ความคิดเห็นทั้งหมด : 9

การเปลี่ยนเส้นทางการจราจรถ.หน้าบินหลา 3 เป็นแบบ one way


   ผมอยากให้มีการทบทวนเรื่องจัดเส้นทางแบบ one way ครับ เรื่องการตั้งจุดตรวจเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วแต่ไม่น่าจะทำให้เป็น oneway เลยครับมันไม่สะดวกต้องวนรถไกลเพื่อจะไปผ่านประตู 108 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีเสียงบ่นจากหอพักแถวนั้นว่าเสียงเครื่องยนต์ดังรบกวนจาการการที่รถผ่านมากจนทำให้เกิดกรณีปิดประตู 108 ไปแล้ว ผมว่าครั้งนี้จะยิ่งทำให้รถผ่านไปทางนั้นเยอะเข้าไปอีก
ผทอยากให้นึกถึงคนที่อาศัยแถบดาหลาหรือศรีตรัง 1-7 บ้างครับจะขับรถไปหน้าร.พ.ต้องอ้อมไกลเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ร.พ.เราผลิตน้ำมันแจกบุคคลากรได้ด้วยเหรือครับถึงได้ทำแบบนี้ ผมคิดว่าหลายคนคงไม่เห็นด้วยแต่ก้เชื่อว่าหลายคนก็คงเห็นด้วย เพราะฉะนั้นขอเสียงคนที่เดือดร้อนช่วยออกความเห็นกันด้วยครับ


Posted by : สรศอย , Date : 2007-09-15 , Time : 12:21:16 , From IP : 172.29.8.244

ความคิดเห็นที่ : 1


   อยากทราบครับว่า อะไรเป็นสาเหตุให้ต้องจัดทางจราจรภายในหอพักครับ การจารกรรมเพิ่มมากขึ้น หรือ มีอาญชากรรมเพิ่มขึ้นภายในบริเวณหอพัก หรือ การจราจรคับคั่งเกินไป
...
ความเห็นของผม คือ การจัดการจราจร ทำให้ความสะดวกลดลงจริงๆครับ ตอนกลางวันต้องอ้อมไปทางประตู 108 ถึงจะออกไปโรงพยาบาลได้ อันที่จริงผมก็ไม่ได้เดือดร้อนมาก เพราะสามารถ เดินผ่านทางเดินที่บ่อบำบัดเพื่อไปทำงานได้ แต่บุคคลากรที่อยู่ไกลกว่า หอพักดาหลา ก็ต้องอ้อมมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด จะเดินก็ไกล
...
ลองๆคิดทางออกหลายๆทางดูนะครับ
...
1. จัดเป็นเวลาเข้าออก
ช่วงครึ่งเช้า ให้ออกทางบินหลา 3 เพราะ ประชากรส่วนใหญ่ของคณะแพทย์จะได้ไปทำงานที่โรงพยาบาลได้สะดวก
ส่วนช่วงเย็นก็เปลี่ยนเป็นขาเข้า เพราะ บุคคลากรกลับจากโรงพยาบาลจะได้เข้าทางด้านนี้ได้สะดวกกว่า
...
2. จัดทางเดินรถเป็น one way โดยเปิดทางที่จอดรถบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย ให้เป็นทางออกทางเดียวห้ามสวนเข้ามา บุคคลากรจากในหอพักจะได้สามารถขับรถออกไปยังโรงพยาบาลได้


Posted by : Botsumu , Date : 2007-09-15 , Time : 20:21:18 , From IP : 172.29.9.163

ความคิดเห็นที่ : 2


   ไม่ค่อยเห็นด้วยค่ะ เพราะต้องขับรถอ้อมไกลเหมือนกัน อีกอย่างยังสงสัยอยู่ว่าเป็นความคิดของใคร จะทำอะไรเคยถามความเห็นของบุคคลากรที่อยู่แถวๆ นั้นบ้างหรือไม่ ถ้าจะอ้างความปลอดภัย ก็ไม่เห็นจะตรวจรถที่ผ่านเข้าออกอะไรเลย ได้แต่แจกบัตรกับเก็บบัตร

วันนี้ตอนเอารถออก ก็ไม่มีบัตร เพราะวันที่เอารถเข้ามาจอดเมื่อวันศุกร์ ยังไม่ได้ใช้ระบบนี้ ก็บอกยามว่าไม่มีบัตร แต่ไม่เห็นเขาจะถามอะไร ก็ให้ผ่านไปได้

