ความคิดเห็นทั้งหมด : 7

ซานติก้า


   แฉยิงพลุในผับ เผาสยอง59ศพปีใหม่

"ซานติก้า"ร้านดัง เจ็บเกลื่อน212ราย ควันรม-เหยียบกัน ศพสุมหน้าประตู! ญาติร่ำไห้-เช็กวุ่น




สลดปีใหม่- สภาพศพนักเที่ยวที่ถูกย่างสดภายในซานติก้า ผับ ซอยเอกมัย 9 หลังเกิดเหตุไฟไหม้จากเหตุจุดพลุภายในผับ ท่าม กลางนักเที่ยวทั้งไทย-ต่างชาตินับพัน มีผู้เสียชีวิตถึง 59 ราย เมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าย่างเข้าปีใหม่


แฉนาทีเพลิงเผา "ซานติก้า" ผับกลางกรุง ย่างสดนักเที่ยว 59 ศพ เจ็บอีกกว่า 200 ราย หลังจากเคานต์ดาวน์ปีใหม่ผ่านไปไม่กี่นาที เผยผับไฮโซดังย่านทองหล่อจัดฉลองปีใหม่มีนักเที่ยวแห่ไปเที่ยวนันพันคน แต่หลังจากที่เคานต์ดาวน์เสร็จไม่ถึงสิบนาทีก็เกิดเพลิงไหม้ที่เพดานผับแล้วลุกลามรวดเร็ว นักเที่ยวทั้งคนไทย-ฝรั่งแตกตื่นหนีตายอลหม่านจนเหยียบกันตายสำลักควันตายถึง 59 ศพ บาดเจ็บอีก 212 ราย เจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิงถึงผงะเจอศพตายเกลื่อนหน้าประตู เหยื่อที่รอดชีวิตแฉนาทีรอดชีวิตหวุดหวิด และเห็นคนเหยียบกันตายอนาถ ระบุก่อนเกิดเหตุผับเปิดเอฟเฟ็กต์พลุ คาดว่าอาจลุกลามไปติดเพดาน ขณะที่เหยื่อบางคนระบุเห็นนักเที่ยวเมาแล้วจุดพลุเล่นในผับจนเกิดเพลิงไหม้ พอเกิดเพลิงไหม้ไฟก็ดับ สปริงเกลอร์พ่นน้ำไม่ทำงาน ทำให้เพลิงลุกลามเร็วมาก ตร.ชี้ต้องสอบปากคำเหยื่อให้ชัดและรอผลพิสูจน์ของพฐ.ก่อนสรุปได้ว่าไฟไหม้เพราะอะไร "มาร์ค" รุดเยี่ยม คนเจ็บทันที

ไฟไหม้ผับ-สยองเคานต์ดาวน์

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 ม.ค. ร.ต.ท.สุชิน พงษ์ คำพันธ์ ร้อยเวรสน.ทองหล่อรับแจ้งเกิดเพลิงไหม้ซานติก้าผับ เลขที่ 235/11 อยู่ระหว่างซอยเอกมัย 9 กับ 11 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ราย งานผู้บังคับบัญชารุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน. ทอง หล่อ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 นายวรพจน์ อินทุลักษ์ ผอ.เขตวัฒนา เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย พร้อมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวัฒนา

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารเดี่ยวขนาดใหญ่ 2 ชั้น เพลิงได้ลุกไหม้อาคารอย่างรุนแรงและรวดเร็ว นักเที่ยวภายในผับแตกตื่นแย่งกันหนีออกจากผับกันอลหม่าน บางรายหกล้มถูกเหยียบอยู่ภายใน ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รีบเข้าไปช่วยเหลือทุบกระจกนำตัวนักเที่ยวออกมา ที่ได้รับบาดเจ็บก็นำส่งร.พ.ข้างเคียง

ถูกย่างสด-เจอศพเกลื่อน 59 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะทางออกแคบ นักเที่ยวต่างก็กรูกันมาอออยู่หน้าประตู และไฟก็ได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้นักเที่ยวที่ยังหนีออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่กำลังให้การช่วยเหลือ นักเที่ยวบางส่วนได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิออกมาทางหน้าต่าง โดยถูกไฟไหม้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก จึงรีบลำเลียงนำส่งร.พ.ใกล้เคียง มีทั้งร.พ.กรุงเทพ ร.พ.กล้วยน้ำไท 2 ร.พ.ราม คำแหง ร.พ.วิภาราม ร.พ.คามิลเลียน และร.พ.คลองตัน และทราบว่ายังมีผู้ติดอยู่ภายในอีกจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือออกมาได้เพราะไฟกำลังลุกไหม้ และอาคารร้าวกลัวจะพังลงมา

เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำดับเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงได้สงบ และเมื่อตรวจสอบจนแน่ชัดว่าอาคารจะไม่ถล่มลงมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในพบมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนอนกองทับกันอยู่ บริเวณทางลงห้องน้ำชั้นใต้ดิน ใกล้กับทางที่จะขึ้นมาทางประตูด้านหน้า และยังมีศพกระจายกันอยู่ทั่วบริเวณภายในผับ และสามารถเข้าไปนำศพออกมาได้ทั้งหมด 53 ศพ และมีผู้เสียชีวิตขณะที่นำส่งร.พ.อีก 1 ราย รวมเป็น 54 ราย และยังมีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 5 ราย รวมทั้งสิ้นมีผู้เสียชีวิตในเบื้องต้น 59 ราย

เหยียบกัน-สำลักควันตายอนาถ

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. กล่าวว่า ในเบื้องต้นจากการสอบสวนมีผู้เห็นเหตุการณ์ ไฟได้ลุกไหม้จากโดมเหนือเวที และได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุนักเที่ยวเบียดเสียดกันออกมาทางประตูที่คับแคบ และได้หกล้มเหยียบทับกัน และเกิดสำลักควันไฟถูกไฟไหม้เสียชีวิต เบื้องต้นพบว่าเสียชีวิต 59 ราย ได้นำส่งร.พ.จุฬาให้ญาติไปตรวจสอบได้ที่ร.พ. จุฬา และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 50 คน มีทั้งชาวออสเตร เลีย เนปาล ญี่ปุ่นได้กระจายไปตามร.พ.ต่างๆ ซึ่งในส่วนของพนักงานสอบสวนต้องสอบสวนรูปแบบโครง สร้างของอาคารว่าถูกต้องหรือไม่ และเกิดจากความประมาทหรือไม่ และผับดังกล่าวมีนายวิสุข เสร็จ สวัสดิ์ อายุ 41 ปี เป็นผู้ขออนุญาต

พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 กล่าวว่า ในเบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากประกายไฟจากผู้ที่มาเที่ยวในผับ แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นผู้ใด ต้องให้พนักงานสอบสวน ออกไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และสอบปากคำพยานแวดล้อม หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะเรียกตัวมาแจ้งข้อหา และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ สำหรับ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากไฟคลอก สำลักควัน และเหยียบกันเอง ขณะแย่งกันออกจากภายในผับ ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นประสานให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบัน นิติเวช โรงพยาบาลจุฬา และมีการตั้งศูนย์รับแจ้งผู้สูญหายเพื่อประสานในการตรวจสอบผู้เสียชีวิต และรวมถึงทรัพย์สินที่สน.ทองหล่อ

เด็กเสิร์ฟแฉจุดพลุ-ดอกไม้ไฟ

นายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผอ.เขตวัฒนาเปิดเผยว่า ต้องตรวจสอบว่าอาคารก่อสร้างถูกแบบตามที่ขออนุ ญาตหรือไม่ ถ้าผิดแบบต้องดำเนินการตามกฎหมาย และได้ประกาศให้เป็นเขตห้ามเข้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนักเที่ยว เด็กในร้านมาสอบสวนที่สน.ทองหล่อเพื่อรวบรวมหลักฐาน และมีญาติผู้สูญหายบางคนมาสอบถามหาญาติ

พนักงานของร้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ผับได้จัดให้มีการเคานต์ดาวน์และคืนนี้ก็มีนักเที่ยวเกือบ 1,000 คนเข้ามาเที่ยวจนเต็มพื้นที่ เมื่อเที่ยงคืนก็ได้มีการเคานต์ดาวน์และจุดพลุ จุดดอกไม้ไฟ ไฟเย็น แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงตะโกนว่าไฟไหม้ และเห็นไฟลุกไหม้อยู่ที่ฝ้าเพดานเหนือเวทีอย่างรุนแรงจากนั้นก็มีควันไฟกระจายไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว ทำให้นักเที่ยววิ่งกรูมาที่ประตูทางออกด้านหน้าผับจนเกิดชุลมุน เพราะว่านักเที่ยวหน้าใหม่ที่ไม่ใช่ขาประจำจะคิดว่ามีประตูออกด้านหน้าด้านเดียว ส่วนนักเที่ยวขาประจำจะรู้ว่ามีประตูเล็กๆ สำหรับให้ออกมาดูดบุหรี่ อีก 3 บาน และประตูด้านหลังอีก 1 บาน ส่วนตนหนีออกมาทางด้านหลังและยังพานักเที่ยวจำนวนหนึ่งออกมาได้

เหยื่อสาวเผยนาทีรอดตาย

น.ส.ณัษฐภัทร์ รัตนภิญโญพิทักษ์ อายุ 41 ปี นักเที่ยวเปิดเผยว่า มากับเพื่อนและน้องรวม 3 คน เพิ่งมาครั้งแรก และรู้ว่าร้านจะเปิดเป็นวันสุดท้ายแล้วปิด ได้นั่งติดประตูทางออกด้านหน้า ซึ่งขณะนั้นในผับมีนักเที่ยวจำนวนมาก แต่ไม่แออัดมากนัก มีการดื่มกินกันอย่างสนุกสนานจนเวลาประมาณเที่ยงคืนมีการเคานต์ดาวน์ จุดพลุและไฟเย็น หลังจากนั้นก็ได้มีวงดนตรีเล่นจบไปได้ 1 เพลง และมีการจุดพลุเพื่อขึ้นต่อเพลงที่ 2 จังหวะนั้นนั้นเองก็มีไฟไหม้ที่ฝ้าเพดานผับหน้าเวที และลุกลามไป ตนจึงรีบดึงมือน้องสาวและเพื่อนวิ่งหนีออกมาเป็นคนแรกๆ ในระหว่างที่วิ่งออกมาก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ไล่ตามหลังตนมา และมีควันไฟเข้าจมูก แต่ก็หนีรอดออกมาได้ และยังบอกว่าอยากให้ทางผับมีประตูทางออกเยอะๆ ให้มีความปลอดภัยมากกว่านี้

น.ส.ชรินรัตน์ บัวหลวง อายุ 23 ปี นักศึกษามหา วิทยาลัยแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เข้ามาตั้งแต่เวลา 23.00 น. มาเที่ยวกับเพื่อนรวม 3 คน นั่งอยู่ชั้นล่าง เมื่อถึงเที่ยงคืน ได้มีการเคานต์ดาวน์โดยจุดพลุ และไฟเย็น วงดนตรีได้เล่นจบไปประมาณ 2 เพลงก็เห็นไฟลุกไหม้ที่ฝ้าเพดานหน้าเวที คิดว่าเป็นไฟที่ทำสำหรับเปิดคอน เสิร์ต แต่หลังจากนั้นก็เห็นประกายไฟหล่นลงมาใกล้กับที่ตนนั่ง จึงรีบวิ่งหนีทางประตูเล็กๆ ซึ่งเป็นทางไปสูบบุหรี่และยังได้ยินเสียงนักเที่ยว ตะโกนไล่ตามหลัง แตกตื่นหนีตาย วิ่งเบียดกันออกมาจนตนได้รับบาดเจ็บที่แขนและลำตัว ซึ่งไม่คิดว่าจะมีคนเสียชีวิตมากขนาดนี้ ต่อไปนี้ไม่กล้าไปเที่ยวผับอีกแล้ว กลัวผับไปเลย

