คอนเสิร์ตเพื่อคนหูหนวก
อ่านเจอในมติชน ฉบับล่าสุดค่ะ คอลัมน์ของหนุ่มเมืองจันท์
อยากช่วยประชาสัมพันธ์ให้ต่อ
เผื่อใครมีโอกาสได้ไปดู
ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ
"หนุ่มเมืองจันท์"
Love is Hear
"คนหูหนวก" ฟังดนตรีอย่างไร?
เพราะไหม?
ดูคอนเสิร์ตสนุกไหม?
คงเป็น "คำถาม" ที่หลายคนเคยสงสัย
บางคนก็สงสัย แล้วก็ผ่านไป
แต่บางคนก็พยายามค้นหา "คำตอบ"
ผมเพิ่งรู้ว่าคนหูหนวกนั้นสามารถสัมผัสดนตรีผ่านการสั่นสะเทือน
ถ้าดนตรี ประกอบด้วย melody และ rhythm
คนหูดีจะรับได้ทั้ง melody และ rhythm
แต่คนหูหนวกจะสามารถรับ rhythm ได้อย่างเดียว
ถ้าคิดในเชิงคณิตศาสตร์
เท่ากับว่าคนหูหนวกสามารถเข้าถึงดนตรีได้ถึง 50%
เขาจึงสนุกกับการฟังดนตรีได้ แม้จะไม่ 100%
แต่เขาก็ตบมือ โยกตัว หรือลุกขึ้นเต้นไม่แตกต่างจากคนหูดี
จาก "คำตอบ" นี้ มีคนกลุ่มหนึ่งไม่หยุดคิด
เขาตั้งคำถามใหม่ว่าเราสามารถเติมเต็มอีก 50% ให้กับ "คนหูหนวก" ได้หรือไม่ภายใต้ข้อจำกัดของเขา
เขาไปคุยกับอาจารย์ที่โรงเรียนเศรษฐเสถียรสอนคนหูหนวก
เชื่อไหมครับว่าคนหูหนวกนั้นถ้าได้เห็นคนหูดีสนุก
เขาก็จะยิ่งสนุก
ดังนั้น คนกลุ่มนี้จึงตั้งสมมุติฐานขึ้นมาว่าถ้าเราทำให้คนหูหนวกได้เห็น หรือสัมผัสบรรยากาศของคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบพร้อมกับ "คนหูดี"
เขาน่าจะมีความสุข
เป็นการเติมเต็ม 50% ที่ขาดหายไป
และนั่นคือที่มาของคอนเสิร์ตเพื่อคนหูหนวก
Love is Hear The Concert for The Deaf &The rest
คอนเสิร์ตที่ "คนหูหนวก" จะได้สัมผัสกับบรรยากาศคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบพร้อม "คนหูดี"
ฟังดนตรีด้วยกัน
และช่วยเติมเต็มความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน
ผมรู้เรื่องคอนเสิร์ตนี้เพราะน้องคนหนึ่งโทรศัพท์มาชวน
เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อการ
"พี่จะไปกี่คน"
ความหมายก็คือจะเอา "บัตร" กี่ใบ
ตามปกติผมจะปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
แต่พอฟังรายละเอียดแล้ว
"3 ใบ"
แต่มีเงื่อนไข
"ผมขอซื้อ"
ทำไมหรือครับ?
