ความคิดเห็นทั้งหมด : 1

ยกฟ้อง พญ.สุทธิพร


   จากกรณีที่ศาลจังหวัดทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีคำพิพากษาให้จำคุก แพทย์หญิงสุทธิพร ไกรมาก แพทย์ประจำโรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2550 ในข้อหากระทำการโดยประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ในคดียื่นฟ้องของนางสาว ศิริมาศ แก้วคงจันทร์ บุตรสาวนางสมควร แก้วคงจันทร์ ซึ่งเสียชีวิตจากการฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง ระหว่างผ่าตัดไส้ติ่ง เมื่อ พ.ศ. 2545 โดยระบุว่าแพทย์หญิงสุทธิพร อาจใช้ความระมัดระวังไม่เพียงพอ ฉีดยาชาเข้าไขสันหลังของผู้ป่วย โดยมิได้ควบคุมปริมาณของยาให้เหมาะสม ทำให้ยาชาออกฤทธิ์ลุกลามไปทั้งตัว จนเกิดอาการช็อค หัวใจหยุดเต้นทันที ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ขาดอากาศหายใจ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตายในเวลาต่อมานั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ศาลจังหวัดทุ่งสงได้ตัดสินคดีแล้ว แพทย์หญิงสุทธิพรได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 เนื่องจากแพทย์หญิงสุทธิพร เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลชุมชน ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข ให้ทำหน้าที่ดูแลรักษาพยาบาลประชาชน และทุกคนต่างตั้งใจปฏิบัติงานเพื่อให้ผู้ป่วยหาย ไม่มีใครต้องการให้ผู้ป่วยเสียชีวิต โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกล ซึ่งตามกฎหมายของแพทยสภา แพทย์ทุกคนสามารถดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทุกประเภท แม้ว่าจะไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก็ตาม เนื่องจากผู้ป่วยมีจำนวนมาก ผลการพิพากษาในเช้าวันนี้ (11 กันยายน 2551) ศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องคดีดังกล่าวแล้ว ทำให้แพทย์หญิงสุทธิพรไม่มีความผิด นับเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศที่ให้การรักษาพยาบาลประชาชน และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อให้บริการผู้ป่วยต่อไป

นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า การขออุทธรณ์ครั้งนี้ เพื่อนำมาสร้างเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานของแพทย์ในชนบทต่อไป เพราะถ้าแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชนปฏิเสธการผ่าตัด เนื่องจากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ป่วยอีกจำนวนมากก็จะประสบอันตราย เพราะระบบสาธารณสุขของไทย ยังขาดแคลนแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ โดยเฉพาะแพทย์ดมยา แพทย์ผ่าตัดอยู่อีกมาก

ทั้งนี้ ในทางแพ่ง กระทรวงสาธารณสุขได้เยียวยาช่วยเหลือครอบครัวนางสมควร แก้วคงจันทร์ ผู้เสียชีวิต ในเบื้องต้นแล้ว นายแพทย์ปราชญ์กล่าว


Posted by : Tan , Date : 2008-09-11 , Time : 22:49:57 , From IP : 172.29.9.33

ความคิดเห็นที่ : 1


   เพิ่มเติม
ยกฟ้อง “หมอสุทธิพร” ฉีดยาชาไขสันหลังดับคนไข้ไส้ติ่ง สธ.เยียวยาครอบครัว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 กันยายน 2551 16:21 น.

ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายกฟ้องคดีจำคุก “หมอสุทธิพร” กรณีฉีดยาชาเข้าไขสันหลังผู้ป่วยระหว่างผ่าตัดไส้ติ่งแล้วเสียชีวิตที่ รพ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ชี้ ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานของแพทย์ในชนบท สร้างกำลังใจให้กับบุคลากรทั่วประเทศ ด้าน "ลูกสาวผู้ตาย" เผย ไม่ฟ้องศาลฎีกา ชี้คดีอาญาจบแล้ว ไม่อยากให้หมอติดคุก พอใจศาลตัดสินชัดแม่ตายเพราะยาชาฉีดที่ไขสันหลัง ส่วนคดีทางแพ่งเดินหน้าฟ้องศาลฎีกาเรียกค่าเสียหายต่อไป ระบุหากชนะคดีจะนำเงินบริจาคให้รพ.ร่อนพิบูลย์พัฒนาปรับปรุงระบบบริการสุขภาพ