ผับจุดพลุฉลองจนเกิดไฟลุก

นักเที่ยวผู้หนึ่งเปิดเผยว่า ร้านได้จัดเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี ก่อนเกิดเหตุทางร้านจัดพลุไว้ที่บริเวณด้านหน้าเวทีเพื่อจุดฉลองหลังจากที่มีการเคานต์ดาวน์แล้ว โดยเมื่อเคานต์ดาวน์เสร็จ ทางร้านได้จุดพลุดังกล่าว เป็นตัวอักษร HAPPY NEW YEAR พลุได้เกิดระเบิดรุนแรงจนลุกลามไปติดยังฝ้าเพดานที่มีฟองน้ำวัสดุเก็บเสียง ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เมื่อไฟลุกไหม้ขึ้น นักท่องเที่ยวที่อยู่บนชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้นลอย ไม่มีทางออกต้องวิ่งแย่งกันลงมาด้านล่างเพื่อออกทางประตูหน้า จึงหกล้มเหยียบกันหนีไม่ทัน ถูกไฟคลอกเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผับดังกล่าวจะเปิดเป็นวันสุด ท้ายแล้วจะปิด โดยมีการส่งข้อความไปยังสมาชิก และ นักเที่ยวขาประจำ ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้มีฐานะดี จึงได้มากันมาก และเวลา 02.00 น. จะมีนักร้องดัง "โจอี้ บอย" มาเล่นด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีนักเที่ยวที่เคานต์ดาวน์ที่เซ็นทรัลเวิลด์มากันอีกมาก แต่ก็เกิดเหตุเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตประมาณ 30 รายถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก ไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่าเป็นผู้ใด ส่วนผู้บาดเจ็บกระจายอยู่ตามร.พ.ต่างๆ มีประมาณ 200 กว่าคน ทั้งเจ็บเล็กน้อยและสาหัส

ศพส่วนใหญ่ต้องพิสูจน์ดีเอ็นเอ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวถึงการตรวจสอบศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ผับซานติก้า ย่านทองหล่อว่า เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. เวลา 03.00 น. ทางโรงพยาบาลตำรวจได้รับการประสานจากโรงพยา บาลจุฬาลงกรณ์ให้ช่วยรับศพมาเก็บและตรวจพิสูจน์จำนวน 28 ศพจากศพทั้งหมด 58 ศพ เพราะร.พ. จุฬาฯไม่สามารถรองรับศพได้ทั้งหมด

เบื้องต้นจากการตรวจสอบศพทั้งหมด ทราบชื่อแล้วจำนวน 10 ราย ไม่ทราบชื่อจำนวน 18 ราย แต่ ศพทั้งหมดไม่มีชาวยุโรปเป็นชาวเอเชียทั้งหมด ศพส่วนใหญ่จะถูกไฟไหม้จนแทบจะจำไม่ได้ บางศพดำเป็นตอตะโก เอกสารที่ติดตัวมาคงจะถูกไฟไหม้ทั้ง หมด การตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต้องใช้ประวัติ การทำฟัน และตรวจดีเอ็นเอจากซี่โครงของศพแต่ละศพ โดยขอให้ญาติที่สงสัยว่ามีญาติพี่น้องเสียชีวิตมาตรวจสอบได้ที่สถาบันนิติเวช โดยเราคงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเปรียบเทียบกับญาติที่จะมารับ โดยการตรวจเอกลักษณ์บุคคล เพื่อป้องกันการการให้ศพผิดไป ส่วนศพที่ทราบชื่อญาติสามารถมาติดต่อรับได้ โดยให้ญาตินำเอกสารของบุคคลนั้นๆมาประกอบและอาจมีการเจาะเลือดเพื่อเปรียบเทียบ ดีเอ็นเอ และสาเหตุการเสียชีวิต คาดว่าน่าจะเกิดจากการขาดออก ซิเจนและถูกไฟไหม้จนเสียชีวิต

ตรวจสอบจนรู้ชื่อแล้ว 26 ศพ

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ทราบชื่ออยู่ในสถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 10 ราย ประกอบด้วย นายกษิดิส เหมือนเดช อายุ 25 ปี น.ส.จีราภัทร กลีบเมฆ น.ส.ปัญญา ไชยสิทธิ์ อายุ 30 ปี น.ส.อภิชญา สิริกมลรุ่งโรจน์ อายุ 23 ปี MR. TEOSZE SIONG ชาวสิงคโปร์ นายทิวากร ปัญฑะบุตร อายุ 27 ปี นายจักรชัย น่วมเจริญ อายุ 20 ปี น.ส.วัลยา ชำคง นายศุภฤกษ์ พัฒนสิน นายอาทิตย์เทพ ปฐมนานุรักษ์ อายุ 35 ปี
1.อนาถ - ภาพสุดสลดใจนักเที่ยวเสียชีวิตรวมกันบริเวณประตูทางเข้าซานติก้า ผับ จำนวนมาก โดยเป็นทางออกทางเดียวและมีขนาดเล็ก ขณะที่มีนักเที่ยวเกือบพันคนแออัดยัดเยียดแย่งกันหนี ทำให้บางคนถูกเหยียบหรือหนีไม่ทันเสียชีวิต

2.สยองปีใหม่- สภาพศพนักเที่ยวที่ถูกย่างสดภายในซานติก้า ผับ ซอยเอกมัย 9 เจ้าหน้าที่ลำเลียงออกมาวางรวมกัน หลังเกิดเหตุไฟไหม้เพราะจุดพลุภายในผับ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 59 ศพบาดเจ็บกว่า 200 คน เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

3.เผาวอด- ภาพเหตุการณ์ไฟลุกโหมซานติก้า ผับ เมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่เปิดบริการเป็นวันสุดท้ายก่อนเลิกกิจการ มีวงดนตรีชื่อดังมาร่วมงานจำนวนมาก รวมทั้ง"โจอี้ บอย" แต่ไม่ทันได้แสดงก็เกิดเหตุร้ายขึ้นเสียก่อน

4.สูญเสีย - ญาติของผู้เสียชีวิตร่ำไห้ระหว่างรอรับศพเหตุไฟไหม้ซานติก้า ผับ ที่บางส่วนถูกเผาเป็นตอตะโก และแพทย์ยังไม่อนุญาตให้รับศพเพราะรอพิสูจน์ให้ชัดเจนป้องกันการรับศพผิด โดยผู้ได้รับบาดเจ็บอีกนับร้อยคน กระจายอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ

5.เยี่ยม - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เดินทางเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ที่นอนรักษาตัวในร.พ. ก่อนเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจหาผู้รับผิดชอบ พร้อมสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้ประสบเหตุด้วย

6.เศร้า- พ่อแม่ร่ำไห้ระหว่างทำพิธีรับศพผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ซานติก้า ผับ ซึ่งตลอดทั้งวันมีญาติพี่น้องเดินทางไปตามโรงพยาบาลต่างๆ และสถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบหาผู้เสียชีวิต ในจำนวนนี้มีกว่า 10 ศพที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นใคร

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ทราบชื่อที่อยู่ที่สถาบันนิติเวช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ จำนวน 16 ราย ประกอบด้วย น.ส.กานธิดา วิโนทัย อายุ 30 ปี นายต่อศักดิ์ อยู่โต อายุ 51 ปี นายกาญจน์ ไกรศรี อายุ 37 ปี นายกริช ณรงค์ อายุ 36 ปี น.ส.พรทิพา บัวมาก อายุ 25 ปี น.ส.แพง อัยยะรา อายุ 26 ปี นายชาญวิทย์ วุฒิเลิศอนันต์ อายุ 20 ปี น.ส.สุมาลี เมฆทรัพย์ อายุ 25 ปี นายทรงพล หวังทวีวงศ์ อายุ 25 ปี นายยศธร กุภาพันธ์ อายุ 25 ปี น.ส.ลีลาวดี วันเกิน อายุ 25 ปี นายเฉลิมชนม์ บุญพรม อายุ 20 ปี น.ส.รุ่งนภา ชัยประเสริฐ อายุ 30 ปี นายสมิท ยินดีธรรมกิจ อายุ 23 ปี นายบุญญรัตน์ แสนเมืองชิน อายุ 30 ปี นายมีศักดิ์ แก้วละเอียด อายุ 25 ปี นายสุรพล เมฆไพร อายุ 25 ปี

ผบ.ตร.นำทีมตรวจที่เกิดเหตุ

เวลา 07.30 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักวิทยาการตำรวจ (สนว. ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าตรวจสอบที่ซานติก้าผับ โดยพล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวภายหลังตรวจสอบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุแน่ ชัด ต้องให้ทางพฐ.ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นประมาณเวลา 00.30 น. ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 59 ราย บาดเจ็บสาหัสตามโรงพยาบาลต่างๆ 54 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยตาม โรงพยาบาลอีกกว่า 200 ราย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการลอบวางเพลิงหรือไม่ หลังมีข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนเจ้าของในวันขึ้นปีใหม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่มีใครคิดจะทำขนาดนั้น เพราะมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ขณะนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งทำการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ในศพที่ยังไม่ทราบชื่อ ส่วนจะมีชาวต่างชาติหรือไม่ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนเรื่องตำรวจต้องเข้าไปจัดการดูแลเรื่องสถานบันเทิง สถานประ กอบการ ที่ไม่ได้มาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ ตำรวจมีหน้าที่เพียงดูเรื่องใบอนุญาตเท่านั้น ส่วนเรื่องตัวอาคารเป็นหน้าที่ของกทม.

พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ที่สถานบันเทิงมักจะใช้วัสดุเก็บเสียง ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้จะติดไฟง่าย ทางออก ทางหนีไฟต่างๆ ซึ่งขณะนี้ผู้ที่ตามหาญาติให้นำตำหนิ รูปพรรณ ข้อมูลของผู้สูญหายหรือผู้ที่มาเที่ยวเข้าติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทองหล่อ เพราะบางคนไม่มีหลักฐานติดตัวจึงไม่ทราบว่าเป็นใคร ให้นำหลักฐานมาเพื่อแจ้งความและทำการตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนสาเหตุต้องให้ทางพฐ.ตรวจสอบอย่างละเอียด คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงสรุปผลได้

"มาร์ค"รุดเยี่ยมเหยื่อไฟไหม้

เวลา 08.05 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี เดินทางไปยังโรงพยาบาลคามิลเลียน เพื่อเข้าเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ซานติก้าผับ โดยนายอภิสิทธิ์นำกระเช้าเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ห้องพัก หมายเลข 406 และ 415 โดยมีนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คอยรายงาน ทั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลคา มิลเลียน ทั้งสิ้น 33 ราย แต่ได้เดินกลับบ้านและย้ายออกไปบ้างคงเหลือเพียง 10 รายที่รอรับการรักษาอยู่

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เดินทางไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุที่ซานติก้าผับ โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.อ.จงรัก และพล.ต.ท.สุชาติ รายงานความคืบหน้า โดยนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปตรวจดูบริเวณประตูทางเข้าและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัย

จี้สอบทำไมจุดพลุฉลองในผับ

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวรายงานว่า ในแง่ของตัวอาคารและทางออกไม่มีปัญหา เรื่องการดับไฟก็ทำได้รวดเร็ว แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบภายในอาคารของซานติก้าผับ ด้านในมีเชื้อไฟซึ่งเป็นโฟมที่เป็นวัสดุติดไฟได้ง่ายจำนวนมาก และเท่าที่ดูสภาพศพเบื้องต้น ส่วนหนึ่งมากองอยู่ที่ประตูทางออกอีกส่วนหนึ่งประมาณ 5-6 ศพ มีลักษณะไหม้ดำเป็นตอตะโกยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นใคร ลักษณะศพไฟน่าจะคลอกลงมาจากด้านบน ส่วนศพที่เหลือมีลักษณะของการสำลักควันและถูกไฟคลอก

