ความคิดเห็นทั้งหมด : 32

โกงเงิน 20 ล้านของสหกรณ์มอ. (เงินพวกเรานะ) เรียกร้องกันหน่อย


   สืบเนื่องมาจากกระทู้ได้ข่าวว่าเงินปันผลสหกรณ์ปีนี้ได้แค่ 6% เหรอ(น้อยจัง) นั้น
ได้มีผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโกงเงิน 20 ล้านกันออกมา ดังนี้

"ก็ได้ข่าวว่าปล่อยเงินให้บางคนกู้ไปตั้ง 20 ล้านบาท แต่ไม่ส่งคืน ทำเป็นหนี้สงสัยจาสูญ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วย ปล่อยให้กู้"

จริงๆเคยได้ยินข่าวนี้มาก่อนแล้วว่ากรรมการบริหารเป็นคนทำเรื่องนี้แบบแอบๆ เหมือนพวกทักษิณ ตอนนี้เราต้องการคนมาช่วยกันเฝ้าสมบัติตัวเองบ้างแล้วล่ะ ผมขอเสนอความเห็นดังนี้

1.ใครที่ทราบข่าวมาช่วยกันชี้แจงด้วย เพื่อความสว่าง
-ใครกู้
-ใครปล่อยเงินกู้
-ทำไมไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
-ได้ข่าวว่านำไปสร้างหอพักจริงหรือเปล่า
-ถ้าจริงทำไมไม่คืนเงิน
-ทำไมกรรมการกู้เงินต้องได้รับการลดดอกเบี้ยด้วย ทั้งที่การทำงานก็ไม่ได้ทำฟรีมีค่าตอบแทนอยู่แล้ว

2.ควรมีการชี้แจงเรื่องการปล่อยกู้วงเงินสูงๆ (10 ล้านขึ้นไป) ต่อสมาชิก

3.ควรมีการรายงาน NPL, โบนัสของกรรมการเทียบกับเงินปันผล, เงินเดือนกรรมการ, การกู้เงินของกรรมการทุกรายการ ต่อสมาชิก


Posted by : ต้องการยาม , Date : 2007-01-31 , Time : 13:49:46 , From IP : 172.29.10.221

ความคิดเห็นที่ : 1


   มอ.เรามีเรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอ จริงเท็จอย่างไร อยากรู้เหมือนกัน โดยส่วนตัวคิดว่าไม่น่ะจะนะเพราะสหกรณ์เราได้รับรางวัลสหกรณ์ดีเด่นด้วยนิเคยได้ยินมา

Posted by : ผ่านมา , Date : 2007-01-31 , Time : 15:16:07 , From IP : 172.29.3.237

ความคิดเห็นที่ : 2


   ได้ข่าวว่าจริง.

Posted by : สมาชิกอีกคนด้วย , E-mail : (-) ,
Date : 2007-01-31 , Time : 15:58:58 , From IP : 172.29.10.228


ความคิดเห็นที่ : 3


    จะให้เป็นหนี้สูญไม่ได้ เงินไม่ใช่น้อย ผู้อนุมัติเงินกู้ต้องรับผิดชอบ

Posted by : เสียดายเงิน , Date : 2007-01-31 , Time : 16:25:45 , From IP : 172.29.3.148

ความคิดเห็นที่ : 4


   คนรู้จริงช่วยตอบด้วยซิ
อยากรู้ด้วย


Posted by : สมาชิก , Date : 2007-01-31 , Time : 16:49:37 , From IP : 172.29.10.221

ความคิดเห็นที่ : 5


   จริงครับท่าน เป็น แพทย์ด้วยครับท่าน นำเงินไปสร้างหอพัก ตอนนี้ฟ้องร้องกันอยู่ครับท่าน ถ้าสมาชิกรู้เยอะ ๆ ต้องถามสหกรณ์เอาหลักฐานมาแฉสิ ถ้าลูกจ้างทำแล้วผู้ค้ำจ่ายกันอื้อเลย แต่นี้เขามีตำแหน่งครับท่าน เหมือนทักษิณเลย
ตอนนีคดีอยู่ชั้นศาลแต่ท่าทางสงสัยจาสูญครับท่าน


Posted by : สมาชิก , Date : 2007-01-31 , Time : 16:53:03 , From IP : 172.29.3.244

ความคิดเห็นที่ : 6


   สหกรณ์ช่วยชี้แจงด้วย

Posted by : สมาชิกเล็ก ๆ , Date : 2007-01-31 , Time : 18:49:40 , From IP : 172.29.3.189

ความคิดเห็นที่ : 7


    แบบนี้ก็แย่สิคะ ทำไมพอมีดีกรีเป้นหมอแล้วให้กู้ไป 20 ล้าน โดยไม่มีหลักค้ำประกันอย่างนี้ ไม่ทราบว่าคนบริหาร บริหารเป้นหรือเปล่าคะ หรือว่าขึ้นมากินเดือนเฉยๆ อยากรู้ส่าทางผู้บริหารจะทำไงต่อคะ แล้วคนที่กู้เนี่ยใครกันคะ แล้วทำไมหนี้ต้องสูญด้วยคะ หรือคนกู้จะไม่รับผิดชอบคะ เพราะไม่มีหลักฐานการกู้ ก็แสดงว่าดีกรีที่ว่าไม่ได้สอนให้คนเป็นมนุษย์ขึ้นมาเลยนะคะ

