ความคิดเห็นทั้งหมด : 9

ผลการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2549 สอ.มอ.


   การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2549 ของ สอ.มอ. เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ก.พ. 50 ผ่านไปด้วยดี โดยมีผลการประชุมสรุปดังนี้
การจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี ที่ประชุม อนุมัติจ่ายปันผล 6.5% จ่ายเฉลี่ยคืน 7% และให้ตัดโบนัสกรรมการ 200,000.-บาท ตัดโบนัสเจ้าหน้าที่ 374,217.50 บาท รวมเป็นเงิน 574,217.50 บาท และให้นำไปเพิ่มเป็นเงินทุนสำรอง เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบของกรรมการและเจ้าหน้าที่กรณีมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญประจำปี 2549
อนุมัติแผนงานและงบประมาณประจำปี 2550 ดังนี้
เป้าหมาย ปี 2550 มีกำไร 143 ล้านบาท ปันผล 6% เฉลี่ยคืน 7%
โดยมีการเพิ่มงบประมาณรายจ่าย 2 รายการ คือ
1. ค่าของที่ระลึกปีใหม่สมาชิก 2,400,000.-บาท
2. ค่าใช้จ่ายของศูนย์ประสานงานผู้แทนสมาชิก จาก 100,000.-บาท เพิ่มเป็น 200,000.-บาท
- ตัดโครงการตั้งสถานีวิทยุชุมชน 500,000.- บาท และเปลี่ยนเป็นการซื้อเวลาจากสถานีวิทยุตามโครงการเดิม 150,000.-บาท แทน

ขอเชิญสมาชิกรับปันผลได้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. 2550 สำหรับสมาชิกวิทยาเขตหาดใหญ่ ระหว่างวันที่ 12-13 ก.พ.50 ให้ติดต่อขอรับเงินปันผลได้ที่ สอ.มอ.สำนักงานใหญ่ (ลานจอดรถใต้อาคาร สอ.มอ.)
พิเศษสุดสำหรับสมาชิกที่มีค่าหุ้นยังไม่ถึง 500,000.-บาท สามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้เป็นกรณีพิเศษ แต่เมื่อรวมกับหุ้นเดิมแล้วต้องไม่เกิน 500,000.- บาท
ก็ขอเชิญชวนสมาชิกที่รับปันผลในเดือนนี้อย่าลืมออมเงินโดยการซื้อหุ้นเพิ่มกับ สอ.มอ. ด้วยนะครับ ปี 2550 ตั้งเป้าจ่ายปันผลไว้ 6% ครับ


Posted by : ผลการประชุมใหญ่ , E-mail : (lee.thanaseth@gmail.com) ,
Date : 2007-02-12 , Time : 11:14:47 , From IP : 192.168.46.30


ความคิดเห็นที่ : 1


   ขอแก้ไขตัวเลขของที่ระลึกปีใหม่สมาชิกครับ จาก 2,400,000.-บาท เป็น 3,200,000.-บาท (8000x400)

Posted by : ขอแก้ไข , Date : 2007-02-12 , Time : 11:28:55 , From IP : 192.168.46.30

ความคิดเห็นที่ : 2


   บริหารกันยังไง ปันผลลดลงทุกปี

Posted by : สมาชิก , Date : 2007-02-12 , Time : 11:35:44 , From IP : 192.168.49.18

ความคิดเห็นที่ : 3


   เวรกรรมแท้ กรรมการ ทำไมปันผลลดเอาๆ แล้วมาประกาศระดมหุ้นทำไมวะ.

Posted by : **** , E-mail : (-) ,
Date : 2007-02-12 , Time : 12:15:06 , From IP : 172.29.10.228


ความคิดเห็นที่ : 4


   ไอ้คนที่มันกู้ไปแล้วจะไม่คืนนะทำไมไม่หักเงินเดือนจากกองคลังชดใช้หนี้สหกรณ์
แล้วมันคือใครในคณะทันตะได้ข่าวว่าเป็นถึงรองคณบดีด้วยอยากรู้จัก


Posted by : สมาชิกเจ้าของเงิน , Date : 2007-02-12 , Time : 12:59:05 , From IP : 172.29.2.105

ความคิดเห็นที่ : 5


   เห็นด้วยที่ว่าบริหารกันแล้วเงินปันผลลดทุกปี ถ้าเป็นยังงี้ต่อผมว่าเอาเงินไปฝากธนาคารดีกว่าไหมครับดอกเบี้ยเงินฝากเค้าก็เพิ่มกันแล้ว แถมถอนออกใช้ได้ด้วยยามจำเป็น ไม่ต้องเสียเวลากู้ เบื่อจริงๆ แล้วผมจะซื้อหุ้นเพิ่มไปทำไม ไม่ต้องมาชวนเลย

Posted by : Dr.K , Date : 2007-02-13 , Time : 04:02:26 , From IP : 202.28.181.9

ความคิดเห็นที่ : 6


   ผมฝากแบ้งค์แบบประจำ3เดือนกินดอกสบายๆ 3เท่าเลย

Posted by : นายแบงค์ , Date : 2007-02-13 , Time : 16:13:50 , From IP : 172.29.2.173

