ความคิดเห็นทั้งหมด : 3

คัมภีร์มหาโกง ตอนที่ 1 เรื่องบังเอิญกับเจ้านายเอื้ออาทรณ์


   แต่งและเขียนเรื่องโดย เซบาสเตียน

12 กุมภาพันธ์ 2550

เรื่องนี้เป็นจินตการของผู้แต่งเท่านั้น หากชื่อบุคคล สถานที่หรือเหตุการณ์ตรงกับใคร ทางผู้จัดทำ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
--------------------------------------------------------------
ตอนที่ 1 เรื่องบังเอิญกับเจ้านายเอื้ออาทรณ์

"ปีนี้บริษัทของเรา กำไรได้ทั้งหมด ห้าพันสองร้อยล้าน (5,200,000,000.00) บาท"

สิ้นเสียงผู้บริหาร ของการประชุมพนักงานประจำปีบริษัท Best Com THAILAND ทุกคนต่างปรบมือ ชัยโย โห่ร้อง ออกมาด้วยความปิติ ที่นี้พนักงานต่างทุมเทให้กับองค์กร และโดยเฉพาะพนักงานดีเด่นอย่าง

พี่จิ๋ม?

พี่จิ๋มเป็นบุคคลหนึ่งที่ทำงานที่นี้มาแล้วรวม 7 ปี กว่า ถ้ารวมอายุการทำงานในที่อื่นๆรวมกันก็เกือบ 10 ปี จากประสบการณ์ทำให้เธอรู้ว่า ต่อให้งานหรือเงินเดือนดีแค่ไหนก็คงไม่ได้เจ้านายดีอย่างที่นี้แน่ๆ พี่จิ๋มเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ก็เพราะเจ้านายเธอ ไม่งั้นชีวิตของเธอคงลำบากอาจจะเสียบ้าน และการดูแลแม่อาจจะไม่ได้อย่างทุกวันนี้

ประวัติการศึกษาของพี่จิ๋มจบจากสถาบันที่ได้ขึ้นชื่อว่าเก่งด้าน IT แห่งหนึ่งของประเทศ เธอจบด้วยเกรดที่มากกว่า 3.00 ขึ้นไป พี่จิ๋มทำงานด้าน IT เกี่ยวกับพวก Hade Ware ถนัดเรื่อง Net Work (การเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จะดูแลเรื่องความปลอดภัยของระบบ)

ทุกคนย่อมมีประสบการณ์ที่ที่ดีและไม่ดีเสมอ ไม่ว่าเรื่อง เพื่อน ครอบครัว การเงิน ความรัก หรือ การทำงาน พี่จิ๋มเองก็เช่นกัน เธอทำงานบริษัท Best Com THAILAND เป็นแห่งแรก เพราะที่นี้ชื่อเสียงดี ฝันก็เป็นจริง เธอได้ทำงานที่นี้ตามที่ตัวเองคาดหวัง งานของเธอก็ราบรื่น พี่ที่ทำงานก็สอนเธอเรื่องงานดี เพื่อนร่วมงานก็ดูเป็นมิตร เมื่อเธอทำงานได้ประมาณ 5 ปีกว่า อยู่ๆมาวันหนึ่ง ก็มีฝ่ายบุคคลของบริษัท High Best Food มีชื่อเสียงด้านอาหาร มาติดต่อเธอให้ร่วมงานด้วยเนี่องจากที่นี้ ขาดพนักงานด้าน IT

จากตอนแรกเธอเองก็บายเบี่ยงและงงเพราะไม่รู้ตัวมาก่อนว่าไปสมัครงานตั้งแต่เมื่อไร แต่พนักงานฝ่ายบุคคลได้รับการอบรมมาอย่างดี สามารถเกลี่ยกล่มให้เธอคุยต่อได้ และมีสิ่งที่น่าสนใจว่า ที่ทำงานที่นี้มีสิ่งดีๆให้พี่จิ๋มเช่น มีสวัสดิการชั้นยอดมาก มีการส่งพนักงานดูงานเมืองนอก มีห้องอาหารราคาถูกเพื่อพนักงาน ที่สำคัญเรื่องเงินเดือน ที่นี้บอกขอเสนอไว้ท้ายสุดแต่เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุด

ในที่สุดฝ่ายบุคคลก็ทำให้พี่จิ๋มยอมรับและได้นัดคุยกันที่บริษัท High Best Food ในวันอื่นถัดมา และเธอเองก็ได้รับการสัมภาษณ์ คงเหมือนทั่วๆไปคือ อาจจะมีสัมภาษณ์รอบสอง ถ้าประวัติการทำงานตรงกับจุดประสงค์ที่ทางบริษัทต้องการและแล้วจะติดต่อกลับไป

พี่จิ๋มเองไม่ได้คิดอะไร เพราะถือว่านั้นเป็นโอกาสในชีวิตของคนเราที่เลือกได้ แม้ว่าที่ทำงานเก่ายังไม่ได้แย่มากในสายตาเธอ หากแต่กิเลสทุกคนย่อมมี เวลาผ่านไปได้สัก 1 เดือน เธอลืมเรื่องการสัมภาษณ์ที่บริษัทใหม่เสียแล้ว อาจเป็นเพราะคุณสมบัติไม่ตรงกับที่บริษัทต้องการก็ได้

แต่สิ่งหนึ่งตัวเธอเองได้แปลกใจกับทำงานเธอได้เปลี่ยนไป เธอสงสัยว่าเวลาเธอทำงานเดี๋ยวนี้ทำไมชอบพลาดได้อย่างไร เพราะทุกอย่างก็เป็นสเตปเหมือนเดิม เธองงมากและจะมี ผู้ใช้ระบบของเธอร้องเรียนมายังเธอมากขึ้น พี่จิ๋มได้แต่คิดทำไม ๆ พวกเขาเป็นอะไร เวลาเธอพูดอะไรผิดนิด ผิดหน่อยก็ไม่ยอม แถมเวลาเธอทำพลาดทุกคนพร้อมกันกระจายเสียง หรือซื้อของอะไรมาทานที่บริษัท ก็ไม่มีใครยอมทานด้วย แถมยังดูถูกเธอว่ากระจอก พี่จิ๋มงงมาก.... กับชีวิต เธอทำอะไรผิด เธอจะพึ่งใครได้หากเจ้านายที่ใจดี

บังเอิญไปคุมงานที่ต่างประเทศ

ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรมดังศาสนาที่ได้สอนไว้ คนเราเมื่อมีทุกข์ก็ย่อมมีสุขได้เช่นกัน เธอเป็นคนหัวแข็ง เธอคิดว่าเธอไม่ได้ทำอะไรเสียหาย และเธอไม่ก้มหัวให้เพื่อนร่วมงาน เพราะเธอไม่คิดว่าเธอผิด แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ พี่จิ๋มเป็นคนชอบทำบุญ และนั้นทำให้สวรรค์รักเธอ

เสียงเพลงคลายเหงาที่เธอชอบ ได้โหลดลงมือถือเก็บไว้ ได้ดังขึ้น
ไม่น่าเชื่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เมื่อพี่จิ๋มรับสายแล้วรู้ว่านั้นคือ ฝ่ายบุคคลของบริษัท High Best Food ที่เคยไปสัมภาษณ์เมื่อเดือนก่อน

"สวัสดีค่ะ พี่จากบริษัท High Best Food ที่คุณจิระพันธ์เคยมาสัมภาษณ์เมื่อวันที่ xx เดือน xx จำได้ไหมค่ะ"

"จำได้ค่ะ" พี่จิ๋มนึก ความหวังมันเป็นเช่นนี้นี่เองเหมือนกับบ่อน้ำที่อยู่ข้างหน้า ในขณะที่คุณกำลังหิวกระหาย

"คือว่าทางหัวหน้าพี่ได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว และสนใจอยากให้คนมีความสามารถมาร่วมงานกับเรา ถ้าหากคุณจิระพันธ์สนใจ ก็อย่าให้มาคุยรายละเอียดและข้อตกลงของบริษัทค่ะ" เสียงฝ่ายบุคคลช่างอ่อนหวานกับหัวใจพี่จิ๋มมากในขณะนั้น

