ความคิดเห็นทั้งหมด : 11

การจัดงานกีฬาสีและงานแพทยศาสตร์สังสรรค์ประจำปี 2546


    1. ทำไมต้องลดประเภทกีฬาจากปีก่อนด้วย เสมือนว่ากรรมการชุดนี้ต้องการให้
จำนวนสมาชิกคณะแพทย์มีส่วนร่วมในกิจกรรมน้อยลง
2. งานเลี้ยงสังสรรค์ตอนกลางคืนทำไมต้องเน้นเรื่องอาหารมากเกินไป จนทำให้บุคลากรที่มีบุตรไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะไม่อาจทิ้งบุตรไว้ตามลำพัง


Posted by : Mr. Pee , Date : 2003-03-07 , Time : 14:51:44 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 1


   ผมและภรรยาอยากมาร่วมงานสังสรรค์มาก แต่ไม่รู้จะฝากลูกไว้กับใครดี
ใครก็ได้ช่วยด้วย ?


Posted by : Win , Date : 2003-03-07 , Time : 14:57:19 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 2


   ผมอยากทราบว่ากรรมการจัดงานมีลูกหรือเปล่า งานสังสรรค์ต้องเน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิก ไม่ใช่เอาใจคนบางกลุ่ม



Posted by : บุคลากร , Date : 2003-03-07 , Time : 15:14:31 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 3


   กลางวันพาลูกมาโยนไข่ครอบครัว แล้วกลางคืนพาลูกไปไว้ไหน
(ปู่ ย่า อยู่ต่างจังหวัด ตา ยาย แก่แล้วไม่รับเลี้ยง ลูกซนมาก)


Posted by : ตะหลิว , Date : 2003-03-07 , Time : 15:53:08 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 4


   ผู้ใหญ่ใจร้าย หนูแค่อยากติดตามคุณพ่อคุณแม่มาร่วมสนุก เพื่อรับรู้บรรยากาส และสิ่งดีๆของคณะแพทย์เท่านั้น ไม่ได้หวังจะไปเบียดเสียด แย่งที่นั่งในการรับประทาน ของท่านๆทั้งหลาย หรอก ค่ะ

Posted by : แมวดำ , Date : 2003-03-07 , Time : 20:42:38 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 5


    หนูไปงานทุกทุกปี เเต่ปีนี้หนูเสียใจค่ะ ที่เป็นตัวถ่วงของพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่ไม่ได้ไปงานสังสรรค์ของคณะเเพทย์ เพราะเป็นห่วงหนูกับน้อง หวังว่าปีต่อไปคงไม่เป็นนี้

Posted by : Angel 4 , Date : 2003-03-07 , Time : 20:55:37 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 6


    เมื่อปีที่แล้วหนูสนุกมากที่หนูได้ดูการแสดงบนเวทีแต่ปีนี้หนูคงไม่ได้ดูแล้ว หนูคงเสียใจมาก
หวังว่าคุณคงเข้าใจนะคะ หนูอยากเล่นกับเพื่อนๆด้วยคะ


Posted by : ลูกชิ้น , Date : 2003-03-07 , Time : 21:11:29 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 7


   หลานๆต้องเห็นใจลุงด้วย ปีที่แล้วลุงต้องเข้าแถวยืนรออาหารกันเมื่อยตุ้ม ดูแล้วไม่เหมาะสม ปีนี้กะว่านั่งกินสบายๆ มีเวลานั่งลูบพุง เห็นใจด้วยกะว่างานนี้เสร็จจะลาออกจากกรรมการ เพื่อล้างอายให้คณะแพทย์

Posted by : ลุง , Date : 2003-03-07 , Time : 21:18:45 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 8


   แด่คุณลุงผู้หิวโหย (ผู้ซึ่งเห็นแก่กิน และเห็นแก่ตัว)
ขอให้คุณลุงกินเผื่อหนู ๆ ทั้งหลายรวมถึงพ่อแม่หนูด้วยน๊ะค๊ะ
ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


Posted by : หนูน้อย , Date : 2003-03-08 , Time : 10:17:11 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 9


   เด็ก ตะกละเอ๊ย กลับบ้านไปให้ พ่อแม่สั่งสอน เลยไป post เปลี่ยนชื่อ นึกว่าเค้าจะไม่รู้เหรอ สงสาร พ่อ แม่แกจิ๊บเป๋งอยู่แต่เวร อยู่แต่ยาม ไม่มีเวลามาสั่งสอนลูกบ้าง ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน

Posted by : ผู้ใหญ่น้อย , Date : 2003-03-10 , Time : 12:14:40 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 10


   จัดงานแบบนี้ก็ดีไปอย่าง แต่เสียบรรยากาศหลายอย่างเลย เพราะคนที่อยู่คณะแพทย์ไม่คุ้นเคยกับคำว่า "สามี"หรือ "ภรรยา" เพราะในการจัดงานสังสรรค์ที่ผ่านมาให้สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วม อย่างเช่น พวกเด็ก ๆ มักจะถูกใช้งานให้เดินพาเหรดของแต่ละสี และพอตอนเย็นก็มางานเลี้ยงสังสรรค์กัน แต่ปีนี้ไม่ใช่ ...พอใช้แรงงานเด็กเสร็จในตอนเช้า (เดินพาเหรด) หลังจากนั้นพอถึงงานเลี้ยงกลายเป็น"เขตปลอดเด็ก" ไปเสียนี่สิ


