ความคิดเห็นทั้งหมด : 7

คนไข้ยุคใหม่ เหยื่อ รพ เอกชน


   มีหญิงคนหนึ่งมาตรวจที่ ER ด้วยอาการปวดท้อง แต่ที่ ER หายปวดแล้ว ถ่ายเหลวประมาณ 5 ครั้งต่อวัน ไม่มีมูกเลือดปน ไม่มีไข้ คนไข้เดินมาเองได้ ไม่มีอาการของ postural hypotension V/S stable ไม่มีปากแห้ง ตาโหล่ คือเป็น mild dehydraton อ่ะนะ คนไข้บ่นว่าเพลีย ทานไม่ได้และอาเจียน อยากได้น้ำเกลือ และขอฉีด plasil เราได้อธิบายแล้วว่าไม่จำเป็น และแนะนำการดูแลตัวเองเรื่องการกินยา อาหาร บอกว่ายังไม่หยุดถ่ายหรอกนะวันนี้น่ะ เพลียก็ต้องพักผ่อน ไม่คุ้มที่ต้องนอน รพ เขาก็ไม่ฟังนะ บอกว่าอาเจียน เราก็ให้ยาแก้อาเจียนไป และให้ rest bowel ก่อน เราก็ไปดูเคสอื่น ก็ได้รับการด่าจากน้อง มอ. (ไม่ขอบอกคณะนะ เดี๋ยวโกรธกันอีก ) คนนี้ว่า ไม่รู้เรื่องหมอไรวะ นี่ถ้าเป็นที่หาดใหญ่ได้นอน รพ แล้วนะ และบอกว่าหมอที่ มอ ไม่รู้เรื่อง เคยไปที่ มอ แล้วรักษาไม่ได้แล้วส่งต่อไปที่ เอกชนแห่งหนึ่ง เป็นไง เด็ก มอ เรานี่

Posted by : หมอที่อดทน , E-mail : (-) ,
Date : 2007-02-06 , Time : 19:45:11 , From IP : 202.129.51.34


ความคิดเห็นที่ : 1


   สู้ๆนะคะ

Posted by : เป็นกำลังใจให้ , Date : 2007-02-06 , Time : 22:42:42 , From IP : 172.29.4.100

ความคิดเห็นที่ : 2


   
ป๊นี้แพทย์ที่ได้รับรางวัลมหิดล คือแพทย์ทีมที่คิดค้นเรื่อง ORS
กระบวนทัศน์คนไทยเรื่องสุขภาพกลับไปได้ประมาณธุรกิจการรักษาพยาบาล ที่พอมีปํญหาก็ออกมาต่อว่ากัน ทั้งๆที่เขาก็แสวงหามัน อดทนนะน้อง


Posted by : หมอเก่า , Date : 2007-02-07 , Time : 09:26:31 , From IP : 203.147.36.35

ความคิดเห็นที่ : 3


   ไม่เป็นไงค่ะ เคยมาใช้บริการที่ ER เหมือนกัน แต่หมอก็พยาย๊าม พยายามให้เราไปเป็นคนไข้ของ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งเหมือนกัน ไม่รู้ว่าทำไม

Posted by : เนาะ , Date : 2007-02-07 , Time : 10:26:14 , From IP : 172.29.3.178

ความคิดเห็นที่ : 4


   เป็นประเด็นที่ซับซ้อน ขอให้คุณหมอที่อดทนจงอดทนต่อไปเพราะตราบใดที่ยังทำหน้าที่รักษาคนไข้ก็จะเจอเรื่องทำนองนี้ไปตลอด สาเหตุที่เรื่องนี้เป็นปัญหาก็เพราะหมอและคนไข้มองจากคนละด้านกัน คนไข้เขาย่อมทุกข์ทรมานและเขาไม่รู้ว่าไอ้โรคที่เขาเป็นน่ะมันไม่ร้ายแรงพอที่จะต้องเข้านอนในรพ. แต่เขาทรมานและอยากให้หายเร็วๆ ซึ่งถ้าหมอเคยป่วยเองก็จะรู้ว่าก็อยากหายเร็วแต่เรารู้ว่าต้องใช้เวลากี่วันโดยประมาณ แต่คนไข้ไม่รู้ นอกจากนี้คนไข้ก็ไม่รู้ด้วยว่ารพ.เช่นรพ.มอ.ที่ถูกพูดถึงในทางไม่ดีโดยเฉพาะหมอที่ERว่าหมอเขาต้องเจอความกดดันอะไรบ้าง เตียงเต็มเกือบตลอดเวลาเพราะรพ.รับคนไข้หนัก คนไข้มะเร็ง คนแก่ คนที่อวัยวะเสียหายรุนแรง อื่นๆอีกมากมาย ถ้ารับคนไข้ไม่หนักเยอะๆ พอมีคนไข้หนักก็ต้องส่งไปรพ.อื่นซึ่งการส่งต่อก็ยุ่งยากกว่าการรับไว้รักษาเอง คนป่วยก็มากช่างป่วยกันเสียจริง แถมหาหลายหมอกันเสียอีก บางทีก็ไม่มีตังค์ ถ้ามีคงไปรพ.เอกชนแล้ว เพราะเขาเอาใจคนไข้มากกว่ารพ.รัฐ รับเข้าเป็นคนไข้ในก็ง่ายเนื่องจากชาร์จค่าใช้จ่ายได้มาก จึงไม่ค่อยปฏิเสธความต้องการของคนไข้เพราะสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คนไข้อยากได้อะไรก็มักตามใจเพราะถือว่าความต้องการของลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ที่ยังเป็นปัญหาที่รพ.เอกชนก็ช่วยไม่ได้ก็คือคนไข้ส่วนใหญ่ไม่มีเงินมากพอจะไปจ่ายให้รพ.เอกชน ปัญหาที่คุณหมอที่อดทนพบเจอจึงจะยังเป็นปัญหาต่อไป ขอให้อดทนและเห็นถึงหัวอก(ไม่ไช่หัวนม)ของคนไข้และให้คำอธิบาย ให้คำปลอบประโลม และนัดมาดูอาการในวันสองวันต่อมา คิดว่าคนไข้ส่วนใหญ่ก็ยอมรับ
ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพตนเองให้ดี อย่าได้เจ็บป่วย สงสารหมอบ้าง อย่าผาดโผนนัก ใส่หมวกกันน็อค ขับรถระมัดระวัง กินอาหารพอดีอย่าให้อ้วน กินผักผลไม้ให้มาก ออกกำลังกายให้เป็นนิสัย ก็จะช่วยทุกๆคน เฮ้อ เหนื่อย