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการป้องกันเกี่ยวกับสถานประกอบการหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ว่า เท่าที่ตรวจสอบดูปัญหาคือมีการนำดอกไม้ไฟและพลุเข้าไปเล่นกันข้างใน ซึ่งไม่ควรที่จะเกิดขึ้น เมื่อถามว่าจะมีมาตรการในการจัดการอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องแบบนี้ก็ต้องเข้มงวด ส่วนการช่วยเหลือขณะนี้ทางกรุงเทพมหานครได้ตั้งศูนย์ประ สานงานอยู่ที่สำนักงานเขตวัฒนา และในกรณีที่มีความจำเป็นจะให้ผู้บาดเจ็บกลับบ้านก็จะมีรถคอยรับส่งให้

"ปัญหามีอยู่ว่าทำไมถึงปล่อยให้มีการนำพลุและดอกไม้ไฟเข้าไปด้านใน ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องเข้มงวดกวดขัน อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบการเข้าไปดับไฟและคุมเพลิงก็ทำได้รวดเร็วพอสมควร" นายกฯ กล่าว

กทม.ตั้งศูนย์ช่วยเหลือแล้ว

นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า เจ้าหน้าที่พร้อมให้การช่วยเหลือ โดยกทม. ได้ตั้งศูนย์ประสานงานส่วนใครที่อยากตรวจพิสูจน์ก็สามารถไปดำเนินการได้ที่สน.ทองหล่อ ขณะนี้ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 59 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวกระจายและเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาล 14 แห่ง ซึ่ง กทม.ดูแลอยู่และตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือที่สำนัก งานเขตวัฒนาด้วย

นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม. เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องประชุมซักซ้อมการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ ประกอบด้วย นางวรรณวิไล พรมลักขโณ นายไกรจักร แก้วนิล รองปลัดกทม. สำนักงานเขตวัฒนา สำนักเทศกิจ (สนท.) สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) สำนักการโยธา (สนย.) สำนักผังเมือง (สผม.) สำนักการแพทย์ (สนพ.) สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (สวท.) กองการต่างประเทศ โดยนายพงศ์ศักติฐ์ เปิดเผยภายหลังว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยให้รายงานกลับมาให้ตนทราบภายใน 3 วัน นอกจากนี้กทม.ตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ที่สำนักงานเขตวัฒนา มีนางวรรณวิไลเป็นผู้ดูแล พร้อมทั้งตั้งศูนย์ประสานงานส่วนหน้าบริเวณหน้าซานติก้าผับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกองการต่างประ เทศที่สามารถสื่อสารภาษาต่างชาติได้คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ด้วย ส่วนการติดตามข้อมูลผู้สูญหาย อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ทองหล่อ

ต่างชาติตาย 7 ศพ-เจ็บอีก 212 ราย

นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่ายอดผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 59 ราย ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติที่เสียชีวิต 7 ราย ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตร เลีย ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 212 ราย ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อเหยื่อเพลิงไหม้ได้ที่ โทร. 0-2381-2285 , 0-2381-8930 ต่อ 7015-6 ทั้งนี้ สาเหตุการตายส่วนใหญ่มาจากสำลักควัน ทับกันตายรวมทั้งโดนไฟคลอก อย่างไรก็ตาม ต้องขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกทม.จะเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยกับสถานบริการ และนำเหตุ การณ์ครั้งนี้มาเป็นบทเรียน โดยเตรียมให้สปภ.และสำนักงานเขตต่างๆ ออกเตือนและให้ความรู้กับเจ้า ของผู้ประกอบการต่อไป

นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวว่า สำหรับโครงสร้างซานติก้าผับต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปผลการตรวจสอบออกมา แต่ในส่วนของกทม.นั้นจะต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ว่าโครงสร้างเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือมีการต่อเติมผิดแบบหรือไม่ เนื่องจากประตูทางเข้าออกผับดังกล่าวมีมากกว่า 1 ประตู โดยมีทั้งสิ้น 4 ประตู ด้านหน้า 3 ประ ตู และด้านหลัง 1 ประตู แต่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เสียชีวิตตรงประตูหน้ามากที่สุด ซึ่งคงต้องตรวจสอบว่าเป็นเพราะประชาชนไม่ทราบว่ามีทางออกอื่นอีก หรือทางเจ้าของผับล็อกประตูทางออกอื่น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้ย้ำให้กทม.ดูแลและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รวมทั้งเร่งประสานกับญาติผู้บาดเจ็บ พร้อมกันนี้ กทม.เตรียมที่จะจัดทำสถิติเหตุการณ์ที่มีลักษณะเช่นนี้ว่าเคยเกิดขึ้นมาแล้วกี่ครั้ง

คปภ.สอบวงเงินประกันภัย

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ทางสำนักงาน คปภ.กำลังเร่งตรวจสอบรายละเอียดเหตุการณ์จากตัวเลขผู้เสียชีวิตกรณีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ย่านเอกมัย ซ.9 ในช่วงเคานต์ดาวน์ปีใหม่ โดยมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แน่ชัด ซึ่งตนได้รับรายงานเบื้องต้นจากทางเจ้าหน้าที่คปภ.ที่เข้าไปร่วมตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงบ่ายของวันที่ 1 ม.ค. ว่า อาคารที่เกิดเหตุดังกล่าวได้ทำประกันภัยไว้กับทางบริษัทแอกซ่าประกันภัย ซึ่งกำลังตรวจเช็กให้แน่ชัดกับทางผู้บริหารของบริษัทแอกซ่าประกันภัยก่อนว่าได้ทำประกันภัยไว้จริงหรือไม่ และมีวงเงินคุ้มครองจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งกำลังรอความชัดเจนและข้อมูลต่างๆ ก่อนที่จะเปิดเผยให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ การณ์ดังกล่าว ทางคปภ.อยากให้ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้ตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตมีการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันภัยรูปแบบใดๆ หรือไม่ เพื่อให้บริษัทประกันดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทด แทนให้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บโดยเร็ว ดังนั้น อยากให้ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บดำเนินการส่งข้อมูลให้กับบริษัทประกันทันที รวมถึงรถยนต์ที่อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุและเสียหายกว่า 20 คันด้วย หากไม่ได้รับความสะดวกโปรดแจ้งหรือร้องเรียนมาที่สายด่วนประกันภัย 1186 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นิติเวชตั้งศูนย์พิสูจน์ศพเหยื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด้านหน้าของซานติก้าผับ ยังคงมีรถของผู้ที่มาใช้บริการจอดอยู่ที่ลานจอดรถเกือบ 30 คัน ส่วนอาคารเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงโครง สร้างเท่านั้น แต่มีรอยร้าวแตกตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยมีประชาชนมาสังเกตการณ์และญาติของผู้ที่คาดว่ามาเที่ยวและติดต่อไม่ได้ต่างมาตรวจสอบที่ซานติก้าผับและมาดูรายชื่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่ สน.ทองหล่อ ตลอดเวลา
โศกนาฏกรรม- ภาพเหตุการณ์สลดไฟไหม้ซานติก้าผับ เมื่อคืนวันฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 59 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน ญาติผู้เสียชีวิตร่ำไห้มารับศพและดูภาพผู้ประสบเหตุเพื่อหาคนรู้จัก เป็นโศกนาฏกรรมรับปีวัวไฟ ที่น่าเศร้าสลดใจอย่างมาก




พ.ต.อ.นิธิ บรรฑุวงศ์ ผกก.กองพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและการส่งกลับ สำนักนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ ซึ่งมาตั้งศูนย์ตรวจพิสูจน์ที่ สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาตรวจพิสูจน์ผู้เสียชีวิตที่พบ เพราะหลักฐานในตัวถูกไฟไหม้เสียหายหมด โดยจะมีการดูรายละเอียดเบื้องต้น 3 อย่าง คือ ดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และข้อมูลทางทันตกรรม นอกจากนี้ยังดูรายละเอียด รูปพรรณ เช่น รอยสัก บาดแผลต่างๆ รวมถึงเครื่องประดับที่ใส่ ซึ่งศพที่ต้องทำการพิสูจน์เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นใคร โดยจะทำงานร่วมกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยใช้ระบบ ข้อมูลในการตรวจพิสูจน์ โดยเบื้องต้นที่พบศพ อยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นชายทราบชื่อ 14 ราย ไม่ทราบชื่อ 1 ราย หญิงทราบชื่อ 6 ราย ไม่ทราบชื่อ 9 ราย และโรงพยาบาลตำรวจ เป็นชายทราบชื่อ 6 ราย ไม่ทราบชื่อ 6 ราย หญิงทราบชื่อ 4 ราย ไม่ทราบชื่อ 11 ราย ซึ่งตัวเลขอาจมีการเปลี่ยนแปลง เพราะมีผู้บาดเจ็บรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ จำ นวนมาก

ยังไม่รู้ชื่อผู้ตายอีก 28 ศพ

พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว. กล่าวว่า ตอนนี้ได้ส่งศพทั้งหมดไปที่สถาบันนิติเวชหมดแล้ว เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต และขณะนี้ทางเราได้ตั้งศูนย์ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ที่ สน.ทอง หล่อ และขณะนี้ทางเรายังไม่รู้ชื่ออีกจำนวน 28 ศพ ซึ่งมีทั้งผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติและคนไทย ส่วนสาเหตุทางเรายังไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใด ต้องรอผลจากทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน และทางเราจะทำอย่างเร็วที่ สุด ส่วนการเก็บวัตถุพยานที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุทางเราได้เก็บไว้ทั้งหมดแล้ว และกำลังตรวจสอบอยู่ ญาติพี่น้องท่านใดต้องการมาตรวจสอบว่าเป็นญาติของตนหรือไม่ให้มาตรวจสอบที่โรงพัก จะต้องนำสำเนาเอก สารบัตรประชาชนของผู้ที่สูญหาย และข้อมูลของผู้เสียชีวิตมาด้วย เพื่อที่จะได้ยืนยันที่ สน.ทองหล่อ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำรายชื่อของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงรถยนต์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาติดประกาศอยู่ที่บริเวณหน้า สน.ทองหล่อ เพื่อให้ญาติได้มาตรวจสอบ สำหรับผู้ที่พักรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ เช่น ร.พ.พระราม 9 ร.พ.จุฬาฯ ร.พ.ตำรวจ ร.พ. สมิติเวช 1-2 ร.พ.กล้วยน้ำไท 2 ร.พ.คามิเลียน ร.พ. รามคำแหง ร.พ.กรุงเทพ ร.พ.วิภาวดี-รามคำแหง ร.พ. ราชวิถี ร.พ.เพชรเวช ร.พ.แพทย์ปัญญา ร.พ.ปิยะเวท และอื่นๆ