ถ้าจะป้องกันเรื่องโจรกรรม ช่วยมาดูหน่อยว่ากุญแจล็อคประตูที่ใต้หอปิ่นสงขลา 2 เกิดอะไรขึ้น โดนงัดหรือเปล่า ถึงได้กลวงไปแบบนี้


Posted by : จริงใจ , Date : 2007-09-16 , Time : 20:42:29 , From IP : 172.29.5.86

ความคิดเห็นที่ : 3


   ขอออกความเห็นด้วยคนนะครับ เรื่องความปลอดภัยสำหรับที่พักอาศัย
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะเปิดให้มีการรับบัตรผ่านเข้าออก แต่เรื่องการ
จัดทำเป็นทาง One Way นั้น คิดว่าไม่เหมาะสม

คือ ต้องคิดถึงคนที่มีที่พักอาศัยทางด้านนั้น เช่น ประสานใจ บินหลา ศรีตรัง
การที่จะออกประตูหน้าวัดได้ จะต้องวนรถจากที่พัก ไปที่ประตู 108 แล้ววก
รถกลับมาที่ประตูหน้าวัด สิ้นเปลืองเวลา และน้ำมันไปกันใหญ่ ความปลอดภัย
ก็แน่ว่าจะเพิ่มขึ้น ที่พักแถวๆ งานทักษิณ จากเดิมเงียบสงบ ตอนนี้ พบว่ามีรถ
ผ่านไปมาเพิ่มมากขึ้น เลยดูแล้วจะเพี้ยนๆ ชอบกล

และปัจจุบัน ยังมีช่องโหว่อยู่ 1 จุด คือ หากมีคนขับรถเข้ามาใน
ลานจอดรถ จากประตูหน้าวัด เขาก็จะขับเข้ามาบริเวณที่พักได้
โดยไม่ผ่านจุดรับบัตร ไม่ทราบทางนี้ได้ป้องกันหรือยัง

ผมขอเสนอ
1. ควรทำเป็น Two way เข้าทางไหน ออกทางนั้น ยามก็ไม่ต้อง
เวียนส่งบัตรเข้าออกให้เหนื่อย
2. ควรยกป้อมยาม และ คานรับไม้ ขึ้นไปไว้ บนฟุตบาตร ซึ่งเดิม
ตั้งอยู่ข้างถนน เกะกะ และทำให้ถนนแคบลง
3. สำหรับมอเตอร์ใชด์ ควรทำช่องเข้าออก ต่างหาก




Posted by : kanun , Date : 2007-09-16 , Time : 21:43:36 , From IP : 172.29.7.195

ความคิดเห็นที่ : 4


   อยากให้ทบทวนอีกครั้ง เช่นกัน
เพราะได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกับความเห็นข้างต้น

เสียเวลามากขึ้น
เปลืองน้ำมัน
เพิ่มระยะทางของการเกิดอุบัติเหตุ
เสียงดัง

ใครรับผิดชอบ ช่วยหน่อย


Posted by : wantknow , Date : 2007-09-17 , Time : 17:58:14 , From IP : 172.29.9.252

ความคิดเห็นที่ : 5


   อยากเสนอว่าให้ทำเป็นสองทาง อาจจะต้องขยายถนนออกไปด้านข้างเล็กน้อย แล้วนำป้อมแลกบัตรวางไว้ตรงกลาง(เหมือนโลตัส)

ลองคิดเล่นๆ ในแต่ละวัน สมมติว่าเราต้องเสียค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นคันละ 3 บาท แต่ละวันต้องสูญเสียค่าน้ำมันในการขับอ้อมเกือบพันบาท ปีนึงจะเท่าไหร่

