ภรรยาของโปรแกรมเป็นคนใน matrix ถ้าเป็นอย่างนั้น เด็กสาวอินเดีย คนนั้นเป็นโปรแกรม หรือว่า เป็นคนใน matrix ครับ แล้วเรื่องของความรู้สึก ที่โปรแกรมอินเดียพูดถึง เป็นความจริงหรือเป็นสิ่งที่อุปโลกขึ้นกันแน่ครับ เช่น คำว่ารัก!!!(ช่วงนั้นงงสุดขีด)

เรื่อง special effect ของหนังเรื่องนี้ ผมว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียวครับ แต่ว่าเพื่อนผมดันสังเกตว่า ตอนสู้กันเนี่ยฝนตกจั๊กๆ แต่ทำไมเข้าไปในตึกแล้วถึงได้แห้งล่ะครับ ^_^ ผมคิดว่า อย่าง Neo สวมเสื้อหนัง คงไม่มีปัยหาหากแรกปะทะที่รุนแรงมากนั่นทำให้เม็ดน้ำบนเสื้อหนังกระเด็นไป แต่ Smith ใส่สูทนี่ครับ ทำไมเสื้อไม่เปียกเลยล่ะ เอ ไม่ทราบผมดูผิดไปไหมครับ...

เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ เดี่ยวสงสัยแล้วมาถามใหม่ครับ


Posted by : โบทซึมุ , Date : 2003-11-13 , Time : 22:41:44 , From IP : 172.29.2.253

ความคิดเห็นที่ : 8


   ถ้าคิดว่า Oracle เป็นโปรแกรม AI ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์พยากรณ์ตามเนื้อเรื่อง function ของโปรแกรมนี้คงจะมีแค่นั้นแหละครับ ถึงแม้ว่า AI สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมแต่ purpose นั้นคงเดิมและไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่จากข้อมูลทั้งหมดรวมทั้งที่เธอรู้จัก Agent Smith เธอ "คาดว่า" นี่เป็นผลที่น่าจะเกิดมากที่สุด จะเห็นว่า Oracle พูดย้ำแล้วย้ำอีกว่าเธอจะไม่ manipulate ใครเลย แต่ให้เป็น free choice ของคนๆนั้น อย่างมากที่สุดคือ guide เป็นนัยๆ (แต่เธอให้นัยคนมากมายเหลือเกิน รวมทั้งนาโอมีที่จะต้องเสียสละยานให้นีโอตอนหลัง เธอก็ไม่ได้บังคับ แต่ให้เป็น choice ของนาโอมีเอง)

เมอโรวินเจี้ยนน่าจะเป็น roque programme อีกตัวที่เกือบจะเป็น AI แล้วรึเปล่าไม่แน่ใจ แต่แกแค่อยู่เล่นๆไปวันๆ หรือเดิมทีอาจจะถูก designed ให้เป็น programme delete programmes อื่นๆที่ Matrix จะโล้ะ และเป็นที่มาของการสะสมตัวดีๆอย่าง key-maker ซึ่ง Matrix รู้ภายหลังว่าจะเป็นเครื่องคุกคาม และมีลูกน้องเป็น assassins programme อย่างแฝดผีสีเงิน....อืม..คิดถึงแฝดคู่นี้แฮะ น่าจะทำให้สัสันในคลับมันส์ขึ้นสักเล็กน้อย programmes ชาวอินเดียและครอบครัวก็เหมือนกัน แต่กำลังจะมาติดสินบนให้ไว้ชีวิตลูกสาว ตรงนี้ยังขบไม่แตกดีเพราะไม่ได้คิดว่าสำคัญมากเลยไม่ค่อยตั้งใจฟังเท่าไร แต่ดูแล้วเป็น programme เกี่ยวกับ emotional and feeling ที่ไม่สมบูรณ์ (เดาจากที่ตะแกบอกว่า love อะไรๆเป็นเพียง word เท่านั้น แล้วก็ถูก programmed ให้มีการแสดงออกว่ารักต่างๆนานาโดยที่ตนเองไม่ได้เข้าใจ)

Smith จะแต่งตัว out-of-realm ตลอดเวลา (ไม่ใช่ reality นะครับ) เดาว่าเป็นการแสดงความรู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก Matrix อย่างสุดๆ จน programme ถูกอัดอย่างสุดๆเสื้อถึงเริ่มจะเลอะ จะเปียกได้ (จริงๆ อาจจะมองเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ programmes ทั้งสองไม่ต้องการ pay attention ไปให้สมจริงจังทั้งคู่ เพราะ Neo and Smith ต่างก็รู้ว่าฝนไม่มีจริง)

ตอนจบเป็นฉากสองโปรแกรมคุยกันคือโปรแกรมพ่อกับแม่ (Architect and Oracle) วิธีแก้ของ Architect เป็นการแก้ตามสมการเท่านั้น คือเพิ่มลด factors or events แล้วก็ลอง run programmes ใหม่อีกเป็นรอบๆไปซึ่งไม่ใคร่ work จนกระทั่ง oracle ถูก designed มาให้ทำความเข้าใจกับ parameters ต่างๆให้มากขึ้น สามารถวิเคราะห์ได้แม่นยำ (และผลตามมาคือเข้าใจและเห็นใจมนุษย์ถึงเหตุผลที่บางคนต้องการ "หลุดพ้น" จากโลกลวงได้ดีกว่า architect ซึ่งไม่มีส่วน emotional perception เลยแม้แต่น้อย ดูอะไรๆเป็น rigid causes-effects ไปหมด) อย่างที่ Oracle ตอบคำถามนั่นคือ สมดุลใหม่นี้น่าสนใจ เกิดจากผลของ free will ของ the One (ชื่อ Neo เขียนเรียงใหม่คือ One) แม้แต่ Matrix เองตอนนี้ก็ re-programmed ใหม่ให้ปลดปล่อยคนที่อยากจะถูกปลดปล่อย (เป็นนัยว่าเฉพาะคนที่ "ต้องการ" ถูกปลดปล่อยเท่านั้นจึงสามารถ free ได้ ตรงกับนิยามของ "อิสระภาพ" เหมือนในหนังเรื่อง "Bicentinial Man")