จากกรณีที่ศาลจังหวัดทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีคำพิพากษาให้จำคุก พญ.สุทธิพร ไกรมาก แพทย์ประจำโรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2550 ในข้อหากระทำการโดยประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ในคดียื่นฟ้องของ น.ส.ศิริมาศ แก้วคงจันทร์ บุตรสาวนางสมควร แก้วคงจันทร์ ซึ่งเสียชีวิตจากการฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง ระหว่างผ่าตัดไส้ติ่ง เมื่อ พ.ศ.2545 โดยระบุว่า พญ.สุทธิพร อาจใช้ความระมัดระวังไม่เพียงพอ ฉีดยาชาเข้าไขสันหลังของผู้ป่วย โดยมิได้ควบคุมปริมาณของยาให้เหมาะสม ทำให้ยาชาออกฤทธิ์ลุกลามไปทั้งตัว จนเกิดอาการช็อก หัวใจหยุดเต้นทันที ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ขาดอากาศหายใจ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตายในเวลาต่อมานั้น

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เมื่อเช้าวันนี้ 11 ก.ย.ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษายกฟ้องคดีนี้ ทำให้ พญ.สุทธิพร ไม่มีความผิด ทั้งนี้ พญ.สุทธิพร เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลชุมชน ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข ให้ทำหน้าที่ดูแลรักษาพยาบาลประชาชน และทุกคนต่างตั้งใจปฏิบัติงานเพื่อให้ผู้ป่วยหาย ไม่มีใครต้องการให้ผู้ป่วยเสียชีวิต โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกล ซึ่งตามกฎหมายของแพทยสภา แพทย์ทุกคนสามารถดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทุกประเภท แม้ว่าจะไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เนื่องจากผู้ป่วยมีจำนวนมาก

“การขออุทธรณ์ครั้งนี้ เพื่อนำมาสร้างเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานของแพทย์ในชนบท เพราะถ้าแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชนปฏิเสธการผ่าตัด เนื่องจากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ประสบอันตราย เพราะระบบสาธารณสุขของไทย ยังขาดแคลนแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ โดยเฉพาะแพทย์ดมยา แพทย์ผ่าตัดอยู่อีกมาก จึงนับเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ ที่ให้การรักษาพยาบาลประชาชนและขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อให้บริการผู้ป่วยต่อไป ทั้งนี้ ในทางแพ่ง สธ.ได้เยียวยาช่วยเหลือครอบครัว นางสมควร แก้วคงจันทร์ ผู้เสียชีวิต ในเบื้องต้นแล้ว” นพ.ปราชญ์ กล่าว

ทางด้าน น.ส. ศิริมาศ แก้วคงจันทร์ ลูกสาวผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตนยอมรับในผลการตัดสินของศาลอุทธรณ์ และจะไม่มีการยื่นฟ้องศาลฎีกาอีก เพราะถือว่าคดีทางอาญาจบแล้ว ทั้งนี้ ผลการตัดสินของศาลทำให้ตนได้ทราบแล้วว่า มารดาเสียชีวิตจากยาชาที่ฉีดเข้าไขสันหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนอยากรู้มาตลอด อย่างไรก็ตาม ยังมีกระบวนการทางแพ่ง ที่อยู่ในชั้นศาลฎีกา ซึ่งตนจะไม่ถอนฟ้องเพราะถือว่าไม่เกี่ยวกับ พญ.สุทธิพรแล้ว แต่เป็นเรื่องของสธ. ที่ต้องรับผิดชอบ โดยตนได้เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2,080,000 บาท ซึ่งศาลชั้นตนได้ตัดสินให้ตนชนะคดีได้เงิน 6 แสนบาทพร้อมดอกเบี้ย แต่ในชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลได้ยกฟ้อง จึงต้องรอฟังคำสั่งศาลฎีกาอีกครั้งหนึ่ง

“แม้ว่าในในสมัยนพ.มงคล ณ สงขลา เป็นรมว.สธ. ได้มอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวมาแล้ว 8 แสนบาท แต่ก็ไม่ถือว่าเกี่ยวกับกับทางคดี เพราะที่ผ่านมาไม่ได้รับการเหลียวแลจากสธ. เลย จนกระทั่งนพ.มงคล ลงมารับผิดชอบด้วยตนเอง ซึ่งการฟ้องร้องไม่ต้องการให้หมอติดคุก หรืออยากได้เงิน ซึ่งหากชนะคดีทางแพ่ง จะมอบเงินส่วนหนึ่งบริจาคให้กับรพ.ร่อนพิบูลย์อย่างแน่นอน เพื่อให้รพ.นำไปพัฒนาปรับปรุงระบบบริการสุขภาพ และเพื่อลบคำสบประมาทว่าอยากได้เงิน แต่จะเป็นเงินเท่าไร ขอพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง”น.ส. ศิริมาสกล่าว




Posted by : Tan , Date : 2008-09-12 , Time : 00:18:00 , From IP : 172.29.9.33

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<