ความคิดเห็นทั้งหมด : 15

โปรแกรมใหม่สำหรับใครหลายๆคน...(ลงเวลาทำงานในคอม) แล้วคุณคิดยังงัย


   อยากทราบปัญหา / ความพึงพอใจ
แล้วอย่างไหนดีกว่ากัน
ลงเวลาในคอม VS สแกนนิ้วมือ


Posted by : แปง , Date : 2009-07-08 , Time : 00:47:29 , From IP : 172.29.9.130

ความคิดเห็นที่ : 1


   เท่าที่ทราบ ระบบใหม่ จะไม่ยุ่งยากสำหรับคนทำงานครับ

จะมี IC chip ฝังอยู่ที่บัตรห้อยคอรุ่นใหม่

ทุกคนต้องพกบัตรติดตัว

โรงพยาบาลจะมีตัวรับเซ็นเซอร์ กระจายอยู่ทั่วไป คล้ายๆ ระบบ GPS นำร่องของรถยนตร์

ทันทีที่คุณเข้ามาใน รพ. ก็จะ detect ได้ว่ามาถึงกี่โมง

เริ่มต้นอยู่ที่ไหน

เช่น OR OPD หรือ โรงอาหาร

ย้ายจาก OPD ไป ward ตอนกี่โมง

สามารถเรียกข้อมูลมาดูได้หมด


ถ้าลืมบัตรไว้ที่บ้าน ก็มีระบบสำรองให้คุณ สแกนนิ้วมือ ณ ที่ทำงานได้


หรือถ้าใครลืมไว้ที่ทำงาน ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ก็จะมีระบบตรวจสอบ จะมี sms ส่งไปเตือน



Posted by : OmniSci , Date : 2009-07-08 , Time : 11:45:26 , From IP : 118.173.158.27.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 2


   ถัดไป เมื่อระบบลงตัว

เราจะนำข้อมูลไปอ้างอิงกับการเคลมการทำงาน

นำไปสัมพันธ์ กับชั่วโมงทำงาน ( เท่าที่ทำได้)

แต่เมื่อพิจาราณาในคณะทำงาน พบว่าจุดอ่อน คือถ้าฝากบัตรไว้กับเพื่อน จะรู้ได้ไง


มีคนเสนอว่า จะให้สัมพันธ์กับ sim มือถือ ที่ต้องลงทะเบียน ซึ่ง sim เหล่านี้ก็ระบุตำแหน่งคนได้ในระดับหนึ่งเช่นกัน







ทั้งหมดจะเริ่มได้ในอนาคตอันไม่ไกล





หลังจาก คนหน้าเหลี่ยม ถูกจับเข้าคุก

พร้อมๆ 3 เกลอหัวขวด

พวกเสื้อแดงจะหันมาร่วมมือพัฒนาชาติร่วมกับเสื้อเหลือง

หลังจาก 3 จังหวัดชายแดนของเรา สงบ

เศรษฐกิจโลกกลับมาดี

ทองบาทละ 5 พัน

น้ำมันลิตรละ 8 บาท







รอไปนะ


Posted by : OmniSci , Date : 2009-07-08 , Time : 11:52:54 , From IP : 118.173.158.27.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 3


   ขอโทษสำหรับเจ้าของกระทู้ ที่ ผมโม้มากไปหน่อย

สำหรับเรื่องการลงเวลาทำงานใน com หรือสแกนลายมือ
คงเป็นเรื่องยุ่งยาก และลำบากกันนิดหน่อยในช่วงเริ่มต้น



แต่จะเป็นเรื่องลำบากยิ่งกว่าสำหรับคนที่ทำผิด แล้วรอดพ้นการลงชื่อแบบเก่าที่ติดตามไม่ได้


ข้อมูลที่ได้ อาจถูกนำไปใช้ในเรื่องของการ เบิก OT ทั้งก่อน และหลัง เวลาปกติ
โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องทำเอกสารรายเดือน เพราะเวลาใน computer น่าจะอ้างอิงอะไรๆ ได้มากมาย



ก็ดีไหมครับ


Posted by : OmniSci , Date : 2009-07-08 , Time : 12:05:43 , From IP : 118.173.158.27.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 4


   ขอต่อยอด Idea อ. OmniSci หน่อยครับ
ถ้าเข้าสู่ยุค VoIP แล้ว มือถือทุกคนมี function VoIP และ WiFi อยู่ในตัว เราสามารถทำตามจินตนาการของ อ. OmniSci ได้ครับ


