ความคิดเห็นทั้งหมด : 7

ขอถาม......i love mom


   ถ้าสมมติว่าต้องเลิกกัน จะให้ทำอย่างไรที่จะมองหน้าเขาได้อย่างเต็มสายตา ยิ้มให้อย่างเต็มใจ และเป็นเพื่อนกันได้อย่างเดิม

Posted by : i love dady , Date : 2003-09-12 , Time : 23:34:05 , From IP : 192.168.33.162

ความคิดเห็นที่ : 1


   เราก็มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกันเลย ใครรู้ว่าต้องทำอย่างไรก็บอกกันมาบ้างนะ

Posted by : yu , Date : 2003-09-13 , Time : 01:40:15 , From IP : 192.168.13.229

ความคิดเห็นที่ : 2


   เวลาเท่านั้นแหละที่จะช่วยได้
แรกๆ ไม่มีใครเค้าสามารถมองหน้ากันอย่างหน้าชื่นตาบานหรอก ก็ต้องอาศัยเวลา
ช่วงแรกๆก็คุยบ้าง ยิ้มให้กันบ้าง ให้มันรู้สึกเป็นเพื่อนกันก่อน อาจจะต้องใช้เวลาอันยาวนาน และความรู้สึกของทั้งสองคน ว่าแต่ละฝ่ายยังอยากเป็นเพื่อนกันอยู่รึเปล่า ก็คบก็คุยกันไปเรื่อยๆ เดี้ยวก็รู้สึกเฉยๆ แล้วล่ะ อย่าคิดมาก ปล่อยมันไปเลยเรื่อย ตามที่มันควรจะเป็นเดี้ยวก็ดีเองแหละ


Posted by : cute girl , Date : 2003-09-13 , Time : 08:36:23 , From IP : 192.168.13.228

ความคิดเห็นที่ : 3


   เอ๊ะๆ ทำไมต้องถาม i love mom ด้วยอ่ะ
ถามเราก็ได้นะ ^_^ เดี๋ยวจะตอบให้..


Posted by : Mazukung , Date : 2003-09-14 , Time : 00:31:59 , From IP : 203.113.76.71

ความคิดเห็นที่ : 4


   เพื่อนๆ เคยดู Never been kissed มั้ย...
วันนี้ช่อง 7 ฉายอยู่ ฉากที่นางเอกประกาศตัวว่าเป็นนักข่าวปลอมตัวมา
แล้วพระเอกพูดกับนางเอกที่ข้างน้ำพุอ่ะ ว่า..
"ผมไม่อาจมองหน้าคุณได้อย่างสนิทใจ"
รู้สึกไงง่ะ ถ้าเค้าเกิดรู้ความจริงว่า เราไม่ได้บอกความจริงเค้าทั้งหมด


Posted by : Mazukung , Date : 2003-09-14 , Time : 00:42:36 , From IP : 203.113.76.71

ความคิดเห็นที่ : 5


   ถ้ามัวแต่ยิ่งนั่งคิดว่าทำอย่างไรให้มองหน้ากันได้สนิทใจ ทำอย่างไรให้เปลี่ยนสถานะมาเป็นเพื่อนกัน ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูไม่สนิทใจ สู้ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไป ถ้าเจอกันร่างกายก็คงมีกลไก Defense ของมันเอง หรือคิดว่ายิ่งเจอยิ่งดีเหมือนการ Desrnsitize. ซักวันนึงเราก็จะรู้สึกรับได้ หรือ เฉยๆ ไปเอง แต่ถ้าเป็นกรณีที่คุณเป็นฝ่ายทิ้งเค้าจากสถานะแฟน แล้วให้เค้าเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนแล้วนั่ง question ว่าทำไมเค้าทำใจไม่ได้ไม่ยอมมาเป็นเพื่อนกับคุณ คุณลองมาเป็นฝ่ายที่เหมือนกับโดนโยนจากที่สูงลงมาบ้างแล้วคุณจะเข้าใจว่าการปรับตัวรับกับความเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อความรู้สึกนั้นมันไม่ง่ายเหมือนกับการเปลี่ยน menu อาหารข้อนึงคุณต้องให้เวลาให้เค้าเป็นฝ่ายเลือกเองว่าเค้าอยากเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนกับคุณรึเปล่า คุณน่าจะให้เค้าเป้นฝ่ายเลือกมากกว่าว่าเค้าต้องการยังไง ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายทิ้งหรือถูกทิ้งก็เอาใจเค้ามาใส่ใจเราให้มากๆ แล้วคุณจะเข้าใจอะไรๆมากขึ้นและจะได้คำตอบด้วยตัวคุณเอง

Posted by : คนเพิ่งถูกทิ้ง , Date : 2003-09-14 , Time : 19:27:29 , From IP : ratree.psu.ac.th

ความคิดเห็นที่ : 6


   เป็นคำถามที่ดีมากครับ ถ้าคุณลองคิดดูดีๆ มันก็มีวิธี มีแนวคิดที่ทำให้เรามองหน้ากับคนที่เลิกกันได้ติด สามารถมองหน้ากันได้อย่างสนิทใจ ผมไม่สามารถตอบแทนใครได้นะครับ ผมไม่สามารถเป็นใครได้ แต่ผมขอตอบด้วยพื้นฐานของผมเอง …. ผมเองก็มีประสบการณ์เช่นนี้ครับ แต่คงต้องบอกว่าไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความชื่นชม ความหลงแบบวัยรุ่นมากกว่า หลายๆคนไม่สามารถมองหน้ากันติดได้ ผมเองในตอนเด็กก็ถามตัวเองว่าทำไมเราถึงมองหน้าเค้าไม่ติด ทำไมเราต้องลำบากใจด้วย ……

