> > > > >แต่พอโตมาในระดับหนึ่ง > > >ทำให้ฉันคิดว่า มันน่าคิด น่าสนใจเหมือนกันนะ > > >เมื่อฉันได้เห็นความรักของผู้หญิงในแต่ละช่วงวัย > > >ตามวัยที่เพิ่มขึ้นของตัวฉันเอง > > >ทำให้มองเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่น่าพุดถึง > > >คือเรื่องความรักของผู้หญิงแต่ละช่วงวัยที่มีปัญหา > > >มีความน่าสนใจแตกต่างกัน > > >ฉันแอบสังเกตความรักของเพื่อนๆ หลายคน > > >ตั้งแต่ยังวัยรุ่น > > >ผู้หญิงวัยรุ่นจะแบ่งเป็นสองพวก > > >คือพวกสนใจความรัก > > >กับไม่สนใจความรักเลย > > > > > >จนเวลาผ่านไปหลายปี > > >ฉันยังแอบสังเกตความเป็นไป > > >เรื่องความรักของพวกเขาอยู่ > > >คราวนี้เป็นความรักในวัยผู้ใหญ่ > > >เป็นความจริงขึ้น คือความสุข ความทุกข์ > > >เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง > > >เพราะเป็นความรักที่ต้องหาใครสักคน > > >มาอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต > > > > > >พอถึงเวลานี้ ฉันยังคงเห็นผู้หญิงแบ่งเป็นสองพวก > > >แต่เป็น "เจ้าสาวที่ กลัวฝน" > > >กับ "เจ้าสาวที่อยากตากฝน" > > > > > >เจ้าสาวคนไหนที่กลัวฝนก็ช่างเขาเถอะนะ > > >เพราะฉันไม่รู้ความละเอียดอ่อนในใจเขา > > >หรือเขาอาจจะมีความสุขดี > > >กับการอยู่ในที่ร่ม อบอุ่น สบาย > > >ห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนพ้อง พี่น้อง > > >เรื่องอะไรจะต้องไปเดินตากฝนให้มันวุ่นวาย > > > > > >ที่ฉันสนใจตอนนี้ คือเจ้าสาวที่อยากตากฝน > > >ผู้หญิงที่อยากมีความรัก อยากมีคนรักแต่ยังไม่มี > > >และพยายามที่จะมีจนเป็นกังวลเกินไป > > >มักจะเกิดกับผู้หญิงที่อยู่ในวัยที่เหมาะสมแล้ว > > >เป็นผู้ใหญ่พอแล้ว แต่ยังไม่มีแฟน > > >ผู้หญิงรอบๆ ตัวฉันหลายคนเป็นแบบนี้ > > >แล้วยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่กังวลกับเรื่องแบบนี้ > > > > > >เมื่อไม่มีแฟน ก็พยายามมี > > >ผู้ชายหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต > > >จึงรักกันได้ไม่นานนัก > > >เพราะความรีบตากฝนนี่แหละ > > > > > >ฉันทะเลาะกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นประจำกับเรื่องนี้ > > >แล้วก็ยังคงทะเลาะกันอยู่สม่ำเสมอ > > >"เธอคนนั้นอยากตากฝน แต่ฝนไม่ตกสักที" > > > > > >ส่วนฉัน ! > > >ไม่อยากให้เธอรีบตากฝน > > >เพราะไม่อยากเห็นเธอเป็นหวัดซ้ำๆ ซากๆ > > >ก็หลายครั้งที่ความรักเธอไปไม่รอด > > >ด้วยเหตุผลทางธรรมชาติของผู้หญิงกับผู้ชาย > > >ฉันถามเธอว่าจะรีบไปไหน... > > >(อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนสิ !) > > > > > >เธอตอบว่า > > >เธอไม่อยากอยู่คนเดียว > > >กลัวมีลูกช้า เดี๋ยวลูกปัญญาอ่อน > > >เดี๋ยววิ่งไล่จับลูกไม่ไหว กลัวไม่มีใครดูแล > > >กลัวคนว่าทำไมหาแฟนไม่ได้สักที > > >เพราะคนอื่นเขามีกันหมดแล้ว > > > > > >อ่านถึงตรงนี้เธอคงคิดว่า > > >เพื่อนฉันเป็นสาวแก่ ไม่มีใครมาจีบ > > >ไม่เลย เธอเพิ่งจะ 20 ต้นๆ และก็เป็นคนสวย > > >และที่ว่ามีลูกช้าแล้วลูกจะปัญญาอ่อน > > >ก็ไม่เห็นจะจริงเลย โกหกทั้งเพ ! > > > > > >ก็พ่อแม่เพื่อนฉันเกือบทุกคน > > >ก็มีพวกเขาหลังอายุ 30 