ระวังหนอนในสเต็ก
โวยกินสเต๊กร้านดังอ้วก!หนอนไต่ยั้วเยี้ยท้องเสียเข้ารพ.เรียกชดเชย2ล.
"กินสเต๊กร้านดัง เจอหนอนถึงเข้า รพ."
แม่ นศ.รามฯ เปิดแถลงข่าวโวยกินสเต๊กร้านชื่อดัง นำหมูมีหนอนให้ลูกสาวรับประทานจนท้องเสียและอาเจียน แพทย์ระบุอาหารเป็นพิษ เผยไม่คิดฟ้องค่าเสียหาย 2 ล้านบาท แต่โมโหเงินที่ตกลงกันแค่ 25,000บาท ไม่ยอมจ่ายตามเวลาที่กำหนด จึงต้องเป็นคดีตัวอย่างฐานไม่รับผิดชอบ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมเจบี หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นางวราภรณ์ นุ่มแก้ว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/38 หมู่ 2 ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มารดาของ น.ส.กษิตินาถ นุ่มแก้ว อายุ 23 ปี บุตรสาว และ น.ส.พิชญา ประทุมวัลย์ อายุ 20 ปี เพื่อนของบุตรสาว เปิดแถลงข่าวว่า หลัง น.ส.กษิตินาถ และ น.ส.พิชญา ซึ่งทั้งคู่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้นัดกันไปรับประทานสเต๊กชื่อดัง ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ ในวันวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ปรากฏว่า ขณะทั้งสองกำลังนั่งกินสเต๊กอยู่ภายในร้านดังกล่าวด้วยความอร่อย และเชื่อถือในชื่อเสียงของร้านดังกล่าวว่าปรุงอาหารรสเด็ดและเป็นที่น่าเชื่อถือของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่ขณะกำลังกินสเต๊กหมูด้วยอยู่นั้น น.ส.กษิตินาถ ก็เหลือบไปเห็นตัวหนอนกำลังไต่ยั้วเยี้ยบนสเต๊กจานดังกล่าวกว่าร้อยตัว จนถึงกับช็อกและอาเจียนสเต๊กหมูออกมา ทำให้พนักงานต้องรีบมาเก็บจาน และยืนยันว่าจะรับผิดชอบต่อลูกค้า รวมถึงไม่เก็บเงินค่าสเต๊กหมูแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อสองนักศึกษากลับถึงที่พักก็ท้องเสียอย่างรุนแรง จนถูกหามส่งโรงพยาบาลศิครินทร์ หาดใหญ่ ต่อมาแพทย์ได้ออกใบรับรองแพทย์ให้ โดย น.พ.ชัยกฤษ์ ศรีประพันธ์ ได้ตรวจร่างกาย น.ส.กษิตินาถ พบว่า ป่วยเป็นโรคท้องเสียเฉียบพลันจากอาหารเป็นพิษ
ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น
"ร้านชื่อดัง ระบุ เหตุเกิดที่ซัพพลายเออร์"
นางวราภรณ์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ติดต่อไปยัง นางสุภาวดี แก้วแสน ผู้จัดการร้านชื่อดังสาขาหาดใหญ่ พร้อมบันทึกการสนทนาไว้ในโทรศัพท์และแจกจ่ายให้แก่ผู้สื่อข่าวด้วย โดยการสนทนาดังกล่าวเมื่อมีการสอบถามถึงเรื่องหนอนในสเต๊ก ผู้จัดการร้านระบุว่า ขณะนี้ทางร้านได้ส่งตัวอย่างเนื้อหมูดังกล่าวไปให้บริษัทบางกอกมีท ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ที่ส่งเนื้อให้ทางร้านแล้ว หาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร และทางร้านก็ได้หยุดจำหน่ายเมนูดังกล่าวทันที
สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดขึ้นตอนที่ทางซัพพลายเออร์เขาหั่นเนื้อเป็นชิ้นๆ แล้วเหมือนกับมีแมลงวันเข้าไปหยอดไข่แล้วมันมาฟักตัวที่นี่ แต่เนื้อยังไม่หมดอายุ เพราะถ้าหมดอายุมันจะเน่า มีกลิ่นเหม็น แต่ที่เกิดเนื้อมันไม่เน่า ไม่มีกลิ่นเหม็น เคสที่เจอชัดเจนอยู่แล้ว เราถ่ายรูปไว้ พร้อมส่งสินค้าไปให้ทางกรุงเทพฯ ตรวจสอบ เพราะตัวนี้เราไม่ได้ผลิตเอง ตอนนี้ 30 สาขา ยกเลิกขายเมนูนี้หมด ผู้จัดการร้านชื่อดัง ระบุ
นางวราภรณ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นร้านได้ส่งตัวแทนซึ่งเป็นบริษัทประกันของร้านมาเยี่ยมผู้ป่วย และพุดคุยกับผู้เสียหาย พร้อมยืนยันว่า จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายที่ผู้เสียหายเรียกร้อง กระทั่งวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ตัวแทนของร้านก็มาที่โรงพยาบาลเพื่อเจรจาค่าเสียหายอีกครั้ง โดยตัวแทนระบุว่า จะจ่ายเงินให้ น.ส.กษิตินาถ ซึ่งเจ็บป่วยรุนแรง ในวงเงิน 1.5 หมื่นบาท ส่วน น.ส.พิชญา จ่ายให้ 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของค่ารักษาพยาบาลและค่าความเสียหายจากการขาดรายได้ ส่วนความรับผิดชอบอื่นๆ ต้องให้ทางร้านรับผิดชอบเอง
