ความคิดเห็นทั้งหมด : 2

ดอกไม้งาม..ท่ามกลางไฟใต้


   "วันหนึ่ง มีคนไข้ทหารและผู้ก่อการร้ายมาสองเคสพร้อมกัน
อาการหนักต้องช่วยหายใจและปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพทั้งคู่
เราก็ช่วยเหลือทั้งคู่เท่าเทียมกัน
ไม่ได้แยกว่าคนนี้ผู้ก่อการร้าย คนนั้นทหาร
แต่สุดท้ายทหารตายเพราะอาการหนักกว่า ส่วนผู้ก่อการร้ายไม่ตาย
ระหว่างรักษาก็มีเจ้าหน้าที่รัฐมากระซิบข้างหูว่าคนนี้คือผู้ก่อการร้ายนะ
เราก็มองหน้ากันทั้งหมอทั้งพยาบาล
แต่ก็รักษาต่อไปเต็มที่จนเขารอด
จากนั้นเขาก็เป็นประโยชน์ต่อทางการเพราะตำรวจใช้สืบหาคนร้ายอื่นต่อไป"


เรื่องราวดั่งนวนิยายดรามาจากปากคำ *"รัตนา รัตนเหม" พยาบาลวิชาชีพ
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา จ.ยลา
*ว่าน่าประทับใจในความกรุณามีเมตตาจิตแก่คนไข้โดยไม่เลือกปฏิบัติแล้ว
หากทว่าถ้าได้ร่วมรำลึกสถานการณ์หวาดหวั่นยิงถล่มรถตู้โดยสารสายเบตง-หาดใหญ่
ในห้วงอรุณรุ่งวันที่ 14 มีนาคม 2550 จากเสียงของเธอเองด้วยแล้ว
ความรู้สึกจะตรึงใจตรึงตากว่ามหาศาลนัก
ด้วยประจักษ์แจ้งถึงคุณค่าการแพทย์ที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์


"เหตุการณ์นี้ประทับใจที่สุด เพราะช่วงเช้ากำลังจะออกหน่วยแพทย์
พอ.สว. ก็ได้ยินวิทยุตำรวจรายงานว่ามีการยิงรถตู้ที่ ต.ปะแต อ.ยะหา
เลยตัดสินใจรอ
สักพักก็มีตำรวจโทร.มาให้ไปรับคนเจ็บในพื้นที่ เราก็กระโดดขึ้นรถเลย ไม่รู้สึกกลัว
พยาบาล คนขับรถ
และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสระแก้วที่มาให้กำลังใจแพทย์พยาบาลสามจังหวัดภาคใต้ก็ต­ามมาด้วย
...รู้สึกไกลมากกว่าจะไปถึง ทั้งๆ ที่ไม่ไกลกันนัก
ไปถึงก็มีต้นไม้ใหญ่มากขวางถนนอยู่ก็ต้องหิ้วเครื่องมือ อุปกรณ์
น้ำเกลือลอดต้นไม้ไป"


ความวาดหวังพานพบผู้รอดพ้นเงื้อมเงามัจจุราชหฤโหดพลันแตกสลายเมื่อเผชิญหน้ารถต­ู้โดยสารตะแคงติดต้นไม้ใหญ่ริมหุบเหวอบอวลกลิ่นขื่นคาวเลือด
ต้องปีนเข้าไปตรวจสอบ


"ตายหมด ส่วนคนรอดก็นำส่งโรงพยาบาลแล้ว
เราจึงรีบกลับโรงพยาบาลเพราะต้องมาช่วยผู้รอดชีวิต
มาถึงก็เตรียมคนไข้ส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
แล้วนั่งรถไปด้วยเลย ก็จับมือ เรียก
คุยกับคนไข้ตลอดว่าครูมีกำลังใจนะ ครูปลอดภัยแล้วนะ เขาก็ลืมตามองหน้าเรา
เราก็มองหน้าเขา
แต่ก็พูดไม่ได้เพราะครูเขาโดนยิงคอบริเวณกล่องเสียง เลือดออกมาก ต้องให้เลือดตลอด
หากสุดท้ายครูก็รอด"


