ความคิดเห็นทั้งหมด : 0

คดีช็อคโลก..รักต้องห้ามของพี่น้องท้องเดียวกัน?!




   แพทริก ซูซาน และแนนซี่ ลูกสาวที่วันนี้อายุย่าง 3 ขวบ


เดลิเมล์ - แพทริกกับซูซานพบกันครั้งแรกเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เมื่อฝ่ายแรกตามหาแม่ผู้ให้กำเนิดและน้องสาวที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน

หากแอนนา มารี แม่ของสองพี่น้องยังอยู่ คงไม่อยากให้แพทริกสืบเสาะจนพบกำพืดเดิมของตัวเอง เพราะตลอด 7 ปีมานี้ พี่ชายกับน้องสาวกลับใช้ชีวิตเยี่ยงคู่รัก มีลูกด้วยกัน 4 คน โดย 2 คนพิการทางสมองและร่างกาย กระนั้น สองพี่น้องยังยืนกรานที่จะอยู่ด้วยกันไปแบบนี้

เรื่องนี้กลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่สองพี่น้องร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของเยอรมนี เพื่อให้ยกเลิกกฎหมายห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด

แม้ลูกสองคนของพวกเขาแทบเดินหรือพูดไม่ได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การพิการแต่กำเนิดของเด็กทั้งสองคนเป็นผลจากการมีพ่อแม่สายเลือดเดียวกัน

กระนั้น ในคดีนี้ที่จะมีผลสะท้านสะเทือนไปทั่วยุโรป สองพี่น้องกลับยืนกรานว่า พวกตนถูกจำกัดเสรีภาพในการมีเพศสัมพันธ์

ความที่กฎหมายดังกล่าวออกโดยรัฐบาลพรรคนาซี จึงเป็นเป้าหมายการโจมตีของพวกฝ่ายซ้ายที่เรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายเพื่อเห็นแก่เสรีภาพในการเลือกและการตัดสินใจในการมีเพศสัมพันธ์ ตราบที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

แต่คนจำนวนมากคัดค้านว่า การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสายเลือดเดียวกันสร้างความเดือดร้อนกับคนอื่นแน่ ตัวอย่างง่ายๆ คือเด็กที่เกิดจากความสัมพันธ์นั้น ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะพิการทางสมองและทางร่างกาย

ที่เยอรมนี เรื่องของแพทริกกับซูซานถือเป็นความผิดร้ายแรงทั้งด้านศีลธรรมและวิทยาศาสตร์

หนังสือพิมพ์เมืองเบียร์วิจารณ์ด้วยน้ำเสียงเยาะหยันว่า ‘คู่รักต้องห้ามในบ้านเกิด’ แต่สำหรับพี่น้องคู่นี้ยืนยันว่า พวกเขาหักห้ามใจไม่ได้จริงๆ

“เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนตอนเด็กๆ และเรามารักกันตอนโต เป็นความรักจริงๆ ซึ่งเราไม่สามารถต้านทานได้ เราต่างถูกดึงดูดเข้าหากัน จากนั้นธรรมชาติก็เข้ามาสานต่อ มันง่ายๆ แบบนี้ เราแค่ทำตามสัญชาติญาณและทำตามหัวใจตัวเอง” ซูซานบอก

เรื่องราวชีวิตของพี่น้องคู่นี้ไม่มีตอนไหนที่เรียกว่าแฮปปี้ได้เลย แพทริกเป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 8 คนของครอบครัวยากจนไร้การศึกษา พ่อที่ตอนนี้ตายไปแล้ว เคยเอามีดแทงแพทริกตอนอายุ 3 ขวบ เรื่องเข้าหูทางการและศาลตัดสินให้หาพ่อแม่บุญธรรมให้แพทริก ส่วนซูซานคลอดออกมาในวันที่พ่อแม่หย่ากัน

แม่ที่ติดบุหรี่ขนาดหนักและตกงาน ทิ้งซูซานอยู่บ้านตามลำพังบ่อยๆ หรือไม่ก็พะเน้าพะนอแฟนใหม่ต่อหน้าลูกสาวตัวน้อย ซูซานที่ถึงวันนี้เกือบเขียนหนังสือไม่เป็น จำได้ว่า แม่ไม่เคยรักเธอและเห็นเธอเป็นแค่ภาระที่จำใจต้องรับผิดชอบเท่านั้น