กันทั้งนั้น > > >ฉันเห็นพวกเขาเรียนเก่งกันทุกคน > > >เป็นหมอ เป็นวิศวกร เป็นครูเป็นอาจารย์กันทั้งนั้น > > >สอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอกได้ก็เยอะ > > >ไม่เห็นมีใครเอ๋อ ! เด๋อด๋าสักคน > > >เพราะพ่อแม่ของพวกเขา มีลูกในวัยที่พร้อม > > >ทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ อีกทั้งฐานะทางการเงิน > > >สามารถดูแลลูกให้โตมามีคุณภาพในทุกๆ ด้าน > > >สามารถสร้างครอบครัวและสังคมที่แข็งแรงต่อไป > > > > > >เนี่ยแหละที่ฉันพยายามหาคำตอบ > > >และก็เหมือนจะได้คำตอบที่เป็นเหตุผลฟังขึ้นดี > > >เลยอยากเล่าสู่กันฟัง... > > > > > >เอาล่ะ ! เจ้าสาวที่อยากตากฝนทั้งหลาย > > >อย่าเพิ่งซีเรียส ถ้าเธอยังไม่มีแฟนหรือยังหาแฟนไม่ได้ > > >มีผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งให้เหตุผลที่น่าเชื่อถือ > > >(อันนี้ ฉันไม่ได้คิดเอาเองหรอกน่า) > > >และเป็นไปได้เกี่ยวกับผู้หญิงในวัยหนึ่งอย่างน่าสนใจ > > >เขาบอกว่า ตามธรรมชาติของจิตใจผู้หญิง > > >เมื่อถึงช่วงวัยหนึ่ง > > >อาจเป็นรอยต่อของความเป็นเด็กกับผู้ใหญ่ > > >ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น > > >แต่ยังขาดความมั่นใจ > > >เมื่อต้องพึ่งพาครอบครัวน้อยลง > > >จึงกลัวที่ต้องอยู่คนเดียว > > >เลยอยากแต่งงาน มีครอบครัวที่สมบูรณ์เป็นของตัวเอง > > >คือผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 20 จนถึง 25 ปี > > > > > >ในขณะที่ผู้ชายในวัยเดียวกัน > > >เขากำลังก้าวผ่านพ้นวัยรุ่น > > >และภูมิใจกับความเป็นผู้ใหญ่ > > > > > >ทางด้านจิตใจ > > >ผู้ชายจะโตช้ากว่าผู้หญิงนิดหน่อย > > >เขาเลยสนุกกับชีวิตผู้ใหญ่ที่ทำอะไรได้อิสระเสรี > > >สนุกกับงาน สนุกกับการใช้เงินของตัวเอง > > >และพึ่งพาตัวเองได้ > > >เขาจึงหวงแหนอิสระ > > >และกลัวการผูกมัดเป็นที่สุด > > > > > >ความต้องการมันสวนทางกัน > > >คล้ายๆ กับผู้ชายพยายามวิ่งหนี > > >ส่วนผู้หญิงพยายามวิ่งตาม > > >ที่จริงแล้วเขาไม่ได้หนีเธอหรอก > > >เขาแค่กำลังเห่อชีวิตที่เป็นของเขาอย่างเต็มที่ > > > > > >เดี๋ยวอีกสักพักความรู้สึกของเจ้าสาว > > >ที่อยากตากฝนจะเปลี่ยนไป > > > > > >เมื่อพ้นช่วงนี้ไปจนอายุเกิน 27 ปีไปแล้ว > > >ผู้หญิงจะเริ่มมีความมั่นใจ > > >นับถือตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง > > >ไม่เดือดร้อนกับความสวยหรือไม่สวยของตน > > >ยอมรับและนับถือตัวเองมากขึ้น > > >เธอจะมีความสุขและสนุกกับชีวิต > > >มีภาระหน้าที่ให้รับผิดชอบ > > >จนลืมเรื่องแฟน หรือเรื่องแต่งงาน > > > > > >แต่ผู้หญิงมักจะได้แต่งงาน หรือมีแฟนที่ดีในช่วงนี้ > > >เพราะความนับถือตัวเอง ความมั่นใจ > > >จะทำให้ผู้หญิงค่อยๆ คิด ค่อยๆ เลือก > > >จะมีแฟนหรือไม่มีแฟนก็อยู่ได้ > > >พึ่งพาตัวเองได้ > > > > > >ส่วนผู้ชายที่เคยเป็นเด็กซน > > >จนถึงวัยหนึ่ง > > >เขาจะนิ่งพอและอยากมีครอบครัว และที่แน่ๆ > > >คนที่อยากตากฝนจริงๆ น่ะ คือผู้ชายต่างหากล่ะ > > >ผู้ชาย... > > >เป็นเพศที่กลัวการอยู่คนเดียวมากกว่าผู้หญิงเสียอีก > > >แล้วเขาจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาผู้หญิง > > >และขอผู้หญิงแต่งงานเอง > > > > > >รถไฟขบวนสุดท้ายไม่มีในโลกหรอก > > >เพราะคนเราต้องเดินทางตลอดชีวิต > > >ยอมตกรถสักพักเถอะ > > >รอให้เช้า และมีขบวนใหม่มา > > >ดีกว่ารีบโดดขึ้นขบวนสุดท้าย > > >ที่มันสนิมเขรอะ ผุๆ พังๆ > > >ระวัง ! จะเป็นบาดทะยักตาย > > > > > >"ใจเย็นน่าเจ้าสาวทั้งหลาย > > >รับรองได้....