ความคิดเห็นที่ : 7


   ยินดีกับ "นายแบงค์" ที่นอนกินดอกเบี้ยจากการนำเงินไปฝากประจำธนาคาร แต่ช่วยบอกด้วยว่าต้องเสียภาษีเงินได้เท่าไร เหลือที่รับเป็นดอกเบี้ยสุทธิเท่าไหร่ ขณะนี้ดอกเบี้ยขาลงนะครับ สภาพการเมืองก็ไม่นิ่ง สภาวะเศรษฐกิจมีแต่ทรงกับทรุด ดรรชนีหุ้นเป็นอย่างไรใครๆ ก็รู้ ลองเข้า web ดูงบดุล งบกำไรขาดทุนของแต่ละธนาคารดูว่าสัดส่วนกำไรเขาได้เพิ่มหรือลดลงกันแน่ แล้วอย่าลืมดูการจ่ายผลตอบแทนต่อหุ้นด้วยครับว่าผู้ถือหุ้นได้คนละกี่สตางค์ หรือในแวดวงสหกรณ์ ลองวิเคราะห์ดูว่าทำไมสหกรณ์ใหญ่เช่น สอ.จุฬาฯ, สอ.เกษตร, สอ.มช. และ สอ.มข. ล้วนแล้วแต่เป็น สอ.ใหญ่กว่าเรา กลับจ่ายเงินปันผลปีนี้น้อยกว่าสหกรณ์ของเรา (อยู่ที่ 5% - 6%)

หากถามว่า(กรรมการ)สหกรณ์จะสามารถจ่ายเงินปันผลสูงๆ เช่นในอดีตจะได้หรือไม่ ก็ตอบว่าได้ และง่ายนิดเดียว คือ ขึ้นดอกเบี้ยเงินให้กู้กับสมาชิกให้สูงๆเข้าไว้ เช่นเดียวกับสหกรณ์ครูหรือตำรวจ ที่กู้เงินจากสหกรณ์เราไปปล่อยให้สมาชิกกู้อีกต่อหนึ่ง แต่สหกรณ์ มอ.ไม่ทำ เพราะจะเป็นการซ้ำเติมสมาชิก

หากถามว่ากำไรที่นำมาจัดสรรเป็นเงินปันผลและกันสำรองในกองทุนต่างๆ รวมทั้งจ่ายเงินโบนัสให้กับกรรมการและจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงิน นั้น ได้มาจากดอกผลจากการให้สมาชิกกู้ใช่หรือไม่ ตอบว่าไม่ใช่ เพราะสัดส่วนเฉพาะรายได้ที่เกิดจากดอกเบี้ยรับได้จากให้สหกรณ์อื่นกู้มากกว่าในสัดส่วน 55%-60% และที่มาของรายได้อื่นเกิดจากการโยกเงินไปซื้อตั๋วของสถาบันการเงินอื่นที่ต้องการระดมเงินฝาก ตั๋วที่ซื้อแล้วก้ไม่ใช่นอนกอดรอกินดอกเบี้ย กรรมการต้องนำไปต่อเงินอีกโดยการนำไปค้ำประกันกับธนาคารเพื่อนำเงินมาปล่อยให้กับสหกรณ์อื่นกู้หรือซื้อต๋วสัญญาใช้เงินของธนาคารอื่น แม้ผลต่างดอกเบี้ยจะได้ไม่มากแต่จะสะสมเพิ่มเป็นรายได้ นี่เป็นวิธีการหารายได้ที่เสี่ยงน้อยที่สุด

หากกรรมการชุดใดมุ่งจะทำกำไรสูงๆ ก็นำเงินไปเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ดวงดีได้ ดวงร้ายเสีย ซึ่งจะเกิดความเสี่ยงขาดทุนสูง

ทำไมเมื่อก่อนเมื่อก่อนเงินปันผลสูง 10-13% แต่ทำไมเดี่ยวนี้กลับเหลือ 6.5-7% นอกจากเกิดจากปัจจัยภายนอกแล้วยังเกิดจากสัดส่วน-จำนวนหุ้นที่แตกต่างกัน ปัจจุบันจำนวนหุ้นสูงมาก ยิ่งหุ้นมากเท่าใดก็มีต้นทุนมากเท่านั้น ซึ่งจะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก จึงเกิดกรณีสมาชิกส่วนหนึ่งกู้เงินเพื่อมาซื้อหุ้นเพิ่มในช่วงที่สหกรณ์เปิดให้ระดมหุ้น

ในเมื่อหุ้นมีต้นทุนบริหารสูงแล้วทำไมสหกรณ์จึงต้องระดมหุ้นอีก ตอบได้ว่านอกจากหาเงินนำไปลงทุนเพื่อหารายได้เพิ่มแล้ว ก็เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับสหกรณ์ ซึ่งมีหลักการ/ตัวชี้วัดทางบัญชี(จากบางสำนัก) ว่า กิจการสหกรณ์จะมั่นคงเมื่อมีสัดส่วนของหุ้น(ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการ) กับเงินรับฝาก ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 จึงเป็นเหตุผลที่สหกรณ์ต้องเพิ่มหุ้นนอกจากหักค่าหุ้นรายเดือน