ชอบตอน Architect หันมากระแนะกระแหนตอนที่ oracle ถามว่า Matrix จะจริงใจเหรอที่จะปลดปล่อย "แล้วคุณคิดว่าผมเป็นอะไร? มนุษย์ยังงั้นเหรอ!!!W แสบมาก

สุดท้ายก็คงเป็น equilibrium ที่อาจจะแฟร์ที่สุด มนุษย์จำนวนมากไม่ได้ต้องการ "reality" สักเท่าไหร่หรอกนะครับ ส่วนใหญ่ก็ยังติดอยู่ในโลกแห่งความปลอม เกลียด โลภ หลง วัตถุ ก็สมแล้วที่จะถูก consume เป็นเชื้อเพลิงให้ MATRIX คนที่เป็นอิสระคราวนี้ก็จะสามารถสร้าง Zyon ที่เปิดเผยได้แล้ว....หรือจนกว่าจะมี rebellion ครั้งต่อไป



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-13 , Time : 23:25:35 , From IP : 172.29.3.252

ความคิดเห็นที่ : 9


   เอ้อ...ตอบไม่ครบอีกแล้ว ขออำภัย

Smith ตอนหลังนี่เป็น antivirus-turn-virus ที่ nasty มากๆ สามารถ consume programmes อื่นๆ รวมทั้งอะไรก็ตามที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกัน (i.e. สมอง อย่างที่ consume Bane ที่เป้นมนุษย์) แถมยังคง function และ memory ของของเดิม แต่อยู่ภายใต้กาควคุมของ Smith ดูปฏิกิริยา Smith หลัง consume Oracle คล้ายกับ Information Overload ปนกับ Maniac enlightenment ตอนนี้ผมว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ Matrix สูญเสียความสามารถในการควบคุม Smith ได้อีกต่อไป และต้องพึ่ง Neo ถ้าเป็นความตั้งใจ (or gamble) ของ Oracle ต้องยอมรับว่าสุดยอด

การ Consume ของ Smith ยังคง function และอื่นๆของของเดิมยกเว้นการ "ควบคุม" เท่านั้น Smith ไม่จำเป็นต้องทำอะไรกับ programmes complicated อย่างเมอโรวินเจี้ยนหรือ Architect ก็สามารถทำให้ Matrix instable พอที่จะล่มสลสยได้ ลองคิดดูในโลกของ Matrix ที่อยู่ๆมีคนหน้าตาแบบ Smith เกลื่อนเมืองไปหมด ต้องเกิด mass panic และ mass hysteria ขึ้นแน่ๆ แต่พอ Smith ถูกกำจัดทุกอย่างก็กลับสภาพเดิม ทำงานได้เหมือนเดิม

Trainer เปน redundant programme ในตอนนี้ ที่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าใส่ลงมาทำไม การต่อสู้ในคลับเมอโรวินเจี้ยนนั้น anti-climax เอามากๆ แต่ภาคนี้แบ่งแยก theme ชัดเจนว่าตอนไหนจะให้ดู animation ตอนไหนจะให้ฟัง script ไม่มั่วเหมือนภาคสอง



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-13 , Time : 23:41:07 , From IP : 172.29.3.252

ความคิดเห็นที่ : 10


    เด็กสาว Sati ชาวอินเดียนั้น ในความเห็นของผมว่าน่าจะเป็นตัวโปรแกรมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ในระบบ Matrix
โดยอาจจะเป็นตัวโปรแกรมที่ทำให้ระบบ Matrix มีความ soft ขึ้นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพื่ออาจทำให้เข้าใจในตัวมนุษย์มากขึ้น เพื่อลด error ของระบบ ซึ่งอาจจะมุ่งหวังให้โอกาสที่จะมี The One เกิดขึุ้นน้อยลง
สังเกตได้จากการที่ตอนจบของเรื่องที่ Oracle ชี้ไปที่ดวงอาทิตย์แล้วถาม Sati ว่านั้นหนูสร้างเองเหรอ Sati ตอบว่าใช้ สำหรับ นีโอ จะเห็นว่า theme ของหนังในช่วงตอนจบจะแตกต่างไปจาำก Matrix เดิมที่มีแต่ตึก เมือง ความวุ่นวาย
พ่อ แม่ ของ เด็ก Sati นั้น ที่ต้องไปหา เมอโรวินเจี้ยน โดยผ่านทาง เทรนแมน คงต้องการที่จะป้องกันไม่ให้ เด็ก sati รอดพ้นจากวิกถกติ การ copy ของ Agent smith ซึ่งเมอโรวินเจี้ยนคงมีโปรแกรมที่ทำให้สามารถุหลบซ่อนตัวให้พ้นจากการ copy ของ Agent smith ได้
ผมว่าถ้าต้องการทราบเรื่อง Matrix โดย complete นอกจากดูในหนัง 3 ภาคแล้ว ต้องเล่น Enter the Matrix & ดู Animatrix
ว่าแต่ใครเคยเล่นเกมส์ Enter the Matrix บ้างครับ ช่วยเล่าเหตุการณ์ในเกมส์ ว่าเป็นยังไง ผมทราบคร่าวๆ แต่เพียงว่าเป็นช่วงที่ Niobe & Ghost ขึ้นยานไปช่วย ์ำพวก Morpheous ในช่วงหนังภาค 2
แล้ว Animatrix มีใครเคยดูบ้างครับเป็นยังไงบ้าง


http://www.212cafe.com/freewebboard/user_board/si106/picture/00006_4.gif


Posted by : Hannibal Lecter , Date : 2003-11-13 , Time : 23:54:22 , From IP : 172.29.3.240