ศพตายเกลื่อนหน้าประตูผับ

นายสุทธิรักส์ คุ้มสม เป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพร่วมกตัญญู ผู้ที่ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เวลาประมาณ 00.10 น.เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้รับแจ้งเหตุว่ามีสถานบันเทิงซานติก้าผับ ตั้งอยู่ ซ.เอกมัย 9-11 ว่ามีเหตุเพลิงไหม้ ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาในเวลา 00.30 น.เมื่อมาถึงพบกลุ่มควันไฟออกมาจากบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหน้าร้าน ซึ่งขณะนั้นผู้คนที่อยู่ภาย ในได้เบียดเสียดออกมานอกร้าน ซึ่งทางออกมีเพียงทางเดียว เมื่อตนกับเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปที่บริเวณด้าน ใน ได้พบเห็นผู้คนที่นอนร้องขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันหนาแน่น และมีคนตายอยู่บริเวณด้านหน้าประตูอยู่เป็นจำนวนมาก ทุกคนพยามยามดิ้นรนเอาตัวรอด บางคนหนีออกมาได้และมาล้มลงด้านหน้า บางคนวิ่งออกมาโดยไม่มีเสื้อผ้าเพราะไฟไหม้หมด เหลือแต่ผิวหนัง บางคนตัวออกมาได้ แต่เป็นห่วงเพื่อน ร้อง ไห้เสียงดังระงม และช่วงนั้นมีรถดับเพลงมาแค่ 2-3 คัน ทำให้ดับไม่ทัน ซึ่งต้องรอให้รถดับเพลิงมาก่อนเพื่อสลายกลุ่มควันที่มีอยู่หนาแน่น และทางเข้าบริเวณด้านหน้าเป็นทางแคบ ซึ่งยากแก่การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

เผย"โจอี้บอย"มีคิวแสดงด้วย

น.ส.เกษราภรณ์ แจ้งนคร อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท พนักงานแคชเชียร์ภายในร้าน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุภายในร้านมีนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาร่วมงานเคานต์ดาวน์ และงานสั่งลาร้านซึ่งจะทำการเป็นวันสุดท้ายประมาณ 300 คน โดยตนได้นั่งอยู่ที่เคาน์ เตอร์ ขณะนั้นมีดีเจ. เพชรจ้า และดีเจ.ภูมิ แสดงอยู่บนเวที โดยจะมีโจอี้ บอย มาร่วมแสดงในเวลาประ มาณ 01.00 น. ซึ่งยังไม่ได้เดินทางมาที่ร้าน แต่ได้มีเสียงระเบิดขึ้นบริเวณด้านหน้าเวที แล้วพบเห็นประ กายแสงเพลิงพวยพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับภายในอาคารมีการนำวัสดุโฟมมาประดับตกแต่งเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เพลิงจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวพยายามช่วยกันดับไฟก็ไม่สามารถสกัดเพลิงได้ จึงต่างวิ่งหนีกันอย่างอลหม่าน โดยคาดว่าดีเจ.เพชรจ้า และดีเจ.ภูมิ น่าจะหนีออกทางประตูหลัง ซึ่งเป็นประตูที่ศิลปินเข้าออกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตนเองได้หนีออกมาได้อย่างเฉียดเป็นเฉียดตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงบ่ายที่ สน.ทองหล่อ มีญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและหายสาบสูญหลังจาก

ไปเที่ยวซานติก้าผับ เดินทางเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำมาแปะที่บอร์ด พร้อมรูปภาพผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บเล็กน้อย และหนีออกมาจากเหตุการณ์ไฟไหม้ผับ เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวัน

รมต.สั่งสอบใบอนุญาตผับ

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมต.ยุติธรรม เดินทางไปที่ซานติก้าผับ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่า จะเข้าไปดูแลในเรื่องของกฎหมายต่างๆ ทั้งเรื่องใบอนุญาตให้เปิดสถานประกอบการและอื่นๆ ซึ่งหากพบว่าไม่ได้มาตรฐานเจ้าหน้าที่ที่ออกใบอนุญาตต้องรับผิดชอบด้วย และหากออกใบอนุญาตแล้วเคยกลับมาตรวจสอบหรือไม่ว่ามีการดัดแปลงหรือไม่

นายพีระพันธุ์กล่าวต่อว่า หากพบว่ามีการละเลยจะมีความผิดทั้งทางอาญาและละเมิดทั้ง 2 เรื่อง ซึ่งถือว่าผิดทั้งเจ้าของและเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากมีการละเมิดผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายได้ ส่วนชาวต่างชาติจะติดต่อกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือต่อไป

เหยื่อแฉเอฟเฟ็กต์พลุต้นเพลิง

เวลา 13.00 น. น.ส.ทิพรัตน์ อาจรอด อายุ 28 ปี นักเที่ยวที่รอดชีวิต โดยได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าทั้ง 2 ข้าง ได้เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ พร้อมกับเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนมาที่ผับดังกล่าวกับเพื่อนประมาณ 5-6 คน เพื่อมาฉลองวันเกิดเพื่อน ขณะเกิดเหตุตนและเพื่อนๆอยู่บริเวณกลางลานของผับ ซึ่งตนเข้าไปเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้นก็เกิดไฟไหม้ ตนและเพื่อนๆ จึงพยายามวิ่งเอาตัวรอดแต่คนจำนวนมากก็เบียดกันหาทางออกเพื่อหนีตาย ตนนึกถึงหน้าแม่พยายามกัดฟันเบียดออกมา ถูกเหยียบแต่ลุกขึ้นมาต่อ ตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเข่าทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากถูกเศษกระจกบาด ตนและเพื่อนอีก 5 คนหนีออกมาได้แต่มีเพื่อนหายไป 1 คน

นายพงษ์ศิริ วงษ์เซ็ง อายุ 28 ปี ลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีแขกที่ไปเที่ยวประมาณ 1 พันกว่าคน ช่วงใกล้เคานต์ดาวน์ทางร้านได้แจกไฟเย็นให้แขกจุดประกอบ เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน ซึ่งช่วงนั้นบนเวทีมีการแสดงดนตรี แต่ ไม่ได้มีศิลปินดังขึ้นเวที โดยมีดีเจ.ดำเนินรายการ หลังจากเคานต์ดาวน์เสร็จประมาณ 10 นาที บนเวทีมีการจุดเอฟเฟ็กต์ประกอบการแสดงดนตรี ลักษณะคล้ายโอ่งไฟที่จุดเล่น ออกเป็นประกายไฟพวยพุ่งขึ้นไป ซึ่งจุดที่จุดอยู่ตรงกลางเวทีและสะเก็ดไปติดบนโดมที่คาดว่าน่าจะเป็นพลาสติก และลามเร็วมาก พอเห็นไฟลามก็ตะโกนว่าไฟไหม้

แฉคลิปนักเที่ยวจุดพลุในผับ

"จากนั้นแขกก็อลหม่านวิ่งหนีเอาตัวรอดและทางร้านไม่มีใครช่วย ตนเมื่อถูกเบียดมากก็พลัดกับแฟนสาวที่ไปด้วย ชื่อน.ส.เบญจรัตน์ อินทยากร อายุ 25 ปี โดยตนพยายามหนีเอาตัวรอด แต่แฟนติดอยู่ในผับประมาณ 40 นาที เจ้าหน้าที่จึงสามารถช่วยออกมาได้ มีแผลถูกเพลิงไหม้บริเวณหลังและถูกเหยียบ ตอนนี้เพิ่งรู้สึกตัวตอนเวลา 11.00 น. ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท 3"

นอกจากนี้นายพงษ์ศิรินำคลิปโทรศัพท์มือถือความยาว 1 นาที ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ก่อนเกิดเพลิงไหม้ไม่ถึง 10 นาที โชว์แก่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นภาพที่นักเที่ยวกำลังโบกดอกไม้ไฟที่ทางผับแจกให้อย่างสนุกสนาน จากนั้นทางผับยังสร้างความตื่นเต้น ด้วยการปล่อยเอฟเฟ็กต์ที่เป็นประกายไฟจากพื้นเวทีคอนเสิร์ต ในช่วงนับถอยหลังปีใหม่ จึงคาดว่าลูกไฟที่ออกจากเอฟเฟ็กต์ไปถูกโดมที่อยู่บนเพดาน ประ กอบกับมีช่องระบายอากาศอยู่ใกล้ จึงทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้และลุกลามอย่างรวดเร็ว พร้อมยืนยันขณะเกิดเหตุไม่มีพนักงานมาช่วยแนะนำทางออกและไม่มีอุปกรณ์ดับเพลิง

ยังไม่ชัดผับหรือนักเที่ยวจุดพลุ

พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 กล่าวว่า ขณะนี้ทยอยสอบปากคำพยานไปแล้ว ซึ่งมีประมาณ 100 ปาก ส่วนใหญ่ยังรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ 17 แห่ง เท่าที่สอบเบื้องต้นเป็นพยานที่เป็นพนักงานของร้าน โดยเท่าที่สอบทราบว่าเห็นไฟลุกจากยอดโดมและตกลงมา โดยยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด หากตรวจสอบพบผิดจะแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยเรื่องนี้ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผิดที่เจ้าของเป็นคนทำ หรือผิดที่นักเที่ยวเป็นคนทำ เรื่องนี้ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญดูอีกครั้ง คาดว่าประมาณ 2-3 สัปดาห์จะสามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้

ด้านพล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 กล่าวว่า คดีอยู่ระหว่างสอบสวน โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เข้ามาดูแลในส่วนของคดี เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบทราบว่าสาเหตุเกิดจากประกายไฟพุ่งไปติดเพดาน ส่วนมาจากสาเหตุใดก็ต้องให้ทางพฐ.ตรวจสอบอย่างละ เอียดอีกครั้ง โดยถึงขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหากับผู้ใด และยังไม่สามารถติดต่อนายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว เจ้าของได้ ซึ่งทางกลุ่มงานตรวจพิสูจน์เอก ลักษณ์บุคคลและการส่งกลับเริ่มต้นขึ้นสมัยมีเหตุการณ์สึนามิ

แฉ"สปริงเกลอร์"ไม่ทำงาน

บ่ายวันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ น.ส.เฉลิมพร บุญเพชร อายุ 26 ปี นักเที่ยวที่รอดชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ร้านซานติก้า กล่าวว่า เที่ยวที่ซานติก้าผับเป็นประจำ คืนที่เกิดเหตุตนเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อน 2 คน โดยนัดเพื่อนอีก 2 คนไว้ที่ผับดังกล่าว ซึ่งช่วงก่อนเกิดเหตุวงดนตรีเล่นจบประ มาณเที่ยงคืน ตนจึงเดินไปหาเพื่อนบริเวณชั้นลอยของร้าน ต่อมาเที่ยงคืน 10 นาที ได้ยินคล้ายเสียงพลุดังขึ้นบริเวณหน้าเวที ต่อมามีประกายไฟลามขึ้นมา ตอนแรกนึกว่าเป็นเอฟเฟ็กต์ของร้าน แต่เมื่อไฟลุกขึ้นและมีคนตะโกนว่าไฟไหม้ ตนกับเพื่อนจึงรีบวิ่งลงมาจากบันไดที่ห่างจากทางออกประมาณ 7 เมตร แต่มีคนขวางล้มอยู่เป็นจำนวนมาก ตนก็พยายามเบียดจนออกมาได้ ซึ่งในระหว่างนั้นไฟฟ้าภายในร้านดับลง ทำให้ภายในมืดมากและควันไฟก็หนาทึบ และไฟฟ้าสำรองหรือสปริงเกลอร์น้ำดับเพลิงก็ไม่ทำงาน แต่เพื่อนตนที่ไปเที่ยวด้วยกันหายไปชื่อน.ส.จันทร์เจ้า แสนสมบูรณ์ อายุ 27 ปี ตนจึงมาดูที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีรายชื่อของเพื่อนตนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่เจอ