Posted by : small cat , Date : 2007-02-01 , Time : 05:29:29 , From IP : 172.29.1.115

ความคิดเห็นที่ : 8


   ใจเย็นๆ ครับ
ต้องดูรายละเอียดอีกทีครับ

สงครามสื่อ หรือการแพร่กระจายข่าวใน internet นั้นอันตรายมากๆ
หากใช้อย่างไม่ได้ตรึกตรอง

บุคคลที่ 3 เสียหายมาก และหากไม่เป็นความจริง อาจฟ้องร้อง หาต้นต่อข่าว เป็นคดีความได้

ต้องรอความจริง อย่าเพิ่งวิจารณื ในแง่ร้ายไปครับ


Posted by : ใจเย็นๆ , Date : 2007-02-01 , Time : 07:04:19 , From IP : 172.29.5.244

ความคิดเห็นที่ : 9


   แปลกที่กรรมการสหกรณ์ที่อยู่แถว ๆ นี้ ทำไมถึงไม่ post ชี้แจง หรือแจ้งให้ท่านผู้บริหารกรุณา post ชี้แจงด้วย

เพราะถ้าหากเป็นจริง ก็คงต้องมีการตรวจสอบการทำงานของกรรมการทั้งหมดแหละ เพราะต้องมีส่วนรู้เห็นในการพิจารณาอนุมัติวงเงินด้วย


Posted by : โปรดชี้แจง , Date : 2007-02-01 , Time : 08:04:41 , From IP : 172.29.1.252

ความคิดเห็นที่ : 10


    เข้าใจแล้วครับ เพราะเขามีตำแหน่ง หนี้อาจจะสูญ หากไม่มีตำแหน่ง โดยยึดหลักทรัพย์ที่เป็นประกันไปแล้ว เพราะความไม่เท่าเทียมกันนี้เอง มันจึงเป็นเช่นนี้เอง

Posted by : ยังย้อนยุค , Date : 2007-02-01 , Time : 08:49:24 , From IP : 172.29.3.148

ความคิดเห็นที่ : 11


   ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรจะออกมาชี้แจงให้ชัดเจน หากมีการผิดพลาดจริงควรแสดงควมรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่ปล่อยไปตามกระแส


Posted by : ไม่น่าเชื่อ , Date : 2007-02-01 , Time : 10:36:03 , From IP : 172.29.3.141

ความคิดเห็นที่ : 12


   ไม่ใช่แพทย์ครับ เป็นทันตแพทย์ คณะทันตะ

Posted by : the kop , Date : 2007-02-01 , Time : 10:52:06 , From IP : 172.29.3.93

ความคิดเห็นที่ : 13


   ผมได้ข่าวมาว่าเป็นภรรยาของคณบดีคณะแพทย์ อาจารย์เค้าสอนเด็กวจก.อ่ะครับ จริงเท็จแค่ไหนไม่รู้ แต่เห็นเด็กวจก.บอกต่อๆกันมาหลายคน เพราะได้ยินว่าอาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง บ่นนักศึกษาอย่างเดียว โหดมากๆ แล้วยังไปกู้หนี้สหกรณ์ พอจะขอเรื่องลาออก ทางมหาลัยก็กลัวจะเป็นหนี้สูญซะ ก็เลยบังคับให้เป็นอาจารย์สอนที่นี่ต่อ ตอนนี้เลยสอนแบบซังกะตาย ขอใช้หนี้ไปวันๆ คนที่รับผลกรรมก็คือเด็กนักศึกษาครับ ที่ต้องทนการกดขี่ข่มเหง ใช้งานเยี่ยงทาส

Posted by : ไม่ใช่เหรอ , Date : 2007-02-01 , Time : 11:32:54 , From IP : 172.29.4.121

ความคิดเห็นที่ : 14


   เขาเอาไปสร้างหอพัก ก็ยึดทรัพยสินที่เป็นหอพัก ไม่ได้หรือ

Posted by : pts , Date : 2007-02-01 , Time : 13:00:44 , From IP : 172.29.4.237

ความคิดเห็นที่ : 15


   กล้าโค้ดขนาดว่าเป็นภรรยาคณบดีคณะแพทย์ เป็นอาจารย์สอนวจก. ไม่เห็นตรงกับความจริงที่เรารู้ชัดๆเลยเพราะภรรยาคณบดีเป็นเพื่อนเราเองและเขาก็ไม่ไช่อาจารย์วจก.ด้วย ยกเว้นว่าเป็นอาจารย์พิเศษซึ่งเรื่องนี้เราก็ไม่รู้นะ ระวังโดนฟ้องนะโว้ย ซี้ซั้วพูดแบบนี้
เขียนมาเสียยาว เสียเวลาไป 5 นาที อยากบอกว่าขอให้หูหนักหน่อย ไม่รู้อะไรชอบพูดส่งเดชต่อๆกันไป ไม่เกิดผลอะไรหรอก อยากเหมือนหมาเห่าเรือบินหรือไง ไปทำอะไรที่มันสร้างสรรค์หรือเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมจะดีกว่า


Posted by : หัดพิมพ์ดีดเพราะคณบดีจะให้อาจา , Date : 2007-02-01 , Time : 13:17:09 , From IP : 172.29.3.14