ไม่ว่าเธอจะสวยมาก สวยน้อย > > >หรือสวยพอดีๆ > > >พอถึงเวลาที่เหมาะสมเมื่อไหร่ > > >เจ้าสาวทุกคนจะได้ตากฝนแน่นอน..." > > >จงยืนอย่างเชื่อมั่น " />" เจ้าสาวที่กลัวฝน" กับ "เจ้าสาวที่อยากตากฝน"

ความคิดเห็นทั้งหมด : 1

" เจ้าสาวที่กลัวฝน" กับ "เจ้าสาวที่อยากตากฝน"


   ที่จริงเรื่องนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
> > >ที่ไม่น่าสนใจนัก เพราะเป็นเรื่องของ
> > >"ความรัก กับ ผู้หญิง"
> > >
> > >แต่พอโตมาในระดับหนึ่ง
> > >ทำให้ฉันคิดว่า มันน่าคิด น่าสนใจเหมือนกันนะ
> > >เมื่อฉันได้เห็นความรักของผู้หญิงในแต่ละช่วงวัย
> > >ตามวัยที่เพิ่มขึ้นของตัวฉันเอง
> > >ทำให้มองเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่น่าพุดถึง
> > >คือเรื่องความรักของผู้หญิงแต่ละช่วงวัยที่มีปัญหา
> > >มีความน่าสนใจแตกต่างกัน
> > >ฉันแอบสังเกตความรักของเพื่อนๆ หลายคน
> > >ตั้งแต่ยังวัยรุ่น
> > >ผู้หญิงวัยรุ่นจะแบ่งเป็นสองพวก
> > >คือพวกสนใจความรัก
> > >กับไม่สนใจความรักเลย
> > >
> > >จนเวลาผ่านไปหลายปี
> > >ฉันยังแอบสังเกตความเป็นไป
> > >เรื่องความรักของพวกเขาอยู่
> > >คราวนี้เป็นความรักในวัยผู้ใหญ่
> > >เป็นความจริงขึ้น คือความสุข ความทุกข์
> > >เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง
> > >เพราะเป็นความรักที่ต้องหาใครสักคน
> > >มาอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต
> > >
> > >พอถึงเวลานี้ ฉันยังคงเห็นผู้หญิงแบ่งเป็นสองพวก
> > >แต่เป็น "เจ้าสาวที่ กลัวฝน"
> > >กับ "เจ้าสาวที่อยากตากฝน"
> > >
> > >เจ้าสาวคนไหนที่กลัวฝนก็ช่างเขาเถอะนะ
> > >เพราะฉันไม่รู้ความละเอียดอ่อนในใจเขา
> > >หรือเขาอาจจะมีความสุขดี
> > >กับการอยู่ในที่ร่ม อบอุ่น สบาย
> > >ห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนพ้อง พี่น้อง
> > >เรื่องอะไรจะต้องไปเดินตากฝนให้มันวุ่นวาย
> > >
> > >ที่ฉันสนใจตอนนี้ คือเจ้าสาวที่อยากตากฝน
> > >ผู้หญิงที่อยากมีความรัก อยากมีคนรักแต่ยังไม่มี
> > >และพยายามที่จะมีจนเป็นกังวลเกินไป
> > >มักจะเกิดกับผู้หญิงที่อยู่ในวัยที่เหมาะสมแล้ว
> > >เป็นผู้ใหญ่พอแล้ว แต่ยังไม่มีแฟน
> > >ผู้หญิงรอบๆ ตัวฉันหลายคนเป็นแบบนี้
> > >แล้วยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่กังวลกับเรื่องแบบนี้
> > >
> > >เมื่อไม่มีแฟน ก็พยายามมี
> > >ผู้ชายหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
> > >จึงรักกันได้ไม่นานนัก
> > >เพราะความรีบตากฝนนี่แหละ
> > >
> > >ฉันทะเลาะกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นประจำกับเรื่องนี้
> > >แล้วก็ยังคงทะเลาะกันอยู่สม่ำเสมอ
> > >"เธอคนนั้นอยากตากฝน แต่ฝนไม่ตกสักที"
> > >
> > >ส่วนฉัน !