พี่จิ๋มไม่จำเป็นต้องเล่นตัวแล้ว เพราะเธอมาถึงทางตัน เธอเครียดจากสภาพแวดล้อมนี้ ไม่มีทางออกให้เธอแล้วเธอรับนัดครั้งที่สองเพื่อคุยกันหัวหน้างานของเธอ และแล้ววันนั้นก็มาถึง เธอคุยและตกลงเรื่องเงินเดือนแม้ว่าอาจจะไม่ได้มากเท่าเหมือนที่คุยไว้ครั้งแรก แต่ก็ได้มากกว่าที่เก่า

สวรรค์ทรงโปรด ช่างบังเอิญจริงๆ นี้ล่ะมั้ง ความที่เธอชอบทำบุญ ทำให้มีทางออกเสมอ พี่จิ๋มยื่นใบลาออกกับหัวหน้าหน่วยอีกคนแม้ว่าหัวหน้าฝ่ายที่คุมเธอไม่อยู่ เธอทนทำงานในสภาพแวดล้อมนี้ไปอีก 2 อาทิตย์

วันวานอันขมขื่นได้ฉันใด วันนี้อาจเป็นวันหวานได้ฉันนั้น เธอพักผ่อนต่ออีก 2 อาทิตย์

บังเอิญหัวหน้างานของเธอได้โทรมา
"ฮัลโหล น้องจิ๋มหรือเปล่า ทำไมน้องจิ๋มลาออก ไม่บอกพี่ก่อนสักคำ"

น้องจิ๋ม พอได้ฟังเสียงหัวหน้าก็ร้องไห้เป็นวรรค เป็นเวร แล้วเล่าเหตุการณ์ที่เธอประสบ งง กับเพื่อนร่วมงานของเธอว่าทำไมเปลี่ยนไป

"ใจเย็นๆ น้องจิ๋ม คงมีการเข้าใจผิดอะไรกัน เพราะพี่ถามที่นี้ก็บอกว่า พี่จิ๋มเปลี่ยนไป อยู่ๆก็เครียด ไม่พูดจาแล้วก็ลาออกไป น้องจิ๋มมีปัญหาเรื่องแฟน หรือทางบ้านหรือเปล่า" พี่หัวหน้าเหมือนดังพี่ชาย ปลายเสียงเป็นเสียงประดุจแห่งความห่วงใยน้องสาวคนหนึ่ง

"ไม่ค่ะพี่ ไม่มีอะไร อยู่แล้วไม่สบายใจก็ลาออกมาแค่นั้นเอง ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ที่ลาออกโดยบอกพี่ไม่ได้" เสียงเธอยังคงสะอื่น

"เห้อออ....." เสียงของพี่ชายลากยาวมาบ่งบอกถึงความท้อแท้

"เอายังงี้ล่ะกัน พี่ว่ามันยังเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกันมากกว่า แต่ไม่ว่ายังไงน้องก็ลาออกแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรปรึกษาพี่ได้เสมอนะ ถึงยังไงพี่ก็ยังเหมือนเดิมกับน้องอยู่ หากไปที่อื่นไม่สบายใจ พี่ก็ยังต้อนรับน้องนะ ไปที่ใหม่ก็ขอให้โชคดีล่ะกัน พี่ก็คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ"

"ค่ะ ขอบคุณค่ะ" การสนทนาของพี่ชายและน้องสาวได้จบลง แต่หนทางของชีวิตเธอยังต้องเดินต่อไป