วันนั้นเรามีกำหนดจะออกจากโรงพยาบาลช่วงเวลา 13.00 น. แต่โรงพยาบาลไม่อนุญาต เพราะบริษัทประกันของร้านยังไม่ได้มาติดต่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล ต้องรอจนถึงเวลา 17.00 น.เขาถึงจะมาจ่าย และเด็กได้ออกจากโรงพยาบาล เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทางร้านไม่มีเจตนาจะแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงจัง เมื่อโทรไปสอบถามก็พยายามบ่ายเบี่ยงอยู่ตลอด รอจนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์แล้ว
ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น
"เรียกร้อง คนละ 1 ล้าน"
แต่ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ ออกมารับผิดชอบเพียงแค่ 25,000 บาท ในฐานะคนไทยคนหนึ่งและแม่คนหนึ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องนี้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้ นางวราภรณ์ กล่าวและว่า เดิมทีไม่ได้มีเจตนาทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่พฤติกรรมของร้านที่ผ่านมาแสดงชัดเจนว่าเป็นการปัดความรับผิดชอบ จึงต้องมาเรียกร้องค่าเสียหายทั้งสองคนอีกครั้ง เป็นเงินคนละ 1 ล้านบาท และจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่ดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคด้วย
ด้านนายพงศ์นิมิตร แก้วแดง ทนายความของผู้เสียหาย ระบุว่า กรณีดังกล่าวผู้เสียหายสามารถยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายได้ ซึ่งก็แล้วแต่ศาลว่าจะมีดุลพินิจ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของค่าเสียหายที่ผู้เสียหายจะได้รับ ส่วนด้านความผิดนั้นทางร้านเองก็ยอมรับในเบื้องต้นว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจริง ก็ต้องมาคอยดูว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร หลังจากที่ผู้เสียหายร้องเรียนต่อสื่อมวลชนแบบนี้
กรณีแบบนี้หากเป็นที่ต่างประเทศ การฟ้องร้องทางกฎหมายและหากพบว่ามีความผิดจริง จะส่งผลให้บริษัทต้องชดใช้ค่าสินไหมให้แก่ผู้ฟ้อง รวมทั้งต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นอีกจำนวนมาก เพื่อตอกย้ำให้ผู้ให้บริการให้ความสำคัญกับผู้บริโภค แต่กฎหมายบ้านเราอาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งเรื่องนี้ยังมีเวลาถึง 1 ปี ว่าผู้เสียหายจะยื่นฟ้องหรือไม่ฟ้อง นายพงศ์นิมิต กล่าว
ขณะที่ นายสุเทพ วัชรปิยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องและรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร แต่หากมีผลกระทบกับผู้บริโภคก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้
"ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะยังไม่รู้ว่า หนอนที่เจอเป็นหนอนที่อยู่ในผัก หรือในอะไร ถ้าอยู่ในผักก็อาจจะเป็นไปได้ ก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ตอนนี้เราพูดอะไรไม่ได้เพราะยังไม่ได้พิสูจน์" นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงข่าวแล้ว ทางผู้เสียหายก็เดินขบวนและนำป้ายผ้าระบุข้อความการไม่ได้รับความเป็นธรรมต่างๆ จากร้านดังกล่าว พร้อมนำใบปลิวไปแจกจ่ายที่บริเวณหน้าห้างลีการ์เดนส์ พลาซ่า เพื่อกดดันให้ทางร้านแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าวด้วย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวสารที่มีคุณภาพ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
Posted by : คนชอบกินสเต็ก , Date : 2007-02-26 , Time : 10:04:01 , From IP : 172.29.4.99
|