Posted by : garnet , Date : 2009-07-08 , Time : 12:30:57 , From IP : 118.173.148.150.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 5




   ฝากตัวอย่างมาให้ดูนะคะ ไม่เกี่ยวกับยี่ห้อ
เท่าที่ทราบเครื่อง เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เป็นเครื่องบันทึกเวลาทำงาน สามารถคำนวณชั่วโมงการทำงานได้ แต่จะให้แปลงเป็นตารางเวร เช้า บ่าย ดึก หยุด สาย อบรม คำนวณสาขาขาดแคลน คงต้องต่อเชื่อมกับโปรแกรมในcomputer อีกครั้ง

ตัวอย่างโปรแกรมลงเวลาทำงานของคณะแพทย์ หากใช้เครื่อง เครื่องสแกนลายนิ้วมือ คงใช้แทนการคีรหัสด้วยมือ แต่ Option ที่คณะต้องการยังต้องผ่านโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นอยู่ดี

ข้อดีของเครื่อง เครื่องสแกนลายนิ้วมือ คือฝากนิ้วมือลงเวลาแทนกันไม่ได้
ข้อเสียของเครื่อง เครื่องสแกนลายนิ้วมือ คือ ต้องลงทุนเพิ่มทุกหน่วยงาน
และไม่สามารถรับประกันได้ว่าสแกนลายนิ้วมือ แล้วอยู่ทำงานตลอดเวรหรือ
ไม่

ข้อดีของโปรแกรมลงเวลาทำงาน

1. ฝึกให้เจ้าหน้าที่มีความรับผิดชอบ และมีวินัยในการมาเข้าทำงานและออกจากงาน
2. สะดวกในการลงเวลาเข้าออกเพราะลงได้ทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ของทุกคลินิก
3. สามารถตรวจสอบจำนวนเงินของตนเองในแต่ละวันได้
4. เวลาที่เข้าทำงานเป็นเวลาที่เข้าจริง หากมาสายไม่สามารถแก้ข้อมูลได้ด้วยตนเอง
5. หัวหน้างานสามารถตรวจเช็คเวลาของเจ้าหน้าที่ได้สะดวก
6. มีฐานข้อมูลการลา/การอบรม /การจ่ายค่าตอบแทนของหน่วยงาน
7. สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้
8. ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ใช้computer ที่ทำงานอยู่เดิม
9 สามารถปรับปรุง แก้ไขโปรแกรมได้ เพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงการคลัง

ข้อเสียของโปรแกรมลงเวลาทำงาน
1 หากเจ้าหน้าทุจริตให้รหัสผู้ร่วมงานลงเวลาในคอมฯให้ ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้


สรุป เรื่องการทุจริตคงไม่มีเครื่องไหนป้องกันได้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของหน่วยงาน และช่วยกันหามาตรการ ทำข้อตกลงร่วมกัน อันที่จริงแล้วพวกเราก็กลัวกันไปเอง เท่าที่ทำมา ยังไม่พบว่ามีใครทุจริต เพราะความซื่อสัตย์เป็น competency หลักของคณะแพทย์

ข้อตกลงของหน่วงาน ห้าม ให้รหัส / password กับผู้อื่น หากพบว่ามีการลงเวลาทำงานแทนกัน จะมีโทษทางวินัยทั้ง 2 คน ทั้งผู้ให้รหัสและผู้ลงเวลาทำงานแทน ถือว่าเป็นโทษวินัยที่ร้ายแรง


Posted by : มิมมิม , Date : 2009-07-08 , Time : 21:28:32 , From IP : 172.29.5.49

ความคิดเห็นที่ : 6




   ฝากมาให้ดูอีกระบบนะคะ

Posted by : มิมมิม , Date : 2009-07-08 , Time : 21:32:32 , From IP : 172.29.5.49

ความคิดเห็นที่ : 7




   นี่ก็อีกแบบ หากเรามีเงินเยอะ ก็น่าซื้อไว้นะ แต่ก็ยังต้องใช้โปรแกรมในคอมพิวเตอร์อยู่ดี อนาคตไม่แน่นะเราอาจต้องใช้ทั้ง 2 อย่าง หรืออาจไม่ต้องใช้เลยหากทุกคนมี IP เป็นของตัวเอง ในอนาคตของทุกชิ้นจะมี IP ทุกชิ้น เห็นว่าเราสามารถสั่งปิดไฟที่บ้านได้จากที่ทำงาน เมื่อถึงยุคนั้นเราคงต้องหาวิธีลงเวลาทำงานใหม่ หรือไม่ต้องลงเวลาแล้วก็ได้ คงต้องปรับอัตราค่าตอบแทนแบบใหม่ อย่าไปคิดดีกว่านะ เอาวันนี้ให้รอดก่อนดีกว่า