เสียงสั่นเครือของพยาบาลแกร่งแก้วกังวานภาคภูมิใจ
ในการปฏิบัติภารกิจตามคุณธรรมจรรยาบรรณแพทย์เคร่งครัดทั้งต่อผู้อยู่รอดและลาจา­ก
ดังเล่าต่อว่าเมื่อเสร็จส่งต่อครูแล้ว ก็เร่งกลับมาจัดการตกแต่ง 8
ศพที่ถูกลำเลียงถึงโรงพยาบาล
ไม่ว่าจะเช็ดเลือดตามตัวหรือเย็บแผลเหวอะหวะเพราะถูกอาวุธสงครามอานุภาพทำลายล้­างสูงยิงให้รวดเร็วถูกต้องตรงตามหลักศาสนาอิสลาม


"สัก 4 โมงเย็น ญาติผู้เสียชีวิตเริ่มมา ทุกคนร้องไห้เสียใจสุดๆ
ทั้งที่ใจเราตอนนั้นก็สุดๆ
แล้วเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำใจให้เข้มแข็งเข้ามาปลอบญาติๆ กว่าจะดูแลศพเสร็จก็ 5
โมงเย็น ตกกลางคืนเสียงไซเรนดังอีก เกิดระเบิดมีคนเจ็บเกือบ 30 คน
ก็ต้องตื่นมาช่วยกันกลางดึกอีก"


แรงบันดาลใจไม่ย้ายทั้งที่มีทางเลือก
หากแต่ยังคงทุ่มเททำงานในพื้นที่สีแดงที่ความรุนแรงเกิดเกือบทุกทิศทางทุกพื้นท­ี่ต่อไปเช่นนี้จะว่าไปแล้วก่อร่างสร้างตัวจากความคิดเรียบง่ายว่าถ้าไม่มีเราแล­้วใช่ไร้ใครคนอื่นทำ
ทว่าถ้าไม่มีเราก็ไม่มีอีกหนึ่งแรงช่วยเหลือขันแข็งจนคนไข้สามารถรอดชีวิตได้


ปณิธานช่วยเหลือคนไข้ให้รอดพ้นมัจจุราชพรากชีวิตนี้มีรากฐานแน่นหนานับแต่เริ่ม­ทำงานในพื้นที่สีแดง
อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อแรกเรียนจบปี 2531
ที่ถึงห้วงยามนั้นยังไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ
แต่ก็มีโจรก่อการร้ายภาคใต้ที่เวลาลงพื้นที่จะพบเห็นความรุนแรงเยอะแยะ
อีกทั้งการทำงานบางช่วงก็ต้องตรวจคนไข้แทนเพราะไม่มีหมอ
ขณะกลางดึกก็ถูกปลุกมาดูคนไข้ทั้งทำคลอดหรือเขียนใบส่งตัวอยู่เสมอ
เพราะที่โรงพยาบาลศรีสาครมีพยาบาลวีชาชีพแค่ 2 คน
ทว่าท้ายสุดก็ไม่ขลาดกลัวท้อถอย


"ทำงานค่อนข้างบู๊เพราะต้องลงพื้นที่สีแดง และทำเลยเวลาเวรตลอด
แต่ก็ไม่เคยคิดถึงโอทีเลย ไม่มีใครในโรงพยาบาลคิดถึงเงินคิดถึงโอทีเลย
เพราะคิดกันแต่ว่าจะช่วยคนไข้ให้รอดได้อย่างไร"


รัตนาเผยจุดมุ่งหมายทั้งตอนอยู่โรงพยาบาลศรีสาคร
และหลังย้ายมาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา
เพื่อดูแลพพ่อ พลางย้อนประสบการณ์สมัยเรียนพยาบาลว่าการโขกสับแบบหวังดีของรุ่นพี่ทำให้ปัจจุบ­ันสามารถทานทนแรงกดดันหนักหนาสาหัส
ทั้งจากสถานการณ์ความรุนแรงขนาดบาดเจ็บล้มตายได้ตลอดเวลา
และความคาดหวังของคนไข้ที่ออกอาการหงุดหงิดถ้าแพทย์พยาบาลไม่อาจปลดเปลื้องทุกข­์โรคภัยไข้เจ็บให้ได้
โดยเฉพาะในห้องฉุกเฉินที่คนไข้อารมณ์รุนแรงมากเพราะคาดหวังมาก