ความคิดเห็นที่ : 11


   พี่นกไฟดูกี่รอบแล้วคะ ทำไมถึงเข้าใจทะลุปรุโปร่งขนาดนี้ หนูดูรอบเดียวค่ะ งงตึ๊บ มาอ่านของพี่นกไฟก็ไม่ได้กระจ่างมากขึ้นเลย หนูจะทำยังงัยให้รู้เรื่องดีคะ พี่นกไฟช่วนอธิบายหนูแบบไม่ advanced ได้ไหมคะ เอาแบบ "the ediot guide for Matrix" ฉบับพี่นกไฟก็ได้ค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า

Posted by : หนูหิ่น , Date : 2003-11-14 , Time : 09:13:30 , From IP : 172.29.3.167

ความคิดเห็นที่ : 12


   คิดมากกันไปเองหรือเปล่า??
ถ้าหากในเรื่องมีฉากนีโอนั่งถ่ายอุจจาระ พวกคุณจะตีความอะไรกันเองอีก??
จะบอกว่ามันเป็นการสื่อทางอ้อมว่าการถ่ายอุจจาระนั้นเปรียบได้กับการปลดปล่อยซึ่งนีโอคาดหวังอย่างนั้นหรือ??
แล้วฉากที่นีโอกับทรินิตี้มีเซกส์กันใน reloaded ล่ะ ตีความกันไปอย่างไรอีก??
สื่ออะไรทางอ้อมอีกล่ะเนี่ย??
คนเขียนบทเขาเขียนไปโดยไม่ได้คิดอะไรเลยหรือเปล่า ก็เล่นเสื้อไม่เปียกฝนยังเอามาตีความได้ขนาดนี้
อืม Oracle เป็นคนดำเนี่ยตีความว่าอะไรอีกล่ะ?? เอาใจคนดำ หรือผู้อำนวยการสร้างเป็นคนดำ??
อืม สงสัยเดี๋ยวคงมีคนมาตีความเรื่องทำไม มอร์เฟียสต้องหัวล้าน ทำไมต้องใส่แว่นดำ สื่อว่าโลกเรามีแต่ความหลอกลวงปิดบังใบหน้ากันหรือไม่??
ทำไม sentinel ต้องเป็นปลาหมึก เป็น ปลากระโห้ไม่ได้??
ทำไมทรินิตี้ต้องหน้าเหี่ยวๆ??
ทำไม ทำไม??
เฮ้อ!!


Posted by : จอมตีความ , Date : 2003-11-14 , Time : 09:24:47 , From IP : 172.29.3.136

ความคิดเห็นที่ : 13


   ผมเคยดู Animatrix ครับ เป็น Animation ที่แบ่งเป็นตอนๆ ไม่เกี่ยวข้องกัน คิดว่าคงใช้ผู้ดำเนินการสร้างคนละคนกันครับ เล่าเรื่องราวคร่าวๆแล้วกันนะครับ ถ้าเผื่อว่าไปดูจะได้ไม่เสียอารมณ์

เรื่องอาจไม่เรียงตามลำดับนะครับ จะโพสเท่าที่นึกได้

1. The last flight or the Orisis
เป็นเรื่องที่แทรกระหว่างกลา่งของภาค Reloaded กล่าวถึงนักบินของยาน Orisis ที่ต้องการส่งข่าวอะไรบ่างอย่างใน matrix ซึ่งทำได้สำเร็จแต่ต้องแลกด้วยชีวิต...

2. The second renesant(เรเนอซองค์ เขียนยังไงครับ?)
คือ ตอนต้นกำเนิดของ Matrix นั่นเองครับ ดูตอนนี้แล้วจะรู้ปูมหลังของ Matrix ว่า คืออะไร?

3. ชื่อตอนจำไม่ได้
เป็นเรื่องของหลังยุด second เรเนอซองค์ ว่าด้วยสงครามระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร และ การแก้ไขปัญหาโดยการพยายามล้างสมองเครื่องจักรมาเป็นพวก แต่...

4. จำไม่ได้อีกแล้ว
เป็นเรื่องใน matrix กล่าวถึง Bug ที่อยู่ในนั้น ทำให้พื่นที่บางแห่งเกิดการบิดเบี้ยวของมิติ แต่กลายเป็นว่า ไม่มีใครรู้...

5. สุดท้าย?
เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มที่โผล่มาใน revolution (คนที่ขนกระสุนไปให้ผู้กอง และเปิดประตูให้ Hammer เข้ามา) สาเหตุที่เขาออกมาจาก Matrix และการได้พบกับ Neo

ดูๆไปแล้วจะไม่ค่อยเข้าใจครับ เพราะ แต่ละเรื่องนี่จบในตอน แถมไม่เกี่ยวข้องกัน แต่มีคนช่วยเอามาเรียบเรียงแล้วล่ะครับ อยู่ในกระทู้ข้างล่าง ลองหาเช่าตามศูนย์เช่าวีดีโอดูนะครับ ถ้าอยากทราบรายละเอียด อ้อ โฆษณานิดนึง เป็น Animation ที่ทำได้ดีมากครับ โดยเฉพาะ The last flight of the Orisis นางเอกเฉ้งกระเด๊ะจริงๆ


Posted by : โบทซึมุ , Date : 2003-11-14 , Time : 12:41:30 , From IP : 172.29.2.110

ความคิดเห็นที่ : 14


   ดูท่าจะต้องไปหา Aminatrix มาดูบ้าง

เรื่องดูหนังนี่เป็นงานอดิเรกของแต่ละคนซึ่งทำให้มี style แตกต่างออกๆไปได้แยะ คล้ายๆกับการเล่นแสมป์น่ะแหละครับ คนไม่เล่นไม่มีทางรู้ว่าทำไมคนเล่นมันนั่งลูบคลำ ชื่นชม หรือดึงออกแล้วจัดใหม่ได้เป็นวักเป็นเวร

