ความคิดเห็นทั้งหมด : 15

ทำไมต้องค่าซักผ้า 400 บาท มัดมือชก?


    ผมจ่าย 350 มา 3 ปี
รวมทั้งอีกหลายๆคนที่เดือดร้อนและไม่ได้รับชี้แจงเหตุผล
อยู่ๆขึ้นเป็น 400 เพราะข้อสรุปมากจากการประชุมกันเองในกลุ่มผู้รับซักผ้า (เริ่มแรกเป็นวาระการประชุมหัวข้อ "การเข้าออกหอพักของผู้รับจ้างซักผ้า" เท่านั้น ไม่ทราบว่าทำไมกลายเป็นวาระเพิ่มเติมเรื่องการปรับราคาซักผ้ารายเดือนร่วมด้วย) โดยไม่มีตัวแทนนักศึกษาเข้าร่วม แล้ว ปรับราคาเป็น 400 ทุกคน
คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ ถือเป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพหรือไม่
โดยส่วนตัว เงินอีก 50 ต่อเดือนไม่ได้มากมายอะไร
แต่ว่าความรู้สึกเหมือนถูกมัดมือชก หรือเอารัดเอาเปรียบโดยไม่ได้รับการชี้แจง
เพราะจากที่ติดป้ายไว้ ทางแม่บ้านไม่ได้ชี้แจงเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่บอกว่าจะปรับเป็น 400 ทุกเจ้า เจ้าไหนคิดเกินให้แจ้งทางแม่บ้าน
แล้วคนที่เมื่อก่อน 350 ทางผู้รับจ้างก็อ้างว่าเขากำหนดให้ 400 ทุกคน เราก็ต้องจ่าย คนที่ 400 ก็เฉยๆ คนที่ 450 ก็ดีหน่อย
ไม่ทราบว่ามีการสำรวจแล้วหรือไม่ ว่ามีการเก็บอัตรา 350, 400, 450 เป็นจำนวนกี่ราย คิดเป็นนักศึกษากี่คน แล้วสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาบ้างหรือไม่ ว่าเห็นด้วยแค่ไหน ก่อนจะปรับ
อย่างน้อยก็ขอความกระจ่างที่พอให้ทำใจยอมรับได้ก็ยังดีนะครับ ไม่ใช่ติดประกาศแค่หัวข้อที่อ่านแล้วยังไงยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

copy จากกระทู้ข้างล่าง เพราะรู้สึกว่าผู้เกี่ยวข้องจะยังไม่รู้สึกตัว

Posted by : เผด็จการจิงๆ , Date : 2007-02-08 , Time : 02:00:43 , From IP : 172.29.4.32

ความคิดเห็นที่ : 1


   ถ้าคิดในแง่ดี เขาก็คงต้องการให้นศพ.จ่ายค่าซักผ้าเท่าๆกันทุกเจ้า จะได้ไม่มีใครเสียเปรียบได้เปรียบ
ผลที่ตามมาคือ แต่ละเจ้าก็จะมีการแข่งขันกันด้านคุณภาพของการบริการ ไม่มีเรื่องราคามาเกี่ยวข้อง
แต่ก่อนค่าซักผ้าจะอยู่ประมาณ 300-350 บาท เดี๋ยวนี้อะไรอะไรก็ต้องขึ้นราคาเป็นธรรมดา เจ้าที่ใจดีหน่อยหรือเป็นลูกค้าเก่าก็เจรจาต่อรองไม่ขึ้นราคาได้ เราคิดว่าที่เขาปรับให้จ่ายเท่ากันที่ 400 บาทก็เหมาะสมดีนะ (หรือว่าจะให้เป็น 450 บาททุกเจ้า)
ถ้าจะให้ feedback น่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพการบริการนะ เช่น เจ้าไหนที่ผ้ามักจะหายบ่อย หรือว่าชำรุด เป็นต้น

Posted by : ส่งผ้าตั้งแต่บินหลาหนึ่งยันบิน , Date : 2007-02-08 , Time : 02:23:13 , From IP : 172.29.4.170