ความคิดเห็นที่ : 16


   ผมขอเขียนเท่าที่ทราบข้อมูลนะครับ ในฐานะผู้แทนสมาชิกสหกรณ์
1. หนี้สงสัยจะสูญ 20 ล้านบาทนั้น เป็นหนี้ของสมาชิกหลายราย แต่มีอยู่ 1 รายที่เป็นลูกหนี้รายใหญ่
2. การให้กู้แก่ลูกหนี้เหล่านั้น มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน ไม่มีรายใดเลยที่สามารถกู้โดยไม่มีหลักฐานการค้ำประกันเงินกู้ แม้แต่ลูกหนี้รายใหญ่ที่กู้เงินไปลงทุนหอพัก ก็มีหลักทรัยพ์ค้ำประกัน
3. เป็นหน้าที่ของกรรมการที่จะต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกเงินคืนพร้อมค่าปรับ อยู่แล้ว เท่าที่ทราบ ท่านประธานก็สั่งดำเนินการแล้ว
4. ในความเห็นส่วนตัวของผม สมาชิกที่กู้เงินไปแล้วไม่จ่ายคืน สมควรโดนเพื่อนสมาชิกประณามจริงๆ โดยเฉพาะลูกหนี้รายใหญ่ เสียเครคิตมาก
5. ทำให้สหกรณ์ต้องกันเงินส่วนหนึ่งเป็นสงสัยจะสูญ ได้เงินปันผลน้อยลง เงินเฉลี่ยคืนลดลงจากที่ควรจะเป็น แล้วยังส่งผลเสียต่อสมาชิกที่กู้เงินโดยสุจริตอีก ทำให้กู้เงินมีขั้นตอนมากขึ้น อนุมัติยากขึ้น มีต้นทุนการบริหารเงินสูงขึ้น
6. แต่อย่างน้อยเท่าที่ทราบ ทำให้เมื่อ3-4 เดือนก่อนมีอาจารย์บางท่านกู้เงินไม่ได้แม้ว่าจะมีที่ดินค้ำประกัน เพราะกลัวจะเป็นวิธีการขายที่ดินให้สหกรณ์


Posted by : JR , Date : 2007-02-01 , Time : 13:34:37 , From IP : 172.29.1.196

ความคิดเห็นที่ : 17


   ขอแก้ไขหน่อยครับ
หนี้ 20 ล้านที่พูดๆกันเป็นของลูกหนี้รายเดียว หนี้ที่เหลือรายอื่นๆ จำนวนเงินไม่มากนัก


Posted by : jr , Date : 2007-02-01 , Time : 13:59:43 , From IP : 172.29.1.196

ความคิดเห็นที่ : 18


   ขอถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก คห.16 ค่ะ
    5. ทำให้สหกรณ์ต้องกันเงินส่วนหนึ่งเป็นสงสัยจะสูญ ได้เงินปันผลน้อยลง เงินเฉลี่ยคืนลดลงจากที่ควรจะเป็น แล้วยังส่งผลเสียต่อสมาชิกที่กู้เงินโดยสุจริตอีก ทำให้กู้เงินมีขั้นตอนมากขึ้น อนุมัติยากขึ้น มีต้นทุนการบริหารเงินสูงขึ้น

แล้วเงินโบนัสกรรมการและ จนท. ลดลงด้วยหรือไม่คะ?


Posted by : แมวดำ , Date : 2007-02-01 , Time : 15:35:41 , From IP : 172.29.1.200

ความคิดเห็นที่ : 19


   ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆเงินโบนัสเงินประชุมของกรรมการและลูกจ้างสหกรณ์ ก็ต้องลดด้วยซิ จะได้สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย

Posted by : อยากให้คณกรรมการบริหารแบบโปร่ง , Date : 2007-02-01 , Time : 16:39:35 , From IP : 172.29.3.148

ความคิดเห็นที่ : 20


   1. โปรดระวังการให้ข้อมูลที่บิดเบือนด้วยครับ คุณเล่นพาดหัวอย่างนี้ทั้งๆ ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง คุณอาจสะใจที่ได้สร้างกระแส แต่องค์กรได้รับความเสียหาย

2. ข้อมูลได้ชี้แจงในหัวข้อ "ได้ข่าวว่าเงินปันผลสหกรณ์ปีนี้ได้แค่ 6% เหรอ(น้อยจัง)" เป็นหัวข้อลำดับที่ 17 ก่อนหน้านี้ หากผู้อ่านที่เป็นสมาชิกอ่านแล้วยังติดใจอยู่ ใคร่ขอเชิญชวนไปฟังการอภิปรายและชี้แจ้งของคณะกรรมการได้ ในวันเสาร์ที่ 10 ก.พ.นี้ ที่โรงแรมไดมอนด์



Posted by : กรรมการ 1036 , Date : 2007-02-01 , Time : 17:52:52 , From IP : 172.29.1.104

ความคิดเห็นที่ : 21


    เห็นด้วยกับความเห็นที่ 19

Posted by : เห็นด้วย , Date : 2007-02-02 , Time : 09:06:00 , From IP : 172.29.3.148