การดูหนังหรืออ่านหนังสือนั้น จะไม่การันตีว่าทุกคนได้ consensus ว่าอะไรเป็นอะไร จริงๆแล้วความดีของสื่อเหล่านี้คือการให้ช่องว่างที่คนดูคนอ่านสามารถเติมได้เอง หนังสือจะยิ่งเปิดช่องได้มากกว่าหนัง เพราะจะรวมทั้งการใส่หน้าตาพระเอก นางเอก animation ฯลฯ เองหมด Matrix เราไม่มีหนังสืออ่าน แต่เปิดช่องให้เราตีความได้ตามใจ ตาม baxkground และความสนใจของคนดูแต่ละคนว่าอยากจะเชื่อมโยงกับอะไรบ้าง คนสร้างมาอ่านหรือฟังความเห็นของคนดูอาจจะอึ้งไปเลย เพราะไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นมาก่อน

เพราะฉะนั้นคงไม่จำเป็นต้องมี final conclusion กระมังครับ ใครใคร่ได้อะไรก็ได้อย่างนั้นไป ดูจะเป็นการยุติธรรมที่สุด ไม่ต้องโกรธแค้นที่ดูแล้วสรุปออกมาไม่เหมือนหรือสนุกไม่เท่าไม่ว่าจะเป็นน้อยหว่าหรือมากกว่า ไม่มีหนังเรื่องไหนการันตีว่าคนดูจะสนุก จะเครียด จะเศร้า จะขันเท่ากันอยู่แล้ว เพียงแตาถ้าใครชอบสร้าง หรือ fill in the blank ส่วนที่หนังเปิดช่องไว้ก็จะรู้สึกมันดี สนุกดี ได้บริหาร imagination ของตนเอง



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-14 , Time : 15:18:49 , From IP : 172.29.3.110

ความคิดเห็นที่ : 15


   การตีความและให้ึความหมายก็เป็นความสนุกอีกอย่างจากการชมภาพยนตร์ อ่านหนังสือ ดูภาพวาด ฟังเพลง ฯลฯ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา
อืม ถ้าหากว่าในหนัง Matrix มีฉากที่ Neo นั่งถ่ายอุจจาระจริงๆล่ะก็ แสดงว่าอย่างน้อยมันก็ต้องเป็นฉากที่ผลต่อเรื่องแน่นอน
ก็ขึ้นกับการตีความไปอีก อาจจะเป็นว่า Neo ท้องเสียจึงสู้แล้วแพ้ ...

เอาเหอะ
เรื่อง Animatrix นั้น ผมซื้อ DVD มาครับ ไม่เคยเห็นตามร้านเช่าวีดีโอนะครับ
แต่ผมก็ยังไม่ได้ดูอยู่ดี เคยได้ดูแค่ตอนแรกเท่านั้นเอง
แต่ละตอนมีความหมายต่อเนื่องกับเรื่องในสามภาคนะครับ
The last flight of Orisis นี่ คือ ยาน Orisis ขึ้นไปบนผิวโลกแล้วพบว่าพวกหุ่นยนต์กำลังเจาะผิวโลกเพื่อบุก Zyon แต่พวก Sentinel พบเข้าจึงไล่ตาม ยาน Orisis จึงต้องส่งคนเข้าโลก Matrix เพื่อฝากข่าวให้ทางฝ่ายมนุษย์รับรู้

ที่คุณ Phoenix อธิบายก็ช่วยให้ความเข้าใจของผมนั้นหลากหลายมากขึ้นครับ ตัวผมเองก็เข้าใจคล้ายๆกันแต่ไม่ตรงกันทีเดียว สนุกดีครับ
แต่ไม่ชอบตอนจบเลย อย่างที่คุณโบทซึมุว่า มันรวบรัดเกินไป แล้วต่อไปจะเป็นยังงัยล่ะ
สรุปว่า มนุษย์ ก็ยังไม่ชนะ หุ่นยนต์ก็ยังครองโลกต่อไป

ไปดู Lord of the Ring ดีกว่า เมื่อไหร่จะเข้านะ


Posted by : ArLim , Date : 2003-11-14 , Time : 21:01:18 , From IP : maliwan.psu.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 16


   ...............ถามผมนะ....ผมชอบตรงทีใครจะตีความอะไรจากไหนก็ได้นะแหละ.....ผมไม่แน่ใจผู้สร้างตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่....หรืออาจจะสร้างมั่วๆให้คนดูไม่รู้เรื่อง...ตีความกันมั่วๆไปเอง.....หรือถ้าตั้งใจสร้างแบบนั้นจริงๆ....ถือว่าทำได้น่าสนใจมาก.....เพราะที่ผมนั่งอ่านมาจาก Webboard หลายๆที่นี่.....มีบางทีคิดไปไกลกว่านี้อีกมากครับ....ลองไม่คิดเรื่องนี้ในแง่ของศาสนาดูสิครับ....ลองตัดปรัชญาทิ้งไป.....แล้วลองคิดแต่เหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกัน...อาจจะได้มุมมองของเรื่องนี้แปลกออกไปก็ได้.....อย่างนึงที่ผมพอจะเห็นได้จากหลายๆที่คือว่า...คนที่คิดอะไรแบบไหนในชีวิตหรือมีมุมมองแบบไหน...จะคิดเรื่องออกมาในแนวนั้น.....ลองไปหาอ่านที่พวกบ้าๆคิดดู....จะพบว่าหลุดโลกกว่านี้เยอะครับ..:D...:D
.....ส่วน Animatrix นั้น...ผมว่าถ้าอยากได้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องและ Complete มากกว่านี้...น่าจะจำเป็นต้องดูครับ....คล้ายๆเราต่อ Jigsaw นะครับ...Matrix อาจจะเป็น Jigsaw ที่ไม่ Complete.....การดูแต่ละภาคทำให้เราได้ชิ้นของ Jigsaw มากขึ้น....และแน่นอน...ที่ Jigsaw ของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ....นั้นก็เลยบอกยากว่าเราแต่ละคนจะต่อภาพรวมของ Matrix ออกมาได้เหมือนกันหรือไม่....น่าสนใจดีไหมหละครับ...:D..:D