ความคิดเห็นที่ : 2


   ในขณะที่ผมเข้าใจความทุกข์ที่ว่าราคาบริการแพงขึ้นนะครับ แต่น้องอาจจะใช้คำสับสนในเรื่องของเผด็จการ เพราะการเลือกซื้อบริการก็ยังเป็น optional อยู่ดี มีหลายเจ้า ทั้งในและนอกหอ และมีหลายทางออก

บางทีที่เราไม่พอใจ อาจจะต้องพิจารณาว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ เพราะแพงไป เพราะไม่บอก เพราะบอกไม่ตรงที่อยากจะรู้ หรือว่าอะไรกันแน่ คำตอบจากคำถามที่ว่าทำไมต้องคิดแพงมากขึ้น ไม่น่าจะมีหลากหลาย พอจะจินตนาการได้ แล้วเราจะ "รับได้ไหม" ในความรู้สึกของเขา

การซื้อบริการนั้นเป็น mutual benefit ก็คือ ผู้ให้บริการพึงพอใจ ผู้รับบริการพึงพอใจ เวลาเราไปซื้อชองที่ Lotus อันไหนแพง เราก็ไม่ซื้อ (และไม่ขอให้เขาชี้แจงด้วยว่าทำไมมันแพงยังงี้) ถามว่าการสำรวจความเห้นนักศึกษาว่าค่าซักผ้าควรเป็นเท่าไรนั้น practical แคไหน คือพวกเราจะใช้เกณฑ์อะไรล่ะครับที่จะบอกว่ามันควรจะเป็นเท่าไร ยกเว้นเราเคยซักผ้าบริการมาก่อน ถึงจะรู้ว่าค่าใช้จ่ายบวกค่าแรง ค่าบริการ เท่าไรจึงสมเหตุสมผล ซึ่งไม่น่าจะเป็นบริบทของเราในที่นี้

น้องสามารถหา consensus ได้จริงๆหรือในเรื่องแบบนี้ คำตอบที่ 1 ก้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีคนที่ก็ OK แม้แต่ตัวน้องเองก็ยังไม่คิดว่ามันแพงอะไรมากมาย แต่สิ่งที่เรียกร้องนั้น ดูจะเป็น symbolic ยังไงชอบกล ไม่แน่ใจว่าไม่พอใจหัวข้ออะไรแน่นะครับ




Posted by : Phoenix , Date : 2007-02-08 , Time : 03:29:09 , From IP : 222.123.46.222

ความคิดเห็นที่ : 3


   ผมว่า 400 ก็ราคามาตราฐานครับ แต่ว่าเจ้าประจำผมก็เคย 350 ตอนนี้ข้าวของราคาแพงขึ้น ก็คงต้องเห็นใจเขาด้วยครับ

Posted by : Botsumu , Date : 2007-02-08 , Time : 14:44:12 , From IP : 172.29.1.246

ความคิดเห็นที่ : 4


   ไม่น่าจะเป็นมัดมือชกนะครับ เพราะเรามีโอกาสเลือกผู้ซักผ้าได้นี่ครับ

ไม่พอใจก็คุยกะคนรับผ้าได้ครับ

Posted by : Comets , Date : 2007-02-08 , Time : 14:52:44 , From IP : 210-86-142-200.stati

ความคิดเห็นที่ : 5


   สรุปประเด็น เผื่ออ่านแล้วอาจจะสับสนจับใจความสำคัญไม่ได้นะครับ
1. ข้อสรุปมากจากการประชุมกันเองในกลุ่มผู้รับซักผ้า โดยไม่มีตัวแทนนักศึกษาเข้าร่วม ถือเป็นการประชุมที่ควรมีข้อสรุปดังกล่าวหรือไม่
2. ไม่มีการชี้แจงที่มาที่ไปของข้อสรุป การสื่อสารไม่ครบถ้วน(ขาดเหตุผล) ส่งผลให้ไม่เกิดความเข้าใจในการสื่อสาร ---> การสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพ
3. เรื่องแพงหรือไม่แพง เป็น perception ส่วนบุคคล บางคนว่าแพง บางคนว่าไม่แพง โดยส่วนตัว เมื่อคำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค >>> http://www.indexpr.moc.go.th/price_present/cpi/stat/others/indexg_report2.asp เห็นว่าเหมาะสมแล้ว เมื่อเทียบกับสองปีที่แล้ว
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ

Posted by : (^-^) , Date : 2007-02-08 , Time : 22:39:35 , From IP : 172.29.4.111

ความคิดเห็นที่ : 6


   อันนี้ของจังหวัดสงขลาครับhttp://www.indexpr.moc.go.th/price_present/stat_prov/stat_province/report2.asp?province_id=90

หากเราคำนึงถึงข้อมูลนี้นะครับ จะทำให้เห็นราคาที่แท้จริงของบริการ(Logic) มากกว่าการใช้ความรู้สึก(Emotion) ครับ
คำนวณได้ราคาที่แท้จริง (ให้ 2 ปีก่อน = 350 บาท) ประมาณ 375 บาทเท่านั้นครับ

บางทีถ้าเราคำนึงถึงอะไรให้มันเป็น Logic จริงๆนี่ มันก็อาจจะยุ่งยากและดูเป็นเรื่องใหญ่เกินความจำเป็นนะครับ

ในประเด็นดังกล่าว เห็นว่า กลุ่มนักศึกษาที่เคยจ่าย 350 บาทมาก่อน เกิดการเสียเปรียบในเชิงเศรษฐศาสตร์ครับ และคิดว่ากลุ่มนักศึกษามีสิทธิ์ในการเรียกร้องสิทธิ์ครับ
ส่วนประเด็นของผู้ให้บริการนะครับ เห็นว่า ผู้ให้บริการย่อมคำนึงถึง ต้นทุนและกำไร ที่เหมาะสมตั้งแต่แรกแล้วครับก่อนจะตั้งราคาของบริการ และแต่ละเจ้าก็คงมีกรรมวิธีที่แตกต่างกันในการผลิตบริการเพื่อที่จะปรับต้นทุนให้เหมาะสมที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด ราคากับประสิทธิผลของบริการน่าจะไปด้วยกัน ดังนั้นหากปรับราคาขึ้น เป็น 400 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาที่น่าจะเป็น การให้บริการก็น่าจะมีประสิทธิผลที่ดีกว่าเดิมด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น คนที่เสียประโยชน์ก็จะเป็นนักศึกษาเองครับ
ขออภัย หากทำให้ผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้องเกิดความไม่สบายใจหรือเดือดร้อนครับ

Posted by : (^-^) , Date : 2007-02-08 , Time : 23:10:40 , From IP : 172.29.4.111

ความคิดเห็นที่ : 7


   

Posted by : (^-^) , Date : 2007-02-08 , Time : 23:13:44 , From IP : 172.29.4.111

ความคิดเห็นที่ : 8


   ผมไม่แน่ใจว่าน้องกำลังสื่อถึงกลุ่มแม่บ้านซักผ้ารึเปล่านะครับ ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมออกจะเห็นใจทั้งสองฝ่ายที่เดียวที่อาจจะยังไม่สามารถสื่อสารกันได้ต่อไป อันนี้เพราะผมลองเข้าไปดูในทั้งสอง link ยอมรับว่าอ่านไม่รู้เรื่องครับ แต่ก็ไม่แน่ กลุ่มแม่บ้านอาจจะใช้ดัชนีที่น้องว่ามาอ้างอิงอยู่ก็อาจจะอ่านรู้เรื่องก็ได้

ประเด็นก็คือ อ่านแล้วไม่แน่ใจว่าน้องต้องการระบายเฉยๆ หรือว่าอยากจะคุยกับ party ที่เกี่ยวข้อง วิธีการนำเสนอ กระบวนที่ใช้ ภาษาที่ใช้ ก็คงจะปรับตามกลุ่มเป้าหมาย พอดีบนกระดานข่าว น้องกำลังสื่อกับคนจำนวนมาก ก้มีโอกาสที่จะเกิดความลำบากเวลาหา universal reference มาใช้ เช่น ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่ราคาที่แท้จริงควรเป็น 375 บาท ก็แปลว่าแม่บ้านที่เก็บ 350 บาท ก็ขาดทุนมาสองปีแล้ว (รึเปล่าไม่แน่ใจ เพราะยังโยงตารางที่ให้มาไม่ได้)