เด็กเสิร์ฟ-แคชเชียร์ตายหมู่ 7 ศพ

ผู้จัดการด้านรักษาความปลอดภัยของร้าน ซึ่งเดินทางมาที่สถาบันนิติเวช กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนเพิ่งออกจากร.พ.คามิลเลียน ภายหลังจากสลบจากการสูดดมควันเข้าไปจำนวนมาก โดยเดินทางมาดูศพของพนักงานที่ร้านที่เสียชีวิตจำนวน 7 ราย ประกอบด้วยพนักงานบาร์น้ำชาย 2 ราย กัปตัน 1 ราย พนักงานเสิร์ฟชาย 1 ราย พนักงานเสิร์ฟหญิง 1 ราย และแคชเชียร์ 2 ราย ซึ่งในช่วงเกิดเหตุตนอยู่ภายในร้าน ได้ยินเสียงเหมือนพลุดังขึ้น ต่อมามีไฟไหม้บริเวณหน้าเวทีลามขึ้นไปบนเพดาน ต่อมาไฟฟ้าดับลงทั้งร้าน ตนจึงใช้ไฟฉายส่องจนหาทางออกมาได้พร้อมนักเที่ยว จำนวนหนึ่งก่อนที่จะสลบไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่มาขอดูศพของผู้เสียชีวิตที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงทำบอร์ดติดรูปถ่ายของผู้เสียชีวิตมาให้ประชาชนดู ซึ่งศพบางส่วนไหม้จนจำไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมทรัพย์ที่ติดตัวศพเพื่อให้ญาติทำการตรวจสอบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผับซานติก้า เป็นผับชื่อดังเปิดให้บริการมานาน 6 ปี คืนที่เกิดเหตุเป็นคืนวันเลี้ยงอำลา เพราะเจ้าของสถานที่ไม่ต่อสัญญา ซึ่งผับแห่งนี้มีจุดเด่นคือเจ้าของร้านจะเชิญนางแบบดารามานั่งภาย ในร้าน เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มไฮโซมีเงิน รวมทั้งลูกนักการเมืองชื่อดังหลายราย

ร.พ.จุฬาฯมีผู้เสียชีวิต 30 ราย

วันเดียวกัน ร.พ.จุฬาฯ รศ.น.พ.อดิศร ภัทรดุลย์ ผอ.ร.พ.จุฬาฯ รศ.น.พ.สมรัตน์ จารุรัตนันท์ รองผอ. ฝ่ายวิชาการ รศ.น.พ.หญิง นันทนา ศิริทรัพย์ อาจารย์นิติเวชศาสตร์ ร.พ.จุฬาฯ รศ.น.พ.รัฐพี ภาคอรรถ ผู้ช่วยผอ. และน.ส.สุมล เกษมวนิวัฒน์ หน.พยาบาล ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับ

รศ.น.พ.อิดศรกล่าวว่า สำหรับผู้ที่มารับการบริการที่หน่วยอุบัติเหตุ ห้องฉุกเฉิน มีทั้งสิ้น 13 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด จำนวน 5 ราย อยู่ที่อยู่ในห้องไอซียู ศัลยกรรม จำนวน 2 ราย อยู่ที่ตึกจุฬาภรณ์ ชั้น 3 จำนวน 2 ราย ตึกมงกุฎเพชรรัตน์ ชั้น 3 จำนวน 1 ราย ผู้ป่วยอาการปานกลาง จำนวน 7 ราย และสามารถกลับบ้านได้ จำนวน 1 ราย

สำหรับจำนวนผู้ที่เสียชีวิต ที่นิติเวช ร.พ.จุฬาฯ จำนวน 30 ราย ซึ่งทางนิติเวช ได้ดำเนินการจัดทำถ่ายภาพผู้เสียชีวิตและจัดทำประวัติเก็บหลักฐานต่างๆ ของผู้เสียชีวิต พร้อมกับภาพถ่ายไปติดไว้เพื่อให้ญาติได้ดูที่บริเวณห้องโถงของอาคารนิติเวช ร.พ.จุฬาฯ โดยจะให้ญาติมาทำการดูตรวจสอบเนื่องจากผู้เสียชีวิตบางรายนั้นไม่มีเอกสารติดตัว ก็ต้องให้ญาติๆ นำหลักฐานต่างๆ มาแสดงว่าเป็นญาติของตนเอง เบื้องต้นทางร.พ.จุฬาฯ จะได้อำนวยความสะดวกให้กับทางญาติ และญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิตให้เป็นอย่างดี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทาง รศ.น.พ. รัฐพี จะเป็นผู้ดูแล

คนเจ็บส่วนใหญ่ถูกไฟคลอก

รศ.น.พ.รัฐพี กล่าวว่า สำหรับอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.จุฬาฯ ส่วนใหญ่จะมีอาการสูดเอาควันไฟเข้าไป ทำให้สำลักควันและบางส่วนที่ถูกไฟลวกไฟคลอก จนเป็นแผลพุพอง บางรายได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกที่บริเวณใบหน้า และบางรายถูกกระจกบาดเป็นแผล เนื่องจากการวิ่งหลบหนี แพทย์ได้ให้การรักษาโดยการให้ออกซิเจนเพื่อทำการฟอกอากาศในร่างกายและก็เจาะเลือดทุกคนเพื่อหาควันพิษในร่างกาย สำหรับอาการพุพองก็รักษาไปตามอาการ

รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ นาย Keiichi wada อายุ 25 ปี สัญชาติญี่ปุ่น อยู่ห้องไอซียู นายสุทธิรักษ์ สำเร็จประสงค์ อายุ 29 ปี อยู่ห้องไอซียู นายนิตย ดำรงประภักดิ์ อายุ 31 ปี น.ส.ศิริลักษณ์ อักษรวรรณ อายุ 20 ปี น.ส.สายสุรีย์ มณีศิลป์ อายุ 28 ปี นายอวิโรจน์ ศิรินทร์วรชัย อายุ 20 ปี น.ส.นลินรัตน์ อิฐธนรักษ์ อายุ 20 ปี น.ส.พรทิพย์ ทองดี อายุ 26 ปี นางนภัส ภูมิราม อายุ 32 ปี น.ส.พนมพร เกิดแก้ว อายุ 28 ปี น.ส.สุฑาลักษณ์ นิลวิจิตร อายุ 28 ปี น.ส. เสาวนีย์ ปัญญาใหญ่ อายุ 29 ปี และว่าที่ ร.ต.ต.ยุทธศาสตร์ แสนเวียน อายุ 41 ปี แพทย์ให้กลับบ้านได้

นักเที่ยวเมาจุดพลุฉลองในผับ

ต่อมาได้มีบรรดาญาติพี่น้องผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตต่างก็ทยอยเดินทางมาที่แผนกนิติเวชจุฬาฯ เพื่อตรวจสอบขอดูโดยญาติบางรายพบว่าเป็นผู้เสียชีวิตต่างก็ร้องไห้เศร้าโศกเสียใจกันระงม นายสุชาติ สุวรรณ วิเศษกุล อายุ 51 ปี พร้อมกับนางศิริขวัญ สุวรรณวิเศษกุล อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นบิดามารดาของนายสุร ศักดิ์ สุวรรณวิเศษกุล อายุ 17 ปี บุตรชายที่เสียชีวิต ขณะเข้าไปเที่ยวผับฉลองเคานต์ดาวน์ โดยหลังจากที่ได้ดูรูปหมายเลข เอพี.07 ที่ทางร.พ.ติดประกาศไว้ถึงกับร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ

นายสุชาติกล่าวว่า ผู้ตายเป็นลูกชายคนเล็กชื่อนายสุรศักดิ์ อายุ 17 ปี ซึ่งตนมีลูกทั้งหมด 3 คน คนโตเป็นลูกผู้ชายและลูกคนกลางเป็นลูกผู้หญิง ส่วนคนตายเป็นลูกคนเล็ก เมื่อคืนซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่า ต้อน รับปีใหม่ ลูกสาวคนกลางได้มาขออนุญาตไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันประมาณ 10 กว่าคน และเพื่อนของลูกชายอีก 2 คน ไปเที่ยวด้วยกัน ตนเห็นว่าไปเที่ยวกันจึงได้อนุญาต ส่วนลูกสาวรอดชีวิตออกมาได้ เล่าว่า ทางร้านได้นำพลุไฟมาแจกให้นักเที่ยวในผับเพื่อจุดฉลองเคานต์ดาวน์ด้านนอกและมีนักเที่ยวที่เมาสุราได้นำพลุไฟเข้ามาจุดภายในผับ จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งตอนนี้ตนยังทำใจไม่ได้ และทางสถานบันเทิงไม่น่าที่จะปล่อยให้มีการจุดพลุไฟและปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปเที่ยวได้ หลังจากนี้ก็จะนำศพลูกชายไปตั้งสวดที่วัดบางบำหรุ ฝั่งธนฯ และจะติดตามความคืบหน้าทางคดีว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรกับเจ้าของสถานบันเทิงบ้าง

ประตูทางออกคดเคี้ยวมาก

นายธนาวุฒิ สนทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ซอยเพชรเกษม 49 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม. ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับเพื่อนเดินทางไปเที่ยวที่ผับดังกล่าว มีชาย 3 หญิง 3 เพิ่งเคยมาเที่ยวเป็นครั้งแรก ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่ใกล้ประตูทางออก ประมาณ 10 เมตร มีนักเที่ยวทั้งชั้นบนและชั้นล่างรวมกันประมาณพันกว่าคน คนแน่นมาก ตอนเริ่มเคานต์ดาวน์ที่บริเวณหน้าเวทีมีการยิงลูกเอฟเฟ็กต์โดยการนับถอยหลัง 3-2-1 และยิงลูกเอฟเฟ็กต์ลูกไฟขึ้นเพดาน หลังจากนั้นสังเกตเห็นว่าบรรดานักดนตรีรีบวิ่งหนีลงจากเวทีออกไปและวิ่งตามๆ กันออกลงมา และก็มีคนตะโกนว่าไฟ ไหม้ และตอนนี้ต่างคนต่างก็วิ่งหนีเอาตัวรอดกันกระ เจิง โดยบนฝ้าเพดานมีลูกไฟไหม้ก่อนที่ไฟในผับจะดับลง โดยทางลงทางออกคดเคี้ยว พื้นเล่นระดับ นักเที่ยวต่างกรูกันวิ่งหนีจนเหยียบกันล้มและมีเสียงหวีดร้องดังระงม เห็นมีชาวต่างชาติช่วยกันทุบกระจกระบาย หนีออกทางหน้าต่างชั้นบน แต่ที่น่าสังเกตเพราะว่าคนที่ตะโกนบอกว่าไฟไหม้น่าจะรอดชีวิต แต่กับถูกไฟคลอกตายเสียชีวิต หลังจากนั้นตนก็ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพพามาส่งโรงพยาบาล

ยอดผู้เสียชีวิตมีทั้งหมด 59 ราย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ตรวจสอบได้ ประกอบด้วย 1.นายสุพล เมฆไกร 2.นายบุญญรัตน์ แสนเมืองชิน 3.นายชาญวิทย์ วุฒิเลิศอนัน 4.น.ส.รุ่งนภา ชัยประเสริฐ 5.น.ส.ลีลาวดี วันเถิน 6.นายเฉลิมชนม์ บุญพรม 7.น.ส.สุมาลี เมฆทรัพย์ 8.น.ส.แพรว อัยรา 9.น.ส.กานธิดา วิโนทัย 10.นายมีศักดิ์ แก้วละเอียด 11.กริช ณราย์ 12.นายกาญจน์ ไกรศรี 13.น.ส.พรทิพา บัวมาก 14.นายยศธร กุภาพันธ์ 15.นายทราพล หวังทวีวงศ์ 16.นายสมิท ยินดีธรรมากิจ 17.นายต่อศักดิ์ อยู่โต