Posted by : คนคณะแพทย์เหมือนกัลล์ , Date : 2003-03-10 , Time : 19:56:55 , From IP :

ความคิดเห็นที่ : 11


   ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะตอบได้ดีแค่ไหน เพราะจำต้นเรื่องไม่ได้ทั้งหมด ก็จะสรุปเท่าที่จำได้นะคะ ยังไงก็ขออภัยไว้ด้วยละกัน

แรกเริ่มเดิมทีของการจัดงานกีฬาสีในปี 2546 นี้ ครบรอบหมุนเวียนมาให้สำนักงานคณบดีเป็นผู้จัดงาน ผลของการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการปรากฎว่า อาจารย์ที่รับเป็นประธานสีมีถึงสามสีที่ขอลาออก ทำให้เกิดความสับสนของกรรมการเล็ก ๆ ว่าจะทำยังไงกันดี บ้างก็ว่าให้เลิกไปเถอะ แต่จากผลของการนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประจำคณะมีมติให้จัดและให้จัดเป็นประจำทุกปีเพื่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่บุคลากรของคณะแพทยศาสตร์

จากนั้นคณะกรรมการจัดประชุมกันหลายครั้งและแบ่งงานเป็นหลายฝ่ายเพื่อดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ มีการระดมความคิด ถึงรูปแบบการจัดงานกีฬาสีและงานแพทยศาสตร์สังสรรค์ ซึ่งก็ออกมาว่าจะให้จัดเป็นกีฬามหาสนุก ส่วนงานแพทยศาสตร์สังสรรค์ มีปัญหาถึงการจัดเลี้ยงของปีก่อน ๆ มาพิจารณากันในที่ประชุมคือ จัดเป็นแบบแจกคูปองสำหรับบุคลากรนำไปแลกเปลี่ยนอาหาร ปีที่ผ่านมาจัดแบบเปิดทุกคนสามารถตักอาหารได้ตามใจชอบไม่มีการจำกัด ซึ่งทั้งสองแบบมีปัญหาคือ แจกคูปองไปแลกอาหารจะมีคนว่าเหมือนขอทานต้องไปยืนแลกอาหารกันจนยาวเหยียด เปิดฟรีแบบที่สองจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่เหนื่อยมากต้องดูแลเรื่องความสะอาด น้ำดื่ม ส่วนใหญ่ก็คือเจ้าหน้าที่ของหน่วยเคหะบริการและหน่วยอาคารสถานที่ และก็มีคนที่ตักอาหารอย่างเหลือเฟือจนทำให้คนที่มาทีหลังไม่ได้รับอาหาร

ในปีนี้จึงคิดว่าจะลองรูปแบบใหม่ ให้บุคลากรของเราไม่ต้องเหนื่อยมากได้นั่งรับประทานอาหารกันอย่างมีความสุข แต่จากการสำรวจครั้งแรกเพื่อเตรียมจัดโต๊ะอาหารซึ่งได้รับวงเงินจำกัดเท่ากับปีที่แล้วคือ 250,000.00 บาท (สองแสนห้าหมื่นบาท) ก็คือ มีบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์แจ้งความประสงค์จะมาร่วมงาน 1,775 คน (คู่สมรส 338 คน บุตรที่อายุมากกว่า 6 ปี 800 กว่าคน บุครที่อายุต่ำกว่า 6 ปี 300 กว่าคน พี่เลี้ยง/เพื่อน ไม่ต่ำกว่า 10 คน พิเศษกว่านั้นบุครอายุ 30 ปีก็มีนะคะ ยังไม่นับที่ตกสำรวจ คือส่งรายชื่อให้เลขาสีแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งให้คณะฯ ประมาณ ร้อยกว่าคน)

คณะกรรมการได้นำเข้าที่ประชุมให้พิจารณากันได้ข้อสรุปว่า ขอให้สำรวจใหม่ ผู้ที่จะเข้ามาร่วมงานแพทยศาสตร์สังสรรค์ ขอความร่วมมือจากบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ มาร่วมงานเฉพาะบุคลากรและคู่สมรสเท่านั้น

ผลก็ปรากฎออกมาอย่างที่เห็น คือมีทั้งคนที่เห็นด้วยและคนที่โกรธเกลียดการบริหารจัดการเรื่องงานเลี้ยงในครั้งนี้

ก็ได้แต่คิดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าซึ่งจะหมุนมาถึงรอบสำนักงานคณบดี คณะกรรมการจะบริหารจัดการเรื่องนี้อย่างไรจึงจะดีและถูกใจบุคลากรคณะแพทยศาสตร์มากที่สุด ได้แต่หวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานสังสรรค์และสนุกสนานกับการร่วมงานในครั้งต่อ ๆ ไป


Posted by : พรรัตน์ ด่านวรนันท์ , E-mail : (dpornrat@ratree.psu.ac.th) ,
Date : 2003-03-10 , Time : 21:51:17 , From IP :


ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.042 seconds. <<<<<