ผมคิดว่าการต่อรองราคาซักผ้าที่เคยเห็นมา เคยทำมา ก็คือ เจ้าของผ้าคุยกับคนรับซัก หาราคากลางที่ทั้งสองฝ่าย OK ถ้ากลุ่มนี้บอกว่า 400 บาทคือราคาที่เขาคิดว่าใช่ แต่พวกน้องคิดว่าไม่ใช่ ก็จบกันแค่นั้น คือน้องมั่นใจว่าราคาที่น้องคิดว่ายุติธรรมมีคนยอมรับแน่ๆ ก็ไปหาคนที่เขาให้ราคาดีกว่าเท่านั้นเอง ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้เขายังใช้วิธีธรรมดาๆแบบนี้กันอยู่หรือไม่ คือว่าสมัยก่อนเราคุยกันตัวต่อตัวมันดูง่ายและซับซ้อนน้อยกว่าตอนนี้ ซึ่งดูแล้วมี intermediaries หลายชั้นมาก กว่าข้อมูลข่าวสารจากผุ้บริโภคจะไปถึงผู้ขาย



Posted by : Phoenix , Date : 2007-02-08 , Time : 23:44:32 , From IP : ppp-124.120.222.86.r

ความคิดเห็นที่ : 9


   ผมงงว่าประเด็นง่ายๆทำไมมองกันไม่ออก

ประเด็นหลักที่สำคัญที่สุดที่นักศึกษาอยากรู้คือ

ในเมื่อคนซักผ้าเค้าไม่ได้ต้องการเพิ่มจาก 350 เป็น 400 บาท แล้วพวกคุณจะไปเพิ่มให้เค้าทำไม เพราะคนจ่ายมันผม ไม่ใช่คุณ

คนเก็บผ้าเค้าก็บอกผมว่า เค้าไม่ได้อยากได้ซักหน่อย 50 บาท แต่เค้าต้องเก็บเพราะอยู่ดีๆ ก็มีคนมาบังคับให้ขึ้น 350 บาทต่อเดือน เค้าว่าเค้าก็อยู่สบายๆ เค้าไม่อยากมาขูดรีดนักศึกษาที่ไม่มีรายได้ ........เข้าใจรึยังคับ

บางความคิดเห็นบอกว่ามีหลายทางออก
ยังไงคับ
1. ซักผ้าเอง
2. ยกตะกร้าผ้าไปซักเครื่องหยอดเหรียญทุกวัน
3. ยกตะกร้าผ้าไปซักกับหออื่น

คนซักผ้าผม 350 คุณภาพก็ดี บริการก็ดี ไม่มีชำรุด ไม่มีหาย ไม่ทราบว่าจะเพิ่ม 400 บาท(โดยที่เค้าไม่ได้ต้องการ) ทำไม จะเพิ่มคุณภาพอะไรหรอคับ

สรุปคือ ถ้าคนซักผ้ามาขอขึ้น ผมก็โอเค แต่นี่ใครก็ไม่รู้อยู่ดีๆมาบังคับให้เค้าขึ้น ก็คุณมีรายได้นิหน่า คงไม่เดือดร้อนมาก ผมมันยังต้องขอเงินพ่อเงินแม่นะคับ

Posted by : หลงประเด็นกันจัง , Date : 2007-02-09 , Time : 02:43:37 , From IP : 172.29.4.94

ความคิดเห็นที่ : 10


   ผมงงว่าประเด็นง่ายๆทำไมมองกันไม่ออก

ประเด็นหลักที่สำคัญที่สุดที่นักศึกษาอยากรู้คือ

ในเมื่อคนซักผ้าเค้าไม่ได้ต้องการเพิ่มจาก 350 เป็น 400 บาท แล้วพวกคุณจะไปเพิ่มให้เค้าทำไม เพราะคนจ่ายมันผม ไม่ใช่คุณ