18.นายสุรศักดิ์ วรรณวิเศษกุล 19.นายอาทิตย์เทพ ปฐมานุรักษ์ 20.นายศุภกฤษณ์ พัฒนสิน 21.น.ส. ปัญญา ไชยสิทธิ์ 22.น.ส.วัลยา ซำกง 23.นายจักรชัย น่วมเจริญ 24.น.ส.อภิชญา สิริกมลรุ่งโรจน์ 25.นาย กษิดิส เหมือนเดช 26.น.ส.จีรภัทร กลีบเมฆ 27.Mr. TEO SZE SIONG สัญชาติสิงคโปร์ 28.นายทิวากร ปิณฑะบุตร และหญิงไม่ทราบชื่อจำนวน 21 ราย ชายไม่ทราบชื่อจำนวน 9 ราย และไม่ทราบเพศจำ นวน 1 ราย รวมทั้งสิ้น 59 ราย

ฝรั่งตีข่าวไหม้ผับตาย 59 ศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศระดับโลก ทั้งซีเอ็นเอ็นและบีบีซีรายงานข่าวเพลิงไหม้ซาน ติก้าผับไปทั่วโลก โดยซีเอ็นเอ็นระบุว่า ซานติก้าเป็นหนึ่งในไนต์คลับ หรือสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่หรูหรา และได้รับความนิยมระดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเวลาประมาณ 12.35 น. วันที่ 1 ม.ค. ขณะนั้นมีนักเที่ยวเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่อยู่ข้างในประมาณ 1,000 คน เบื้องต้นพบว่า ต้นเพลิงอยู่ใกล้จุดจุดพลุไฟตรงเวที ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่สำลักควันขาดอากาศหายใจและถูกเหยียบตาย

นายแอนดรูว์ โจนส์ นักเที่ยวชาวอังกฤษผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น ว่า นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอีกคนที่วิ่งหนีออกมาจากซานติก้าเล่าว่า พอมีการจุดพลุบนเวทีและเกิดเพลิงไหม้ขึ้นก็พยายามวิ่งออก จากตัวอาคาร แต่แทบมองอะไรไม่เห็นเพราะจังหวะนั้นไฟฟ้าดับทันที

ด้านบีบีซีรายงานว่า เหตุเพลิงไหม้ซานติก้าทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 59 ราย บาดเจ็บกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่นำศพผู้เสียชีวิตห่อผ้าสีขาววางเรียงรายเต็มถนน นายแอนดรูว์ ลอง นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ กล่าวว่า ผู้รอดชีวิตเล่าให้ฟังว่า เหตุไฟไหม้เกิดขึ้นหลังมีการจุดพลุภายในผับ ส่วนนายทอส แมดดี้ ชาวต่างชาติอีกคน กล่าวว่า ได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายเครื่อง ไฟฟ้าหรือระบบไฟฟ้าระเบิด จากนั้นผู้คนจึงวิ่งหนีตายกันอลหม่านและไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว

"จงรัก"สอบเจ้าของผับวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 2 ม.ค. เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. จะเดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ผับซานติก้าอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับได้เชิญเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าว และหุ้นส่วน ซึ่งทราบว่าได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ด้วยเข้าให้ปากคำในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวน ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ ขณะเดียวกันก็จะนำเอาภาพคลิปเหตุ การณ์ต่างๆ ขณะเกิดเหตุซึ่งมีผู้ถ่ายไว้มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ส่วนที่สน.ทองหล่อ ได้มีผู้ได้รับบาดเจ็บต่างทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ


Posted by : thiopental , Date : 2009-01-02 , Time : 13:10:58 , From IP : 125.24.52.119.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 1


   

Posted by : thiopental , Date : 2009-01-02 , Time : 13:20:24 , From IP : 125.24.52.119.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 2


   

Posted by : thiopental , Date : 2009-01-02 , Time : 13:21:43 , From IP : 125.24.52.119.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 3


   เหยื่อซานติก้านอนรพ.108 คน อยู่ICU 24 คน
09:55 น.

จากเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับ เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2551 ที่ผ่านมานั้น ในขณะนี้ มียอดผูเสียชีวิตล่าสุด อยู่ที่ 59 ราย และยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งหมด 108 คน โดยมีอาการคงที่ 84 คน เป็นชาย 30 คน และหญิง 54 คน

ส่วนผู้ป่วย ไอซียู นั้น มีทั้งหมด 24 คน เป็นชาย 13 คน และหญิง 11 คน โดยเป็นชาวต่างชาติ 19 คน นอกจากนี้ในส่วนของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มีผู้เข้ารับการรักษานับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุทั้งหมด 15 คน และต้องนอนรักษาตัว

อยู่ที่โรงพยาบาล 13 คน ซึ่งขณะนี้ ยังคงเหลือผู้ป่วยที่รักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 คน อาการหนัก 5 คน และ ไอซียู 2 คนและ 1 ใน 2 ราย ที่อยู่ในห้องไอซียูนั้น เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งต้องประเมินอาการในทุกๆ 1 ชั่วโมง



ขณะที่สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าล่าสุด สามารถส่งมอบศพกลับไปให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลได้แล้ว จำนวน 14 ราย ยังคงเหลืออยู่ที่สถาบันอีก 14 ราย รวม 28 ราย และในจำนวนดังกล่าว สามารถระบุตัวบุคคลได้ จำนวน 20 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 13 ราย และที่ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีก 8 ราย ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าสถาบันนิติเวชวิทยา ในช่วงเช้าของวันนี้ เป็นไปด้วยความเงียบเหงา โดยมีกลุ่มญาติ และผู้ที่ยังสงสัยมาขอดูร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุสลดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีจำนวนลดน้อยลงจาก 2 วันแรก อย่างเห็นได้ชัดก็ตาม


Posted by : thiopental , Date : 2009-01-03 , Time : 10:26:53 , From IP : 125.24.56.96.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 4


   สิ้นใจเพิ่มอีก 2 ที่ร.พ.กรุงเทพ

ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ร.พ.กรุงเทพ น.ส.แจ่ม จันทร์ เหมือนสนิท ผู้ตรวจการศูนย์การแพทย์ ร.พ.กรุงเทพ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมามีผู้ที่มารับการรักษาเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รายแรกคือ นายยุทธนา สินไพบูลย์ผล โดยขณะที่มารับการรักษามีอาการถูกไฟลวกบริเวณแขน ขา และใบหน้า กว่า 70% แพทย์ช่วยเหลือโดยการผ่าตัดและให้ยาอย่างเต็มที่ แต่ผู้ป่วยทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ศพอยู่ระหว่างนำส่งนิติเวช ร.พ.รามาธิบดี รายที่ 2 คือ น.ส.วิภาวรรณ ถนอมปัญญารักษ์ อายุ 30 ปี มีอาการถูกไฟลวกตามร่างกาย กว่า 90% แพทย์ช่วยเหลือโดยการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง พยายามยื้อชีวิตทุกวิถีทางแต่ผู้ป่วยเสียชีวิตลงเวลา 22.45 น. ศพส่งไปที่นิติเวช ร.พ.รามาธิบดีแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.กรุงเทพอีก ประมาณ 10 ราย ทุกรายล้วนแต่อาการสาหัส อย่างไรก็ตาม แพทย์จะให้การรักษาอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนรอดชีวิต


Posted by : thiopental , Date : 2009-01-04 , Time : 10:46:22 , From IP : 125.24.57.201.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 5


   http://upload.unlimitlife.com : บริการ อัพโหลด ฝากรูป ฟรี ไม่มีวันลบ !!
“เสี่ยขาว” ร่ำไห้ขอโทษญาติเหยื่อ “ซานติก้า”-ตร.จ่อ 2 ข้อหา!

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 4 มกราคม 2552 17:04 น.


นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว อายุ 41 ปี เจ้าของซานติก้าผับ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบตำรวจ

นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว ร่ำไห้ ยกมือไหว้ขอโทษญาติเหยื่อผับนรก

“เสี่ยขาว” หุ้นส่วนใหญ่ ซานติก้าผับ เข้าพบ รอง ผบ.ตร.ร่ำไห้ ขอโทษญาติเหยื่อ โดยตำรวจจ่อแจ้ง 2 ข้อหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ขณะที่ตำรวจเชื่อ สาเหตุเกิดจาก “เอฟเฟกต์” บนเวที ส่วนศพผู้เสียชีวิตอีก 11 ราย ยังไม่ทราบชื่อ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ ร่ำไห้ขอโทษญาติเหยื่อ

วันนี้ (4 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 4 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตวัฒนา เฝ้าดูแลสถานที่เกิดเหตุไม่ให้บุคคลใดเข้าไปในที่เกิดเหตุ เกรงว่า จะทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนหลายคนเดินทางเข้าไปบริเวณลานจอดรถหน้าสถานบันเทิง พร้อมทั้งนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปไว้ดู นอกจากนี้ ยังมีญาติของผู้เสียชีวิตหลายรายทยอยกันนำอาหาร น้ำดื่ม และดอกไม้ พร้อมจุดธูปเทียน เซ่นไหว้วิญญาณผู้เสียชีวิต ด้วยการแต่งกายชุดขาว และดำเป็นการไว้อาลัย ซึ่งต่างร้ำไห้ถึงผู้ที่จากไปด้วยความเศร้าสลด

ญาติเหยื่อตรวจดีเอ็นเอพบศพลูก
นายประเสริฐ คุ้มผล อายุ 49 ปี พร้อมด้วย นางนงคราญ คุ้มผล อายุ 45 ปี ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ พร้อมทั้งแจ้งความจำนง ว่า รูปถ่ายรูปที่ 4 ที่ประกาศไว้ว่า บุคคลที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ ชื่อ น.ส.ภัชรีย์ คุ้มผล หรือ ปลา อายุ 26 ปี นายประเสริฐ เปิดเผยด้วยอาการเศร้าสลด ว่า ลูกสาวตนเองเป็นเซลส์ บริษัท ออยล์ปั๊ม จำกัด เลขที่ 621 ซอยอ่อนนุช 70/1 แยก 2 แขวงและเขตประเวศ ทำเกี่ยวกับปั๊มน้ำ ย่านประเวศ กทม.ก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวได้บอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็พบว่า น้องปลา ยังไม่เดินทางกลับบ้าน

นายประเสริฐ กล่าวว่า ต่อมามีเพื่อนสาวของน้องปลาโทรศัพท์มาหา บอกว่า น้องปลาชวนไปเที่ยวที่ซานติก้าผับ โดยตนไม่ได้ไปด้วย เพราะติดธุระ และบอกให้ตนรีบไปดูที่ซานติก้าผับเพราะเกิดเหตุเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เมื่อตนไปถึงก็พบรถยนต์ โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน สฐ 6407 กทม.ซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถ จึงคาดว่า ลูกสาวตนเสียชีวิตแล้ว จึงรีบเดินทางไปตาม รพ.ต่างๆ เพื่อหาศพ และไปที่นิติเวช รพ.ตำรวจ โดยพบกับชายชาวต่างชาติ บอกกับตนว่า ตามหาคนนี้หรือเปล่า พร้อมกับนำรูปถ่ายมาให้ดู โดยตนไม่ได้สื่อสารกัน เพราะไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่พยักหน้าไปว่า เป็นลูกของตนเอง ขณะเดียวกัน น.ส.ศิริรัตน์ คุ้มผล ได้เดินทางมาที่ รพ.จุฬาฯ พร้อมกับตรวจดีเอ็นเอ จากศพที่เสียชีวิตพบว่าศพหมายเลข 4 เป็นศพของพี่สาวตนเอง