ความคิดเห็นที่ : 22


   ถึงอ.บรรเจิดและกรรมการ ฯ
๑. สมาชิกมีสิทธิที่จะทราบรายละเอียดการกู้ ๒๐ ล้านบาท ที่ส่งผลกระทบต่อการจ่ายเงินปันผล จริงหรือเท็จ ช่วยไขข้อข้องใจด้วย ทำไมการดำเนินงานของสหกรณ์ที่มีเงินเป็น ๑๐๐๐ + ล้านบาท แต่เงินปันผลกลับลดลงเรื่อย ๆ
๒. ผมต้องการทราบเพียงสังกัดสมาชิกที่กู้ ๒๐ ล้านบาท วัตถุประสงค์การกู้ การผิดสัญญา และการดำเนินการเร่งรัดทวงหนี้ที่ผ่านมา แบบสรุปคร่าว ๆ แต่รู้เรื่อง
ขออย่าอ้างว่าเป็นผลจากการดำเนินการของชุดเก่าน๊ะครับ หรือให้อ.เล็กชี้แจงแทนก็ได้ อย่าแนะนำให้ไปฟังเองในการประชุมใหญ่เลย
๓. ปกติสหกรณ์ต้องกันเงินสำรองหนี้อยู่แล้ว โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่ากระทบต่อการจ่ายเงินปันผล เพราะเป็นเงินคนละส่วน แต่ทำไมปันผลกลับลดลง(ถ้าเป็นอัตราจ่ายตามที่ข่าวออกมา) ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ยังมีหนี้สูญก้อนใหญ่อยู่อีกมากเกินเงินที่ตั้งสำรองไว้ หรือเป็นความบกพร่องจากการดำเนินงานของกรรมการ... ฯลฯ ถ้าจริง พวกคุณต้องแสดง spirit
๔. ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับสมาชิกบางท่าน ที่ได้กล่าวพาดพิงบุคคลบางคนในอันที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย แต่มันก็เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า สมาชิกมีความข้องใจอยู่มาก หากพวกคุณไม่ชี้แจงให้พวกเรารู้ เรื่องก็ไม่จบง่าย ๆ และก็ไม่สมควรไปขู่สมาชิกที่แสดงความเห็นดังกล่าว หากคุณอยากฟ้องร้อง ก็ว่ากันไปที่ตัวบุคคล แต่อย่าข่มขู่กันนักเลย ตอนนี้องกรณ์มันก็เสียหายแล้ว และจะยิ่งเสียมากขึ้นถ้าไม่มีการชี้แจง และให้กรรมการคห. ๒๐ เป็นคนตอบ
๕. พวกคุณมาทำงานให้สมาชิกนะครับ ถ้าคิดว่ามีแรงกดดันมาก รับไม่ไหว ลาออกเถอะครับ หากพวกคุณมีความตั้งใจทำเพื่อสมาชิกจริง ต้องรับฟังพวกเรา อย่าใช้อารมณ์มาตอบโต้ อย่าเผด็จการให้มากนัก อย่าคิดแทนพวกเราว่า ขาดข้า แล้วสหกรณ์จะอยู่ไม่ได้ สหกรณ์เป็นของสมาชิกครับ ไม่ใช่ของคุณ





Posted by : Suwit , Date : 2007-02-02 , Time : 09:43:21 , From IP : 172.29.1.126

ความคิดเห็นที่ : 23


   กำไรสุทธิปี 49 เป้า: 100 ล้าน ทำได้จริง 107 ล้าน เกินเป้าประมาณ 7 ล้าน
เงินปันผล เป้า: 6.5% ทำได้จริง 6.5%
เฉลี่ยคืน เป้า: 7.0% ทำได้จริง 7.0%

หลักในการกำหนดเป้าหมายคือเกณฑ์ต่ำสุดที่จะทำได้ โดยใช้ฐานมูลค่าหุ้น, เงินฝาก, สินทรัพย์ และภาระผูกพันต่างๆ ณ วันสิ้นปีบัญชี เทียบ/ประเมินกับสิ่งที่ควรจะเพิ่มตามภาวะปกติ(ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปี เช่น ค่าหุ้น) ส่วนที่เพิ่มสูงกว่าเป้า(หรือลดลงในกรณีเป็นรายจ่าย) ก็ถือว่าเป็นฝีมือของคณะกรรมการ

จากตัวเลขกำไรเกินเป้า 7 ล้านบาท หากนำไปจัดสรรให้หมดก็จะได้เฉพาะเงินเฉลี่ยคืน จาก 7% เป็น 8% แต่ไม่สามารถไปเพิ่ม % ของเงินปันผลได้ หรือหากนำมาเพิ่ม % ของเงินปันผลเพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ คณะกรรมการจึงพิจารณาไม่ปรับทั้งเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืน โดยยึดถือตามเป้าเดิมแทน

ปีนี้สหกรณ์มีโอกาสเพิ่มเงินปันผลและเฉลี่ยคืนสูงเป็นประวัติการณ์ โดยควรจะมีกำไร 7+20 ล้าน แต่มีเหตุจำเป็นต้องนำ 20 ล้านนั้นมาสำรองหนี้สงสัยจะสูญแทน