คนเก็บผ้าเค้าก็บอกผมว่า เค้าไม่ได้อยากได้ซักหน่อย 50 บาท แต่เค้าต้องเก็บเพราะอยู่ดีๆ ก็มีคนมาบังคับให้ขึ้น 350 บาทต่อเดือน เค้าว่าเค้าก็อยู่สบายๆ เค้าไม่อยากมาขูดรีดนักศึกษาที่ไม่มีรายได้ ........เข้าใจรึยังคับ

บางความคิดเห็นบอกว่ามีหลายทางออก
ยังไงคับ
1. ซักผ้าเอง
2. ยกตะกร้าผ้าไปซักเครื่องหยอดเหรียญทุกวัน
3. ยกตะกร้าผ้าไปซักกับหออื่น

คนซักผ้าผม 350 คุณภาพก็ดี บริการก็ดี ไม่มีชำรุด ไม่มีหาย ไม่ทราบว่าจะเพิ่ม 400 บาท(โดยที่เค้าไม่ได้ต้องการ) ทำไม จะเพิ่มคุณภาพอะไรหรอคับ

สรุปคือ ถ้าคนซักผ้ามาขอขึ้น ผมก็โอเค แต่นี่ใครก็ไม่รู้อยู่ดีๆมาบังคับให้เค้าขึ้น ก็คุณมีรายได้นิหน่า คงไม่เดือดร้อนมาก ผมมันยังต้องขอเงินพ่อเงินแม่นะคับ

Posted by : หลงประเด็นกันจัง , Date : 2007-02-09 , Time : 02:43:44 , From IP : 172.29.4.94

ความคิดเห็นที่ : 11


   เห็นใจคนซักผ้าบ้างเค้าขึ้นแค่ 50 บาทเค้าก็ไม่ได้รวยอะไรหรอก
ไม่พอใจก็ไม่ต้องจ้างจบ
อย่ามาทำเรื่องมากในเวบบอร์ด


Posted by : จะตั้งกระทู้หาพระแสงอะไรหรอ , Date : 2007-02-09 , Time : 05:36:28 , From IP : 203.113.77.100

ความคิดเห็นที่ : 12


   อา... ถ้าคนซักผ้าของคุณยินดีรับ 350 บาท เรื่องน่าจะจบไปนี่ครับ เป็นเรื่องที่รู้กันระหว่างคุณกับคนซักผ้าคนนั้น ผมคิดว่ายังไม่มีสหพันธ์คนซักผ้าที่ตรวจสอบว่าใคร charge ต่ำกว่ากำหนดหรือไม่ ในใบประกาศก็บอกว่าจะจัดการเฉพาะคนที่ "คิดเกิน 400 บาท" ส่วนใครจะเก็บ 250, 300 หรือซักให้ฟรี ก็น่าจะได้ไหมครับ เพราะเวลาเราจ่ายเงิน ใบเสร็จไม่น่าจะมี เราก็ไม่ต้องป่าวประกาศว่าขณะนี้มีคนคิด 350 บาท ให้รู้กันในกลุ่มว่าราคานี้ยังมีคนทำอยู่

ว่าแต่ว่าข้อมูลที่ว่าราคานี้เป็นราคาที่คนซักผ้า "ถูกบังคับให้ขึ้น" เป็นข้อมูลใหม่ครับ ผมคิดว่าแนวทางอภิปรายอาจจะไม่เป็นแบบที่แล้วมา หากมีคนตั้งกระทู้ว่าราคาซักผ้าถูก manipulate โดยคนนอกที่ไม่ใช่คนซักผ้าเอง ก็จะเป็นคนละประเด็นอย่างสิ้นเชิง ขอให้แน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นการบังคับให้เก็บเกิน ผมคิดว่ากรรมการหอพักสามารถแก้ไขได้โดยง่าย (หรือแค่ตกลงจ่ายเท่าเดิมต่อไปกับคนซักคนเดิม โดยไม่ต้องชี้แจงอะไรทั้งสิ้น) การจ่ายค่าบริการเป็น mutual contract ระหว่างผู้ซื้อบริการและผู้ให้บริการอยู่แล้ว ถ้าป้าที่ซักผ้ารับเงิน 350 บาทแล้วเดินกลับไปอย่างสันติ คุณก็ยังสามารถซักผ้าราคาเดิมได้เหมือนเดิม





Posted by : Phoenix , Date : 2007-02-09 , Time : 08:23:06 , From IP : ppp-124.120.220.122.

