ความคิดเห็นทั้งหมด : 0

เตือนภัยทุกคนครับ " หญิงขับรถพึงระวัง! 5 วิธีรู้ทันโจรปล้นทรัพย์ "


   หญิงขับรถพึงระวัง! 5 วิธีรู้ทันโจรปล้นทรัพย์

คุณผู้หญิงที่ขับรถจะรู้ได้อย่างไรว่า พลเมืองดีที่อาสาช่วยเหลือยามเกิดเหตุคับขัน เป็นคนดีจริงหรือไม่ วันนี้เราจะพาไปกระชากหน้ากากมิจฉาชีพในคราบนักบุญ กับ 5 วิธีรู้ทันโจรปล้นทรัพย์

จะเป็นอย่างไรหากนักบุญในคราบพลเมืองดี จะมีเบื้องหลังเป็นซาตาน ที่มีฉากหน้าสวยงาม คอยเกื้อกูลให้ความช่วยเหลือหญิงสาว ยามเกิดเหตุคับขันขึ้นกับรถยนต์ของเธอด้วยความเอื้ออารี ในยามที่ปราศจากร่างเงาของใครอื่น ที่พอจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ได้

เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ "มนัญชญา ชูใจ" แม่ค้าเปิดท้ายขายของตามตลาดนัด วัย 39 ปี !?!

5 ทุ่มครึ่ง วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 ระหว่างที่มนัญชญาขับรถยนต์กลับบ้าน "เกียรติศักดิ์ ส้มอ่ำ" ที่มีชื่อเล่นสุดแสนหวานหูตรงกันข้ามกับพฤติกรรมว่า "จอย" ในวัย 21 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาห่างๆ รอจนสบโอกาสพุ่งชนท้ายเข้าอย่างจัง

ด้วยความตกใจและหวังจะให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ มนัญชญาจอดรถลงมาสอบถามอาการบาดเจ็บ เปิดโอกาสให้ "สำราน สุไลมาน" ที่เพื่อนๆ เรียกว่า "ดุล" วัย 28 ปี ก้าวออกมาจากมุมมืดตรงเข้าหาหญิงสาว ก่อนจะใช้มีดปลายแหลมจี้คอบังคับให้กลับขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังรถยนต์ ใช้เทปพันสายไฟปิดปาก มัดมือ มัดเท้า แล้วขู่บังคับให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม เหตุเกิดในพื้นที่ สน.เตาปูน

เท่านั้นยังไม่พอ หนึ่งจอมมารยากับอีกหนึ่งจอมวางแผน ช่วยกันรื้อค้นทรัพย์สินในรถและในตัวแม่ค้าสาว หลังจากนั้นจึงนำตัวขึ้นรถมุ่งหน้าไปสวนผลไม้ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี มัดตัวไว้กับต้นไม้ นานพอควรกว่าจะได้รับการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ก็สะบักสะบอม

แม้ว่าต่อมาอีกไม่กี่วันตำรวจ สน.เตาปูน จะสามารถติดตามตัวสองผู้ต้องหาได้ และดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะ ตลอดจนกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นปราศจากอิสรภาพ แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดเหตุลักษณะนี้กับผู้หญิงรายอื่นๆ อีก ด้วยมิจฉาชีพที่มีพฤติกรรมใกล้เคียงกันนี้มีอยู่หลายกลุ่ม ผู้เสียหายบางคนก็ไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากเกิดความละอายและเกรงจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ปล่อยให้คนร้ายลอยนวลก่อเหตุอยู่ร่ำไป

เหมือนกับ "ภัคจิรา" สาวสวยในแวดวงไฮโซ จัดอยู่ในจำพวกที่สอง ในวัย 31 ปี และมีชื่อเสียงในวงสังคม เธอปฏิเสธที่จะไปชี้ตัวผู้ต้องหาหลังถูกตำรวจจับกุม และพบหลักฐานเป็นบัตรส่วนลดของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งของเธอ โดยมีเหตุผลสั้นๆ ว่า "กลัวเสียชื่อเสียง"

หลายเดือนก่อน ระหว่างที่ภัคจิราขับรถยนต์หรูออกจากห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี มีชายแปลกหน้าสองคนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ คนซ้อนท้ายชี้มือชี้ไม้ไปที่หลังรถ พยายามจะสื่อสารบางอย่างกับเธอ แรกๆ เธอเข้าใจว่าเขาทั้งสองพยายามเตือนให้รู้ตัวว่า ยางรถแบน? เวลาผ่านไปทั้งสองก็ยังไม่ละความพยายาม ขี่รถตามประกบอยู่นานและทำกิริยาท่าทางเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ด้วยความสงสัย ภัคจิราจึงจอดรถยนต์แล้วเปิดกระจกถาม "มีอะไรหรือ?"