Posted by : มิมมิม , Date : 2009-07-08 , Time : 21:56:12 , From IP : 172.29.5.49

ความคิดเห็นที่ : 8


   ปัญหาที่ตามมาคือ ความเหลื่อมล้ำของวิธีคิดเงินค่า OT
(ซึ่งคงเป็นเรื่องปวดหัวของทางฝ่ายบริหารไม่น้อย)


ฝ่ายที่จะไม่มีผลกระทบเลยก็คือกลุ่มที่คิดค่าตอบแทนเป็นรายๆ ไปไม่ผูกกับเวลา

ซึ่งจะว่าไปก็ตรงไปตรงมากับกลุ่มที่ทำงานตามเวลาที่คิดเวลาตามที่ปฎิบัติจริง


แต่สำหรับกลุ่มที่เคยเบิกเกินที่ตัวเองทำงานจริงคงมีผลกระทบเยอะที่สุด


ความเลื่อมล้ำดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นถ้าทุกคนใช้วิธีคิดค่า OT ตามเวลาเหมือนกันหมด ตามตำแหน่งหน้าที่ที่ถูกกำหนดให้โดยส่วนกลาง (คาดว่าคงเป็นมาตรฐานทั้งประเทศ)

แต่บางท่านอาจจะอ้างถึง "แรงจูงใจ" ให้ทำ OT ซึ่งยากที่หาข้อสรุป ว่าเป็น "สิทธิ์" ในการจะทำล่วงเวลาหรือไม่ และคงแตกต่างกัน ในแต่ละกรณีซึ่งคงไม่หมายรวมถึง เวรประจำ หรือ ถูกตามฉุกเฉิน



ต้องติดตามต่อไปเมื่อเริ่มใช้ระบบนี้จริงๆ ครับ



Posted by : omnisci , Date : 2009-07-09 , Time : 00:54:47 , From IP : 118.173.158.7.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 9


   แก้ไข

ความเลื่อมล้ำดังกล่าวอาจจะ"ไม่"เกิดขึ้นถ้าทุกคนใช้วิธีคิดค่า OT ตามเวลาเหมือนกันหมด ตามตำแหน่งหน้าที่ที่ถูกกำหนดให้โดยส่วนกลาง (คาดว่าคงเป็นมาตรฐานทั้งประเทศ)


Posted by : omnisci , Date : 2009-07-09 , Time : 00:58:00 , From IP : 118.173.158.7.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 10