ส่วนพี่น้องอีก 6 คนที่เหลือนั้น บางคนพิการ หรือไม่ก็ตายตั้งแต่เล็กๆ พี่ชายคนเดียวที่ซูซานสนิทด้วยคือ อังเดร พิการและเสียชีวิตปีเดียวกับที่แม่ตาย

ตอนที่แพทริกอายุ 17 ปี เขาตัดสินใจตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง สี่ปีให้หลังเขาตามจนเจอแม่และน้องสาว และย้ายไปอยู่ด้วย น่าแปลกที่แม่ให้เขาอยู่ร่วมห้องกับซูซาน

“คืนนั้นเรานอนคุยกันเรื่องความหวังและความฝันจนดึก” เขาเล่า

หกเดือนต่อมา แอนนา มารีตายด้วยอาการหัวใจวาย นับจากนั้นซูซานพึ่งพิงพี่ชายมากขึ้น ไม่ยากเลยที่การฝากชีวิตไว้กับพี่ชายจะทำให้ซูซานสับสนและกลายเป็นความรักที่เธอโหยหาเมื่อขาดแม่ไป

“ความไว้ใจงอกเงยขึ้นเป็นความรักในอีกรูปแบบหนึ่งหลังจากแม่ตายไปครึ่งปี” ซูซานบอก

เมื่อประกอบกับระดับการศึกษา เรื่องนี้จึงยิ่งไม่น่าประหลาดใจ ซูซานเลิกเรียนเมื่ออายุ 15 ปีโดยไม่มีประกาศนียบัตรเป็นชิ้นเป็นอัน ผู้สื่อข่าวที่ไปทำข่าวเรื่องนี้เล่าว่า เธอพูดไปกัดเล็บไป และโต้ตอบด้วยภาษาง่ายๆ

ขณะเดียวกัน ความผูกพันพัฒนาขึ้นในใจแพทริกจากความต้องการได้รับความนับถือจากน้องสาว

“ผมกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวและต้องปกป้องน้องสาว เธออ่อนไหวมาก เราช่วยเหลือกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และในที่สุดความผูกพันก็พัฒนามาเป็นความสัมพันธ์ทางร่างกาย”

แม้เคยมีประสบการณ์กับหญิงอื่นมาแล้ว แต่แพทริกยืนยันว่า ไม่รู้ว่าการร่วมหลับนอนกับน้องสาวเป็นความผิดทางกฎหมาย และทั้งคู่ไม่ได้นึกถึงถุงยางอนามัย

“แม่คงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ แต่ตอนนี้มีแค่เราเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินชีวิตของเราเอง”

เดือนตุลาคม 2001 ซูซานให้กำเนิดลูกคนแรกเมื่ออายุ 16 ปี แต่อีริกที่ตอนนี้อายุ 5 ขวบและถูกรับไปอุปการะในพอตส์ดัม เดินไม่ได้และพูดไม่ชัด

ปี 2003 ซาราห์คลอดออกมาและพิการเหมือนพี่ชาย เธอถูกรับไปเลี้ยงเช่นเดียวกับแนนซี ที่วันนี้อายุย่าง 3 ขวบ และดูเหมือนสมบูรณ์ดี ขณะที่โซเฟียที่ขณะนี้อายุ 2 ขวบ เกิดขณะที่แพทริกติดคุก

ภายใต้ระบบสวัสดิการสังคมของเยอรมนี ซูซานพยายามปิดบังการตั้งครรภ์ด้วยการสวมชุดหลวมโพรก เธอคลอดลูกเองในห้องน้ำ ในที่สุดแพทริกก็ไปทำหมันเพราะเชื่อว่า ถ้าไม่มีลูกกับน้องสาวอีกก็คงไม่ต้องติดคุก ทั้งคู่ยังไม่ยอมรับว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกพิการ

“ลูกสองคนของเราพิการ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผมกับซูซานเป็นพี่น้องกัน ครอบครัวเรามีพี่น้องพิการ 6 คน”

ปี 2002 ทั้งคู่ถูกพิจารณาคดีข้อหามีความสัมพันธ์กันเกินเลยความเป็นพี่น้อง ศาลชั้นต้นในเลปซิกตัดสินว่าแพทริกมีความผิดและให้รอลงอาญาหนึ่งปี ส่วนซูซานที่ขณะนั้นอายุ 17 ปี จึงถือเป็นเยาวชนและถูกตัดสินให้อยู่ในการดูแลของหน่วยงานบริการเยาวชน