> > >ไม่อยากให้เธอรีบตากฝน
> > >เพราะไม่อยากเห็นเธอเป็นหวัดซ้ำๆ ซากๆ
> > >ก็หลายครั้งที่ความรักเธอไปไม่รอด
> > >ด้วยเหตุผลทางธรรมชาติของผู้หญิงกับผู้ชาย
> > >ฉันถามเธอว่าจะรีบไปไหน...
> > >(อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนสิ !)
> > >
> > >เธอตอบว่า
> > >เธอไม่อยากอยู่คนเดียว
> > >กลัวมีลูกช้า เดี๋ยวลูกปัญญาอ่อน
> > >เดี๋ยววิ่งไล่จับลูกไม่ไหว กลัวไม่มีใครดูแล
> > >กลัวคนว่าทำไมหาแฟนไม่ได้สักที
> > >เพราะคนอื่นเขามีกันหมดแล้ว
> > >
> > >อ่านถึงตรงนี้เธอคงคิดว่า
> > >เพื่อนฉันเป็นสาวแก่ ไม่มีใครมาจีบ
> > >ไม่เลย เธอเพิ่งจะ 20 ต้นๆ และก็เป็นคนสวย
> > >และที่ว่ามีลูกช้าแล้วลูกจะปัญญาอ่อน
> > >ก็ไม่เห็นจะจริงเลย โกหกทั้งเพ !
> > >
> > >ก็พ่อแม่เพื่อนฉันเกือบทุกคน
> > >ก็มีพวกเขาหลังอายุ 30 กันทั้งนั้น
> > >ฉันเห็นพวกเขาเรียนเก่งกันทุกคน
> > >เป็นหมอ เป็นวิศวกร เป็นครูเป็นอาจารย์กันทั้งนั้น
> > >สอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอกได้ก็เยอะ
> > >ไม่เห็นมีใครเอ๋อ ! เด๋อด๋าสักคน
> > >เพราะพ่อแม่ของพวกเขา มีลูกในวัยที่พร้อม
> > >ทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ อีกทั้งฐานะทางการเงิน
> > >สามารถดูแลลูกให้โตมามีคุณภาพในทุกๆ ด้าน
> > >สามารถสร้างครอบครัวและสังคมที่แข็งแรงต่อไป
> > >
> > >เนี่ยแหละที่ฉันพยายามหาคำตอบ
> > >และก็เหมือนจะได้คำตอบที่เป็นเหตุผลฟังขึ้นดี
> > >เลยอยากเล่าสู่กันฟัง...