ด้าน นายพีระพล หลำจำนงค์ อายุ 48 ปี เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า ศพหญิงไม่ทราบชื่อหมายเลข 25 ที่ รพ.จุฬาฯ มีดีเอ็นเอ ตรงกับตน และทราบว่า เป็นบุตรสาวของตน คือ น.ส.พรพิมล หลำจำนงค์ อายุ 21 ปี โดยเป็นนักศึกษาที่ โรงเรียนสายประสิทธิ์พณิชยการ แต่อยู่ระหว่างพักการเรียน ซึ่ง น.ส.พรพิมล ได้เดินทางมาเที่ยวที่ซานติก้าผับ เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.พร้อมเพื่อนอีก 3 คน ซึ่ง 2 ในนั้น ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอีกคนไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยทางญาติก็เพี่งรับทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ รพ.จุฬาฯ โทรศัพท์มาแจ้งในส่วนของศพที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นใคร ทางญาติจึงเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ว่า เป็นบุตรสาวของตน

ญาติทำพิธีเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้าน
ส่วนที่บริเวณหน้า ซานติก้าผับ ตั้งแต่เช้า มีญาติผู้เสียชีวิตหลายรายเดินทางที่หน้าสถานบันเทิงนำรูปหน้าศพของผู้เสียชีวิตเอามาทำพิธีเชิญวิญญาณผู้ตายกลับบ้านตามความเชื่อ นายวีระยุทธ อุบลมณี อายุ 29 ปี นิมนต์พระสงฆ์หนึ่งรูป พร้อมนำหม้อดินมาทำพิธีเรียกวิญญาณของ นางมณีวรรณ อุบลมณี อายุ 29 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหงส์ อ.เมืองปทุมธานี โดย นายวีระยุทธ กล่าวว่า วันเกิดเหตุมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กับภรรยา โดยอยู่บนชั้นที่ 2 ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าไฟไหม้ ก็หาทางหนีออกมา ซึ่งตนมาหลายครั้งแล้ว รู้ว่าทางออกอยู่ตรงไหน แต่เพลิงลุกลามเร็วมาก คนเบียดเสียดแย่งกันออก ภายในมืดขนาดหน้าชนกับยังมองไม่เห็น อีกทั้งมีควันดำเยอะ หายใจไม่ออก ร้อนมาก จนตนบาดเจ็บใบหน้าเป็นแผลผุพอง พอดีมีคนทุบกระจก และพังเหล็กดัดบริเวณชั้นล่าง จึงหนีออกมาได้โดยใช้เวลาเกือบ 15 นาที เกือบจะไม่รอดอยู่แล้ว แต่ภรรยาหนีออกมาไม่ทัน

แอร์สาวมาเที่ยวกับเพื่อนตาย 3 ยังไม่เจอ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมามีครอบครัวและเพื่อนของผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นำศพใส่รถตู้จากโรงพยาบาลตำรวจ มาที่ ซานติก้า ผับ ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.ชาไลก้า ชาเวช พรานแก้ว อายุ 27 ปี ลูกครึ่งไทย-ฟิลิปปินส์ อาชีพแอร์โฮสเตส สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ และ นายวิน ชอ เพียง อายุ 26 ปี ลูกครึ่งไทย-พม่า นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) มาทำพิธีเรียกวิญญาณ

ด้านเพื่อนของผู้เสียชีวิต (ขอสงวนนาม) เปิดเผยว่า ผู้ตายทั้ง 2 คนเป็นแฟนกัน โดยวันเกิดเหตุทั้ง 2 คน รวมตนและเพื่อนมาด้วยกันทั้งหมด 7 คน โดยทั้งคู่รบเร้าให้มาเที่ยวที่นี่ เพราะที่อื่นเต็มหมด หากมาแล้วไม่มีที่นั่งจึงไปที่อื่น แต่ปรากฏว่า เมื่อมาถึงก็มีที่ว่างที่มุมด้านบนพอดี ซึ่งระหว่างเกิดเหตุต่างก็หลบหนีเอาตัวรอด เพราะเหตุการณ์ชุลมุน ซึ่งสามารถหนีรอดมาได้ 3 คน และเพื่อนตายไป 3 คน อีก 1 คนยังหายสาบสูญ ถึงตรงนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งจากนี้ก็จะนำศพของทั้งสองไปไว้ที่วัดกก ย่านพระราม 2 เพื่อประกอบพิธีต่อไป

ตร.เร่งตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ 11 ศพนิรนาม
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.ที่ สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.นิธิ บิณฑุวงศ์ ผกก.กลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์และการส่งกลับ สนว.ตร.กล่าวว่า วันนี้ไม่มีการประชุม แต่ได้เร่งทำการตรวจพิสูจน์ทั้งดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ ประวัติการทำฟันและอื่นๆ โดยขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วจำนวน 63 คน โดยยังมีศพที่ตกค้างและไม่ทราบว่าเป็นของใครทั้งสิ้น 11 ศพ โดยอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ 6 ศพ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 5 ศพ ซึ่งศพที่ตกค้าง เนื่องจากถูกไฟไหม้เกรียมอย่างมาก แม้ญาติจะมาดูในระยะใกล้ห่างกัน แต่ 1 ฟุต ก็ไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ ซึ่งถึงตรงนี้มีญาติของผู้ที่คาดว่าจะเสียชีวิต นำเอกสาร หลักฐานต่างๆ กว่า 20 คน เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งดำเนินการอยู่ และจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด แต่บางคนอาจจะไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากญาติอาจอยู่ต่างจังหวัด และไม่ทราบว่ามาเที่ยวที่นี่ อาจมีการแจ้งความตามพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากหายไป จึงไม่ทราบเรื่อง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจพิสูจน์ศพนิรนามที่เหลือทั้งหมดให้ทราบว่าเป็นใคร จึงจะถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ

แม่หมดหวังจุดธูปขอลูกเข้าฝันให้พบศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางบุญมี อาจนนลา อายุ 50 ปี พร้อมครอบครัวเดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ พร้อมนำฟิล์มเอกซเรย์ของ นางสาวอนงรักษ์ อาจนนลา อายุ 27 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุตรสาว มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามตัว พร้อมกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า ว่า บุตรสาวหลังจากเคลียร์งานที่โรงแรมเสร็จ ได้มากับเพื่อนรวม 2 คน มาเที่ยวที่ ซานติก้า ผับ ซึ่งเมื่อมาทราบหลังเกิดเหตุพบว่า เพื่อนของบุตรสาวนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเลิดสิน และเย็บแผลกว่า 16 เข็ม ซึ่งก็ได้มาที่นี่ตั้งแต่วันแรก รวมถึงไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลจุฬาฯ แต่ก็ไม่พบศพ ไปตามหาตามโรงพยาบาลต่างๆ ก็ไม่พบ ซึ่งบางส่วนก็มีการปิดบังไม่ให้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเรื่อยๆ ขณะนี้ก็หมดหวังแล้วว่าลูกจะรอดชีวิต เพราะหายไปตั้งแต่เกิดเหตุ

“ไปตามหามาทุกที่ ก็ไม่เจอ ถึงตอนนี้ก็ขอเพียงแค่พบศพลูกเท่านั้น ซึ่งแม่และครอบครัวก็ไป ที่เกิดเหตุทุกวัน เมื่อวานก็เอาของไปเซ่นไหว้ และจุดธูปขอให้ลูกมาเข้าฝันว่าอยู่ที่ไหน แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้ก็จะไปที่ที่เกิดเหตุอีก โดยเอาไก่ย่าง ข้าวเหนียว พร้อมจุดธูปเรียกเขา เพราะกลัวเขาจะหิว ปกติเขาเป็นคนน่ารัก ให้เงินเดือนแม่ทุกเดือนๆ ละ 7-8 พันบาท และเป็นกำลังหลักของครอบครัว แม่มีลูก 3 คน ผู้ชายเป็นคนโต เขาเป็นคนกลาง และมีน้องสาวอีกคน อยากให้ตำรวจช่วยทำงานเต็มที่ เพราะเอาดีเอ็นเอมาตรวจตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบผล ส่วนที่เกิดเหตุเมื่อไปดูพบว่าเอาเหล็กดัดตรงทางเข้าออก และเปิดประตูให้ดูกว้างขึ้น ทั้งที่ความจริงไม่ใช่แบบนี้” นางบุญมี กล่าว

“เสี่ยขาว” หุ้นส่วนใหญ่ “ซานติก้า” เข้าพบตำรวจ
ต่อมาเวลา 13.45 น.นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือ เสี่ยขาว อายุ 41 ปี เจ้าของ ซานติก้าผับ ได้เดินทางมาด้วยรถตู้โฟล์ค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษจ 6167 กทม.พร้อมด้วย นายคงศักดิ์ พูลเจริญ ทนายความ และลูกน้องอีกนับ 10 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยมี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ร่วมทำการสอบปากคำด้วยตนเอง

ร่ำไห้เสียใจ-ขอโทษญาติเหยื่อ
นายวิสุข กล่าวทั้งน้ำตานองหน้า พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ ว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้และต้องขอโทษญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บทุกคน ตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ยังรู้สึกช็อกและเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล ถึงตนจะเป็นหุ้นส่วนรายหนึ่ง แต่ก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก โดยในวันเกิดเหตุตนอยู่บริเวณด้านหลังร้าน มีพนักงานเดินมาบอกตนว่าเกิดไฟไหม้ ตนจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปภายในผับ และได้รับบาดเจ็บเนื่องจากสูดควันไฟเข้าไปจำนวนมาก จากนั้นก็มีผู้นำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

ช่วยศพละ 20,000 บาท บาดเจ็บ 10,000 บาท
ขณะที่ นายคงศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการของบริษัทกับหุ้นส่วนทั้ง 31 คน จะกลับมารวมหุ้นกันอีกครั้ง และได้จัดตั้งวอร์รูมเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยเบื้องต้นรวบรวมเงินได้เป็นจำนวน 2 ล้านบาท คาดว่า จะสามารถจัดตั้งวอร์รูมได้ภายในวันที่ 5 มกราคมนี้ ส่วนจะเป็นสถานที่ใดนั้นคงต้องปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ทาง บริษัท ไวท์แอนด์บราเทอร์ ได้ให้การช่วยเหลือเหยื่อโดยแยกเป็นผู้เสียชีวิต ศพละ 20,000 บาท พร้อมพวงหรีดแสดงความเสียใจ ประกอบด้วย 1.น.ส.มณีวรรณ อุบลมณี 2.นายปุณรัตน์ แสนเมืองชิน 3.นายมงคล วันบันเทิง 4.นางมนัญญา บุญสาร 5.นายเสกสรร กิ่งแก้ว 6.นางแพง อัยรา 7.นายสุรพล เมฆไทย 8.นายทรงพล ธาโพธิ์ 9.นางรุ่งนภา ไทยประเสริฐ ส่วนผู้บาดเจ็บรายละ 10,000 บาท ประกอบด้วย 1.น.ส.นันทพันธุ์ เลิศสกุลธรรม 2. น.ส.นภัส ภูมีราม รวม 11 ราย นอกจากนี้ ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวัฒนา และพนักงานสอบสวน ว่า จะสามารถดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพิ่มเติมได้อย่างไรได้บ้าง

ยอมรับ ไม่ได้ต่อสัญญาประกันภัย
นายคงศักดิ์ กล่าวถึงกรณีการทำประกันภัยของซานติก้าผับ ว่า เป็นไปตามที่มีการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้ โดยหมดสัญญาประกันภัยเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา และไม่ได้ต่อสัญญาประกันภัย เนื่องจากใกล้จะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้รวบรวมเงินจากหุ้นส่วนทั้งหมด 31 คน ได้จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อตั้งเป็นกองทุนมอบให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตต่อไป

จ่อ 2 ข้อหา “เสี่ยขาว” กระทำการประมาท
ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายวิสุข หรือ เสี่ยขาว ทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ โดยตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว เมื่อผู้ประกอบการเป็นบริษัทก็จะพิจารณาดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการ สำหรับ บริษัท ไวท์แอนด์บราเทอร์ จำกัด คือ นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ ซึ่งจะต้องเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