ไหนจะประหยัดพลังงาน ไม่อยากให้โลกร้อนขึ้น ตกลงว่ามันยังไงกันแน่หว่า



Posted by : ฟ้าใส , Date : 2007-09-18 , Time : 19:05:23 , From IP : 172.29.5.221

ความคิดเห็นที่ : 6


   Copy มาจากกระทู้ข้างล่าง เราอาจต้องเสนอไปที่งานอาคารสถานที่นะ

งานอาคารสถานที่ประชาสัมพันธ์การจัดระบบจราจรตามมาตรการความปลอดภัยบริเวณที่พักอาศัย มีลักษณะที่แตกต่างจากเดิม ได้แก่
1.การจราจรขาเข้าทางเดียว ด้านถนนเวชวิถี หน้าหอพักนักศึกษาแพทย์ บินหลา 3
- จัดตั้งป้อมยาม / เครื่องกั้นถนน / เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ประจำ
24 ชั่วโมง
- ตรวจยานพาหนะทุกประเภทที่ผ่านเข้า
- มอบบัตรผ่านเข้าหมู่บ้าน สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ (บุคลากรหรือบุคคลภายนอก)
- ตรวจสังเกต ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ / คนเดินสัญจรทั่วไป
2. การจราจรขาออก ด้านถนนสหศาสตร์ หน้าอาคารดาราคาม 2 (ทางแยก วาริชศาสตร์)
- จัดตั้งป้อมยาม / เครื่องกั้นถนน / เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อยู่ประจำ
24 ชั่วโมง
- ตรวจยานพาหนะทุกประเภทที่ผ่านออก พร้อมรับบัตรผ่านเข้าหมู่บ้านคืน
จากผู้ขับขี่รถ / ตรวจสังเกตบุคคล
3. การจราจรภายในบริเวณที่พัก เป็นระบบปกติ

บัดนี้ งานอาคารสถานที่ขอแจ้งให้ทราบว่า ระบบดังกล่าวมีความพร้อม ใช้ได้ตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2550 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป สำหรับท่านใดมีข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เพื่อการปรับปรุงแก้ไขงานบริการ กรุณาแจ้งได้ที่งานอาคารสถานที่ พร้อมยินดีนำไปพัฒนาต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน

งานอาคารสถานที่
โทร. 1120, 1121


Posted by : nigdejavu , Date : 2007-09-21 , Time : 17:48:14 , From IP : 172.29.21.131

ความคิดเห็นที่ : 7


   ไม่เห็รด้วยกับการเป็น one-way เพราะทำให้เปลืองมาก ต้องวนอ้อมไปส่งลูกที่ nursery ศรีตรัง รอบนึงแล้วต้องวนอีกรอบเพื่อมาโรงพยาบาล สรุปว่าเปลืองน้ำมันขึ้น 4 เท่าต่อวัน
เรื่องตรวจรถ รับบัตร OK แต่ก็ไม่ได้ตรวจจริงจัง แจกบัตรผิดๆถูกๆ บางทีได้บัตรบุคคลภายนอก บางทีก็ได้บัตรบุคลากร แต่เข้าใจว่ารปภ ก็ยังใหม่ อาจหลงลืมดูบ้าง
อยากให้ทำแบบจุดตรวจบ้านพักริมอ่างน้ำที่ทำแบบเข้าออกได้สองทางแล้วก็ยังตรวจได้ด้วย
อีกอย่างเครื่องกั้นน่ะตลกจัง ซื้อมาตั้งเท่าไหร่ ใช้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เสียซะแล้ว


Posted by : ฮิมาวาริจัง , Date : 2007-09-25 , Time : 12:05:01 , From IP : 172.29.10.236

ความคิดเห็นที่ : 8


   ผมอยากให้ผู้ที่มีส่วนจัดการ ลองมานั่งทบทวนดูให้มากๆที่นะครับ ว่าการจัดการเรื่องจราจรกับเรื่องปกป้องดูแลคุ้มครองบุคลากรสาขาขาดแคลน ขณะที่สาขาอื่นๆที่มีที่พักนอกมหาลัยฯ เขาได้ทุ่มเท เสียสละ แรงกาย แรงใจ ให้กับคณะแพทย์ฯ ให้กับมหาลัยฯ น้อยกว่า หรือมากกว่า การทำงานเป็นทีมมันจบอยู่แค่ทำงานเสร็จ แต่ผลประโยชน์กับได้รับไม่เท่าเทียม และประเด็นสำคัญการจัดการจราจรกับการปกป้องฯ มันมีผลกระทบในทางลบ กับบุคลากรที่อาศัยอยู่ภายนอกคณะแพทย์ ความเอื้อเฟื้อ เอื่ออาทร ภายในองค์กรอยู่ตรงไหนครับ หัวใจสำคัญของการบริหารคนขององค์กรคือการจัดการให้เกิดความเป็นธรรม(ยุติธรรม)

Posted by : กำมาชี้(พ) , Date : 2007-09-27 , Time : 15:09:06 , From IP : 172.29.3.161

ความคิดเห็นที่ : 9


   ผมขอเติมอีกนิดนะครับว่าโครงการต่างๆ ควรจะเน้น 4 ตัวหลัก มีความยุติธรรม+จริยธรรม(คุณธรรม) สองต้องสะอาดบริสุทธิ์ สามต้องประหยัด สี่มีประสิทธิภาพ แล้วประเมินโครงการด้วยประสิทธิผล อยากให้ประชาคมวิพากษ์กันมากๆๆครับ

Posted by : กำมาชี้(พ) , Date : 2007-10-02 , Time : 16:44:41 , From IP : 172.29.3.161

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<