หนี้สงสัยจะสูญ 20 ล้านเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ปี 46 อาจารย์แพทย์ท่านหนึ่ง(ไม่ใช่อาจารย์แพทย์ของคณะแพทย์) กู้เงินเพื่อการลงทุนนำไปสร้างหอพักในวงเงิน 32 ล้าน การวิเคราะห์โครงการและความคุ้มของหลักทรัพย์ ณ ขณะนั้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการวิเคราะห์ที่พึงกระทำ จนการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดรับผู้เช่า โดยมีรายได้จากการให้เช่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ต่อ เดือน แต่ผู้กู้กลับไม่ส่งชำระทั้งต้นและดอกเลย ถือเป็นผู้กู้เพียงรายเดียวของสหกรณ์ที่มีรายได้แต่กลับไม่นำไปส่งคืนเงินกู้ ในขณะที่เงินต้นและดอกเบี้ยปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นเป็น 40 กว่าล้านบาท

สหกรณ์ได้ยื่นฟ้องศาล และเจรจาขอให้ผู้กู้รายนี้ขายหอพันนี้ออกไปเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ หากขายได้ในช่วงนี้จะได้ราคาดีกว่าการขายเมื่อคดีถึงที่สุด ซึ่งผู้ขายจะยังได้รับเงินคืนไปบางส่วนด้วย ทราบว่ามีผู้มาติดต่อขอซื้อ โดยเมื่อ 28 ธ.ค.49 มีชาวมาเลเซีย มาติดต่อขอซื้อ แต่เนื่องจากเป็นช่วงสิ้นปี ไม่สามารถโอนเงินผ่านธนาคารได้ เมื่อสิ้นปีบัญชี คือ 31 ธ.ค. ยังไม่มีการชำระหนี้เงินกู้ ตามหลักบัญชีกำหนดให้สำรองเป็นหนี้สงสัยจะสูญครึ่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อคำนวณตามมูลค่าหลักทรัพย์และตามที่กฎหมายกำหนด รวมเป็นมูลค่าสำรองหนี้สงสัยจะสูญทั้งสิ้น 20 ล้านบาท

ขอทำความเข้าใจคำว่าหนี้สงสัยจะสูญ เป็นภาษาทางบัญชี ไม่ใช่หนี้สูญจริง ตั้งสำรองไว้เพื่อไม่ต้องหักจากกำไรสุทธิของปีถัดไป เมื่อมีผู้ซื้อก็ต้องนำเงินมาชำระหนี้และไถ่ถอนหลักทรัพย์ออกจากสหกณ์รวมต้นและดอก คาดว่าเงินกู้พร้อมดอกของผู้กู้รายนี้จะได้รับกลับคืนในปี 50 ซึ่งจะทำให้ปี 50 มีกำไรเกินเป้าของปี 50 เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามหากยังไม่สามารถนำเงินมาชำระได้จริง นอกจากเป็นไปตามกระบวนการทางศาลแล้วก็ขึ้นอยู่กับกลยุทย์การจัดการของประธานและคณะกรรมการชุดใหม่ที่ได้รับเลือกเข้ามารับช่วงต่อไป

นอกจากคำอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมสหกรณ์ไม่สามารถปรับเพิ่มเงินปันผล-เงินเฉลี่ยคืนตามที่คาดหวัง(7% กับ 8%)แล้ว สิ่งที่กรรมการ(ชุดปัจจุบัน) ได้ทำหรือหาวิธีป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ข้างต้นซ้ำขึ้นมาอีก มีคำถามว่ากรรมการได้มีมาตรการอย่างไรออกมาบ้าง ขอตอบชี้แจงดังนี้
-ระงับโครงการกู้เพื่อการลงทุนของสมาชิกเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ ต.ค.49
- เคร่งครัดในการติดตามหนี้ และกำหนดให้ผู้กู้ที่อยู่ระหว่างการกู้ในขณะนี้ต้องรายงานความคืบของเนื้องานก่อนที่จะรับเงินในงวดต่อไป

แนวทางการป้องปรามไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต (ยังเป็นข้อเสนอส่วนตัว)
- กำหนดเพดานสูงสุดที่สมาชิกจะกู้ได้(รวมหนี้ทุกประเภท)
- ทบทวนกระประเมินหลักทรัพย์ว่าจะประเมินตามราคาตลาด หรือราคาประเมินของทางราชการ
- การกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทประกันภัย โดยผู้กู้เป็นผู้รับภาระเงินเอาประกัน
- กรณีการกู้สามัญ ตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ค้ำโดยหัก 10% จากจำนวนเงินกู้ของผู้กู้ เมื่อเกิดเหตุสามารถนำเงินนี้มาช่วยผ่อนภาระของผู้ค้ำได้ แต่หากผู้กู้ผ่อนชำระตามปกติจนครบ ก็สามารถนำเงินส่วนนี้คืนไปได้(โดยไม่คิดดอกเบี้ยกับสหกรณ์)