ชีวิตใหม่ก็มาถึง ที่ใหม่ของเธอก็เหมือนทั่วๆไป แรกๆไม่คุ้นก็เงียบพอนานไปก็เริ่มสนิทไปกินข้าว ดูหนัง ทำกิจกรรมบ้างเหมือนทั่วๆไป แต่สิ่งหนึ่งคือความไว้ใจเรื่องคนของเธอเปลี่ยนไป อาจจะไม่ถึงขนาดระแวงแต่ก็คงไม่มองโลกในแง่ที่สดใสอย่างเก่า ที่นี้บางคนก็รู้สึกรังเกียจเธอ ไม่ค่อยคุยกันเธอ หรือเธอคิดไปเองอาจจะเป็นเพราะการปรับตัวกับที่ทำงานยังต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่เธอว่าที่นี้บรรยากาศไม่เหมือนที่ทำงานเก่าอย่างตอนแรกเลย ที่นี่แย่มากทำงานเป็นทีมไม่เป็น พยายามตรวจสอบ ขุดคุ้ยเรื่องไม่ดีอีกฝ่ายมาแฉ บางทีเธอมองเป็นเรื่องส่วนตัวด้วยซ้ำ เธออยากจากลาออกแต่คงต้องทน อาจจะต้องปรับตัวแล้วอะไรๆคงจะดีขึ้น

ไม่น่าเชื่อ เธอทนได้เกือบ 2ปีกว่า เธอแกร่งจริงๆ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ แต่จะให้ทำอย่างไร ต้องผ่อนบ้าน และแม่ที่ต้องเลี้ยงดู ไม่น่าเชื่อสังคมมันเลวขนาดนี้หรือ แต่ก็ไม่อยากคิด เพราะคิดว่าไปที่ไหนก็คงเหมือนกัน เธอทำงานวันๆ ขอให้มีเงินเดือนเลี้ยงดูตัวเองและแม่ก็พอ

วันหนึ่ง มีเสียงตามสายจากหัวหน้าเก่าของพี่จิ๋ม
"จิ๋มเป็นอย่างไร พี่ไม่ค่อยว่างเลย พอดีคิดถึงน้องมาก" เสียงยังเหมือนเดิม มีแต่หัวหน้าคนเดิมเท่านั้นที่เธอไว้ใจ

บังเอิญจัง เธอคิด
"ก็เหมือนเดิมล่ะค่ะ ว่าแต่พี่โทรมาได้ไงค่ะ" ไม่คิดว่าหัวหน้าจะโทรไปเพราะโทรไป หัวหน้าไม่รับสาย ถึงรับก็บอกงานยุ่งเสมอ

"เปล่าไม่มีอะไรหรอก พี่ว่าตั้งแต่น้องออกไป คนเก่าทำงานไม่ได้เรื่องเลย คนใหม่รับเข้ามาก็สู้เธอไม่ได้ น้องจิ๋มเปลี่ยนใจมาหาพี่ยัง"

"จริงหรือค่ะ แล้วตอนนี้เพื่อนที่ทำงานสบายดีกันหรือเปล่า"

"พวกนั้นเหรอ เขาออกตามน้องกันหมด พี่เบื่อจริงๆตอนนี้ยุ่งมาก อยากได้ใครสักคนมาช่วยงาน น้องไม่สงสารพี่เหรอ งานที่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง สนุกกว่าที่เก่าไหม"

"ที่เก่าดีกว่าค่ะ แบบว่าที่งานก็เรื่อยๆค่ะ ว่าแต่ ทำไมเพื่อนที่ทำงานถึงออกกันค่ะ?"

"ไม่รู้เหมือนกัน พี่ยังกลัวโดนเพ่งเล็งเลย ว่าทำไมลูกน้องในทีมออกกันมาก ก็อยากได้คนที่ไว้ใจมาทำงานกันมากกว่า"

"ยังไงก็ขอเวลาคิดหน่อยนะค่ะ เข้าๆออกๆ รู้สึกไม่ค่อยดี"

ถึงพูดว่าขอคิดแต่จริงๆพี่จิ๋มไม่ได้คิด เพราะที่นี่แย่กว่าที่เดิมอีก พี่จิ๋มเลยตัดสินใจขอลาออกจากงานอย่างน้อยถึงกลับไปก็ไม่ต้องเจอคนเดิม ก็ยังดี เธอทำงานต่ออีก 30 วันเพื่อสะสางงานที่ค้างไว้ให้เสร็จ