Posted by : Death , Date : 2003-11-14 , Time : 21:01:53 , From IP : 172.29.1.160

ความคิดเห็นที่ : 17


   ...Lord of the rings - Return of the king จะเข้าฉายที่อเมริกาวันที่ 17 ธันวาคมครับ...ส่วนรอบปฐมทัศน์รอบแรกของโลกจะฉายที่ New Zealand สถานที่ถ่ายทำตอนต้นเดือนหน้านี่หละครับ [ถ้าจำไม่ผิดนะ]....ส่วนบ้านเราเห็นว่าจะเข้าวันที่ 19 ธันวาคม ครับ....แต่อาจจะเลือนไปฉลองปีใหม่เหมือนปีก่อนก็ได้ครับ.....:D
.....ลองไป Download ตัวอย่างมาดูสิครับ....ดูแล้ว...โอโห....ไม่ดูท่าจะไม่ได้แน่ๆ....:D..:D

There can be no triumph........without loss
No victory...........without suffering
No freedom..............without sacrifice

[ The lord of the rings - The return of the king ]



Posted by : Death , Date : 2003-11-14 , Time : 21:09:44 , From IP : 172.29.1.160

ความคิดเห็นที่ : 18


   มีคนตีความหลากหลายมากอย่างที่คุณ Death ว่า มี version ที่คนค่อนข้างผิดหวังที่ Architect พยากรณ์ว่าถ้า Neo เลือกประตูเพื่อช่วย Trinity แล้ว Zion จะล่มสลาย ไม่มีกลุ่มที่จะฟื้นคืน another version ของ Zion อีกต่อไป แต่การณ์ปรากฎว่าไม่เป็นไปตามนั้นเลย

เหตุผลก็คือ Architect เป้น programme ที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนักในการพยากรณ์ multi-pleuri-parameters events (ไม่งั้นตะแกคงไม่มะงุมมะงาหรามาแล้วครึ่งโหล version แต่ก็ยังไม่ work ซะที) ผมอยากจะให้เป็น version ที่ Oracle วาง plot ตอนจบของภาคสามนี่ ดูจะ dramatic กว่า แต่นักดูหนังที่ความดีความชอบต้องเป็นของพระเอกเท่านั้น คงจะชอบ version ที่ว่า Neo เป้น anomaly ที่ MAtrix หรือใครก็ตามไม่สามารถคาดคิดถึง (ตรงนี้นึกถึง "มโนมัย" หรือ "The Mule" ใน The Foundation Series ของ Asimov ขึ้นมาทันที) แล้ว solve problem ได้ โดย free will หรือ Faith ดูจะเป็นกำลังใจแก่คอหนังทั่วๆมากกว่า

LOTR ภาคนี้แม้แต่ director เองก้คงจะใจตุ๋มๆต่อมๆกับผลลัพธ์ ภาคสองแกทำได้เละเทะมากในสายตาของคนอ่านหรือ hard-core Tolkian fans เพราะหนังถูก Hollywoodified ไปอย่าง drastically ลำพัง Arwen ร่ายมนต์ขี่ม้าลุยกับ NasGul เก้าตัวในภาคหนึ่งก็กวนประสาทพออยู่แล้ว พอมาเจอ Animation-overloaded ในภาคสองเข้าสร้างความผิดหวังมากพอสมควร ที่ภาคหนึ่งดังระเบิดนั้นจริงๆแล้วก็เป็น testimony อย่างดีว่า Tolkien เขียนไว้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปแก้แม้แต่ script

แต่พูดถึง Cinematography แล้วอีกเรื่องนึงที่ค่อนข้างประทับใจคือ Gangs of New York (เห็นมี DVD ขายแล้วที่ B2S) Daniel Day-Lewis (ใครจำบทของตะแกใน My Left-Foot ได้บ้าง) หรือ Bill the Butcher ทำฉากนำแก็งลุยกับ the Dead Rabits นั้นงามจริงๆ



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-14 , Time : 21:31:56 , From IP : 172.29.3.250

ความคิดเห็นที่ : 19


   เอ่อ ชักเริ่มอ่านไม่รู้เรื่องเสียแล้ว บังเอิญว่าดูหนังไม่เยอะเหมือนคนอื่นเขา
ว่าแต่เกม Enter the Matrix เนี่ยหาเล่นได้ที่ไหนครับ


Posted by : ArLim , Date : 2003-11-14 , Time : 21:42:09 , From IP : maliwan.psu.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 20