ที่ชี้แจงมานี้เพื่อเป็นการให้ข้อเท็จจริงแก่สมาชิก ไม่มีเจตนากล่าวร้ายให้ผู้ผิดนัดชำระหนี้รายใหญ่นี้แต่อย่างใด ในส่วนของผู้อ่าน หากยังไม่เข้าใจสามารถโทร.ถามหรือขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สหกรณ์สำนักงานใหญ่ (ผู้จัดการใหญ่ หรือฝ่ายสินเชื่อ) สำหรับผู้แทนซึ่งจะต้องเข้าประชุมใหญ่อยู่แล้ว จะได้รับคำชี้แจงเป็นเอกสารอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะออกโดยสหกรณ์ออมทรัพย์ (มีประเด็นให้คิดว่า การออกหนังสือชี้แจงกรณีนี้เป็นการทั่วไปจะเกิดผลกระทบต่อองค์กรอย่างไรบ้าง สมาชิกที่เข้าใจด้วยเหตุด้วยผลคงไม่เป็นปัญหา แตเกรงกันว่าสมาชิกบางรายอาจจับประเด็นบางส่วนนำไปขยายโดยเจตนาไม่ดี อาจกระทบต่อองค์กรได้ ในขณะเดียวกันหากไม่ชี้แจง คงปล่อยให้สมาชิกรับรู้ข้อมูลกันเองแบบไม่ครบถ้วนก็จะทำให้เข้าใจว่ากรรมการบริหารไม่โปร่งใส โดยที่เคยทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบกิจการมาก่อนจึงขอใช้วิจารณญาณชี้แจงตามข้อมูลข้างต้น


ปล. กรณีผู้กู้น้ำท่วม หากมีนี้คงเหลืออยู่ตามหลักเกณฑ์การกู้เดิมให้นำเงินปันผลมาหัก 60% แต่จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในปีที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่สมาชิกผู้กู้มากเกินไป จึงปรับลดเหลือหัก 50%



Posted by : กรรมการ 1036 , Date : 2007-01-31 , Time : 21:20:13 , From IP : 172.29.3.134
=====================================


รายละเอียดการจัดสรรกำไรสุทธิ สอ.มอ. ประจำปี 2549
กำไรสุทธิ 117,044,077.85 บาท
1. เป็นเงินปันผลหุ้นทั้งหมด(6.5% ตามเป้าที่กำหนดไว้) 77,191,439.00 บาท
2. เป็นเงินเฉลี่ยคืนดอกเบี้ยกู้ (7%ตามเป้าที่กำหนดไว้) 7,697,460.00 บาท
3. เป็นทุนสำรอง (15%) 17,557,218.46 บาท
4. เป็นเงินบำเหน็จสมาชิกเกษียณ (8.38%) 9,810,000.00 บาท
รวม 4 รายการข้างต้นเป็นเงินทั้งสิ้น 112,256,117.46 บาท
คงเหลือเงินที่จะจัดสรรเป็นรายการอื่น ๆ อีก 4,787,960.39 บาท

กรณีปรับปันผลเป็น 7% ใช้เงินอีก 5,938,307.00 บาท
กรณีปรับเฉลี่ยคืนเป็น 8% ใช้เงินอีก 1,099,697.00 บาท
สรุปต้องใช้เงินเพิ่มอีก 7,038,004.00 บาท

จากตัวเลขจะเห็นว่าหากมีการเพิ่มปันผล และเฉลี่ยคืนข้างต้น จะทำให้
ตัวเลขติดลบ และไม่มีเงินเหลือไปจัดสรรในส่วนอื่น ๆ เช่น ทุนสาธารณประโยชน์, ทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผล, ค่าบำรุงสันนิบาต และโบนัสกรรมการ
และเจ้าหน้าที่ เหตุผลที่ปันผลได้ 6.5 และเฉลี่ยคืน 7 เพราะลดการจัดสรร
เงินสำรองลงเป้นอัตราต่ำสุดคือ 15% โดยปกติแล้วอัตราสำรองจะอยู่ที่ 20%
หากตั้งสำรองไว้ที่ 20% ปันผลควรจะอยู่ที่ 6% และเฉลี่ยคืน 6.5%

ถ้าเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนเงินฝากในรอบปี 2549 ที่ผ่านมา เงินฝาก สอ.มอ.เฉลี่ยทั้งปี 4.20% ในขณะที่ 5 ธนาคารใหญ่ดอกเบี้ยฝาก เฉลี่ยทั้งปี 3.1-3.8%(หักภาษี 15%แล้ว) แต่ สอ.มอ. ปันผลให้ 6.5% สูงกว่าเงินฝาก สอ.มอ. 2.3% และสูงกว่าเงินฝากธนาคาร 3.4-2.7% ก็ถือว่าอัตราปันผล 6.5% เป็นอัตราที่สูงพอสมควรเมื่อเทียบกับภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระหว่างปีดังกล่าว

Posted by : ข้อเท็จจริง , Date : 2007-02-01 , Time : 15:36:32 , From IP : 192.168.46.30



Posted by : FYI , Date : 2007-02-02 , Time : 10:08:37 , From IP : 172.29.3.231

ความคิดเห็นที่ : 24


   แสดงว่า อ่อนประชาสัมพันธ์สิครับ
ปล่อยให้สมาชิกทราบอย่าง งูๆ ปลาๆ แล้วก็เอามาต่อยอดกันเอง

เรื่องอย่างนี้มันละเอียดอ่อนและบอบบางมาก
ไม่มีแผนงานเชิงรุก ประเภท พอเริ่มทราบเรื่องนี้ น่าจะมีการรายงานตั้งแต่สิ้นปี ให้สมาชิกทราบ ไม่ใช่ปิดไว้อย่างนี้