นอกจากคำตอบที่ได้รับว่า "ป้ายทะเบียนท้ายกำลังจะหลุด" แล้ว คนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เอื้อมมือมาเปิดประตูหลังกระโดดขึ้นมาบนรถ ใช้มีดปลายแหลมข่มขู่ให้ส่งของมีค่ามาให้หมด !!!

ทั้งๆ ที่เป็นเวลากลางวันแสกๆ แต่มิจฉาชีพทั้งสองยังลงมืออย่างชนิดที่เรียกว่ากล้าดีเดือด วันนั้นสาวไฮไซสูญเงินและทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท

"ตอนนั้นทั้งกลัว ทั้งตกใจ ทั้งๆ ที่เป็นตอนกลางวันแท้ๆ เขายังกล้า พอมานั่งคิดอีกทีก็ยังดีที่ไม่ถูกทำอันตรายไปมากกว่านี้ เพราะเราเองก็ลืมล็อกประตูรถ ทำให้คนร้ายเข้ามาได้" ภัคจิรา พูดปลงๆ

5 เดือนต่อมา ตำรวจก็ตามจับมิจฉาชีพในคราบนักบุญรายนี้ได้ ตรวจค้นในบ้านพบหลักฐานหลายอย่าง ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้เสียหายล้วนแต่เป็นผู้หญิงแทบทั้งสิ้น

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) แนะวิธีรู้ทันโจรที่มีพฤติกรรมประทุษร้ายต่อทรัพย์สุภาพสตรีขณะขับขี่ยวดยานพาหนะตามลำพัง ส่วนใหญ่มีอยู่ 5 วิธีหลักๆ

วิธีแรก ที่มิจฉาชีพนิยมใช้มากที่สุด คือ การขับรถชนเหยื่อ เมื่อผู้เสียหายลงมาดูก็ลงมือจี้ชิงทรัพย์

วิธีที่สอง ขี่จักรยานยนต์ตามประกบ ชี้ไปที่รถยนต์ของเหยื่อ ทำให้เข้าใจว่ายางแบน ป้ายหลุด ไฟเบรกเสีย

วิธีที่สาม ขับรถตามเหยื่อรอจนจอดทำธุระ ใช้เรือใบหรือตะปูวางดัก เมื่อเหยื่อขับรถออกไปก็ขับตามอีกรอบ รอจนเหยื่อลงมาดูก็ทำทีเป็นพลเมืองดียื่นมือช่วยเหลือแล้วลงมือชิงทรัพย์

วิธีที่สี่ ใช้กุญแจผีไขประตูหรืองัดฝากระโปรงรถยนต์ ดึงหัวเทียนบางตัวออก แล้วขับรถตามรอเหยื่อลงมาดูอาการรถที่เครื่องเดินไม่เรียบ ทำตัวเป็นช่างยนต์ช่วยเหลือ และลงมือชิงทรัพย์

วิธีที่ห้า ขับรถปาดหน้าให้เฉี่ยวชนแล้วลงมาเจรจาจึงลงมือชิงทรัพย์

นี่เป็น 5 วิธีที่มิจฉาชีพนิยมใช้มากที่สุด !!!

เมื่อรู้วิถีโจรแล้วก็ต้องรู้วิธีป้องกัน พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 ย้ำให้สุภาพสตรีตระหนักว่า เวลาขับรถต้องล็อกประตูทุกครั้ง หากเกิดอุบัติเหตุหรือคิดว่าตกอยู่ในอันตราย อย่าลงจากรถเป็นอันขาด ให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที แจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุตรงจุดไหน หรือรถเสียบริเวณไหน

ที่สำคัญอย่าลงจากรถในที่เปลี่ยว !!!

แต่ถ้าถูกประทุษร้ายแล้วอย่าตกใจ ให้จดจำตำหนิรูปพรรณคนร้ายเอาไว้ให้ได้มากที่สุด แล้วร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจทันทีที่คนร้ายหนีไป

แม้ในสังคมจะมีซาตานในคราบนักบุญมากมาย แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลให้ทุกคนต้องละเว้นจากการทำความดี เป็นคนไร้ซึ่งน้ำใจ เพื่อสังคมจะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้น


จาก นสพ.คม ชัด ลึก
วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550




Posted by : JR , Date : 2007-02-23 , Time : 10:43:58 , From IP : 172.29.1.168

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.003 seconds. <<<<<