ความคิดเห็นทั้งหมด : 0

ปลูกต้นรัก ต้องฟูมฟักด้วยน้ำใจ


   ผมเขียนบทความนี้ลงในคอลัมภ์จิตวิวัฒน์ นสพ.มติชน มีบางส่วนเกี่ยวกับ ม.อ. ของเรา จึงขออนุญาตนำมาลงไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ปลูกต้นรัก ต้องฟูมฟักด้วยน้ำใจ


ทุกๆปี จะมีงานที่สำคัญงานหนึ่งคืองานเกษียณอายุข้าราชการ ที่ทางคณะต้นสังกัด ภาควิชา หรือหน่วยงานจะจัดให้เป็นเกียรติ เป็นที่ระลึก แก่ผู้ที่ได้อุทิศตน กำลังแรงกาย เวลา และเจตจำนง ความมุ่งมั่น อยู่กับหน่วยงานมาเป็นเวลานานจนอายุครบเกษียณ บางทีเราพบว่าคนๆนี้ ใช้เวลากว่าครึ่งค่อนชีวิตทำงานให้องค์กรมาตลอด เพียงแต่เราไม่ได้สังเกต เพราะความที่ท่านอยู่กับเรามาทุกเมื่อเชื่อวัน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของฉากประจำวันไป จนเมื่อมีอยู่วันหนึ่งที่ท่านหายไป หรือป้ายชื่อที่หน้าห้องถูกเปลี่ยนแปลง หรือเมื่อเรากำลังต้องการจะปรึกษา จะใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญของท่าน เราถึงค่อยนึกถึงท่านใหม่ จะเป็นเช่นนี้ก็ต่อเมื่อ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับท่านเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์จากประโยชน์ หน้าที่การงานเท่านั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์อีกแบบ คือ “ความสัมพันธ์ระหว่างคน”

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีอาจารย์สองท่านอายุครบเกษียณเรียงปีกัน คือ อาจารย์ประเสริฐ วศินานุกร และอาจารย์มยุรี วศินานุกร คนหนึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ศัลยกรรมทรวงอกหัวใจและหลอดเลือด อีกท่านหนึ่งนอกจากเป็นอาจารย์แพทย์วิสัญญีแล้ว ยังเป็นศรีภรรยาของอาจารย์ประเสริฐด้วย ท่านทั้งสองได้ทำงานให้คณะแพทย์ฯ มาเป็นเวลาหลายสิบปี มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากมายนับพัน และงานเกษียณอายุของท่านทั้งสอง พอจะเรียกได้ว่าเป็น “ปรากฏการณ์” ได้เลยทีเดียว จากการที่มีคนจำนวนมาก พร้อมใจกันทุ่มเท ทั้งจัดงาน และตั้งใจมาร่วมงาน มาขอรดน้ำอวยพร มาขอร่วมเป็นสักขีพยานแสดงความเคารพต่อปูชนียาจารย์ทั้งสองท่านด้วยตนเองให้ จงได้

ก็เกิด คำถามขึ้นมาว่า ปรากฏการณ์ที่ว่านี้เป็นเพราะอะไร? คำถามที่ว่านี้ดูเหมือนจะจำเพาะเจาะจง แต่จริงๆแล้ว ที่น่าสนใจมากก็คือ ถ้าเรามองย้อนไปดีๆ เราจะพบบุคคลแบบนี้ ที่สามารถเรียกหาความเคารพ ความนับถือจากก้นบึ้งหัวใจของมวลชนได้ อยู่ทั่วไปในทุกๆองค์กร ในทุกๆหน่วยงานก็ว่าได้

มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อเรื่องว่า “Servant Leadership: A Journey into a Nature of Legitimate Power and Greatness” เขียนโดย โรเบิร์ต กรีนลีฟ (Robert K. Greenleaf) ได้ให้มุมมอง ลักษณะ ของผู้นำในอีกมิติหนึ่งอย่างน่าสนใจ คือ คนส่วนใหญ่จะสามารถบอกได้ว่า เมื่อไรที่เขาค้นพบคนที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม คนๆนี้ไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเองเลย แต่เป็นคนที่อยู่เพื่อคนอื่น ทำเพื่อคนอื่น รับใช่้คนอื่นอย่างจริงใจตลอดเวลา และเมื่อคนเราได้สัมผัส รับรู้คุณสมบัติที่ว่านี้ในบุคคลใดก็ตาม เราก็จะให้ความเคารพ นับถือ และอยากติดสอยห้อยตาม อย่างเต็มหัวใจ คนๆนี้เรียกว่า “มีความเป็นผู้นำ จากการเป็นผู้รับใช้” และจะเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สามารถเรียกหาความจงรักภักดี และการอุทิศตนจากลูกน้องได้มากที่สุด