> > >
> > >เอาล่ะ ! เจ้าสาวที่อยากตากฝนทั้งหลาย
> > >อย่าเพิ่งซีเรียส ถ้าเธอยังไม่มีแฟนหรือยังหาแฟนไม่ได้
> > >มีผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งให้เหตุผลที่น่าเชื่อถือ
> > >(อันนี้ ฉันไม่ได้คิดเอาเองหรอกน่า)
> > >และเป็นไปได้เกี่ยวกับผู้หญิงในวัยหนึ่งอย่างน่าสนใจ
> > >เขาบอกว่า ตามธรรมชาติของจิตใจผู้หญิง
> > >เมื่อถึงช่วงวัยหนึ่ง
> > >อาจเป็นรอยต่อของความเป็นเด็กกับผู้ใหญ่
> > >ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น
> > >แต่ยังขาดความมั่นใจ
> > >เมื่อต้องพึ่งพาครอบครัวน้อยลง
> > >จึงกลัวที่ต้องอยู่คนเดียว
> > >เลยอยากแต่งงาน มีครอบครัวที่สมบูรณ์เป็นของตัวเอง
> > >คือผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 20 จนถึง 25 ปี
> > >
> > >ในขณะที่ผู้ชายในวัยเดียวกัน
> > >เขากำลังก้าวผ่านพ้นวัยรุ่น
> > >และภูมิใจกับความเป็นผู้ใหญ่
> > >
> > >ทางด้านจิตใจ
> > >ผู้ชายจะโตช้ากว่าผู้หญิงนิดหน่อย
> > >เขาเลยสนุกกับชีวิตผู้ใหญ่ที่ทำอะไรได้อิสระเสรี
> > >สนุกกับงาน สนุกกับการใช้เงินของตัวเอง
> > >และพึ่งพาตัวเองได้
> > >เขาจึงหวงแหนอิสระ
> > >และกลัวการผูกมัดเป็นที่สุด
> > >
> > >ความต้องการมันสวนทางกัน
> > >คล้ายๆ กับผู้ชายพยายามวิ่งหนี
> > >ส่วนผู้หญิงพยายามวิ่งตาม
> > >ที่จริงแล้วเขาไม่ได้หนีเธอหรอก
> > >เขาแค่กำลังเห่อชีวิตที่เป็นของเขาอย่างเต็มที่
> > >
> > >เดี๋ยวอีกสักพักความรู้สึกของเจ้าสาว
> > >ที่อยากตากฝนจะเปลี่ยนไป
> > >
> > >เมื่อพ้นช่วงนี้ไปจนอายุเกิน 27 ปีไปแล้ว
> > >ผู้หญิงจะเริ่มมีความมั่นใจ
> > >นับถือตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง
> > >ไม่เดือดร้อนกับความสวยหรือไม่สวยของตน
> > >ยอมรับและนับถือตัวเองมากขึ้น
> > >เธอจะมีความสุขและสนุกกับชีวิต
> > >มีภาระหน้าที่ให้รับผิดชอบ
> > >จนลืมเรื่องแฟน หรือเรื่องแต่งงาน
> > >
> > >แต่ผู้หญิงมักจะได้แต่งงาน หรือมีแฟนที่ดีในช่วงนี้
> > >เพราะความนับถือตัวเอง ความมั่นใจ
> > >จะทำให้ผู้หญิงค่อยๆ คิด ค่อยๆ เลือก
> > >จะมีแฟนหรือไม่มีแฟนก็อยู่ได้
> > >พึ่งพาตัวเองได้
> > >
> > >ส่วนผู้ชายที่เคยเป็นเด็กซน
> > >จนถึงวัยหนึ่ง
> > >เขาจะนิ่งพอและอยากมีครอบครัว และที่แน่ๆ
> > >คนที่อยากตากฝนจริงๆ น่ะ คือผู้ชายต่างหากล่ะ
> > >ผู้ชาย...
> > >เป็นเพศที่กลัวการอยู่คนเดียวมากกว่าผู้หญิงเสียอีก
> > >แล้วเขาจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาผู้หญิง
> > >และขอผู้หญิงแต่งงานเอง
> > >
> > >รถไฟขบวนสุดท้ายไม่มีในโลกหรอก
> > >เพราะคนเราต้องเดินทางตลอดชีวิต
> > >ยอมตกรถสักพักเถอะ
> > >รอให้เช้า และมีขบวนใหม่มา
> > >ดีกว่ารีบโดดขึ้นขบวนสุดท้าย
> > >ที่มันสนิมเขรอะ ผุๆ พังๆ
> > >ระวัง ! จะเป็นบาดทะยักตาย
> > >
> > >"ใจเย็นน่าเจ้าสาวทั้งหลาย
> > >รับรองได้....ไม่ว่าเธอจะสวยมาก สวยน้อย
> > >หรือสวยพอดีๆ
> > >พอถึงเวลาที่เหมาะสมเมื่อไหร่
> > >เจ้าสาวทุกคนจะได้ตากฝนแน่นอน..."
> > >จงยืนอย่างเชื่อมั่น


Posted by : เกี๊ยวซ่า , Date : 2003-10-31 , Time : 11:16:31 , From IP : 172.29.2.153

ความคิดเห็นที่ : 1


   เห็นด้วยที่สุดหล่ะค่ะ ยางงงาย ยางงายสะ คนเรามานก้ออยู่ของมานด้ายก้ออยุ่ของมานมาตั้งกะเด็กมานยางม่ายตายเล้ย ช่ายม้ายค่ะทุกท่าน

Posted by : keko , Date : 2003-11-11 , Time : 20:33:29 , From IP : 203.156.11.72

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<