เมื่อพี่จิ๋มกลับมายังที่ทำงานเดิมก็กลัวว่าจะโดนเพ่งเล็ง หาว่าเจอใหม่ให้เงินเดือนเยอะกว่า แล้วก็ไป แต่ไม่มีอะไรที่น่ากลัว เพราะบ้านหลังนี้ใจกว้างยินดีต้อนรับทุกคน แต่สิ่งหนึ่งที่พี่จิ๋มอาจจะเสียโอกาสไปบ้างคือ เงินเดือนถ้าอยู่นานการขึ้นเงินเดือนคงดีกว่านี้และโอกาสการเลื่อนตำแหน่งจะก้าวหน้ากว่านี้ อันเป็นเรื่องที่หัวหน้าชอบพูดทีเล่นที่จริงกับเธอเสมอว่า ไม่น่าใจร้อน

ไม่เป็นไร เสียเงินไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยได้งานที่ทำแล้วสบายใจ และเธอไม่คิดจะไปสมัครงานที่ไหนอีกเลย

ในที่สุดความสำเร็จก็มาถึง พี่จิ๋มได้เป็นพนักงานดีเด่น ใครว่ากล่าวที่ทำงานเธอหรือหัวหน้าเธอไม่ได้เลย พี่จิ๋มสู้ขาดใจ แน่นอนเธอเป็นคนดี คนกตัญญู เป็นคนรู้จักบุญคุณคน พี่จิ๋มโชคดีที่ได้หัวหน้าอย่างนี้ ใครจะมาโชคดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว


ในวันหนึ่งมีงานเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนแห่งหนึ่ง บางคนเป็นหัวหน้าบริษัท Best Com THAILAND บางคนเป็นผู้บริหาร บริษัท High Best Food และยังมีบริษัทอื่นๆอีก กินข้าว เต้นรำด้วยกัน มีสาวสวยมาบริการ ร่วมฉลองกับความสำเร็จในชีวิตในหน้าที่การงาน

แต่จะมีใครรู้บ้างว่าเบื้องหลังเขาทำงานอย่างไร?



----------- บทสรุป -------------

คุณคิดว่าผมมองโลกในแง่ร้ายหรือไม่ มีการทำงานในลักษณะนี้จริงๆหรือ ผมว่าน่าจะมีแต่นิยายเท่านั้น ถึงใครจะว่าอย่างไรก็ตาม โปรดรู้ไว้ว่าพี่จิ๋มเสียสิทธิความก้าวหน้าในเรื่องเงินเดือน โบนัส และการเลื่อนตำแหน่ง แต่ยังมีสิ่งที่เธอเสียไปอีกคือ

ค่าชดเชย (กฎหมายแรงงาน มาตรา 118) เมื่อคุณลาออกจากงานโดนไม่มีความผิด

ทำงานครบ 120 วัน แต่ยังไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างสุดท้าย 30 วัน
ทำงานครบ 1 ปี แต่ยังไม่ครบ 3 ปี ได้ค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างสุดท้าย 90 วัน
ทำงานครบ 3 ปี แต่ยังไม่ครบ 6 ปี ได้ค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างสุดท้าย 180 วัน
ทำงานครบ 6 ปี แต่ยังไม่ครบ 10 ปี ได้ค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างสุดท้าย 240 วัน
ทำงานครบ 10 ปีขึ้นไป ได้ค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างสุดท้าย 300 วัน

* หากคุณลาออกแล้วเข้าใหม่ อายุงานเริ่มนับ 1 ใหม่ *

หนังสือกฏหมายแรงงาน LW 401 ศ.ดร.ธีระ ศรีธรรมรักษ์ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง


บังเอิญ ที่พี่จิ๋มลาออกจากที่ทำงานเก่าเมื่ออายุงาน 5ปีกว่า และที่ใหม่ 2ปีกว่า เท่านั้นเอง

บังเอิญ ตรงกับชีวิตคุณหรือคนรอบข้างคุณไหม?