ปรากฏการณ์ นี้สอดคล้องกับเรื่อง ความงาม ความดี และความจริง ในประเด็นที่ว่า อะไรก็ตามที่เราทำเพื่อ “ตัวฉัน” ผลก็จะออกมาได้อย่างมากสุดก็คือความงามเท่านั้น ส่วนความดีจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ อะไรก็ตามที่เราทำนั้น เป็น “การทำเพื่อเธอ” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมารยาท จริยธรรม จรรยาบรรณ ทั้งหมดนี้มีพื้่นฐานมาจากการที่มนุษย์ สามารถเสียสละความสะดวก ความสุขส่วนตัว ทำอะไรเพื่อคนอื่นทั้งสิ้น

ผู้นำ หรือครู​ หรือใครก็ตาม ที่มีวัตรดังกล่าวนี้ คือ ดำรงชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น รับใช้คนอื่น จึงเป็นผู้นำที่เติบโตและนำคนอื่นจากมิติแห่งจิตวิญญาณ นั่นคือความดีสากล ที่ใครๆก็สามารถรู้สึกได้ สามารถสัมผัสได้

ใน โลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยคนที่อยากเป็นผู้นำ เพราะอยากใช้อำนาจ อยากจะเนรมิต อยากจะสั่งการนั้น ก็เป็นมิติอีกแบบหนึ่งของผู้นำ แต่ผู้นำที่เป็นผู้รับใช้นั้น จะทำให้ผู้ตามเติบโตได้ และเป็นมนุษย์ที่เต็มศักยภาพไร้ขีดจำกัด เพราะผู้นำแบบนี้ จะถ่อมตัวถึงที่สุด จะให้พื้นที่มากที่สุด แต่ก็จะเป็นคนแรกที่จะออกไปเผชิญปัญหา แก้ปัญหา และรับผิดชอบ จนคนที่ตามเพ่ิมสมรรถภาพ และมีแรงบันดาลใจ มีความคิดสร้างสรรค์ได้บรรเจิด ทุกๆวันเป็นวาระของผู้ตาม ไม่ใช่ทุกคนทำเพื่อวาระของผู้นำ ฉะนั้นผู้ตามก็จะทุ่มเททำงาน เพื่อความงามของตนเอง และในขณะเดียวกัน ก็ซึมซับจริยาวัตรจากผู้นำที่เป็นผู้รับใช้อยู่ตลอดเวลา เจริญรอยตาม เพื่อที่จะได้หล่อเลี้ยงผู้ตาม ผู้รับใช้ รุ่นต่อๆไป สืบทอดความดีสากลนี้ไปเรื่อยๆ

ผู้ตามก็จะเกิดความรักใคร่ผูกพันกับ ผู้นำที่เป็นผู้รับใช้ อันต้นรัก ต้นเคารพ ที่งอกงาม หยั่งรากผลิใบงดงามได้ขนาดนี้ เกิดขึ้นได้อย่างเดียวด้วยการประคบประหงม รดด้วย “น้ำใจ” ที่ใสแท้บริสุทธิ์ ปราศจากเงื่อนไขใดๆ เกิดจากคนสวนที่อยากจะเห็นต้นไม้เติบโต เพื่อต้นไม้เอง ไม่ใช่เพื่อสวนของตน มีความปิติอย่างจริงใจเมื่อได้เห็นการเติบโต เปลี่ยนแปลง ของต้นไม้ ของผู้ตาม ของลูกศิษย์ เป็นสิ่งเดียวที่คนสวน ที่ผู้นำ ที่ครูแบบนี้ต้องการ ทรัพย์สมบัติอันประเสริฐที่สุดที่ผู้นำแบบนี้มีอยู่ก็คือ “น้ำใจอันบริสุทธิ์กับรักอันปราศจากเงื่อนไข” นั้นเอง

และถ้าเราทำความเข้าใจที่มาที่ว่านี้ เมื่อเราไปงานเกษียณอายุของปูชนียบุคคลเหล่านี้ เราจะได้สามารถซาบซึ้งถึงผลงานทั้งชีวิตที่ท่านได้ทำ การไปงานครั้งนี้ก็จะไม่ใช่เพียงแค่งานรื่นเริง อีกงานหนึ่ง หากเป็นประจักษ์พยาน Finale ของ Masterpiece ที่สืบทอดพรสวรรค์ของมนุษย์ที่แท้ ออกมาในรูปแบบของความดีที่ไม่มีสิ้นสุดนั่นเอง



Posted by : phoenix , Date : 2008-10-03 , Time : 20:27:53 , From IP : ppp-124-120-218-56.r

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<