ความคิดเห็นทั้งหมด : 2

ผลสอบคดีขริบจู๋ แพทย์ผิด มีโทษถึงจำคุก2ปี


   ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

กรณีนางน้อย (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาวบ้านใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้พา ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ลูกชาย นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งใน อ.พระประแดง เข้าร้องทุกข์กับผู้ดำเนินรายการที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.เอฟเอ็ม 91 ว่า ถูกแพทย์ ประจำคลินิกเวชกรรมมหาชน ตั้งอยู่เลขที่ 305-306/1 ใกล้วัดพญาปราบปัจจามิตร ถนนนครเขื่อนขันธ์ ต.ตลาด อ.พระประแดง รักษาโรคผิดวัตถุประสงค์ของผู้ป่วยคลินิกในโครงการหลักประกันสุขภาพ โดยไปรักษาปากเป็นแผลแต่แพทย์กลับไปขริบปลายอวัยวะเพศให้ กระทั่งกระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 ม.ค. นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงโดยมี นพ.ปัญญา กีรติหัตถยากร เป็นประธาน ส่วนคณะกรรมการประกอบด้วย ตัวแทนแพทยสภา ตัวแทนสภาการพยาบาล ตัวแทนสภาทนายความ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิจากกองประกอบโรคศิลปะและผู้เกี่ยวข้อง ได้สรุปผลการสอบว่า แพทย์มีความผิดตามมาตรา 34 (1) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล 2541 ฐานไม่ควบคุมดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพตรงตามสาขาที่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้แพทยสภาพิจารณาด้านจริยธรรมต่อไป

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวอีกว่า ส่วนพยาบาลที่เป็นผู้ทำการขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ จะได้ส่งเรื่องให้สภาการพยาบาลพิจารณาในด้านการ ประกอบวิชาชีพตามกฎหมายเช่นกัน และทราบว่าหลังเกิดเรื่องขึ้นทางคลินิกได้ให้การดูแลเด็กผู้เสียหายเป็นอย่างดีจนกระทั่งแผลหายดี ทั้งรอยแผลผ่าตัดที่ปากและแผลที่ขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ โดยทราบว่าทางคลินิกจะดูแลอย่างดีที่สุดไปจนกระทั่งเด็กโตเป็นหนุ่ม ขณะเดียวกัน ก็จะมีการพิจารณาชดเชยทางด้านคุณธรรมตามความเหมาะสมด้วย

ขณะที่ นพ.ปัญญา กีรติหัตถยากร ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กล่าวว่า สำหรับความผิดของพยาบาลที่เป็นผู้ขริบอวัยวะเพศผู้เสียหายนั้น คณะอนุกรรมการฯจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการสถานพยาบาล ที่มี นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณา หากมีความเห็นตามคณะอนุกรรมการฯ จึงจะดำเนินการนำเรื่องส่งฟ้องศาล ส่วนการลงโทษตามกฎหมายมีความรุนแรงหรือไม่นั้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล สำหรับสถานพยาบาลขณะนี้สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต อีกทั้งจากการตรวจสอบเครื่องมือและการรักษาพยาบาลก็ไม่ได้ผิดมาตรฐาน เพียงแต่ไม่มีผู้ควบคุมในขณะปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น

ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า หากเด็กผู้เสียหายเกิดปมด้อย เพราะถูกเพื่อนๆล้อจนเป็นปัญหาสุขภาพจิตขึ้น และต้องการได้รับความช่วยเหลือ ทางกรมสุขภาพจิตยินดีที่จะช่วยเหลือ โดยที่ จ.สมุทรปราการ ก็มีโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ ที่มีจิตแพทย์ด้านวัยรุ่นอยู่

เย็นวันเดียวกัน หลังทราบผลการสอบสวนของ คณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริง กระทรวงสาธารณสุข ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่คลินิกเวชกรรมมหาชน ถนนนครเขื่อนขันธ์ ต.ตลาด อ.พระประแดง ขอพบ นพ.ศิริพงศ์ ถมสุวรรณ เจ้าของคลินิก เพื่อสอบถามความเห็น แต่ไม่พบตัวทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า นพ.ศิริพงศ์ออกไปธุระข้างนอก

ที่มา : http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=121040

จากเหตุการณ์นี้
โชคดีที่
1. การผ่าตัดที่ผิดพลาดไม่เป็นเรื่องร้ายแรง
2. ผู้เสียหายไม่มีผลในเรื่องชีวิต (แต่อาจเกิดการหวาดกลัวในการเข้ารักษาตัวในเรื่องอื่น ๆ ถัดไป)

โชคร้ายถ้า
1. การขลิบ กลายเป็นการตัดอวัยวะส่วนอื่นออก

ดังนั้น
การจะกระทำสิ่งใด ควรตั้งมั่นไว้บนความมีสติ และรอบคอบ ทุกหน้าที่พึงดำเนินหน้าที่ อย่างมีสติ มากกว่าการรับ order เพียงอย่างเดียว

^_^


Posted by : รักพ่อเช่นทุกคน , Date : 2009-01-28 , Time : 10:12:46 , From IP : 203.158.221.227

ความคิดเห็นที่ : 1


   หัวข้อเรื่อง กล่าวถึงแพทย์
แต่ตอนคุณ "รักพ่อเช่นทุกคน" สรุปตอนท้าย ที่เป็นความคิดของคุณ
คุณหมายถึงพยาบาล
คุณอาจมีมุมมองต่อพยาบาลในแง่มุมของคุณ
แต่อ่านแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดีนะ มันบ่งบอกมุมมองในแง่ลบ
ซึ่ง...คงไม่มีใครเปลี่ยนความคิดคุณได้

แต่จะบอกว่า พยาบาลส่วนใหญ่ และจำนวนมาก
ทำงานด้วยความตั้งมั่นอยู่ในสติ รอบคอบ
และมีความคิด สติปัญญา มากกว่า การรับ order เพียงอย่างเดียว แน่นอน
ไม่เช่นนั้น ชีวิตคนไข้ที่อยู่ในมือพยาบาล 24 ชม. คงไม่สามารถอยู่ได้
และวิชาชีพพยาบาลคงไม่สามารถดำรงอยู่ได้มานานเช่นกัน


Posted by : ลูกปัด , Date : 2009-01-28 , Time : 14:56:41 , From IP : 172.29.9.65

ความคิดเห็นที่ : 2


   เห็นใจพยาบาลนะครับ

ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้แม้ในองค์กรที่มีความระมัดระวังและมีสติอยู่

ไม่มีใครอยากให้เกิด

หากแต่วันนั้น ได้ยินว่าต้องขลิบให้ผู้ป่วย ก็ปฏิบัติตามอย่างถูกต้องตามที่ได้ยิน เธอไม่ได้ทำอะไรพลาดเลยไม่ใช่หรือ เธอได้ยินเช่นนั้นจริงๆ

ตำรวจยังจับแพะ
ทนายเอาคนดีเข้าคุก
นักการเมืองมันโกงกิน
สิ่งต่างๆที่สมควรกล่าวว่าเป็นความผิดที่ชัดเจนเหล่านี้ ต่างจากกรณีนี้ครับ


เป็นบทเรียนราคาแพงมากๆ สำหรับทุกสาขาอาชีพ

อีกหน่อยอาจต้องมีมาตราการที่ห้ามทำหัตถการด้วยคำสั่งปากเปล่า อาจต้องมีพยาน และอื่นๆ




Posted by : OmniSci , Date : 2009-01-28 , Time : 16:03:03 , From IP : 172.29.10.151

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<