สหกรณ์จะมีโอกาสล้มหรือไม่ สหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศน้อย-ใหญ่ร่วม 2,000 แห่ง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีสหกรณ์ใดล้ม ไม่ว่าสหกรณ์นั้นจะหักเงิน ณ ที่จ่ายหรือไม่ก็ตาม หากสมมุติว่ามีสมาชิกรวมตัวกันถอนเงินออกในปริมาณมาก ซึ่งแน่นอนสหกรณ์มีเงินสดในแต่ละวันไม่มาก แต่สามารถ O.D.จากธนาคารได้ตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ และนอกจากนั้นชุมนุนสหกรณ์แห่งประเทศไทยและสหกรณ์พันธมิตรจะโอนเงินมาช่วย โอกาสที่สหกรณ์ มอ.จะถึงวาระสุดท้ายมีน้อยมากๆ ยกเว้นราชการไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนให้สมาชิก







Posted by : Mr.S , Date : 2007-02-17 , Time : 18:37:56 , From IP : 172.29.1.104

ความคิดเห็นที่ : 8


   ใครอธิบายได้บ้างว่าตามที่กองคลังมีหนังสือขอยกเลิกการจ่ายเงินเดือนผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ เงินจะไหลออกจากสหกรณ์มากแค่ไหน จะกระทบต่อฐานะทางการเงินของสหกรณ์ หรือไม่ ใครรู้ช่วยบอกหน่อย



Posted by : สมาชิก , Date : 2007-02-17 , Time : 23:09:09 , From IP : 172.29.1.104

ความคิดเห็นที่ : 9


   กรณีคำถาม กองคลังมีหนังสือยกเลิกการจ่ายเงินเดือนผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์
เงินจะไหลออกหรือไม่ จะกระทบฐานะการเงินของสหกรณ์หรือไม่ ขอชี้แจงว่า
กองคลังต้องดำเนินการตามกรมบัญชีกลางที่มีนโยบายจ่ายเงินเดือนข้าราชการและลูกจ้างพนักงานผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร เป็นภาคบังคับที่ทุกคนต้องเปิดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารเพื่อโอนเงินเดือนไปเข้าธนาคาร
ถามว่ากระทบ สอ.มอ. หรือไม่ ตอบว่าไม่กระทบ เพราะว่ากองคลังยังคงดำเนินการหักหุ้นหนี้ของสมาชิก สอ.มอ.ทุกคนให้ สอ.มอ.ก่อน เงินส่วนที่เหลือจึงจะโอนฝากเข้าบัญชีของธนาคารที่สมาชิกระบุไว้
ส่วนเงินเดือนที่สมาชิกเคยโอนเข้ามาฝากในบัญชีของ สอ.มอ. ก็ยังคงสามารถโอนมาฝากกับ สอ.มอ. ได้เหมือนเดิม โดยกรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์โอนเงินเดือนเข้าบัญชีเงินฝากของสมาชิกใน สอ.มอ. เหมือนเดิม โดย สอ.มอ. ได้ส่งแบบฟอร์มการโอนเงินเดือนไปให้สมาชิกทุกคนแล้ว ใครประสงค์จะโอนเงินเดือนเข้าบัญชีเงินฝากใน สอ.มอ. ก็สามารถแจ้งความประสงค์ในแบบฟอร์มแล้ว ส่งกลับไปยัง สอ.มอ.เพื่อดำเนินการต่อไป สำหรับคนที่ไม่เคยโอนเงินเดือนเข้า สอ.มอ. และไม่ประสงค์จะโอนเงินเดือนมาฝากกับ สอ.มอ. ก็ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มกลับมาให้ สอ.มอ.
ในส่วนเงินเดือนที่สมาชิกโอนมาฝากกับ สอ.มอ. ส่วนใหญ่เป็นเงินที่สมาชิกถอนใช้จ่ายประจำเดือนทุกเดือนอยู่แล้ว ซึ่งหากไม่โอนมาฝากกับ สอ.มอ. ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของ สอ.มอ. แต่อย่างใด แต่เงินฝากของ สอ.มอ. ให้ดอกเบี้ยออมทรัพย์สูงกว่าธนาคาร คือ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ สอ.มอ. อยู่ที่ 1.50%ต่อปี แต่ธนาคารอยูที่ 0.50-0.75% ต่อปี
สุดท้ายอยู่ที่การตัดสินใจของสมาชิกผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ถือหุ้น และเป็นเจ้าของ สอ.มอ. ที่ตัดสินใจว่าจะฝากเงินไว้ใน สอ.มอ.ที่เราเป็นเจ้าของเอง หรือจะฝากเงินในธนาคารที่มีคนอื่นเป็นเจ้าของ จะเอาอัฐยายซื้อขนมยาย หรือจะเอาอัฐยายซื้อขนมคนอื่น ตัดสินใจกันได้ครับ


Posted by : สอ. , Date : 2007-02-19 , Time : 10:44:02 , From IP : 192.168.46.30

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.006 seconds. <<<<<