ทว่าด้วยประสบการณ์และความอดทนอดกลั้นที่สั่งสมมาตลอดก็ทำให้สามารถรับมือคนไข้­ฉุกเฉินในสถานการณ์รุนแรง
รวมถึงจัดการอารมณ์ความรู้สึกเศร้า ท้อแท้
ผิดหวัง ได้ไม่ยาก ยิ่งผนวกห้วงยามเยือกเย็นสงบจากการบวชชีพราหมณ์
ที่ได้เรียนรู้ว่าถ้าเมื่อใดใจสงบก็จะมีสติ และปัญญาตามมาทันทีนั้น
ก็เสริมสร้างพลังการบริหารจัดการอุปสรรคปัญหานานาที่เข้ามาในชีวิตได้ดีขึ้นมาก


ครั้นตระหนักว่าคราใดใจสงบจะเกิดปัญญาคลี่คลายความเลวร้ายได้
กำลังใจทำงานอันตรายในพื้นที่สีแดงก็งอกงามกระทั่งแผ่ร่มเงางดงามแก่ผู้อยู่ใกล­้ให้หาญกล้าก้าวตามไปด้วย
กอปรกับการออกแบบการสื่อสารความดีที่นำเรื่องเล่าดีๆ
ของบุคลากรมาโพสต์ลงในระบบ Intranet ของโรงพยาบาลก็ช่วยกระจายแง่งามความดีอีกมาก
จากการจุดประกายโดยเรื่องเล่าของรัตนาที่ได้รับคัดเลือกจากสถาบันพัฒนาและรับรอ­งคุณภาพโรงพยาบาล
(พรพ.) ในการประชุมวิชาการประจำปี


"รางวัลไม่มีผลมากมาย เพราะเวลาทำงานจะได้กับใจเราเอง ความสุขความภูมิใจตัวเอง
ความดีอยู่ที่ใจ บางครั้งไม่เล่าให้ใครฟังด้วยซ้ำ
แต่ก็รู้สึกมีคุณค่าขึ้นถ้าเรื่องเล่าของเราขยายความดีได้"


ฉากชีวิตพยาบาลผู้ทุ่มเททำงานด้วยใจสงบสยบความรุนแรงทั้งภายนอกและภายในเช่นนี้
จึงฉายชัดคุณภาพคนทำงานในพื้นที่สีแดงที่กอปรด้วย
"บู๊" หาญกล้าทำงานเสี่ยงอันตรายด้วยใจรักเพื่อนมนุษย์ ไม่เลือกปฏิบัติ แบ่งแยก
โอ้อวด บวก "บุ๋น" ทำทุกสิ่งอย่างด้วยสติปัญญาใคร่ครวญรอบคอบ
โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งแหลมคมทวีคูณ
ภาณุเบศร์ มหาเรือนขวัญ
แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ
มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์
และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

http://www.thaipost.net/tabloid/210609/6542



Posted by : luvfac , Date : 2009-07-02 , Time : 11:24:27 , From IP : 172.29.11.51

ความคิดเห็นที่ : 1


   เป็นความงามที่น่าชื่นชม หาชมชื่นได้ยากยิ่งนัก ตัวเราขอยกย่อง บรรดาหลากหลายวิชาชีพที่เสียสละเสี่ยงชีวิตเพื่อประเทศชาติ เป็นการเสียสละที่ตัวเราคิดว่าคงไม่สามารถจะทำได้มากเท่า จิตวิญญาณแห่งความงามไม่ได้วัดกันที่ความสำเร็จของรายได้หรือทรัพย์สินย์ที่วิชาชีพมอบให้ แต่จิตใจอันดีงามต่างหากเล่า เหมือนคำกล่าว the one of all of the professional are nurse doctor and teacher

Posted by : USA , Date : 2009-07-03 , Time : 09:39:58 , From IP : 172.29.7.127

ความคิดเห็นที่ : 2


   รู้สึกดีครับ

นี่คือการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด


Posted by : isccy , Date : 2009-07-03 , Time : 11:43:23 , From IP : 118.173.38.61.adsl.dynamic.totbb.net

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<