   หามาให้ดูอีรุ่น หามาจาก web ไม่ได้ค่าประชาสัมพันธ์นะคะ
ว่าไปแล้วก็เปรียบเทียบกันลำบากนะ
-โปรแกรมลงเวลาในคอมพิวเตอร์ สามารถจัดการข้อมูลได้ในตัวเอง คือเป็น One stop service ว่างั้นเถอะ อย่างได้เงื่อนไขอะไรก็พัฒนาลงในโปรแกรม หากไม่สะดวก ก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้
- เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เป็นเครื่องที่ซื้อมาก็มีข้อจำกัดตามสเป็คของเครื่อง เป็นเครื่องเก็บข้อมูลเวลา ยังไม่สามารถจัดการข้อมูลได้มากนัก เก็บข้อมูลในรูป USB Drive ต้องนำข้อมูลจากUSB Drive มาจัดการใน computer อีกคร้ง หรือสามรถต่อสายตรงไปยังคอมพิวเตอร์ ซึ่งการจัดการข้อมูลก็มีทั้งโปรแกรมที่ทำขาย (ซึ่งไม่สามารถลงในระบบHIS ของโรงพยาบาลเราได้อยู่แล้ว อาจต้องมีcomputer ต่างหาก หรือแยกไปอีกระบบหนึ่ง คำนวณดูแล้วผู้บริหารก็ต้องมาดูว่าคุ้มกับการลงทุนหรือเปล่า ) สำหรับโปรแกรมที่ขายก็มีมากมายขึ้นอยู่กับราคาเหมือนกัน สามารถปรับ/แก้ไขได้แต่ไม่มากนัก โดยเฉพาะกับงานงานที่ซับซ้อนเช่นการขึ้นเวรของพยาบาลแต่ละหน่วยก็มีรูปแบบแตกต่างกัน เท่าที่ทราบโปรแกรมการจัดตารางเวรของพยาบาลยังไม่มีใครทำขาย ที่สำคัญอยู่ที่การ Maintenance การดูแลระหว่างการใช้งานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่หน่วยงานต้องการอาจต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น
- เครื่องสแกนลายนิ้วมือ อาจเหมาะกับงานสำนักงานที่มีรูปแบบการทำงานเดียวกัน หรือไม่ซับซ้อน ยิ่งมีประตูเข้า-ออกทางเดียวยิ่งเหมาะมาก ลงทุนเครื่องเดียวก็คุ้ม
-โรงพยาบาลเรามีทางเข้าออกหลายช่องทาง จะให้ไปสแกนลายนิ้วมือที่เดียวกันก็คงไม่สะดวก หากต้องการใช้จะซ้อสักกี่เครื่องถึงจะเพียงพอ ก็คงเป็นสิ่งที่ต้องนำมาคิด
- ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ผู้บริหารก็คงต้องเลือกที่ลงทุนน้อย แต่ได้ผลตามที่ต้องการน่าจะคุ้มกว่า สำหรับโปรแกรมลงเวลาในคอมพิวเตอร์ ใช้computer ที่มีใช้ในระบบ HIS ของโรงพยาบาล ไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์เพิ่ม การ Maintenance ก็ใช้โปรแกรมเมอร์ของคณะฯ ถ้าเป็นผู้บริหารก็คงเลือกช่องทางนี้มากกว่า
- โปรแกรมลงเวลาในคอมพิวเตอร์ ที่พัฒนาขึ้นก็อยากให้ทดลองใช้ดู จะช่วยลดต้นทุนหลายๆอย่าง ยกเว้นในระยะเริ่มต้นเป็นช่วงทดสอบโปรแกรมก็อาจต้องมีภาระงานด้านการตรวจสอบที่มากขึ้น เมื่อโปรแกรมเสร็จสมบูรณ์คาดว่าจะสะดวกขึ้นมาก ส่วนคำถามที่ว่าจะเสียสิทธิ์อะไรหรือไม่ คาดว่าน่าจะไม่มีเพราะโปรแกรมพัฒนาอิงตามระเบียบเดิมของหน่วยงานและคณะฯ ปัจจุบันกำลังทำแบบคู่ขนานเพื่อเทียบเคียงระบบที่ทำอยู่เดิมกับระบบใหม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเสียสิทธิ์ที่มีอยู่เดิม
- ท้ายที่สุดแล้วก็คงอยู่ที่นโยบายผู้บริหารและระเบียบการเบิกจ่าย ความเป็นไปได้ในการพัฒนาและใช้งานโปรแกรม หากเราช่วยกันโปรแกรมน่าจะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น


Posted by : มิมมิม , Date : 2009-07-09 , Time : 11:08:00 , From IP : 172.29.1.166

ความคิดเห็นที่ : 11


   แล้ว โปรแกรมนี้ ใช้กับบุคลากรสายไหนบ้าง ทุกคนป่าว เท่าที่เป็นอยู่การเซ็นต์ชื่อมาทำงาน ก็ทำกันเฉพาะสายผู้ปฏิบัติเท่านั้น

Posted by : one , Date : 2009-07-09 , Time : 15:34:03 , From IP : 172.29.19.227

ความคิดเห็นที่ : 12


   
โปรแกรมนี้ ต้นเรื่องมาจากงานคลังคณะแพทยศาสตร์ วัตถุประสงค์หลัก ครั้งแรกเพื่อลดต้นทุนด้านคน เวลา กระดาษ และอื่นๆในการคิดเงินค่าเวร ลดความผิดพลาด ความซ้ำซ้อน ในการทำงาน มีฐานข้อมูลเรื่องการมาปฏิบัติงาน อบรม ลา หยุด การจ่ายค่าตอบแทน และสามารถสืบค้นได้ทันเวลา เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้บริหาร ปัจจุบันทดลองใช้ในฝ่ายบริการพยาบาล จะขยายผลไปยังหน่วยงานอื่นหรือไม่คงแล้วแต่ผู้บริหาร


Posted by : มิมมิม , Date : 2009-07-09 , Time : 17:24:58 , From IP : 172.29.1.166