พล.ต.อ.จงรัก กล่าวต่อว่า ส่วนการพิจารณาดำเนินคดีข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในวันเดียวกันนี้ ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ นายวิสุข แต่อย่างใด เป็นเพียงการสอบปากคำเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 100 ปาก ทำให้ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้แล้ว สำหรับหุ้นส่วนของบริษัทไวท์แอนด์บราเทอร์ นั้น ทราบว่าจะทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนต่อไป

ตร.เชื่อสาเหตุเกิดจากเอฟเฟกต์บนเวที
รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ หลังจากสอบปากคำ นายวิสุข ในเบื้องต้นว่า แนวโน้มน่าจะเกิดจากเอฟเฟกต์บนเวที ซึ่งหากผลสอบพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในร้าน นักดนตรี รวมทั้งลูกค้าที่มาเที่ยวก็จะพิจารณาดำเนินคดีทั้งหมด

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายวิสุข หรือ เสี่ยขาว ทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ โดยตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว เมื่อผู้ประกอบการเป็นบริษัทก็จะพิจารณาดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการ สำหรับบริษัท ไวท์แอนด์บราเทอร์ จำกัด คือ นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ ซึ่งจะต้องเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

“เสี่ยขาว” เปิดใจช่วงวินาทีเพลิงพิโรธ
ภายหลังการเข้าให้ปากคำเสร็จสิ้น นายวิสุข หรือ เสี่ยขาว ออกมาเปิดเผยว่า เสียใจที่สุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ต้องขอโทษญาติผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย อยากจะช่วยเหลือ และช่วยบรรเทาสิ่งที่เกิดขึ้นกับญาติพี่น้องคนเจ็บ ซึ่งตนก็เจ็บปวดพอๆ กันกับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขณะนี้พยายามรวบรวมเงินที่มีอยู่ และของหุ้นส่วน ให้ตัวแทนของซานติก้าเป็นผู้ดูแลมอบให้ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ

“ช่วงที่เกิดเหตุ หลังจากผมทราบว่าไฟไหม้ ได้วิ่งเข้าไปภายในร้าน ก็เห็นกลุ่มควันจำนวนมาก จึงนำถังดับเพลิงที่อยู่ด้านข้างเข้าไปฉีดสกัด แต่ไม่สามารถต้านทานได้ เพราะมีกลุ่มควันจำนวนมาก จากนั้นจึงวิ่งออกมาด้านนอก เอาตัวรอด ก่อนจะโทร.แจ้งดับเพลิง ขณะนั้นผมอยู่ด้านหน้าทางเข้า เห็นไฟลุกโหม นักเที่ยวเบียดเสียดกันหนีตายเอาตัวรอด บางคนช่วยกันดึงมือ ผมก็วิ่งเข้าไปช่วยเท่าที่ทำได้ จังหวะนั้นมีคนตะโกนบอกว่า มีคนติดในห้องน้ำ ผมจึงตั้งสติ นึกถึงแปลนของร้าน เพื่อที่จะช่วยผู้ที่ติดอยู่ข้างในออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินทางมาถึงพอดี จึงสามารถเข้าไปช่วยออกมาได้ทัน ผมในนามหุ้นส่วน รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง โดยจะช่วยบรรเทาญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างดีที่สุด” นายวิสุข กล่าว

หุ้นส่วนใหญ่ซานติก้าผับ กล่าวต่อว่า ส่วนของเอฟเฟกต์ที่มีการจัดขึ้นในวันเกิดเหตุนั้น ทางร้านเคยจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว และไม่เคยเกิดความผิดพลาด โดยทีมงานที่ดูแล เป็นทีมงานด้านมาร์เก็ตติ้งเป็นผู้รับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม ทาง นายวิสุข และทนายความได้ปรึกษากับทางพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการจัดตั้งวอร์รูม เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่เสียชีวิตและบาดเจ็บแล้ว โดยจะใช้ห้องที่ใช้สอบปากคำที่สน.ทองหล่อ เป็นห้องพบญาติเหยื่อ ซึ่งจะมีการจ่ายค่าชดเชย และพูดคุยขอโทษกับบรรดาญาติพี่น้องของเหยื่อตั้งแต่เวลา 11.00 น.ในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.) เป็นต้นไป ทั้งนี้ หลังการให้ปากคำกับตำรวจเสร็จสิ้น นายวิสุข ได้เดินทางไปยัง ซานติก้าผับ โดยนิมนต์พระสงฆ์ 18 รูป สวดพุทธมนต์อุทิศส่วนกุศลให้ผู้วายชนม์








Posted by : thiopental , Date : 2009-01-04 , Time : 19:24:26 , From IP : 125.24.13.53.adsl.dynamic.totbb.net

ความคิดเห็นที่ : 6




   โจ๋! แห่พิสูจน์ “ผีซานติก้า” มือถือถ่ายติดวิญญาณ

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 5 มกราคม 2552 12:06 น.


“วงเบิร์น” โผล่ ปัดไม่เกี่ยวจุดเอฟเฟกต์ โยนมีทีมงานดูแลเรื่องเอฟเฟกต์โดยเฉพาะ ส่วนนักร้องนำระบุนอนไม่หลับภาพเหตุการณ์ติดตา เสียใจแฟนคลับ พนักงานและคนรู้จักต้องมาจบชีวิต ด้านโจ๋ลองของพิสูจน์ความเชื่อบุกดู “ผีซานติก้า” ผงะถ่ายภาพติดวิญญาณ

วานนี้ (4 ม.ค.) นายฉัตรชัย ศิริพงษ์ หรือหนุ่ย หัวหน้าวงเบิร์น ตำแหน่งมือเบส กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนกำลังเล่นดนตรีอยู่บนเวทีโดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จุดเอฟเฟกต์ขึ้นมา แต่หลังจากนั้นได้เหลือบมองขึ้นไปบนฝ้าเพดานเห็นไฟกำลังลามไปทั่ว เมื่อเห็นว่าไฟไหม้จึงรีบวิ่งออกทางด้านหลังเวทีมายังลานจอดรถ ทั้งนี้ ตนอยากจะขอแก้ข่าวที่ว่านักร้องเป็นผู้จุดเอฟเฟกต์นั้นว่าไม่เป็นความจริง เพราะในส่วนเอฟเฟกต์นั้นจะมีทีมงานดูแล ทางนักร้องและนักดนตรีจะไม่มีส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ภายหลังเกิดเหตุสมาชิกวงทุกคนรู้สึกเสียใจอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงขนาดพูดกันในวงว่าจะเปลี่ยนชื่อวงหรือไม่ แต่ก็เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน โดยวงนี้ตั้งมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ได้เล่นดนตรีหลายที่ ส่วนที่ซานติก้าจะเล่นทุกวันอังคารถึงพฤหัสบดี เวลา 23.30 น.ถึง 00.30 น. สำหรับสถานบันเทิงอื่นๆ ก็จะเล่นที่อาร์ซีเอและอีกหลายที่

ด้าน นายกมล อ่อนทอง หนึ่งในนักร้องนำวงเบิร์น กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นคนดูด้านล่างมองขึ้นมาเหนือศีรษะ เมื่อตนมองขึ้นไปก็เห็นเพลิงกำลังลุกลามไปที่ไฟพาร์ หรือไฟแสงสีประกอบการแสดงดนตรี เพียงช่วงไม่กี่วินาทีไฟก็ลามไปทั่วติดที่ไมโครไฟเบอร์ และมีเปลวไฟหยดลงมาบนเวที แม้จะพยายามช่วยกันดับก็ไม่ทันการณ์เพราะไฟลุกลามเร็วมาก จึงพากันวิ่งหลบหนีออกมา โดยช่วงที่ออกมาถึงปากประตูก็พบว่าไฟฟ้าดับแล้ว มีควันไฟจำนวนมากทะลักออกมา

“ผมได้ห้ามมือกลองของวงไม่ให้เข้าไปเอากลองเพราะไฟไหม้ลามไปหมดแล้ว นอกจากนี้ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากภายในอย่างโกลาหล จึงไปคว้าเอากระบอกไฟฉายมาส่องเข้าไปภายในเพื่อชี้ทางให้กับผู้ที่ยังติดอยู่ แต่คิดว่าทั้งหมดคงไม่ได้ยินเพราะมีควันไฟจำนวนมาก ส่วนพนักงานในร้านก็บอกกับผมว่า มีลูกค้าประมาณ 30 คน วิ่งหนีออกมาทางเดียวกับที่ผมวิ่งหนี” นายกมล กล่าว

นายกมล กล่าวต่อว่า รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นพวกตนได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ตนให้ปากคำก็ยังรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ ช่วงที่ให้ปากคำก็แทบจะพูดไม่ออกเพราะภาพเหตุการณ์มันติดตามาก และแต่ละคืนก็ยังนอนไม่หลับ รู้สึกเสียใจมากโดยเฉพาะกับแฟนคลับและพนักงานอีก 8 คน ที่รู้จักกันมานานซึ่งต้องเสียชีวิตไป โดยทราบว่าส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเนื่องจากคอยช่วยเหลือลูกค้าในร้านจนหนีออกมาไม่ทัน

ภายหลังนักเที่ยวตกเป็นเหยื่อของเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับ และมีการนำมาผูกโยงถึงความเชื่อของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับซานติก้าผับ เกี่ยวกับเรื่องราวอาถรรพณ์ที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 4 มกราคม กลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากทยอยเดินทางไปยังอาคารซานติก้าผับที่ถูกไฟไหม้เพื่อถ่ายรูป โดยบางคนอ้างว่าคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า คืนวันที่ 3 วิญญาณของคนตายจะมายังจุดที่เสียชีวิต จึงอยากมาดูและถ่ายรูปเอาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายณัฐวุฒิ อุระเพ็ญ อายุ 29 ปี ได้หยิบโทรศัพท์ให้ผู้สื่อข่าวดูพร้อมกับกล่าวด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่า เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ตนเดินทางมาดูซานติก้าผับ แล้วถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือ เมื่อเปิดดูรู้สึกตกใจ เพราะเห็นรูปผิดสังเกตถึง 2 จุดด้วยกัน จุดแรกภาพหน้าต่างของซานติก้าผับทุกบานจะมืด แต่ด้านซ้ายสุดมีรูปคล้ายหัวคนโผล่ออกมา และบริเวณดาดฟ้าก็มีรูปคล้ายหญิงลักษณะใส่เสื้อสีฟ้ายาวลงมาคลุมกางเกงสีส้ม

“ผมถ่ายภาพไว้เมื่อเวลา 22.30 น. ขณะนั้นมีผมและตำรวจที่ดูแล 2-3 นายเท่านั้น ตั้งใจจะถ่ายเป็นที่ระลึก หลังดูภาพแล้วรู้สึกตกใจจึงกลับบ้าน แต่ก็นอนไม่หลับ จึงกลับมาอีกครั้ง เมื่อมาถึงก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นทยอยเดินทางมาดูซานติก้าผับไม่ขาดสาย”

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามวัยรุ่นหลายคนก็อ้างว่า อยากมาดูให้เห็นกับตาถึงเรื่องราวอาถรรพณ์ที่มีการร่ำลือกัน และบางคนก็อ้างว่าเห็นความผิดปกติเหมือนกัน พร้อมกับนำรูปถ่ายมาชี้จุดผิดสังเกตให้ดูด้วย


Posted by : thiopental , Date : 2009-01-05 , Time : 13:20:23 , From IP : 172.29.14.221

ความคิดเห็นที่ : 7


   so sad.

Posted by : sirirat , Date : 2009-01-08 , Time : 18:02:02 , From IP : 203.155.165.15

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.01 seconds. <<<<<