   .............Gangs of New York นี่สุดยอดมากๆครับ..เสียดายที่ไม่ได้สักรางวัลเดียวใน Oscar ปีนั้น.....นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ก็ว่าโน่นดีนี่ดี...แต่ไม่ดีในสุดๆในแต่ละด้าน....แต่ส่วนตัวผมแล้ว....ผมชอบครับ....แค่ตัวอย่างหนังเรืองนี่ก่อนจะเข้าฉายนี่....ผมแทบจะบอกตัวเองเลยว่าผมจะพลาดเรื่องนี้ได้ไง....แต่ปรากฎว่าที่นี่ไม่เข้าฉาย [ถ้าจำไม่ผิด]....เพราะตอนนั้นที่ Chicago ได้ Oscar เลยเอามาเข้าแทน....ส่วน Gangs ก็โน่นครับ...ต้องมาดูกับ VCD เอาแทน..คิดว่าถ้าดูในโรงใหญ่นี่..คงจะได้บรรยากาศกว่านี้....:D....:D
.............LOTR นี่.....เป็นความแรงตามกระแสครับ....รู้สึกประหลาดครับที่เห็น Arwen รบกับ ภูติแหวนทั้ง 9 เหมือนกันครับ [ที่จริงเป็น Glofindel...ใช่ป่าวหว่า...จำไม่ค่อยได้แล้ว].....แต่ส่วนของภาคที่สองนี่ผมชอบนะครับ...อาจจะดูแปลกๆอย่างที่คุณ Phoenix ว่า....แต่ผมยังนึกเองไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าผมสร้างเองนี่.....คงจะไม่สร้างได้ดีเหมือนที่มีแน่ๆ......ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องแน่นอนครับ....สำหรับนิยายที่นำมาทำเป็นหนัง...มักจะต้องมีการปรัปเปลี่ยนอยู่แล้ว...การคงทุกอย่างไว้เหมือนในหนังสืออาจจะใช้ได้กับหนังสือที่รายละเอียดไม่เยอะ.....ถ้าอย่าง LOTR นี่...อาจจะต้องมีสัก 10 ภาคถ้าจะให้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น....ลำพังเท่าที่ทราบตอนขอทุนสร้างก็แทบไม่ได้แล้วครับ....เพราะพี่แกเล่นสร้างแบบว่ากะดังที่เดียวสามภาคเลย.....คาดว่าถ้าถาคแรกดับนี่....คงเจ๊งวินาศสันตะโรแน่....:D......ผมเริ่มนึกถึง Back to the future ขึ้นมาแล้วครับ.....:D..:D
...........Enter the Matrix เป็น Game PC ครับหาซื้อได้ทั่วไปทั้งของจริงและของเถือนครับ..ผมไม่ได้เล่นเพราะไม่ค่อยชอบเท่าไรนักครับ...แต่เท่าที่ฟังคนอื่นเล่นมานี่....บอกว่าไม่ใช่ง่ายๆเหมือนกัน....รู้สึกว่าร้านตรง X-net ตรง ประตู 108 นี่ก็มีขายนะครับ...:D....499 หรือ 599 นี่หละ....เอหรือ 399 หว่าจำไม่ได้เหมือนกัน....Spec เครื่องไม่ Require สูงมานักครับ...มีการด์ดีๆก็พอไหวแล้วครับ..:D



Posted by : Death , Date : 2003-11-14 , Time : 22:06:17 , From IP : 172.29.1.160

ความคิดเห็นที่ : 21


   หยิบภาคสองมาดูใหม่พบ clues ที่นำมาพูดในภาคสามหลายตอน

อันนึงที่คนส่วนใหญ่ miss แน่ๆคือตาโปรแกรมชาวอินเดียใน subway นั่น โผล่มาจริงๆประมาณ 1 วินาทีเดินผ่านหน้า Neo, Morpheus, และ trinity ก่อนจะพบ Merovingian เป็นครั้งแรกในคลับ

ตอนที่ Merovingian จะหนี Neo ไป พูดทิ้งท้าย (จริงๆพูดย้ำหลายทีก่อนหน้านี้) ว่าเขาเคย survived Neo predecessor มาแล้วหลายครั้ง จิรงๆก็คือ Neo ที่แล้วๆมาของ 5 versions ที่แล้วนั่นเอง

จะเห็นได้ว่า programmes เกือบทุกตัวสามารถจำ versions เก่าๆที่เกิดแล้วดับได้ค่อนข้างดี ไม่แปลกอะไรเมื่อ Agent Smith พัฒนาตัวเองจนเป็น AI virus จะมีแรงผลักดันที่เบื่อการทำอะไรซ้ำแล้วซ้ำอีก (ต้องโทษความ "มือไม่ถึง" ของ The Architect มากกว่า) ที่ Matrix ลองผิดลองถูกเพื่อหา new equilibrium ที่ไม่มี resistance จากมนุษย์หรือ Zion อีกต่อไป วิธีของ smith จริงๆแล้วดูจะเป็น absolute ที่สุดคือทำลายหมดเลยทั้งมนุษย์และระบบ Matrix ถอนรากถอนโคน

ในตอนสองนี่ Neo ยัง confused และเป็นอย่างที่ Oracle ว่า คือจริงๆแล้ว Neo "ได้เลือก choices" ไปหมดแล้วแต่ต้องแค่ "เข้าใจว่าทำไม" ตรงนี้เหมือนกับจะชี้ไปทางพุทธคือ กฎของ causes & effects แต่ในภาคสามกลายเป็นมันไม่จำเป็นต้อง work เพราะ "รู้" ว่าทำไม เอาเป็นแค่ "believe หรือมี faith" ก็พอ อันนี้จะปลิ้นไปคริสเตียนก็ work ได้เหมือนกัน ระดับหนึ่ง แต่ไม่มีใครเข้าใจเหตุผล (ต่างกับแบบแรกที่คำถาม "ทำไม" ถูกตอบ) และอาจจะนำมาสู่ภาคต่อๆไปไม่มีที่สิ้นสุด เพราะ "ราก" ของปัญหายังอยู่ ตามหลักการของ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเอง



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-15 , Time : 01:10:17 , From IP : 172.29.3.250

ความคิดเห็นที่ : 22


   จริงๆแล้วภาควิชาศัลยศาสตร์ก็เหมือน Matrix นะ

คุณ Phoenix ก็เหมือน agent Smith ที่สามารถหลุดจากการขึ้นตรงต่อ Matrix ไม่ต้องผ่าตัดเหมือนที่เคยถูกโปรแกรมมา แถมยังอัพเดตตัวเองมานั่งทำงานสบายๆได้หน้าคอมพ์




Posted by : ปีศาจลูกหมา , Date : 2003-11-15 , Time : 21:22:05 , From IP : 172.29.3.236

ความคิดเห็นที่ : 23


   ผมคิดว่าไม่มีใครถูก programmed มาให้ทำอะไรหรอกนะครับ รวมทั้งตัวคุณปีศาจลูกหมาด้วย ในเรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับคริสต์ตรง Free will หรือ choices เป็นสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ควรจะเทอดทูนทะนุถนอมไว้ไม่ว่าจะเป้นใคร