Posted by : อยากเลิกเป็นหมอ , Date : 2007-02-07 , Time : 12:52:12 , From IP : 172.29.3.14

ความคิดเห็นที่ : 5


   เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่สี่ทุกประการค่า

Posted by : แต่หนูยังไม่อยากเลิกเป็นหมอนะค , Date : 2007-02-07 , Time : 17:44:38 , From IP : 172.29.4.67

ความคิดเห็นที่ : 6


   ผมเองผ่านมาอ่านเจอ เลยขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ

ผมเองเคยประสบอุบัติเหตุรถชนในมหาวิทยาลัย เพื่อน ๆ ก็พาไปเย็บแผลที่ ER รพ.มอ. ครับ ตอนนั้นปี 2543 (ตอนนั้น เดือน พ.ค. 20.00 น. วันพฤหัสบดี) พี่นักศึกษาแพทย์ (ผู้หญิง) ก็ทำการซักประวัติ และเย็บแผล ไปตามขั้นตอน พี่นักศึกษาแพทย์คนนั้นออกจะตื่นเต้นบ้าง แต่คงไม่เท่ากับผมที่โดนเย็บแผล มีการฉีดยาชา และเย็บ พอลงเข็มเท่านั้นแหละ ผมก็ร้องว่า "พี่ครับเจ็บ" เขาก็พูดออกมาว่า "อดทนหน่อยซิคะ" แล้วพี่แพทย์ปีแก่กว่าก็เดินมาดู แล้วก็กระซิบกัน ผมได้ยินชัดเจนว่า "ตรงนี้ไม่ได้ฉีดยาชา ฉีดเพิ่มด้วย"

อ้าวบริเวณที่เย็บลงไปไม่ได้ฉีดยาชาหรือนี่ ผมก็โกรธดิ เลยบอก "พอแล้ว ไม่เย็บแล้ว" ผมก็เดินออกมาเลย แล้วเขาก็วิ่งมาตามผมไปเย็บแผลต่อ แต่ผมก็ไม่กลับ

ในปัจจุบัน ผมเองเข้าใจระบบมากขึ้น เข้าใจเหตุและผลมากขึ้น ก็เข้าใจว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นได้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากวันนั้นผมได้รับการขอโทษ หรือพูดคุยดี ๆ ผมคงไม่เดินออกมาอย่างนั้น อย่างที่ความเห็นที่ 4 ว่าเรื่องนี้มันซับซ้อน การอธิบายและทำความเข้าใจที่ดีน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ก็เป็นกำลังใจนักศึกษแพทย์ทุกคนนะครับ

ปล. แต่วันนั้นผมเจ็บจริง ๆ นะครับ ไม่ได้เสแสร้ง


Posted by : กรวิทย์ , E-mail : (k.vivit@yahoo.com) ,
Date : 2007-02-09 , Time : 15:03:53 , From IP : 203.188.14.112


ความคิดเห็นที่ : 7


   ผมว่าที่ส่งจาก มอ.ไปเอกชนเนี่ย หายากนะ เท่าที่เดินๆ ต๋อแต๋ๆ มาสี่ห้าปี ไม่เคยเจอ สงสัยว่าส่งไปให้บางคนได้กำไรรึเป่า ว.สองเปลี่ยน

Posted by : cabin_crew , Date : 2007-02-18 , Time : 11:45:40 , From IP : 172.29.4.90

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.005 seconds. <<<<<