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าคุณชอบบทความนี้ ช่วยอ่านบทความในเวปนี้ด้วยครับ มีลิงค์บทความให้อ่านอีกมากมาย http://scbbadth.tripod.com หรือ http://www.geocities.com/scb100yr หรือ http://board.dmisc.com/talktome เหมือนกันหมดครับ

--------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ผมว่างงาน ผมทำงานหรือใช้ชีวิตทำงานแบบปกติไม่ได้เพราะธนาคารไทยพาณิชย์ ผมเลยคิดว่าอยากเขียนบทความ เรื่องสั้น นิยาย นิทาน หากผู้ใดอ่านแล้วชื่นชอบแล้วอยากซื้อ เหมือนเราซื้อหนังสือ แต่เปลี่ยนจากหนังสือเป็นเว็บแทน ยินดีรับเงินจากผู้อ่านตามนี้ครับ หรือใครอยากอ่านเฉยๆไม่อยากให้เงิน ผมก็ยินดีเพราะของฟรีมีในโลกครับ ขอให้อ่านก็พอ

ขอยืนยันอีกครั้งว่านี้ไม่ใช่การบริจาคหรือขอเงินแต่เป็นการใช้สมองของผู้เขียนขายบทความทางเว็บเท่านั้น

แก้ไขเลขที่บัญชีใหม่
ธนาคาร ไทยธนาคาร
สาขา ย่อยจักรวรรดิ
เลขที่บัญชี 068-2-04705-4
ชื่อไทย นายนบณัฐพงศ์ สุริยาโรจน์
ชื่ออังกฤษ MR.NOBNUTPONG SURIYAROJ

ผมจะไม่ฆ่าตัวตายและชีวิตผมไม่ชอบแช่งใคร เพราะมีคนเคยสอนว่าไม่ดี แต่วันนี้ผมขอสาปแช่งว่า ผู้ใดที่กระทำให้ นายนบณัฐพงศ์ สุริยาโรจน์ เป็นผู้ที่ลำบากกายหรือลำบากใจอย่างปัจจุบันนี้ ในทางตรงหรือทางอ้อม หรือ เบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง โดยมีเจตนาหรือไม่มีเจตนาแต่รู้ตัวก็ตาม โดยไม่รับผิดชอบหรือวางเฉยและไม่บอกกล่าวให้นายนบณัฐพงศ์ สุริยาโรจน์ได้รับทราบตลอดไป ผมขอให้ผู้นั้นทั้งตระกูลพินาศและขอให้ธนาคารไทยพาณิชย์พินาศด้วยเช่นกัน


Posted by : เซบาสเตียน , Date : 2007-03-14 , Time : 18:35:03 , From IP : ppp-58.10.15.41.revi

ความคิดเห็นที่ : 1


   ขอเงินกันดื้อ ๆ เลยเหรอ มุขเดิมๆๆๆ อีกหรือ ? การสาปแช่งอาฆาตมันไม่ดีต่อสุขภาพสมองนะคร้าบบบ

ฟังความข้างเดียว!!! อยากให้คู่กรณีที่อ้างถึงได้มีโอกาสชี้แจงด้วย

เคยรับฟังปัญหาคล้ายนี้ แต่พอได้รับการชี้แจง ปรากฎว่าเป็นคนละเรื่องในเรื่องเดียวกัน เกือบเสียผู้เสียคนไปแล้วซิเรา


Posted by : หมูก๊องแก๊ง , Date : 2007-03-15 , Time : 08:53:12 , From IP : 172.29.1.99

ความคิดเห็นที่ : 2


   การเห็นใจคนอื่นโดยที่เราไม่ได้เสียอะไร (เชิงวัตถุ) นั่นล่ะ เราได้เต็มๆ!!! คิดต่อเอง........

Posted by : ยูริ , Date : 2007-03-15 , Time : 09:22:05 , From IP : 172.29.1.90

ความคิดเห็นที่ : 3


    ฟังความข้างเดียวหรือเปล่า เปิดหูเปิดตาบ้างก่อนจะแนะนำคนอื่น คิดซะก่อนที่จะแสดงเจตนาว่ากล่าว หรือแดกดันใคร คุณคห. 2

ถ้าเป็นเรื่องจริงที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ผมคงไม่ "Talkative only not acting" แน่นอน



Posted by : หมูก๊องแก๊ง , Date : 2007-03-15 , Time : 18:00:29 , From IP : 172.29.1.140

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<