ปัญหาที่เหมือนคนที่ถูก trapped ใน Matrix ส่วนใหญ่นั่นแหละครับ คือเข้าใจว่าเรา "ต้อง" ทำโดยไม่เข้าใจว่าทำไม และไม่ได้ขวนขวาย choice หรือทำให้ตนเอง "มีทางเลือก" บางครั้งก็มีความรู้สึกอยากจะมี choice แต่ทางออกอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนก็สร้างเป็นแรงบันดาลใจกระเสือกกระสนสร้างความรู้ สร้างสถานะของตนเองเป็นต้นทุนที่จะเลือก choice บางคนก็เกิด dissent กับคนที่มี choices แทน พยายามทำให้คนอื่นไม่มี หรือทำเหมือนกับว่า "มี choices" นั้นเป็นเรื่องเลวร้าย ผิดศีลธรรม

ผมไม่เข้าใจนิยามของงานสบายๆที่ว่าเท่าไหร่นะครับ ปกติเราสามารถแบ่งออกเป้นทาง physical กับ mind ที่คนๆหนึ่งต้องลงทุนลงแรงลงในไปเนื้องาน ความสมดุลนั้นอยู่กับที่ว่า "ความเหมาะ" ของแต่ละปัจเจก บางคนถ้าถูกให้มานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทำความเข้าใจและหารูปแบบของข้อมูล 26 columns ของผู้ป่วย 2000+ รายอาจจะเป็นงานในฝัน แต่บางคนก็อาจจะนั่งซื่อบื้อหรือตกนรกทั้งเป็นได้

ไม่ว่าทำงานที่ไหน คนเราก็อาจจะตกอยู่ใน Matrix ได้ทั้งนั้น ตราบใดที่เรา "ไม่สร้างโอกาสให้มีทางเลือก" เราก็จะเหมือนคนจำนวนมากที่ trapped อยู่ในโลกจำลองของ Architect แต่คนที่ขวนขวายนั้นก็ไม่ใช่สบายๆตลอดเส้นทาง ทั้ง Neo หรือ Smith ต่างก็ต้องดิ้นรน ต้องทรมาน ต้องฟันฝ่าอุปสรรค และตรงกับที่ Smith พูดไว้ตอนหนึ่งก็คือ Purpose of life นั้นสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีเราก้ไม่รู้จะมี existence ไปทำไม ส่วนใครจะยอมถูก programmed เพื่อเกลียด เพื่อประชด เพื่อด่า หรือเพื่อสร้างสรรค์ เพื่อผู้ป่วย เพื่อคุณค่าของตนเองนั้น ก็จัดว่าเป็น purposes of life ได้ ผมอาจจะเลือกแล้ว คุณปีศาจลูกหมาเลือกหรือยังครับ?



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-16 , Time : 00:03:26 , From IP : 172.29.3.213

ความคิดเห็นที่ : 24


   ยังอ่านที่ discuss กันไม่จบเลยค่ะ
ดูไปทั้ง 3 ภาคแล้วก็ยัง งงๆ อยู่เลย
ไว้ขอไปตั้งใจดูใหม่อีกทีก่อนดีกว่า กลับเข้ามากระทู้นี้ใหม่คงจะรู้เรื่องขึ้น

...

วันนี้แค่อยากแวะเข้ามาบอกว่า
Animatrix มีเป็นแผ่น VCD ตามร้านเช่าค่ะ เคยเห็น
เผื่อคุณ Phoenix จะไปเช่ามาดูได้โดยไม่ต้องลำบากซื้อเป็น DVD ึค่ะ

:-)


Posted by : .. , E-mail : (AvaRi) ,
Date : 2003-11-19 , Time : 19:02:25 , From IP : 172.29.2.91


ความคิดเห็นที่ : 25


   เสน่ห์ประการหนึ่งของ Matrix series คือเราสามารถพยายามมองจากมุมต่างๆของ "ฝ่าย" ในเรื่องนี้และมองเห็น logistic thoughts ที่จะอธิบายพฤติกรรมทั้งหมด "โดยไม่มีผู้ดี ผู้ร้าย"

ถ้าจะแบ่งฝ่ายใหญ่ๆในเรื่องนี้ออกเป็นสามฝ่ายคือ Matrix Smith และ Human race จะได้ subplots ย่อยๆออก (ตล้ายๆกับหนังเรื่อง "หลายชีวิต" ของหม่อมคึกฤทธิ์ ที่ตอนจบทุกชีวิตมาบรรจบที่ equilibrium เดียวกันบนเรือข้ามฟากลำนั้น) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Matrix และ Smith นั้นกระบวนการคิดจะเป็นในแนว linear equation ที่ purpose กับ action ไปด้วยกันอย่างชัดเจนตามสมการ แต่ของ human race นั้นมีความแตกต่างตรง choices

แม้แต่ Cypher ที่ทรยศ (ใช่ชื่อนี้รึเปล่าหว่า?) นั้นจะว่าไปก็ไม่เชิงความผิด ถ้าลองจินตนาการเราถูกดึงออกมาจากชีวิตที่ programmed ให้เสถียร ออกมาหลบๆซ่อนๆ ถูกล่าโดยหุ่นยนต์ทุกวี่วัน เราเองก็อาจจะเกิด anger อย่างเดียวกัน choices ระหว่างยาสีฟ้ากับยาสีแดงนั้น ไม่มีข้อมูลพอเพียงที่จะบ่งบอกว่าเลือกแบบใดเป้น free choice แถมยังย้อนกลับไม่ได้อีกต่างหาก ประชากรจน.มากที่พลังชีวิตหล่อเลี้ยง Matrix อยู่นั้นก็ดูมีความสุขดี จนกระทั่งจะมองเป็น weak plot ของเรื่องนี้ก็ยังได้ที่ทำไมผ่าน 5 versions ของ Zion มาแล้ว Architect ยังไม่เข้าใจสมการที่อีก 1% ไม่เสถียรแล้วกลายเป้นกลุ่ม rebellion รอบแล้วรอบเล่า และการที่พวก Zion ต่องการปลดปล่อยคนที่เหลือมานั้น เป็นการ "ทำถูก" จริงหรือไม่? หรือเป็นการ ASSUME ว่าที่เหลือจะเห็นด้วยไปกับ Zion ทั้งหมด Cypher เป็นตัวอย่างที่ Obvious ว่ามีข้อยกเว้น แถมข้อยกเว้นอันนี้เป็น 99% ของ human race ด้วย