ความคิดเห็นที่ : 13


   แน่ใจหรือว่าคนรับจ้างซักเขาไม่อยากจะขึ้น
เทอมที่ผ่านมาก็มีบางราย มากระซิบราคาที่ถูกกว่าคนอื่น
เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้า....มันเป็นกลยุทธ์
หากขึ้นแล้ว บริการดีขึ้นจะไม่ว่าเลย....

Posted by : mac , Date : 2007-02-10 , Time : 14:41:23 , From IP : 172.29.4.105

ความคิดเห็นที่ : 14


   อยากให้ทางกลุ่มแม่บ้านช่วยแจ้งเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงราคาในการจ้างซักผ้า
เพราะจะทำให้คนรู้สึกว่าถูกมัดมือชกในการขึ้นราคาให้สามารถยอมรับการขึ้นราคาในครั้งนี้ได้
การซื้อขายเป็นไปตามความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายก็จริง แต่อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงผู้บริการซักผ้าที่มาส่งที่หอพักนั้น มีการจำกัดเรื่องการอนุญาติในการขึ้นหอ เพื่อส่งผ้าให้นักศึกษา การที่จะให้นักศึกษาไปจ้างผู้บริการซักผ้าจากภายนอกก็มีความลำบากในการรับผ้า การจะให้ไปหยอดเครื่องซักผ้าเอง ก็มีความลำบากเพราะต้องยกผ้าไปซักที่ใต้หออื่น ต้องมารีบผ้าเองอีก จึงทำให้นักศึกษารู้สึกไม่มีทางเลือกนอกจากการต้องจ้างผู้ซักผ้ารายเดิมในราคาที่แพงขึ้น โดยเข้าใจว่าไม่ได้เป็นความต้องการของผู้บริการเอง (การบอกเหตุผลในการขึ้นราคาที่ดีพอคงสามารถช่วยได้)


Posted by : ขอแสดงความคิดเห็น , Date : 2007-02-10 , Time : 14:41:40 , From IP : 203.113.80.11

ความคิดเห็นที่ : 15


   อยากให้ทางกลุ่มแม่บ้านช่วยแจ้งเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงราคาในการจ้างซักผ้า
เพราะจะทำให้คนรู้สึกว่าถูกมัดมือชกในการขึ้นราคาให้สามารถยอมรับการขึ้นราคาในครั้งนี้ได้
การซื้อขายเป็นไปตามความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายก็จริง แต่อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงผู้บริการซักผ้าที่มาส่งที่หอพักนั้น มีการจำกัดเรื่องการอนุญาติในการขึ้นหอ เพื่อส่งผ้าให้นักศึกษา การที่จะให้นักศึกษาไปจ้างผู้บริการซักผ้าจากภายนอกก็มีความลำบากในการรับผ้า การจะให้ไปหยอดเครื่องซักผ้าเอง ก็มีความลำบากเพราะต้องยกผ้าไปซักที่ใต้หออื่น ต้องมารีบผ้าเองอีก จึงทำให้นักศึกษารู้สึกไม่มีทางเลือกนอกจากการต้องจ้างผู้ซักผ้ารายเดิมในราคาที่แพงขึ้น โดยเข้าใจว่าไม่ได้เป็นความต้องการของผู้บริการเอง (การบอกเหตุผลในการขึ้นราคาที่ดีพอคงสามารถช่วยได้)


Posted by : ขอแสดงความคิดเห็น , Date : 2007-02-10 , Time : 14:41:51 , From IP : 203.113.80.11

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<