การมาเปิดเผยภายหลัง ก็ช่วยได้ระดับหนึ่งครับ แต่ไม่ดีเท่าบอกก่อน

ขอบคุณ ที่อย่างน้อยก็แจ้งเข้ามา


Posted by : ใจเย็น , Date : 2007-02-02 , Time : 12:08:08 , From IP : 172.29.1.232

ความคิดเห็นที่ : 25


   ขอบคุณที่ชี้แจง

ผมชอบน๊ะการชี้แจงแบบนี้ เป็นเหตุและผล มีตัวเลขพร้อมการแจกแจงรายละเอียดดี ไม่มีการใช้อารมณ์มาตอบโต้สมาชิก กรรมการที่ชอบใช้อารมณ์(ถ้าเป็นกรรมการจริง ตามที่อ้างมา) คุณน่าจะแสดงตัวออกมาให้สมาชิกตัดสินดีกว่าว่าชอบแบบคุณ หรือแบบที่ตอบมาในคห. ๒๓ เที่ยวหน้าสมาชิกจะได้เลือกถูก

หวังว่าเหตุการณ์นี้ คงจะไม่เกิดขึ้นอีก การให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่สมาชิก ทันทีที่เกิด ย่อมเป็นที่พอใจและลดความขัดแย้งลงได้มากกว่าเสีย

การประชุมใหญ่ประจำปี หากมีตัวเลขต่าง ๆ เช่นเงินปันผลกำหนดไว้แล้ว จะนำมาเสนอให้ตัวแทนพิจารณาทำไม แจ้งเพื่อทราบก็พอ แล้วค่อยมาพิจารณาตกลงกันว่า ปีถัดไปจะตั้งเป้าจ่ายเงินปันผลเท่าไรดีกว่า หากไม่ตรงตามเป้า พวกคุณประธานและกรรมการต้องหาวิธีนำเงินมาโปะ หากเกินเป้า พวกคุณก็รับไปคิดเป็นเปอร์เซนต์ส่วนที่เกินตามรายละเอียดที่ที่ประชุมจะตกลงกันต่อไป ซึ่งปันผลที่สมาชิกควรได้รับ น่าจะเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นทุกปีจะดีมาก

ขอบคุณครับ


Posted by : Suwit , Date : 2007-02-02 , Time : 17:10:16 , From IP : 172.29.1.126

ความคิดเห็นที่ : 26


    ตกลงเรื่องเงินกู้ก้อนโตนั้น เป็นการกู้ในสมัยประธานกรรมการชุดไหนกันครับผมไม่รู้จริงๆ แล้วอย่างนี้ถือว่าเป็นการบริหารงานผิดพลาดหรือเปล่า อย่าลืมนะว่ามันหมายถึงอนาคตของคุณๆทั้งหลายช่วยชี้แจงด้วยเพื่อความยุติธรรมต่อทุกๆคนครับ

Posted by : โนเนม , Date : 2007-02-05 , Time : 10:22:15 , From IP : 172.29.10.228

ความคิดเห็นที่ : 27


   ขอขอบคุณมากสำหรับคุณ Suwit
ที่ช่วยมาเสนอแนะวิธีไกล่เกลี่ยปัญหานี้ลง
และขอขอบคุณกรรมการที่มาชี้แจงตามที่ได้ร้องขอไป แต่จะดีมากยิ่งขึ้นถ้ามีการชี้แจงสถานการณ์ ไม่ปกติต่อสมาชิกทราบ

ขอบคุณทุกท่านที่สนใจ


Posted by : สมาชิก , Date : 2007-02-05 , Time : 10:29:16 , From IP : 172.29.10.221

ความคิดเห็นที่ : 28


    ตอบ คุณใจเย็น ที่24 ได้มีผู้แทนสมาชิกกลุ่มหนึ่งเห็นว่าประเด็นเรื่องการอ่อนประชาสัมพันธ์เป็นปัญหาอันหนึ่งที่ใหญ่มากในการดำเนินการของ สอ.มอ.ตลอดมาจนมาถึงสมัยท่าน ประธาน อจ.เล็กได้เห็นความสำคัญ จึงได้มีโครงการจัดตั้ง ศูนย์ประสานงานผู้แทนสมาชิกขึ้นมาสำเร็จในคราวประชุมวิสามัญปี2549ที่ผ่านมา โดยได้ตั้งงบประมาณดำเนินการ 100000 บาท และได้คณะกรรมการดำเนินงานในคราวนั้น 10 ท่าน
การดำเนินการของ ศปง.สอ.มอ.ที่ผ่านมาอยู่ในขั้นยกร่างกรอบการดำเนินงาน และระเบียบการ จนเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ศปง.สอ.มอ. ได้รับการอนุมัติระเบียบการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งน่าจะทำให้การดำเนินงานของ ศปง.สอ.มอ.คล่องตัวขึ้น เป็นที่รู้จักและเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก สอ.มอ.อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
กระผมใคร่ขอเชิญชวนให้ท่านผู้แทนและสมาชิก มาร่วมกันสร้างความแข็งแกร่ง(ร่วมกันทำงาน สอ.มอ.) และเลือกใช้ ศปง.สอ.มอ.สร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ ซึ่งเป็นการสร้างช่องทางเลือกหนึ่งที่ผู้แทนสมาชิกได้นำเสนอต่อสมาชิก สอ.มอ.ครับ
ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ ทาง ศปง.สอ.มอ.นัดประชุมกลุ่มแกนนำผู้แทนสมาชิก เพื่อการประชุมใหญ่สามัญ สอ.มอ. ปี 2549 ที่ โรงแรมไดอิชิ เวาลา 17.30 น.เป็นต้นไปครับ