Love is Hear เป็นคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่มาก
ไม่ใช่ยิ่งใหญ่เพราะวงดนตรี เครื่องเสียง หรือจำนวนคนดู
แต่ยิ่งใหญ่ด้วย "น้ำใจ"
ไม่ใช่แค่ความปรารถนาที่จะให้ "คนหูหนวก" ได้ชมคอนเสิร์ตพร้อมกับ "คนหูดี" แล้ว
คนกลุ่มนี้อยากหารายได้เข้ามูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์
เขาตั้งเป้าไว้ว่ารายได้จากการขายบัตรคอนเสิร์ตทั้งหมดมอบให้มูลนิธินี้
โดยไม่หักค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว
ไม่ใช่เขารวย
แต่เพราะเขาไม่มี "ค่าใช้จ่าย"
คนกลุ่มนี้อยากทดลองความเชื่อของตัวเองว่า "หากเราตั้งใจจะทำสิ่งดีๆ แม้เราจะไม่มีเงินทุนเลย เราก็ยังทำมันได้เพราะเรามีน้ำใจ"
เขาอยากรู้ว่ามันจะเป็นจริงได้หรือไม่ในโลกใบนี้
หลังจากขายความคิดนี้ให้กับคนที่รู้จัก
เชื่อไหมครับว่าความคิดดีๆ ...ขายได้
งานนี้จึงไม่มีสปอนเซอร์หลัก-สปอนเซอร์รอง
มีแต่ "เพื่อน" ที่มาช่วยกัน
คนนี้ช่วยเรื่องสถานที่ คนนั้นช่วยเรื่องเครื่องเสียง ใครที่เป็นศิลปินก็มาร้องเพลงให้ฟรี
ใครเก่งเรื่องหนังสั้นก็ทำหนังสั้น
บางคนลงแรง บางคนลงเงิน
สุดท้าย Love is Hear The Concert for The Deaf &The rest ก็เป็นรูปร่าง
เท่าที่รู้มีวง Friday, Stamp, Scrubb, ETC., Koh Mr.Saxman, Exotic B.O.R.E.D., Duck Unit, Babymime, Donut ฯลฯ
และอื่นๆ อีกมากมาย
คอนเสิร์ตนี้จัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์สกาลา วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.00 น.
รายละเอียด โทร. 0-2264 9633
หรือ www.loveishear.com
ฟังที่มาและความตั้งใจของผู้จัดคอนเสิร์ตนี้
คงไม่แปลกใจที่ทำไมผมจึงบอกน้องว่า "ผมขอซื้อ"
ไม่เอาบัตรฟรี
แต่ที่ไม่ได้บอกก็คือนอกจากขอซื้อแล้ว
จะขอเขียนถึงโครงการนี้ด้วย
ครับ ผมอยากให้คอนเสิร์ตนี้ประสบความสำเร็จ
อยากให้คนที่ตั้งใจทำความดีมีกำลังใจ
ความเชื่อที่ว่าหากเราตั้งใจจะทำสิ่งดีๆ แม้เราจะไม่มีเงินทุนเลย เราก็ยังสามารถทำมันได้เพราะเรามีน้ำใจ
ต้องเป็นจริงในโลกใบนี้
ผมเชื่อเสมอว่าคนส่วนใหญ่เป็นคนที่มีน้ำใจ และอยากช่วยเหลือผู้อื่น
ถ้ามีโอกาส หรือมีอะไรมากระตุ้น
เขาพร้อมแสดงน้ำใจทันที
Love is Hear The Concert for The Deaf &The rest เป็นกิจกรรมหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกที่อยากช่วยเหลือสังคมเหมือนกับกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ
เป้าหมายเหมือนกัน
เพียงแต่ด้วยวิธีคิดแบบคนรุ่นใหม่
มุมคิดหรือรูปแบบจึงมีสีสันแปลกตาขึ้น
Love is Hear The Concert for The Deaf &The rest จึงเป็นคอนเสิร์ตที่ต้องการบอกว่า "ดนตรี" นั้นไม่ใช่แค่ "ได้ยิน"
แต่เราสามารถสัมผัส-รู้สึก
และเติมเต็มให้แก่กันได้
เหมือนกับ "ความดี"
ไม่ใช่เพียงแค่การคิด
แต่เราต้องลงมือทำด้วย
Posted by : จริงใจ , Date : 2009-06-27 , Time : 14:30:10 , From IP : 172.29.5.50
|