แต่หลังจากมีลูกด้วยกันสองคน ในที่สุด ศาลตัดสินจำคุกแพทริก 10 เดือน ปี 2005 ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันอีกสองคน และแพทริกถูกจำคุกในความผิดเดิมอีก 2 ปีครึ่ง

เมื่อพี่ชายถูกส่งเข้าเรือนจำ ซูซานให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ด้วยน้ำตานองหน้าว่า เธออยู่โดยขาดเขาไม่ได้ ขณะที่แพทริกขู่ฆ่าตัวตาย กระนั้น ระหว่างที่พี่ชายอยู่ในคุก น้องสาวกลับให้กำเนิดทารกคนที่ 5 กับชายอื่น

แต่เมื่อแพทริกได้รับการปล่อยตัว ซูซานให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจที่ได้พี่ชายกลับมาอีกครั้ง ขณะที่แพทริกพูดใส่กล้องทีวีว่า ตนทำดีแล้วและจะอยู่เคียงข้างซูซานและลูกๆ

ทั้งคู่กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่แพทริกยังมีคดีรออยู่ซึ่งอาจทำให้เขาต้องสูญเสียอิสรภาพอีก 1 ปี 5 เดือน และหากเขายังกลับมาอยู่กินอย่างเปิดเผยกับน้องสาว แพทริกคงหนีไม่พ้นต้องวนเวียนกลับเข้าคุกแบบนี้ตลอดชีวิต นอกจากเขาจะสามารถล้มล้างกฎหมายได้

“เราท้าทายกฎหมายเพราะไม่อยากแยกจากกันอีก” เขาให้สัมภาษณ์ในแฟลตขนาดสองห้องนอนที่อยู่กับซูซานและลูกคนสุดท้องของน้องสาว กับสุนัขอีกตัว

ทั้งคู่บอกว่า ถ้าไม่ถูกพรากลูกคนแรกไป พวกเขาคงไม่มีลูกเป็นโขยงอย่างนี้ สองพี่น้องยังบอกว่าอยากให้ซาราห์ ลูกสาวคนโต กลับมาอยู่ด้วย แต่ยินดีที่ลูกคนอื่นๆ มีคนรับอุปการะไป

“มันอาจมากเกินไป เราไม่มีห้องพอ เพราะเราอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกๆ” ซูซานบอก

แพทริกยอมรับว่า ทำหมันเพราะคิดว่าจะทำให้เขาอยู่กับน้องสาวได้โดยไม่ถูกจับอีก

“ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะเอาผมเข้าคุกอีกแล้ว ผมไม่อยากติดคุกอีก ผมรู้ว่าเราไม่มีวันเต็มใจที่จะถูกพรากจากกัน ถ้าใครสงสัยในความรักของเรา ก็ขอให้คอยดูกันต่อไปว่าเราจะไม่มีทางพรากจากกัน”

คงมีน้อยคนที่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของแพทริก แต่ในความเป็นจริงกฎหมายห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนสายเลือดเดียวกันเป็นข้อห้ามด้านเพศสัมพันธ์ในทางกฎหมายที่เหลืออยู่ไม่กี่ข้อเท่านั้น และในยุโรปเองก็มีความเห็นแตกต่างในเรื่องนี้ กฎหมายดังกล่าวของฝรั่งเศสถูกยกเลิกในปี 1810 โดยนโปเลียน เช่นเดียวกับในเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก โปรตุเกส และตุรกี ตรงข้ามกับอังกฤษที่ขยายผลกฎหมายนี้ในปี 2002 ให้ครอบคลุมการห้ามการหลับนอนระหว่างพ่อ-แม่กับลูกเลี้ยง หรือบุตรบุญธรรม

กรณีของแพทริกและซูซานอาจกระตุ้นให้สังคมสนับสนุนให้คงกฎหมายนี้ไว้ต่อไป และเกือบเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ในอีกราว 5 สัปดาห์ ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีจะตัดสินยืนกรานตามกฎหมายห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนสายเลือดเดียวกัน และส่งตัวแพทริกกลับเข้าคุก

ความเป็นไปได้ดังกล่าวทำให้ซูซานแทบคลั่ง “เราอยากเอาลูกกลับมาเลี้ยงและอยู่กันอย่างครอบครัวจริงๆ เรารักกัน เท่านี้ยังไม่พออีกหรือ?”


Posted by : manager , Date : 2007-03-06 , Time : 10:33:11 , From IP : 172.29.2.173

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<