ผมคิดว่าอาการ "สมาธิสั้น" นี้อาจจะมีได้หลากหลายแบบและสาเหตุ น่าจะพิจารณาในรายละเอียดประกอบด้วยว่าเป็นแบบไหน อย่างไร เพราะอะไร เนื่องจากวิธีแก้ไขจะไม่เหมือนกัน
น้องลองคิดดูว่าเรามี "สมาธิสั้น" ในทุกๆเรื่อง หรือว่าเป็นบางเรื่อง
เป็นตลอดเวลาหรือบางช่วง
อาการคือ "หลุด" หรือว่า "เพลีย หลับ" หรือ คิดไปเรื่องอื่นๆ
คิดไปเรื่องอื่นๆนั้น เป็นเรื่องอะไร เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ "ต่อเรา" มากไหม
อารมณ์ทั่วๆไปของเราเป็นอย่างไร
เป็นต้น
ถ้าเราสมาธิสั้นเป็นบางเรื่อง เช่น เรื่องบทเรียน อ่านหนังสือ แต่สามารถทำงานอื่นๆที่นานๆได้ เช่น เล่น jigsaw, ต่อ domino, ต่อ model ทำงานอื่นๆที่ serious น้อยกว่าแต่ก็ต้องใช้สมาธิได้นานๆ ก็อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่เรากำลังทำนั้น เราไม่ชอบ จึงมีอาการเบื่อหน่าย ไม่สามารถจะคงสมาธิอยู่ได้นานๆ
เป็นตลอดเวลาหรือเป็นบางช่วงนี้คือ ถ้าอาการสัมพันธ์กับบางเวลา บางกิจกรรม อาจจะไม่เกี่ยวกับสมาธิซะทีเดียว เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมไหม เช่น เสียงดัง มีคนมาเล่ารบกวนอยู่ใกล้ๆ หรือมีภาพ-เสียงอะไรที่รบกวนใจเราอยู่ในบริบท (เช่น มีหน้าต่างห้องแฟนอยู่ตรงหน้า ใจก็พลอยหลุดลอยไปบ่อยๆ) มีหนัง มีเพลง มี ฯลฯ
หรือเป็นเพราะสุขภาพของเรา เป็นตอนใกล้สอบ ไม่ได้นอนเพียงพอ ออกกำลังกายมากไป กินน้อย กินมากไป
หรือว่าตอนนั้นมีเรื่องอะไรให้คิด เรื่องที่ว่านี้เราอาจจะไม่ได้ "จัด" เป็นเรื่องหนักใจ แต่อาจจะเป็นเรื่องที่เรา "ให้ความสำคัญ" มากเป็นพิเศษ เช่น จะซื้อของวันวาเลนไทน์อะไรดี จะไปเที่ยวไหนดี กินข้าวที่ไหนดี (กับคนพิเศษ) ใกล้สอบ ใกล้ปิดเทอม มีคนกำลังจะมาหา มีคนกำลังจากไป ฯลฯ
====================================
สิ่งแรกๆที่อาจจะช่วยได้แก่
1. พักผ่อนให้เพียงพอ จัดการสุขภาพให้ดีก่อน สมาธิก็ต้องใช้พลังงาน ใช้สุขภาพ ใช้แรง
2. ถ้าเสียสมาธิง่าย ก็จัดบริบทให้มีที่ หรือมีสิ่งที่จะเสียสมาธิไปหา ให้น้อยที่สุด ได้แก่ ประสาทสัมผัสทั้งหลาย ตา หู จมูก ปาก สัมผัส ลดสิ่งเย้ายวน หรือสิ่งรบกวนทุกๆประสาทลงให้เหลือน้อยที่สุด
3. ไม่ต้องหักโหมสมองให้เมื่อย เมื่อไหร่ก็ตามพักได้ก็พัก แล้วเริ่มใหม่ ค่อยๆพยายามเพิ่มความทนทาน ความนาน ของสมาธิทีละน้อย
โชคดีครับ
Posted by : Phoenix , Date : 2007-01-09 , Time : 14:05:42 , From IP : 172.29.3.231
|