Posted by : อำนาจ , Date : 2007-02-05 , Time : 15:29:50 , From IP : 172.29.3.92

ความคิดเห็นที่ : 29


    ตอบ คุณใจเย็น ที่24 ได้มีผู้แทนสมาชิกกลุ่มหนึ่งเห็นว่าประเด็นเรื่องการอ่อนประชาสัมพันธ์เป็นปัญหาอันหนึ่งที่ใหญ่มากในการดำเนินการของ สอ.มอ.ตลอดมาจนมาถึงสมัยท่าน ประธาน อจ.เล็กได้เห็นความสำคัญ จึงได้มีโครงการจัดตั้ง ศูนย์ประสานงานผู้แทนสมาชิกขึ้นมาสำเร็จในคราวประชุมวิสามัญปี2549ที่ผ่านมา โดยได้ตั้งงบประมาณดำเนินการ 100000 บาท และได้คณะกรรมการดำเนินงานในคราวนั้น 10 ท่าน
การดำเนินการของ ศปง.สอ.มอ.ที่ผ่านมาอยู่ในขั้นยกร่างกรอบการดำเนินงาน และระเบียบการ จนเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ศปง.สอ.มอ. ได้รับการอนุมัติระเบียบการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งน่าจะทำให้การดำเนินงานของ ศปง.สอ.มอ.คล่องตัวขึ้น เป็นที่รู้จักและเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก สอ.มอ.อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
กระผมใคร่ขอเชิญชวนให้ท่านผู้แทนและสมาชิก มาร่วมกันสร้างความแข็งแกร่ง(ร่วมกันทำงาน สอ.มอ.) และเลือกใช้ ศปง.สอ.มอ.สร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ ซึ่งเป็นการสร้างช่องทางเลือกหนึ่งที่ผู้แทนสมาชิกได้นำเสนอต่อสมาชิก สอ.มอ.ครับ
ในวันที่ 9 ก.พ.นี้ ทาง ศปง.สอ.มอ.นัดประชุมกลุ่มแกนนำผู้แทนสมาชิก เพื่อการประชุมใหญ่สามัญ สอ.มอ. ปี 2549 ที่ โรงแรมไดอิชิ เวาลา 17.30 น.เป็นต้นไปครับ


Posted by : อำนาจ , Date : 2007-02-05 , Time : 15:32:10 , From IP : 172.29.3.92

ความคิดเห็นที่ : 30


   ก็ยังแปลกใจนะ กก.สหกรณ์ก็มีการตั้งฝ่ายปชส.ซึ่งก็น่าจะรับโบนัสสำหรับตำแหน่งนี้มากกว่ากก.ทั่วไป และสหกรณ์ก็มีจนท.ที่จ้างมาเป็นปชส. เขาไปทำอะไรกันอยู่ ควรประเมินผลงานเขาให้สอดคล้องกับค่าจ้าง ค่าตอบแทน และโบนัสด้วย

เรื่องที่เอาเงินสหกรณ์ไปสร้างหอพัก แล้วให้สหกรณ์บริการเป็นผู้บริหารรับดอกผล ก็ไม่มีการปชส.ให้รับรู้อย่างแท้จริงกันเลย

เฮ้อ


Posted by : แปลกนะ , E-mail : (กก.ปชส.ไปไหน) ,
Date : 2007-02-05 , Time : 15:40:23 , From IP : 172.29.3.156


ความคิดเห็นที่ : 31


   ขอบคุณครับคุณ อำนาจ

เรื่องนั้นสำคัญจริงๆ

แต่อยากให้ขอบเขตแค่การแจ้งเรื่องก็พอ ไม่ถึงกับต้องโฆษณา เหมือนพวกหลอกขายของ ไม่ต้องถึงกับขนาดรัฐบาลเหลี่ยมทำครับ


Posted by : ใจเย็น , Date : 2007-02-06 , Time : 14:14:21 , From IP : 172.29.1.211

ความคิดเห็นที่ : 32


   วันก่อนได้ไปทำเรื่องขอกู้เงินที่สหกรณ์ กู้ประมาณ 60000บาท แต่คนค้ำประกันมีเงินเดือนน้อย เลยต้องไปหาคนค้ำระกันใหม่ สักพักมีผู้ระดับบริหารท่านหนึ่งเดินมาแล้วถามว่าเป็นไงละของพี่ เจ้าหน้าที่สหกรณ์ตอบว่าได้เลยไม่ต้องมีใครค้ำประกันเอาตำแหน่งค้ำระกันได้เลยได้ระมาณ1ล้านบาทโดยไม่ต้องมีอะไรมาค้ำประกัน ได้ด้วยหรือๆๆๆ

Posted by : 2 , Date : 2007-03-20 , Time : 22:36:34 , From IP : 172.29.1.76

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.014 seconds. <<<<<