ความคิดเห็นที่ : 13


   ข้อดีทีมากมาย
ข้อเสียคือ ยุ่งยากลำบากในตอนเริ่มครับ

แต่ก็คิดว่าแค่สักระยะ


Posted by : รักพ่อเช่นทุกคน , Date : 2009-07-14 , Time : 19:15:38 , From IP : 203.158.220.1

ความคิดเห็นที่ : 14


   สำหรับคนที่ทำดีอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับคนที่มาทำงานสายแล้วรีบกลับก่อนก็มีผลกระทบ แต่ก็จะทำให้เขาได้ปรับปรุงตนเองหรือไม่ก็พยายามที่จะฝากให้คนอื่นลงรหัสในคอมพิวเตอร์ให้(อันนี้ก็คงจะแก้ยากเพราะไม่สำนึก) จากที่ทำมาครึ่งเดือนก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเข้าใจว่าคนที่มีปัญหาก็คือคนที่ทำอะไรไม่ตรงไปตรงมาพอมีระบบเข้ามาควบคุมก็รู้สึกเป็นความลำบาก

Posted by : เด็กน้อย , E-mail : (1234) ,
Date : 2009-07-16 , Time : 13:19:55 , From IP : 172.29.7.69


ความคิดเห็นที่ : 15


   การเงินเคยคิดไหมล่ะค่ะว่าการต่อเวรของพยาบาลหลายๆ มันทำให้มาสายได้ เช่นกัน บางครั้งมาสายเพียง หนึ่งนาที ก็โดนตัดเงินแล้ว แต่กลับช้าเป็นชั่วโมงอ่ะ แล้วสรุปว่าอรายดีกว่ากันค่ะ ไม่ว่ามาเร็วมาช้า ให้ตัดเวลาเพียงนิดเด๋วคนที่ทำงานเกินไปมากๆไม่รุ้สึกถึงความเหนื่อยที่ไร้ซึ่งประโยชน์เลยเหรอ แต่ไงก็ขอชื่นชมกัน ฝ่ายที่พัฒนาระบบด้วยนะค่ะว่าเก่งมากเลย แต่อดคิดไม่ได้ว่าการคลังน่าเบื่อ และมาเปลี่ยนระบบการขึ้นเวรของพวกเราวุ่นวายๆๆๆๆๆๆๆๆจริงๆ ลองมาเข้าเวร ลองมารับแรงกดดันจาก ผู้บริหาร คนไข้ หมอ ผู้ร่วมงาน กฎหมายเพ่งและอาญา และความเป้นความตาย ของคน คนหนึ่ง งานมันเหนื่อยมาก คุณมีไหม เข้าเวร ต่อเวร กฏหมาย อย่างมากก็เพ่งแต่น้อยอ่ะ กดดันจากหลายๆฝ่ายอย่างที่พวกเราเป็นอยู่ ขึ้นเวร กลางคืน สามีไม่รุ้จะออกไปนอกบ้านหรือป่าว เคยทนกับอะไรหลายอย่างบ้างไหม สิ่งคัดหลังคนไข้ บางครั้งเหม็น สกปรก เคยเจอกันบ้างไหม โรคต่างๆที่ติดกันได้ง่ายเคยเจอกันไหม วัณโรค ติดต่อผ่านลมหายใจ หากเราไม่รุ้แล้วแล้วใครทำ คุณอยู่ห้องแอร์นั่งคิดๆๆๆๆเงิน ถึงเวลากลับบ้าน บางครั้งน่ะ
มาก็ช้า พอใกล้ถึงเวลา รีบแต่งหน้าทาแป้ง พวกเราล่ะ ทำจนนู้ หมดเวลาก้อทำต่ออีก บางครั้งการมองว่าพวกเราได้เงินอะไรมากมาย ไม่ต้องอิจฉาได้ไหม ทำไมไม่อิจฉา หมอบ้างล่ะ เภสัชบ้างล่ะ ได้เงินยอะกว่าพวกเราเป็นไหนๆ ถึงแม้ความเหนื่อยไม่เท่ากัน ความรับผิดชอบไม่เท่ากัน ทำไมคุณไม่ทำงานของคุณให้ดี เพียงแค่มาจับผิดชาวบ้าน คุ้มอ่ะป่าวค่ะ ที่ฉันรู้ฉันไม่เข้าระชุม แต่ฉันรู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร


Posted by : ไม้พันสำลี1 , Date : 2009-08-03 , Time : 10:33:57 , From IP : 172.29.7.163

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.008 seconds. <<<<<