ถ้าเรามอง Smith เป็นผู้ปลดปล่อยได้หรือไม่? ปลดปล่อยจากวัฏสังสาร ทั้ง Matrix เองที่งมงายอยู่กับการแก้สมการหาโลกที่เสถียรให้ได้ ทั้ง human race เองที่ไม่อยากจะเลือก choices บ้าง อยากเลือกแต่ไม่เข้าใจบ้าง เข้าใจผิดบ้าง หรือมีแค่ faith ก็เพียงพอแล้วที่จะเลือก เราจะรู้ได้อย่างไรว่า faith จะถูก Thin line ระหว่าง religious fanatic กับ enlightenment นั้นบางเหลือเกิน

สุดท้าย ultimate winner อาจจะเป็น Smith คนเดียวที่ "หลุดพ้น" อย่างที่ต้องการ ไม่ต้องกลับมาซ้ำๆทรากๆ รอบแล้วรอบใหม่อย่างที่ตอนจบทิ้งไว้อย่าง.....until the next era, the war yet to come.



Posted by : Phoenix , Date : 2003-11-19 , Time : 20:24:03 , From IP : 172.29.3.230

ความคิดเห็นที่ : 26


   ถ้าหากหนังเรื่องนี้ไม่มีฉากต่อสู้หรือฉาก action มันส์ๆเลย
เราคงอดดูหนังเรื่องนี้กันแน่เลย



Posted by : ArLim , Date : 2003-11-20 , Time : 10:13:21 , From IP : 203.113.76.75

ความคิดเห็นที่ : 27


   อืมมมม ยังอ่านกระทู้ไม่จบเลย

Matrix นี่เป็นหนังที่ชอบมากๆๆแล้วในบรรดาหนังหลายๆเรื่อง

ชอบแนวคิด ความเป็นปรัชญา ของเรื่องนี้ค่ะ มีคำพูดสุดยอดฟังแล้วขนลุกเยอะมากค่ะ
อยากให้มีการรวบรวมมาให้อ่านกันจัง


ชอบตอนที่ ร่าง neo แตกสลาย แล้วมีแสงเป็นรูปไม้กางเขนออกมา
สุดยอดมาก เหมือนกับว่า neo นี่แหละ คือผู้ปลดปล่อยที่แท้จริงค่ะ



Posted by : cp_chan , Date : 2003-11-20 , Time : 18:20:26 , From IP : 172.29.2.107

ความคิดเห็นที่ : 28


   ใครจะเป็นผู้ปลดปล่อยที่แท้จริงก็แล้วแต่ว่าจะมองจากฝ่ายไหน

แต่การทำแสงรูปไม้กางเขนนี่ เป็นการชี้สัญลักษณ์ให้เห็นชัดเจนเลยนะ

หนังเรื่องนี้ ชอบเหมือนกัน เป็นเรื่องที่ดูแล้วคาดไม่ถึงว่าจะเป็นอย่างนี้


Posted by : ArLim , Date : 2003-11-21 , Time : 03:40:14 , From IP : 203.113.76.75

ความคิดเห็นที่ : 29


   อืม เรื่อง matrix ผมมองว่า
architect เป็นโปรแกรมที่ยึดกรอบการพัฒนา คือติดอยู่ในกฏเกณท์ มีการเผื่อทางเลือก แต่จะมองผลของแต่ละทางเลือกตายตัว
ส่วน oracle เป็นเหมือน โปรแกรมที่ ทำหน้าที่ทั้ง monitor - forecast - loadbalance
smith เป็นโปรแกรมตัวนึงที่มีหน้าที่กำจัดโปรแกรมไม่พึงประสงค์ แต่เริ่มพัฒนาตัวเองไปจนเกินขอบเขต ทำให้เริ่มเสียสมดุลย์
ส่วนthe one นี่ อาจจะหมายถึงโปรแกรมตัวไหนก็ได้ที่เป็น base class, base object
ที่สามารถนำมาพัฒนาเพิ่มเติมความสามารถเข้าไป (object orionted) ซึ่งเปรียมนีโอเป็นbase class ที่เป็นเหมือนเซล หากมี ยีน ที่เหมือนกัน มันก็จะออกมาหน้าตาเหมือนกัน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงยีนก็ทำให้คุณสมบัติเปลี่ยนไปได้ แต่อีกทางคือมียืนเดิมเหมือนกัน แต่นำไปเลี้ยงดูฝึกหัดต่างกันก็ทำให้คนต่างกันได้เหมือนกัน

ส่วนเรื่องแนวปรัชญา ขอไม่พูดถึง เพราะมันเป็นเรื่องแนวคิด หากใครคิดอย่างมีหลักเกณท์ตามหลัก ไม่ใช่นึกเอามั่วๆเอาเองมันก็ไม่น่าจะมีใครผิด

สิ่งที่ทำให้มนุษย์เจริญ ล้วนมาจากการสร้างสรร การสร้างสรรเกิดขึ้นเพราะมีการใช้จินตนาการ อัจฉริยะ คือคนที่มีจินตนาการสูง และจินตนาการนั้นนำมาสร้างให้เป็นจริงได้


Posted by : fineman , Date : 2007-03-17 , Time : 04:13:33 , From IP : 210.246.81.24

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.012 seconds. <<<<<