ลองคิดแบบไม่เข้าข้างตัวเองดู คิดแบบเป็นกลาง ผมก็พบว่า ผมไม่ได้รักเค้า แต่ผมรักตัวเองต่างหาก …. ผมไม่ได้รักเค้าอย่างบริสุทธิ์ใจ มันเป็นแค่ความหลงในรูปลักษณ์ภายนอก ในสิ่งดีๆที่ต่างคนต่างแสดงออกมา โดยยังไม่ได้เปิดเผยความเป็นจริงให้รู้กันต่างหาก สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมมองหน้าเค้าไม่ติด ไม่อยากมองหน้าเค้า เพราะรู้สึกไม่ดี เพราะผมไม่ได้จริงใจที่จะรักเค้า พอเลิกกัน ต่างก็พยายามไม่ให้ตัวเองเจ็บ อาจจะคิดว่าเราไม่ผิด แล้วก็หาเหตุผลว่าเค้านั่นแหล่ะที่ผิด พยายามไม่เจอหน้ากัน เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเราผิด ไม่ให้เราหวนถึงความหลัง เพื่อไม่ให้เราเจ็บ ---> นั่นคือเหตุผลที่ผมค้นหากับตัวเองในตอนนั้นครับ ซึ่งมาคิดอีกทีมันก็ถูกในทางจิตวิทยาที่เราป้องกันตัวเองจากความเจ็บปวด ………… แต่หลังจากผ่านประสบการณ์ต่างๆมา มันทำให้ผมมีความคิด ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปครับ ……

คุณเคยรู้สึกถึงการรักและห่วงใยใครสักคนหนึ่งอย่างบริสุทธิ์ใจไหมครับ เหมือนอย่างที่แม่ห่วงลูก ผมเองก็คงไม่ถึงกับรู้สึกมากอย่างพ่อแม่อย่างนั้น แต่ผมก็สัมผัสมันได้ฮะ ผมไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้คุณรู้สึกในสิ่งนี้ได้ แต่ผมบอกได้ว่า ถ้าคุณรู้สึกอย่างนี้แล้ว คุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะหลบหน้าเค้า เพราะไม่มีอะไรที่จะทำให้เราเจ็บ เราให้ความรัก ความห่วงใย ความรู้สึกดีๆแก่เค้า หวังให้เค้ามีความสุข สุขภาพกายสุขภาพใจแข็งแรงดี ไม่ได้หวังว่า เค้าจะเห็นความดีของเรา เค้าจะมาชอบเรา เค้าจะเป็นแฟนเรา มันเป็นเรื่องยากนะครับที่ใครสักคนหนึ่งจะทำอะไรลงไป(ด้วยความทุ่มเท)แต่ไม่ได้หวังอะไรตอบแทน (ความจริงผมก็หวังนะครับแต่คนละอย่างกับทั่วๆไป ผมหวังให้เค้ามีความสุขที่แท้จริง หวังให้เค้าได้รู้โลกของความเป็นจริง ทั้งความสุขและความปวดร้าวของชีวิต)….. ผมไม่ได้พูดเชิงปรัชญานะครับ มันเป็นสิ่งง่ายๆ แต่ต้องสัมผัสมันด้วยตัวเองก็เท่านั้นเอง ……

แนวคิดผมอาจจะไม่เหมาะกับใครก็ได้ครับ อาจจะเหมาะแค่ผมคนเดียวก็ได้ แต่ตั้งแต่ที่ผมรู้สึกอย่างนี้ หลังจากที่ผมได้สัมผัสความรัก ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่มองหน้าเค้า ไม่มีเหตุผลที่จะหลบหน้า มีแต่ยังคอยมอง คอยห่วงใย ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความรู้สึกที่บริสุทธิ์จริงๆ เค้าย่อมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนี้ครับ แม้อาจต้องใช้เวลาบ้างกว่าที่เค้าจะมองเห็น ……

ปล. ผมอาจจะเรียบเรียงคำพูดไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ซึ่งมันน่าจะเคลียร์มากกว่านี้ มันสามารถอธิบายเป็นรูปธรรมได้ แต่ตอนนี้สมองผมค่อนข้างล้ามากครับ จากการเรียน จากอาการทางร่างกายที่ไม่ค่อยดีนัก แล้วช่วงนี้ก็จะสอบแล้ว คงไม่สามารถตอบคำถามต่างๆได้ถี่เหมือนปกตินะครับ ต้องขอโทษ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

and …..
don’t forget …….
the one who loves you …..
no matter what you are ……

I love mum



Posted by : i love mum , Date : 2003-09-15 , Time : 22:21:03 , From IP : 203.148.202.22

ความคิดเห็นที่ : 7


   ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆ มันเป็นข้อคิดดีๆสำหรับเรามากเลยนะ แต่ก็คงต้องขอเวลาอีกสักหน่อยแหละ หวังว่าคงได้รับคำแนะนำดีๆเช่นนี้อีกนะ โชคดีกับการสอบค่ะ

Posted by : i love dady , Date : 2003-09-16 , Time : 07:03:00 , From IP : 192.168.33.162

ความเห็นจาก Social Network : Facebook


สงวนสิทธิ์การแสดงความคิดเห็นสำหรับ สมาชิกเท่านั้น
>>>>> Page loaded: 0.004 seconds. <<<<<